443-444
Ep.443
จากนั้น ภายใต้การทรมานแสนสาหัสของซูเฉินและคนอื่นๆ ชายเผ่าปีศาจราตรี สูญสิ้นความหยิ่งทะนง ยอมสารภาพทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา
ปรากฏว่า ทางผ่านเขตแดนของเกาะว่านเหลียนซานเสถียรขึ้นมาก ปัจจุบันผู้ฝึกตนเลเวล 5 หรือต่ำกว่าสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ หรือกระทั่งเลเวล 6 บางคน หากมีฝีมือก็สามารถออกมาได้เช่นกัน
ส่วนเกาะว่านเหลียนซาน ปัจจุบันทั้งเกาะได้ถูกยึดครองโดยเผ่าปีศาจราตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พวกมนุษย์ ซอมบี้ หรือสัตว์กลายพันธุ์ที่เคยอยู่บนเกาะ ถูกพวกมันสังหารเกลี้ยง
หลังจากได้ข้อมูลของเกาะว่านเหลียนซาน ซูเฉินก็ระเบิดศีรษะของชายเผ่าปีศาจราตรีทันที
เมื่ออีกฝ่ายร่วงงกับพื้น ก็ปรากฏชิ้นส่วนสิบชิ้นสะท้อนแสงขึ้นมาจากศพ
ซูเฉินหยิบขึ้นมาทีละชิ้น เก้าชิ้นแรกไม่มีประโยชน์อะไร ล้วนถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน แต่ชิ้นสุดท้ายทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
เพราะมันดรอปชิ้นส่วนของหินศักดิ์สิทธิ์ชิ้นใหม่นาม [ศิลาพลอยฟ้าฉุ่ยซิง]
“ก็พอใช้ได้”
มุมปากของซูเฉินโค้งงอขึ้นเล็กน้อย
หลังจากนั้นก็ทำการกำจัดศพเผ่าปีศาจราตรี ทุกคนแยกย้ายกันพักผ่อน
วันรุ่งขึ้น [รถศึกอัจฉริยะ] ยังคงมุ่งหน้าสู่เกาะเซินหราน ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็มาถึง
ซูเฉินก้มลงมองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง พบว่าในตำแหน่งไม่ไกลจากพวกเขา มีมนุษย์สิบกว่าคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่
ข้อมูลนี้ทำให้เขาบังเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก
เพราะตามหลักเหตุผลแล้ว ในเมื่อเกาะเซินหรานคืออาณาเขตของยักษ์ไททัน ดังนั้นมนุษย์สมควรถูกกำจัดไปตั้งนานแล้ว
“หรือว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นยอดฝีมือ?”
ฉุกคิดได้ ซูเฉินเอ่ยถาม [รถศึกอัจฉริยะ] “เสี่ยวจือ มนุษย์พวกนี้มีระดับฝึกตนอยู่ที่เลเวลอะไร?”
“เจ้านาย พวกเขาไม่ใช่ผู้ฝึกตน เป็นแค่คนธรรมดา”
“คนธรรมดา?”
ซูเฉินยิ่งงงเข้าไปใหญ่ คนธรรมดาจะสามารถรอดชีวิตภายใต้สายตาของพวกยักษ์ไททันได้อย่างไร? นี่มันจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“พวกเราไปดูกันดีกว่า”
ซูเฉินกล่าว ก้าวลงจากรถ
ไม่นาน ซูเฉินและคนอื่นๆก็ปรากฏต่อหน้าคนกลุ่มนี้
อีกฝ่ายมีทั้งสิ้นสิบห้าคน กระจัดกระจายกันทั่วป่า คอยเก็บผลไม้และอาหารที่คล้ายๆกัน
ซูเฉินเดินไปหาชายชราคนหนึ่ง เอ่ยถามเบาๆ “ท่านลุง กำลังรวบรวมอาหารอยู่หรอ?”
การปรากฏตัวของซูเฉินและคนอื่นๆ ทำให้ชายชราตกใจมาก เขาจ้องมองซูเฉินอย่างตั้งใจ กวาดสายตาขึ้นๆลงๆ แล้วกล่าวว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้าคงไม่ใช่คนจากเกาะเซินหรานของพวกเราใช่รึเปล่า?”
ซูเฉินพยักหน้า กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมเพิ่งเดินทางมาที่นี่ เลยมีเรื่องอยากจะสอบถาม”
ชายชราถอนหายใจ ก่อนเร่งเอ่ยเตือน “เจ้าหนุ่ม เราไม่สนว่าเจ้ามาทำอะไร แต่ขอแนะนำให้ออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด ก่อนที่หายนะจะมาเยือน!”
