479 - โจมตีครั้งแรก
479 - โจมตีครั้งแรก
“เป็นยังไงบ้าง? พอใจไหม?” แม้ว่าจะเป็นเพียงการสนทนาสองคนแต่เซรานชี่ก็ยังไม่สามารถรวบรวมความกล้าที่จะมองเข้าไปในดวงตาของเอี้ยนลี่เฉียงได้โดยตรง นางหรี่ตาลงและพยายามพูดอย่างใจเย็นที่สุด
“แผนต่อไปของเจ้าคืออะไร”
“ชาวชาตูเข้าใจเฉพาะข้อความที่ส่งด้วยดาบและเลือด ขั้นตอนต่อไปค่อนข้างง่าย มันเป็นเพียงคำเดียว”ฆ่า” เราต้องกำหนดวิธีการฆ่าเท่านั้น
เช้านี้เจ้าจะต้องเลือกนักธนูหลายร้อยคนในเผ่าจันทราใหญ่ที่ไม่กลัวความตาย จากนั้นให้หาคนฉลาดสองสามคนที่เชี่ยวชาญในภาษาชาตูให้สวมชุดนักรบชาตูไปกับข้า บ่ายนี้ถ้าจะลงมือ!”
“อา…”
เมื่อได้ยินคำแนะนำของเอี้ยนลี่เฉียง ในที่สุดเสรานชีก็เงยหน้าขึ้นมองเอี้ยนลี่เฉียงด้วยความตกใจ
เอี้ยนลี่เฉียงหันกลับมาขยิบตาให้กับเซรานชี่และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“เมื่อวานข้าลืมบอกเจ้าไปว่า เจ้าเป็นหญิงงามที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบ และเจ้ายิ่งงดงามขึ้นไปอีกเมื่อเจ้าเป็นหัวหน้าเผ่า…”
………..
เผ่าจันทราใหญ่ มีประสิทธิภาพมากในการจัดการเรื่องต่างๆ ตามคำขอของเอี้ยนลี่เฉียงในตอนเช้า นักรบเผ่าจันทราใหญ่ ร้อยเจ็ดคนได้เข้าแถวต่อหน้าเอี้ยนลี่เฉียงก่อนเที่ยง
ในบรรดานักรบร้อยเจ็ดคนมีร้อยคนเป็นพลธนูที่ได้รับการคัดเลือกจากชนเผ่าจันทราใหญ่ อีกเจ็ดคนที่เหลือเป็นคนที่ชำนาญในภาษาชาตู
เมื่อคนเหล่านี้เข้าแถวต่อหน้าเอี้ยนลี่เฉียงก็มีชุดของนักรบชาตูกองใหญ่อยู่ตรงหน้าพวกเขา
เสื้อผ้าเหล่านั้นถูกถอดออกจากซากศพนักรบชาตูทั้งหมดที่ถูกฆ่าตายเมื่อวานนี้ แม้ว่าพวกมันจะไม่ใช่ของใหม่และเต็มไปด้วยคราบเลือด แต่ก็เป็นสิ่งที่สามารถใช้อำพรางตัวได้ดีที่สุด
นักรบของเผ่าจันทราใหญ่ทั้งหมดกำลังมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงไม่มีใครสามารถเข้าใจเจตนาของเขาได้
สายตาของเอี้ยนลี่เฉียงกวาดไปทั่วนักรบของเผ่าจันทราใหญ่
แม้ว่าเผ่าจันทราใหญ่จะเป็นเผ่าที่เล็กและอ่อนแอ แต่ก็ยังมีนักรบอยู่ในหมู่พวกเขา เอี้ยนลี่เฉียงพยักหน้าเห็นด้วยเพราะคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ล้วนเป็นนักรบอันห้าวหาญที่ไม่กลัวความตาย
“พวกเจ้าทุกคนคงรู้ว่าข้าเป็นใครหรือไม่? ข้าขอแนะนำตัวกับพวกเจ้าอีกครั้ง ข้าชื่อหลงอ๋าวเถียน ผู้พิทักษ์อาวุโสเผ่าจันทราใหญ่เจ้าทั้งหมดอยู่ในภารกิจลับที่นำโดยข้าสิ่งที่พวกเจ้าต้องทำมีเพียงอย่างเดียวก็คือทำตามคำสั่งของข้า
พูดง่ายๆก็คือเจ้าต้องทำตามที่ข้าบอก ถ้าข้าสั่งให้พวกเจ้ากระโดดพวกเจ้าก็ต้องกระโดด หากข้าสั่งให้เจ้าตายพวกเจ้าต้องตาย ผู้ใดขัดขืนข้าจะฟันศีรษะมันลงมา เข้าใจหรือไม่?"
