ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
เมื่อเห็นชายร่างใหญ่สองคนกำลังเดินมาข้างหน้าเขาด้วยสายตาที่ตกตะลึง จินก็คิดว่าคนพวกนี้ตกตะลึงกับการปรากฏตัวพร้อมกับการสวมใส่เครื่องแบบของเขา มันจึงทำให้เขารู้สึกภูมิใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะกระแอมในลำคอและยิ้มอย่างเขินอายก่อนจะกล่าวออกไปว่า
“ขอบคุณสำหรับเสื้อผ้านะ”
ทันใดนั้นคอรีย์และแจ็คก้าก็ถูกรอยยิ้มของจินทำให้หวั่นไหวอีกครั้ง
แม้ว่าสัตว์พวกสายพันธุ์อ่อนแอนี้จะเป็นเพศชาย แต่พวกมันก็ไม่มีแกนพลังงานตั้งแต่แรกเกิดและร่างกายของพวกมันยังอ่อนแอมาก
ขณะเดียวกันอาณาจักรออร์คก็เป็นอาณาจักรแห่งความขัดแย้งจึงทำให้ภายในอาณาจักรแทบจะไม่มีคนที่อ่อนแอและมันก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิง
นี่ก็ผ่านมานานกว่า 300 ปีแล้วที่ปรมาจารย์ท่านหนึ่งได้เสนอวิธีการแปลงร่างเป็นสัตว์พวกสายพันธุ์อ่อนแอ เพราะหลังจากการแปลงร่างเป็นสัตว์พวกสายพันธุ์อ่อนแอแล้วพวกเขาจะมีความสามารถในการตั้งครรภ์และมีลูกได้
ต่อมาออร์คหลาย ๆ ครอบครัวก็ได้ส่งลูกหลานของตัวเองไปแต่งงานกับลูกหลานของครอบครัวที่แปลงร่างเป็นสัตว์พวกสายพันธุ์อ่อนแอ
แม้ว่าความสมบูรณ์ของพวกพวกสายพันธุ์อ่อนแอที่แปลงร่างแล้วจะน้อยกว่าของออร์คเพศหญิงมาก แต่โดยทั่วไปแล้วพวกพวกสายพันธุ์อ่อนแอนั้นมีมูลค่าที่สูงกว่าและยังมีออร์คอีกจำนวนมากที่เต็มใจร่วมเป็นพันธมิตรกับพวกพวกสายพันธุ์อ่อนแอด้วย
ขณะเดียวกันพวกสายพันธุ์อ่อนแอที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาก็ดูสวยกว่าบุตรของผู้สูงศักดิ์ที่ถูกเลี้ยงดูในตระกูลขุนนางระดับกลางเสียอีก พวกเขาจึงไม่แปลกใจที่ท่านจอมพลของพวกเขาจะสามารถทำเช่นนั้นโดยใช้รูปร่างของสัตว์ได้...
จากนั้นคอรีย์ก็รีบเรียกสติของตัวเองกลับคืนมา เพราะเขาไม่กล้าคิดเกินเลยกับสายพันธุ์อ่อนแอที่ท่านจอมพลทำเครื่องหมายไว้
ต่อมาคอรีย์ก็พยักหน้าให้จินแล้วหันไปถามแจ็คก้าว่า
"นายพบตัวท่านจอมพลไหม"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแจ็คก้าก็แสดงสีหน้าอันหนักใจและกล่าวตอบออกไปว่า
“ไม่ครับ..ไม่พบร่องรอยอะไรเลย นอกจากเกล็ดของท่านจอมพล 2-3 ชิ้นที่ด้านข้างของบ่อโคลนและ... เลือดของท่านจอมพล”
ในบริเวณนี้นอกจากจะมีกลิ่นฉุนของหมูป่าแล้ว มันยังมีกลิ่นของจอมพลเรย์มอนด์ยังคงอยู่ในอากาศจาง ๆ อีกด้วย
เขาคิดว่าท่านจอมพลต้องเคยอยู่ที่นี่มาก่อนอย่างแน่นอน
เมื่อคอรีย์มองดูรอยกีบเท้ายุ่ง ๆ จำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกหมูป่าเหยียบย่ำอยู่บนพื้น เขาก็สัมผัสได้ว่าสถานที่แห่งนี้จะต้องเคยมีการต่อสู้อันดุเดือดเกิดขึ้นมาก่อน
ท่านจอมพลจะต้องต่อสู้อย่างดุเดือดกับฝูงหมูป่าและฝูงหมูป่าก็เป็นศัตรูโดยธรรมชาติของงูหลามด้วย
หรือสัตว์พวกนั้นจะกินท่านจอมพลไปแล้ว? !