“ทำไมหายนะต้องมาเยือนผมด้วย?” ซูเฉินปาดจมูกเขา กล่าวอย่างสบายๆ
เขาไม่เข้าใจซักนิด ก็ในเมื่อที่นี่อันตราย งั้นแล้วทำไมคนธรรมดาอย่างลุงถึงยังอยู่ได้?
“บนเกาะมียักษ์ไททันสี่ตัว พวกมันทรงพลังมาก ถ้าเจ้าถูกพวกมันเจอตัว นั่นคงเป็นปัญหาแล้ว” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ซูเฉินกระจ่างแก่ใจ ว่าอีกฝ่ายกำลังทำเพื่อเขา แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่บ้าง ถามต่อว่า “ท่านลุง แล้วทำไมพวกท่านถึงไม่ออกไปจากที่นี่?”
“ญาติของพวกเราถูกคุมตัวไว้ เลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับใช้พวกมันเท่านั้น” ชายชรายิ้มขม
“อ๋อ” ซูเฉินส่งเสียงร้องว่าเข้าใจแล้ว
ตึง ตึง …
แต่ในขณะนั้นเอง จู่ๆแผ่นดินก็เริ่มเกิดการสั่นสะเทือนอย่างกะทันหัน
แทบจะในทันทีหลังจากนั้น ในสายตา ปรากฏยักษ์ตัวฟ้าตัวสูงใหญ่ 20 เมตร กำลังก้าวเดินมาอยางช้าๆ
“เจ้าหนุ่ม พวกเจ้าจบสิ้นแล้ว” ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่
การปรากฏกายของยักษ์ไททัน นั่นหมายความว่าซูเฉินและคนอื่นๆไม่มีทางหนีพ้น และคงต้องพบจุดจบอันน่าอนาถ
Ep.444
“ดูเหมือนมันยังเป็นเด็กอยู่”
ซูเฉินชำเลืองมองไปยังยักษ์ไททัน บ่นพึมพำกับตัวเอง
ยักษ์ไททันที่โตเต็มวัยจะมีความสูงถึง 50 เมตร แต่ตัวที่อยู่หน้าเขาสูงเพียง 20 เมตรเท่านั้น เลยคิดว่าน่าจะยังเด็กอยู่
“เอ๋ ไม่น่าเชื่อว่ายังมีมนุษย์อีกหลายคนอยู่ที่นี่ เยี่ยมไปเลย”
ยักษ์ไททันเด็ก เมื่อเห็นซูเฉินและคนอื่นๆ ดวงตาของมันสว่างไสวขึ้นทันที ถึงกับอ้าปากน้ำลายไหลออกมา
เพราะมนุษย์ในสายตาของพวกมัน ถือเป็นอาหารอันโอชะ
ช่วงแรกที่มันมายังเกาะเซินหราน มันกินมนุษย์ไปมากมาย แต่เมื่อมนุษย์น้อยลง น้อยลงเรื่อยๆ บวกกับเรื่องที่ต้องเก็บไว้ใช้งาน ทำให้มันไม่ได้กินของอร่อยมานานแล้ว
เรียกได้ว่าคิดถึงมากๆ
ตอนนี้เมื่อเจอซูเฉินและคนอื่นๆเพิ่มเข้ามา แน่นอนมันจะไม่ยอมพลาด
“พวกเจ้าทุกคนจงยอมเป็นอาหารของข้าแต่โดยดี อย่าคิดขัดขืน!”
ยักษ์ไททันฉีกยิ้มกว้าง เอื้อมมือออกไปหมายคว้าซูเฉินและคนอื่นๆ
ตกอยู่ในสถานการณ์นี้ สีหน้าของหยางฮ่าวและคนอื่นๆแปรเปลี่ยนไป
เพราะถึงอีกฝ่ายจะเป็นแค่ยักษ์ไททันวัยเยาว์ แต่ขนาดของมันก็เท่ากับภูเขาลูกเล็กๆ ก่อให้เกิดแรงกดดันอย่างหนักหน่วงต่อพวกเขา
“อาศัยแค่แกน่ะหรอจะกินพวกเราได้?”
ซูเฉินกล่าวหยาม ก้าวไปข้างหน้า กางฝ่ามือออก
“นั่นเขาคิดจะทำอะไร?”
มองไปยังพฤติกรรมประหลาดของซูเฉิน ชายชราที่อยู่ข้างๆเกิดความสับสนเล็กน้อย
เมื่อนำซูเฉินมาเทียบกับยักษ์ไททันมาเทียบกันแล้ว ฝ่ายแรกมีขนาดเพียงนิ้วเดียวของฝ่ายหลังเท่านั้น
รูปร่างแตกต่างกันมากเกินไป ถ้าจะสู้กัน ไม่เท่ากับเป็นการเตะแผ่นเหล็กหรอ?