“เข้าใจแล้ว!”
นักรบเผ่าจันทราใหญ่ทุกคนโห่ร้องพร้อมกันทำให้นกในป่าบินออกไปด้วยความตกใจ
"ดี คำสั่งแรกของข้าคือถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นของตัวเองออก!” เอี้ยนลี่เฉียงชี้ไปที่กองเสื้อผ้าของนักรบชาตูบนพื้นแล้วตะโกนขึ้นว่า
“ใส่ซะ!”
ขณะพูดเอี้ยนลี่เฉียงเป็นผู้นำในการถอดเสื้อผ้าของเขาเอง แล้วเปลี่ยนเป็นชุดชาตูที่อยู่เบื้องหน้าเขา
เมื่อเห็นการกระทำของเอี้ยนลี่เฉียง นักรบเผ่าจันทราใหญ่ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลเช่นกัน
ในเวลาเพียงสิบนาทีทุกคนรวมถึงเอี้ยนลี่เฉียงก็แต่งตัวเหมือนชาวชาตู หากพวกเขาไม่เอ่ยวาจาต่อให้เป็นนักรบชาตูก็ไม่สามารถแยกออกได้
“นี่เป็นโคลนผสมขี้เถ้า พวกเจ้าละเลงลงบนใบหน้าของตัวเองซะอย่าให้ใครจำพวกเจ้าได้…”
เอี้ยนลี่เฉียงแสดงให้เห็นโดยการทาสีดำบนใบหน้าของเขา นักรบเผ่าจันทราใหญ่เดินตามเขาและทำเช่นเดียวกัน เพียงชั่วพริบตาสภาพของใบหน้าทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่านักรบเผ่าจันทราใหญ่จะไม่ทราบความหมายเบื้องหลังการกระทำของเอี้ยนลี่เฉียง แต่พวกเขาก็ค่อนข้างสนุกสนานกับเรื่องนี้
"ดีมาก!" เอี้ยนลี่เฉียงพยักหน้า “ผู้ที่พูดภาษา ชาตูได้คล่องก้าวออกมาข้างหน้า…”
ชายเจ็ดคนก้าวออกจากแถว เอี้ยนลี่เฉียงชี้ไปที่นักรบที่อยู่ด้านหลังพร้อมกับกล่าวว่า
“จากนี้ไปพวกเจ้าทุกคนเป็นใบ้ยกเว้นคนเหล่านี้ อย่าพูดกับใครโดยไม่มีเหตุอันควร หากเจ้าต้องการพูดกับคนที่อยู่เคียงข้างเจ้าในสถานการณ์พิเศษให้พูดด้วยเสียงเบาที่สุด หากพวกเจ้าไม่ทำตามข้าจะฟันศีรษะของเจ้าลงมาทันที”
“เข้าใจแล้ว!”
“สำหรับพวกเจ้า…” เอี้ยนลี่เฉียงหันไปหาผู้ที่พูดภาษาชาตูได้อย่างคล่องแคล่ว “จากนี้ไป เจ้าจะได้รับอนุญาตให้สื่อสารกันโดยใช้ภาษาชาตูเท่านั้นเข้าใจหรือไม่?”
“เข้าใจแล้ว!” ชายทั้งเจ็ดพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“ดี เจ้าจะได้รับเวลาหนึ่งก้านธูปเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์นัดรวมตัวอีกครั้งหนึ่งก่อนที่เราจะออกเดินทาง…!”