ถ้าเป็นท่านจอมพลในอดีตพวกหมูป่านั้นก็เป็นเหมือนกับเศษขี้เล็บ แต่ตอนนี้ท่านจอมพลได้รับบาดเจ็บสาหัสเขาไม่สามารถใช้พลังงานได้เหมือนปกติ แล้วเขาก็บังเอิญปะทะกับฝูงหมูป่าอีก...
“พันเอกคอรีย์เครื่องตรวจจับไม่สามารถตรวจจับพลังงานของท่านจอมพลได้อีกแล้วครับ” ทหารรายหนึ่งวิ่งเข้ามารายงานด้วยความตื่นตระหนก
เมื่อได้ยินเช่นนั้นคอรีย์ก็หลับตาลงพร้อมกับคิดขึ้นมาในใจว่า
หรือพวกหมูป่าพวกนั้น…!
“ออกค้นหาฝูงหมูป่าและจัดการสับพวกมันให้เป็นพันๆ ชิ้น อย่าปล่อยให้มีใครรอดไปได้เด็ดขาด!” คอรีย์สั่งการด้วยน้ำเสียงอันดังกึงก้อง
ท่านจอมพลของพวกเขาเป็นคนที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดของอาณาจักร เขาเป็นคนที่เก่งกาจมากที่สุด แต่จอมพลเรย์มอนด์กลับต้องมาเสียชีวิตในปากของหมูป่า...
“รับทราบครับ!”
หลังจากนั้นแจ็คก้าพร้อมกับทหารอีกจำนวนหนึ่งก็รีบแปลงร่างดำเนินการตามคำสั่งทันทีทำให้ในเวลานี้มันได้มีสัตว์ป่าอย่างเช่น หมาป่าสีขาว, เสือดาว, แรดและสิงโตวิ่งไปในป่าลึก
ขณะเดียวกันจินก็กำลังจมอยู่กับอาการตกตะลึง
“คนพวกนี้…ไม่ใช่สิสัตว์ประหลาดพวกนี้…”
“เมื่อไหร่กันที่สัตว์ประหลาดกล้าแสดงรูปลักษณ์ดั้งเดิมของพวกมันออกมาต่อหน้ามนุษย์ตามต้องการแบบนี้?”
จินรู้ว่ามันมีแผนกสายลับอยู่ในเทียนเฉา ซึ่งในบรรดาสายลับเหล่านี้มีสายพันธุ์ต่าง ๆ รวมตัวกันอยู่ทุกประเภทและแน่นอนว่ามันมีปีศาจรวมอยู่ด้วย
อาจารย์ของเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น
แต่เขาไม่รู้ว่าในต่างดาวก็มีแผนกพิเศษแบบนี้ด้วยและปีศาจต่างดาวที่อยู่ตรงหน้าของเขาก็มาในร่างของ "มนุษย์" เขาจึงไม่หวาดระแวงในขณะที่พวกเขาปรากฏตัว แต่พวกเขากลับเปลี่ยนร่างแบบนี้ต่อหน้าเขาที่อยู่ในร่างของมนุษย์
พวกเขาไม่กลัวว่าจะทำให้ "มนุษย์" ที่ "เชื่อในวิทยาศาสตร์" ตกใจกลัวเลยหรือไง?