ไม่ใช่ว่าทำแบบนั้นคือการยกหินทุ่มลงเท้าตัวเอง?
ยักษ์ไททันเด็กเห็นว่าซูเฉินกำลังสบประมาทมัน บังเกิดความโกรธขึ้นมาทันใด
ทิศทางในการวาดมือเลื่อนต่ำลง เล็งจับไปที่ซูเฉินเพียงผู้เดียว
ซูเฉินเฝ้ารอจนมือใหญ่คว้าจับตัวเขา พริบตานั้นทั้งคนทั้งร่างระเบิดพลังสมาธิออกมา
อย่ามองแค่ขนาดมหึมาของไททันยักษ์เด็ก เพราะอันที่จริงมันมีกำลังรบอยู่ในระดับผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เท่านั้น
แม้พละกำลังจะเหนือกว่าในเลเวลเดียวกัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังจิตเลเวล 5 ของซูเฉิน ทั้งตนทั้งร่างของมันคล้ายถูกจับโยนลงในหล่มโคลน ไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
“มนุษย์ นี่เจ้าเป็นปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 5 งั้นหรือ?”
สีหน้าของไททันเด็กแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย
พันธนาการมันได้เช่นนี้ มิใช่สิ่งที่ปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 4 สามารถทำได้อย่างแน่นอน
ซูเฉินเบ้ปาก นึกในใจว่าฉันมีไพ่แค่นี้ซะเมื่อไหร่ เอื้อมมือออกไปคว้านิ้วไททันเด็ก ตามด้วยเปิดใช้งาน [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] แล้วจัดการยกอีกฝ่ายจนตัวลอยอย่างง่ายดาย
จากนั้นเหวี่ยงฟาดลงกับพื้นอย่างแรง
ตูมมมมม!
แผ่นดินสั่นสะเทือน ขุนเขาสั่นไหว ไททันเด็กนอนหงายกางแข้งกางขากับพื้น พื้นดินรอบตัวมันแตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ มองไปคล้ายกับใยแมงมุมขนาดใหญ่
ช่วงเวลานี้ สีหน้าของไททันเด็กเต็มไปด้วยความงุนงง ถึงขั้นจินตนาการว่าตนเองยังอยู่ในห้วงของความฝัน
ตัวมันแม้ยังเด็ก แต่ก็มีน้ำหนักมากเป็นหลายหมื่นจิน ฉะนั้นจะถูกมนุษย์อ่อนแอยกจนตัวลอยแล้วฟาดลงกับพื้นเหมือนสุนัขตายเช่นนี้ได้อย่างไร?
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เผ่ามนุษย์แข็งแกร่งถึงเพียงนี้?
เขาใช่เป็นผู้วิวัฒนาการหรือไม่? เหตุใดจึงเป็นจอมพลังเช่นนี้
“ช่างเป็นกำลังรบที่น่าหวาดกลัวเสียนี่กระไร …”
ชายชราที่อยู่ข้างๆ เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ ร่างเขาสั่นสะท้านไม่หยุด ใช้เวลาสักพักเลยกว่าจะข่มใจได้ ทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
หัวใจของหวู่หยางและคนอื่นๆพองโต ความแข็งแกร่งของซูเฉินยังคงไร้เทียมทาน
และทุกครั้งที่เขาแสดงออกมา มันจะให้ผู้อื่นต้องตกใจอยู่ร่ำไป
คราวนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
ยักษ์ไททัน มีชื่อเสียงด้านพละกำลัง ทว่าพออยู่ในมือของซูเฉินกลับไม่ต่างจากมดปลวก ช่างน่าเหลือเชื่อนัก
ซูเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก ปลดปล่อยเทคนิคพันธนาการธาตุไม้ หลังจากมัดไททันเด็กเอาไว้อย่างแน่หนา เขาก็กระโดดขึ้นไปบนหน้ามัน
“ถ้ายังไม่อยากตาย จงตะโกนให้ดังสุดเสียง เรียกพ่อแม่พี่น้องของแกมา”
ซูเฉินก้มหน้าลง กวาดมองดวงตาของมัน เอ่ยอย่างแผ่วเบา
จุดประสงค์ของเขาชัดเจนมาก นั่นคือมีไททันทั้งหมดสี่ตัวอยู่ที่นี่ หนึ่งถูกจับแล้วฉะนั้นเหลืออีกสาม
และเขาต้องการฆ่าตัวที่เหลือทั้งหมด