ตอนที่ 35
วีเดินมาถึงห้องของสาขาการแสดงก่อนจะเปิดเข้าไปก็พบกับสภาพเดิมที่ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือของตัว หรือบางคนก็นั่งทำการบ้านอยู่
เมื่อวีเข้ามาก็ได้รับการต้อนรับจากสมาชิกคนอื่นๆทันที
“ว่าไงวี วันนี้มาเร็วจังนะ”
“ดีจ๊ะวี”
“ฮัลโหลวี ~”
วีวางกระเป๋าก่อนจะนั่งลงพร้อมกับหันไปถามบาสที่กำลังนั่งปวดหัวกับการบ้านอยู่ว่า
“ว่าแต่เลือกละครเรื่องที่จะแสดงในงานเทศกาลได้ยัง ?”
บาสพยักหน้าก่อนจะหยิบหนังสือเล่มหนึ่งมาวางตรงหน้าของวี เขามองมันเล็กน้อยด้วยความสงสัยก่อนจะหันไปถามกับรองประธานอย่างน้อยหน่า
ซึ่งเธอก็พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“พวกเราคุยกันแล้วล่ะว่าจะเลือกเรื่องนี้”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็มองไปที่หนังสือในมืออย่างครุ่นคิด ไม่ใช่ว่าเพราะหนังสือเล่มนี้ไม่ดีพอที่จะนำมาใช้แต่เพราะว่ามันเป็นนิยายขายดีอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเลยล่ะ
นิยายเรื่องนี้มีชื่อว่า Scarlett and the White Garden เป็นหนังสือขายดีของ D. Walden นักเขียนชาวอังกฤษเป็นเรื่องราวเกี่ยวชายคนหนึ่งที่มักจะฝันแบบเดิมอยู่ซ้ำๆเสมอว่าตัวเขานั้นอยู่ที่สวนแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีขาว และที่สวนแห่งนั้นก็มีหญิงสาวคนที่สการ์เลตต์
แน่นอนมันเป็นราวโรเมนติกดราม่าที่โครตจะเรียกน้ำตา เหตุผลก็เพราะเมื่อก่อนตอนวีอ่านเรื่องนี้จบเขากลับร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังอยู่พักนึงเลยทีเดียว
แต่ปัญหาที่วีกำลังคิดอยู่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของความเหมาะสมหรืออะไรหรอก แต่เป็นจำนวนหน้าของนิยายเล่มนี้ต่างหากเนื่องจากมันมีจำนวนมากกว่าห้าร้อยหน้า
การที่จะเปลี่ยนเนื้อหานิยายกว่าห้าร้อยหน้าให้กลายเป็นบทละครสั้นนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างยากและใช้เวลานาน ไม่ใช่ว่าจู่ๆอยากจะเลือกเรื่องนี้ก็สามารถเลือกมาได้เลย
นี่ยังไม่รวมถึงปัญหาระหว่างบทอีกด้วย เรียกว่าต้องใช้เวลาและความพยายามไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ เมื่อรู้ดังนั้นวีจึงอดไม่ได้ที่หันไปหาน้อยหน่าพร้อมกับถามว่า
“เรามีเวลาพอที่จะแปลงมันเป็นบทละครเหรอ ?”
น้อยหน่าพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“อันที่จริงก็ไม่มีหรอก แต่พอดีว่าครูณีทำให้เสร็จหมดแล้วน่ะ”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่านิยายกว่าห้าร้อยหน้าถูกแปลงเป็นบทละครเวทีเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยครูที่ปรึกษาประจำสาขาแบบนี้
แต่นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเช่นกัน เพราะพวกเขาจะได้มีเวลาซักซ้อมและสร้างอุปกรณ์ประกอบฉากให้เสร็จทันเวลาของงานเทศกาล
ส่วนเรื่องเสื้อผ้านั้นพวกเขาสามารถไหว้วานสาขาแฟชั่นได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากครูณีและครูดาวนั้นค่อนข้างจะสนิทกัน
“แล้วเราจะเริ่มซ้อมหรือดูบทกันตอนไหนล่ะ ?”
น้อยหน่าที่ได้ยินแบบนั้นก็คิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ
“ก็น่าจะวันพรุ่งนี้อะนะ อันที่จริงแล้วมีเรื่องการคัดตัวด้วย”
“คัดตัว ?”
วีเอียงคอสงสัย น้อยหน่าพยักหน้า
“แน่นอนจะได้หาบทที่เหมาะสมให้กับคนนั้นๆด้วย แต่อันที่จริงก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไรนักหรอกเพราะภายในชมรมคนที่นี้สนใจเรื่องการแสดงจริงๆก็ไม่ได้เยอะ”
“อย่างเช่นเจ้าบาส เขาเข้าที่นี่ก็เพราะสนใจการทำพร็อพหรืออุปกรณ์ประกอบฉากมากกว่า”
“ส่วนไนท์ก็อยากจะเป็นผู้กำกับ นิดก็อยากจะเป็นคนเขียนบท”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนจะหันกลับไปหาถามไนท์ด้วยความสงสัย
“ถ้าอยากเป็นผู้กำกับไม่ใช่ว่าไปสาขาถ่ายภาพจะได้ประโยชน์กว่าหรอ ?”
ไนท์ที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนจะพูดว่า
“มันก็จริงนั่นแหละ แต่ฉันลองไปดูแล้วตอน ม.4 แต่ที่นั่นส่วนใหญ่จะสอนเกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายรูปมากกว่ากล้องวีดิโอน่ะ มันก็เลยไม่ค่อยจะได้ประโยชน์เท่าไหร่ ฉันเลยคิดว่าจะไปเรียนตอนมหาลัยที่สาขาภาพยนต์แทน ตอนนี้ก็เอาพื้นฐานของผู้กำกับจากสาขาการแสดงไปก่อน”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็ร้องอ๋อออกมาทันที แม้ในใจเขาจะคิดอีกแบบก็ตามทีแต่วีก็ไม่มีสิทธิ์จะไปพูดอะไรหรอกเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามได้วางแผนเอาไว้หมดแล้ว
หลังฟังน้อยหน่าจบวีก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วสาขาการแสดงนั้นมีคนสนใจเรื่องการแสดงอยู่จริงๆเพียงหยิบมือเท่านั้น ส่วนคนอื่นนั้นมีความสนใจทางด้านอื่นแต่ที่เข้ามาที่นี้เพราะบางอย่างไม่มีสาขาให้เลือก