คอรีย์มองจินด้วยใจที่หนักอึ้งเนื่องจากมันเป็นสายพันธุ์อ่อนแอที่ท่านจอมพลทำเครื่องหมายไว้ เขาจึงคิดว่า
“เอามันกลับไปกันก่อนแล้วกัน”
แต่เขาจะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของท่านจอมพลดีหรือเปล่า?
การทำแบบนี้มันคงจะดีกว่าที่จะต้องมาตามหาเจ้าพวกสายพันธุ์อ่อนแอนี่อีก
เมื่อคอรีย์กำลังมองจิน อดีตหอยทากสีทองก็มองเขากลับเหมือนกัน
จินกำลังเดาว่าชายร่างใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นปีศาจด้วยหรือเปล่า?
เขาวางแผนว่าในอนาคตเขาจะอาศัยอยู่ในสังคมมนุษย์และเขาไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องที่ว่าเขาเป็นปีศาจฝึกหัดออกไป เพราะจินไม่อยากถูกชักชวนให้เข้าไปอยู่ในแผนกพิเศษหรือทำงานพิเศษแบบนั้นเลย เขาแค่ต้องการสนุกกับชีวิตมนุษย์เท่านั้น
ในขณะนั้นจินพบว่าอีกฝ่ายดูลังเลเล็กน้อยเมื่อมองมาที่เขา เขาจึงเดาว่าคนพวกนี้น่าจะออกมาทำภารกิจแล้วไม่สะดวกพาเขาไปในตอนนี้
เขาไม่ต้องการทำให้คนพวกนี้ลำบากใจ ดังนั้นเขาจึงถามไปตรงๆ ว่า
"คุณสะดวกที่จะพาฉันไปด้วยไหม"
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด ดังนั้นจินจึงใช้ภาษากายเพื่อสื่อสารกับอีกฝ่าย
เขาโบกมือแล้วชี้ไปที่ป่าลึกและโบกมืออีกครั้ง โดยพยายามจะสื่อหมายความว่า
‘ถ้าคุณมีงานต้องทำก็ไม่เป็นไรและให้ปล่อยฉันไว้ที่นี่’
เขาสามารถออกจากที่นี่ไปได้ด้วยตัวเองแต่มันจะต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขายังมีน้องชายที่มีพลังอสูรอยู่ในท้อง เมื่อต้าไห่ตื่นขึ้นมาพวกเขาจะสามารถออกจากป่าแห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อคิดถึงต้าไห่ จินก็นำมือไปสัมผัสท้องของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เขาอยากจะพาต้าไห่ออกมาแล้วจริง ๆ
เนื่องจากอาการบาดเจ็บของต้าไห่จำเป็นที่จะต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นต้าไห่จึงจำเป็นที่จะต้องอยู่ในท้องของเขาไปก่อน... ไม่สิในเปลือกของเขาต่างหาก แต่การที่มันได้มีผู้แปลกปลอมเข้ามาอยู่ในเปลือกของเขามันจึงทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างน่าประหลาด
แต่ในตอนนี้มันมีคนอื่นอยู่ตรงหน้า หากจู่ ๆ เขาเอางูหลามตัวใหญ่ออกมาจากร่างกาย... บึ้ย! เขาไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเองเลย
ในขณะเดียวกันคอรีย์ก็ไม่เข้าใจท่าทางที่จินพยายามต้องการจะสื่อเลย เขาแค่คิดว่าจินโบกมือเพื่อบอกว่า ‘เขาไม่ต้องการขึ้นยานอวกาศไป’ คอรีย์จึงขมวดคิ้วแล้วทำท่าทางเชื้อเชิญขึ้นยานอวกาศให้จินดู
จินแสร้งทำเป็นปฏิเสธอีก 2 ครั้งก่อนที่เขาจะเดินขึ้นยานอวกาศอย่างไม่เกรงใจ
ใครจะอยากอยู่ที่นี่ถ้าคุณบินได้?