ขณะพูดเอี้ยนลี่เฉียงก็ตรวจสอบร่างกายของตัวเองรวมทั้งยังพกพาลูกธนูอีกมากมายพร้อมด้วยคันธนูงูเหลือมเขาห้าต้านที่ได้รับมาเป็นสินสงครามจากการต่อสู้เมื่อวานนี้
เมื่อหมดเวลาเอี้ยนลี่เฉียงก็นำทุกคนเดินเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว เซเลน่าและแม่ของนางปรากฏตัวขึ้นในป่าหลังจากที่เอี้ยนลี่เฉียงและคนอื่นๆออกไป
“ท่านแม่ ท่านทราบหรือไม่ว่าพี่หลงกำลังวางแผนจะทำอะไรกับนักรบพวกนั้น”
เซเลน่ามองไปทางที่เอี้ยนลี่เฉียงซึ่งหายตัวไปด้วยความกังวล
เซรานชี่ก็มองไปยังทิศทางที่เอี้ยนลี่เฉียงและคนอื่นๆได้ออกไป แม้ว่านางจะมีลางสังหรณ์ แต่นางก็รู้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะไม่มีวันล้มเลิกแผนการอย่างแน่นอน นางจึงทำได้แต่เพียงส่ายหัวเท่านั้น
…
เอี้ยนลี่เฉียงนำคนของเขาผ่านเนินเขาในภูเขามังกรหยก
เขาไม่คุ้นเคยกับถนนและภูมิประเทศบนภูเขามังกรหยก อย่างไรก็ตามนักรบร้อยเจ็ดคนนี้เติบโตขึ้นมาบนภูเขา เกือบทุกคนคุ้นเคยกับถนนและภูมิประเทศที่นี่มากพอที่จะเป็นไกด์นำเที่ยวได้
เอี้ยนลี่เฉียงแค่บอกพวกเขาว่าเขาต้องการไปที่ไหน และในที่สุดนักรบเหล่านี้ก็จะเป็นคนชักนำเขาไป สิ่งที่เขาต้องทำก็เพียงแค่เดินตามนักรบเหล่านี้เท่านั้น
ตอนนั้นเองที่เอี้ยนลี่เฉียงตระหนักดีว่าชาวชาตูจากเผ่าไม้ดำมีความมุ่งมั่นมากเพียงใดระหว่างปฏิบัติการ ทางขึ้นเขาขรุขระและยากต่อการเดินทางนั้นสร้างความลำบากให้กับกองทัพเป็นอย่างมาก
น่าเสียดายที่เผ่าไม้ดำได้พบกับเอี้ยนลี่เฉียง หากไม่มีเขาชนเผ่า จันทราใหญ่อาจจะต้องพ่ายแพ้ไปกับกำลังใจที่ทรหดอดทนของชาวชาตูเผ่าไม้ดำไปแล้วก็ได้
ในตอนเย็นของวันที่สี่เอี้ยนลี่เฉียงและนักรบเผ่าจันทราใหญ่ในที่สุดก็มาถึงหุบเขาสเก็ดดาว ที่ราบกู่หลางอยู่เหนือหุบเขา ปัจจุบันถูกยึดครองโดยชนเผ่าทั้งเจ็ดของชาวชาตู
เมื่อพระอาทิตย์ตกเอี้ยนลี่เฉียงและนักรบร้อยเจ็ดคนกำลังยืนอยู่บนภูเขาในหุบเขาสะเก็ดดาว หุบเขาที่ยาวและแคบเบื้องล่างนั้นกว้างใหญ่พอๆกับทะเล หญ้าในที่ราบกลิ้งไปตามสายลม เผยให้เห็นวัวควายและแพะที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางพุ่มไม้
แม้แต่เอี้ยนลี่เฉียงก็ยังตะลึงกับทิวทัศน์อันตระการตาต่อหน้าต่อตาเขา ห้านาทีต่อมาเขาหันไปหานักรบของเผ่าจันทราใหญ่อีกกลุ่มแล้วพูดว่า
“ลงไปกันเถอะ!”
เอี้ยนลี่เฉียงนำนักรบร้อยเจ็ดคนไปหาที่ซ่อนในหุบเขาสะเก็ดดาว หลังจากนั้นเขาเรียกนักรบที่พูดภาษาชาตูได้คล่องให้เข้ามาเริ่มการ 'ซักซ้อม'
ด้วยความเคารพและไว้วางใจในตัวของเอี้ยนลี่เฉียง นักรบคนอื่นๆจากเผ่าจันทราใหญ่ไม่ได้ตั้งคำถามกับคำสั่งของเขา หากเอี้ยนลี่เฉียงขอให้พวกเขาซ่อนตัวในหุบเขาสะเก็ดดาวพวกเขาก็จะทำ
สองวันต่อมาในตอนเที่ยง กลุ่มนักรบชาตูประมาณสามร้อยคนได้ปรากฏตัวบนที่ราบเหนือหุบเขาสเก็ดดาว!
“ถ่ายทอดคำสั่ง! เราจะโจมตีก็ต่อเมื่อชาวชาตูถึงช่องว่างด้านล่างเรา! พวกเจ้าทุกคนได้รับอนุญาตให้ยิงได้ก็ต่อเมื่อเจ้าเห็นลูกศรแรกของข้ายิ่งออกไปแล้ว
ใครกล้าเตือนศัตรูโดยไม่ได้ตั้งใจข้าจะกรีดคอมันด้วยตัวเอง! นับจากนี้เป็นต้นไป จะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้พูดยกเว้นผู้ที่พูดภาษาชาตูได้!”
เมื่อเห็นว่าชาวชาตูเข้ามาในหุบเขาสเก็ดดาวแล้ว เอี้ยนลี่เฉียงก็ออกคำสั่งให้คนที่อยู่ข้างๆเขาทันทีและให้ชายคนนั้นส่งคำสั่งลงไปให้คนอื่นๆ