แม้ว่าต้าไห่จะตื่นขึ้นมาแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะวิ่งเร็วกว่าเครื่องบิน
ในขณะเดียวกันแจ็คก้าและคนของเขาก็ฆ่าล้างหมูป่าอย่างต่อเนื่องฝูงแล้วฝูงเล่าเพื่อพยายามระบายความโกรธของเขาออกไป
เมื่อพวกเขากลับมาดวงตาทุกคู่ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด หลังจากนั้นทุกคนก็เดินขึ้นยานอวกาศด้วยความเศร้าใจ
ในเวลาเดียวกันคอรีย์ก็ติดต่อกองทัพและรายงานสถานการณ์ที่เขาพบพร้อมกับข่าวที่คาดว่าท่านจอมพลเสียชีวิตแล้วออกไป แต่เขาไม่ได้รายงานเรื่องของเจ้าพวกสายพันธุ์อ่อนแอที่ท่านจอมพลทิ้งเครื่องหมายไว้กับกองทัพ
เรื่องแบบนี้อาจจะบ่อนทำลายชื่อเสียงของท่านจอมพลเรย์มอนด์ได้ ดังนั้นอย่าไปพูดถึงมันเลย โดยเฉพาะในตอนนี้ที่มีคนรู้เรื่องเพียงแค่ไม่กี่คน
-----
เมื่อยานอวกาศบินออกมามันก็ไม่สามารถบินกลับไปยังดาวศูนย์กลางได้โดยตรง เพราะดาวศูนย์กลางอยู่ห่างจากดาวที่จินเคยอยู่มากเกินไปและพวกเขาก็ต้องบินผ่านดาวเคราะห์อย่างน้อย 3 ดวงเพื่อเข้าไปยังดาวศูนย์กลาง
ในขณะนี้คอรีย์จึงได้จอดยานอวกาศไว้ที่สถานีจ่ายพลังงานทางทหารบนดาวเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่งเพื่อเติมเชื้อเพลิงให้เต็มก่อน
เมื่อยานลงจอดจินก็เดินลงมาจากยานอวกาศและได้เห็นอาคารสูงรวมถึงของไฮเทคต่าง ๆ ที่สามารถหาพบได้ในสังคมมนุษย์เท่านั้น แต่มนุษย์ที่อยู่ที่นี่ดูแปลกไปจากที่เขาเคยเห็นมากเพราะพวกเขามองจินเหมือนเห็นของกินอร่อย ๆ จนทำให้น้ำลายไหลลงมา
เมื่อเห็นสายตาแบบนั้นมันทำให้ขนจินตั้งขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขาจึงแอบเพิ่มการป้องกันให้กับตัวเอง
“พันเอกคอรีย์คุณต้องการเข้ารับการทดสอบที่นี่หรือเปล่า” น้ำเสียงอันอ่อนโยนจากชายคนหนึ่งดังขึ้น
ผู้ที่พูดเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 30 ปีที่มีดวงตาสวยงามและจินก็รู้สึกถูกชะตากับชายคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น
"ด็อกเตอร์นิชิซาวะจัดการได้เลย" คอรีย์กล่าว
"นี่ใครอย่างนั้นหรอ?" นิชิซากล่าวก่อนจะชี้ไปที่จินที่ติดตามคอรีย์มา
ดาวเคราะห์ดวงนี้มีชื่อว่าไลม์สโตนมันเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลมากทำให้โดยปกติผู้ที่มีร่างกายอ่อนแออย่างพวกสายพันธุ์อ่อนแอจะไม่สามารถเดินทางมาที่นี่ได้
นิชิซาวะก็เป็นพวกสายพันธุ์อ่อนแอ แต่เขาเป็นแพทย์ทหารและเขาก็อยู่ในค่ายทหารอย่างปลอดภัยเสมอ
ตอนนี้คอรีย์ไม่สามารถอธิบายตัวตนของจินได้จริง ๆ เขาจึงพูดอย่างคลุมเครือว่า
"นี่เป็นพวกสายพันธุ์อ่อนแอที่เราช่วยชีวิตไว้ระหว่างทาง ให้เขาตรวจสอบร่างกายของเขาด้วย"
โดยทั่วไปแล้วคนในพวกสายพันธุ์อ่อนแอจะมีรูปร่างหน้าตาดีและมีพลังที่อ่อนแอ ดังนั้นพวกเขาจึงตกเป็นเป้าหมายของนักค้ามนุษย์ในอวกาศแล้วถูกขายให้กับดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกล
นิชิซาวะหันไปมองพวกสายพันธุ์อ่อนแออีกครั้ง แล้วเขาก็เดาว่าคอรีย์อาจจะช่วยเหลือพวกสายพันธุ์อ่อนแอคนนี้มาจริง ๆ
นิชิซาวะซึ่งเป็นพวกสายพันธุ์อ่อนแอเหมือนกันรู้สึกเห็นอกเห็นใจจินแล้วเขาก็กวักมือเรียกอดีตหอยทากสีทองอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดกับจินด้วยรอยยิ้มว่า
"สวัสดี ฉันเป็นหมอของที่นี่ ฉันจะพาคุณไปตรวจร่างกาย"
จินไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูด แต่เมื่อเขาเห็นความใจดีของนิชิซาวะเขาจึงเดินไปกับอีกฝ่ายโดยในขณะนี้เขาได้เห็นรถแม็กเลฟที่สวยงามและมีขนาดเล็กจอดอยู่ตรงหน้า
เขาควรเรียกมันว่ารถแม็กเลฟหรือเปล่า?
ทันใดนั้นรถแม็กเลฟก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วหายไปในพริบตา
เขารู้ว่ามีรถแม็กเลฟในจักรวาลนี้อยู่ แต่รถแม็กเลฟมันบินได้เหมือนกับเครื่องบินตั้งแต่เมื่อไร?
ตอนนี้เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเล็กน้อย
ผลการตรวจร่างกายของคอรีย์และคนอื่น ๆ นั้นแตกต่างกันจากการตรวจร่างกายของจินอย่างสิ้นเชิง นิชิซาวะพาพวกเขาไปที่ทางเข้าห้องตรวจและจัดให้แพทย์คนอื่นตรวจคอรีย์และคนอื่น ๆ ก่อนที่เขาจะพาอดีตหอยทากสีทองไปอีกห้องตรวจหนึ่ง
ผ่านไปครู่หนึ่งคอรีย์ก็เห็นนิชิซาวะเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบและพูดว่า
“พันเอกคอรีย์พวกสายพันธุ์อ่อนแอที่คุณนำกลับมากำลังท้อง!”
คอรีย์กระโดดลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีในขณะที่ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
"คุณพูดว่าอะไรนะ!! เขาทะ..ทะ...ท้อง!!!”
ลูกในอาณาจักรออร์คมีความสำคัญมากดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสำคัญกับคนที่ตั้งครรภ์มากเช่นกัน ซึ่งอันที่จริงคนพวกนี้ถึงกับได้รับสิทธิพิเศษบางอย่างเพิ่มเติมอีกด้วย
แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น!! ประเด็นคือพวกสายพันธุ์อ่อนแอที่เขานำกลับมาถูกทำเครื่องหมายโดยท่านจอมพล!
“คุณแน่ใจนะ?” คอรีย์ถามยืนยันอีกครั้ง
นิชิซาวะรู้สึกแปลก ๆ กับปฏิกิริยาของคอรีย์ แต่เขาก็พยักหน้าและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า
"ฉันตรวจแค่คร่าว ๆ เท่านั้น ฉันต้องพาเขาไปที่สำนักการศึกษากฎหมายระหว่างดวงดาวเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มเติมโดยเร็วที่สุด"