Chapter 115 (อ่านฟรีทุกตอนที่ลงท้ายด้วย 5-6)
แม้ว่าเอเธอร์จะสนใจที่จะฝึกเอ็มม่า แต่เนื่องจากซอดพูดอย่างนั้น เธอก็ทำได้แค่ฟังเขา.
ไม่ว่าความคิดที่โอนอ่อนจะฝังอยู่ในกระดูกหรือความภักดีที่ฝังอยู่สมองที่ซอดฝังเอาไวก็ เอเธอร์ก็ไม่ต่อต้านซอด.
ซอดสร้างสถานีอวกาศสำหรับเอเธอร์เพื่อให้อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากและในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนอิทธิพลของสนามแม่เหล็กที่อยู่ใกล้ๆเพื่อไม่ให้สถานะอวกาศถูกแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ดูด แต่ยังสามารถได้รับแสงอาทิตย์ได้อยู่.
ซอดรู้สึกว่าเอเธอร์แข็งแกร่งมากแล้วตอนนี้.
"อยากจะสู้กันไหม บอส?"
เอเธอร์สังเกตุเห็นว่าซอดกำลังสังเกตุเธออยู่ เธอจึงพูดอย่างกระตืดรือร้น.
"ดี."
ซอดไม่สนใจ และจากนั้นก็พาเอเธอร์เทเลพอตไปที่ห้องต่อสู้.
ห้องต่อสู้สร้างจากโลหะอะตอมที่สามารถทนทานการต่อสู้ที่ดุเดือดของคริปตอนสองคนได้.
เอเธอร์มีท่าทีไม่จริงจังและต่อยหน้าเขาตรงๆ หมัดนี้ฉีกอากาศและความเร็วของหมัดก็เร็วเหนือเสียง.
พลังแม่เหล็กของซอดถูกปล่อยออกมา ควบคุมด้วยสนามแม่เหล็กรอบๆจากนั้นก็ปะทะกับเอเธอร์.
ทำให้การชกของเธอช้าลง และในที่สุดก็หยุดอยู่ตรงหน้าซอด.
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหลายล้านต้นทำให้เอเธอร์เคลื่อนไหวไม่ได้.
"บอส มันไม่อาจทำอย่างนี้ได้!"
เอเธอร์พูด เธอต้องการที่จะต่อสู้แบบระยะประชิด ไม่ใช่การต่อสู้หรือการใช้พลังเพียวๆ.
"Ok."
ซอดเลิกใช้พลังแม่เหล็กและเอเธอร์ก็ปล่อยหมัดขวาทันที.
อย่างไรก็ตาม ซอดหลบมันได้อย่างง่ายดาย จากนั้นซอดก็กุมมือทั้งสองข้างก่อนที่จะทุบไปที่หลังเอเธอร์.
เอเธอร์กระแทกพื้นแต่พลังสนามชีวภาพของเธอก็ป้องกันไม่ให้เธอได้รับผลกระทบ.
เธอหายตัวไปทันทีด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ประกอบกับความสามารถที่น่าถึงของพลังสนามชีวภาพ แม้ว่าเธอจะเคลื่อนที่ได้เกินกว่าเสียง แต่เธอก็ไม่ได้ทำให้เกิดเสียงตัดอากาศหรือเกิดการเสียดสีใดๆ เธอปรากฏข้างหลังซอดและเอเธอร์ก็กอดซอดด้วยการสอดแขนไปที่ใต้ไหล่ของเขา.
ทันทีที่ซอดเงยหน้าขึ้น เอเธอร์ก็แสดงท่าทีว่าได้รับชัยชนะ ดวงตาของเขาแดงและเขาก็ปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาจากด้วยตา!
ภาพที่ซอดกลายเป็นแดงฉาน มันสามารถตัดทองและหยก ละลายทุกอย่างด้วยความร้อน แต่มันไม่อาจทำอะไรตัวเขาได้ แม้กระทั้งเส้นผมของเขาก็ไม่ถูกเผาเลยด้วยซ้ำ และผมของเขาก็ยังคงโบกสะบัดไปมา.
เหตุผลหลักก็คือพลังสนามชีภาพของซอดนั้นแข็งแกร่งเกินไป ประกอบความสามารถของเขาที่ดูดซับพลังงานที่คริปโตเนียนคนอื่นไม่มี ดังนั้นเขาจึงดูดซับพลังจากตาเลเซอร์ของเขาขณะที่ปล่อยมันออกไปหาเอเธอร์แรงขึ้นเรื่อยๆ มันยิ่งทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นไปอีก.
ทัดใดนั้นดวงตาของซอดก็กลายเป็นแสงสีฟ้า.
ตาเยือกแข็ง!
ดวงตาที่ปล่อยรังสีความเย็นยะเยือก มันเปลี่ยนจากความร้อนเป็นความเย็นทันที จากนั้นเอเธอร์ที่หนีไม่ทันก็ถูกแช่แข็ง.
ตาเยือกแข็งนี้ประหลาดและการพ่นน้ำแข็งไม่ใช่วิธีเดียวที่ซอดใช้ได้ เมื่อเขากลายเป็นคนที่มีพลังแม่เหล็กและแรงโน้มถ่วงแล้ว เขาเปลี่ยนจากตาความร้อนเป็นตาเยือกแข็งได้และเปลี่ยนจากพ่นน้ำแข็งเป็นพ่นไฟได้ มันเป็นเรื่องง่ายดายมาก ไม่ต้องพูดถึงความสามารถในการดูดซับพลังงานของเขาที่สามารถเปลี่ยนพลังงานทั้งหมดให้เป็นพลังของเขา.
เอเธอร์หลุดออกจากก้อนน้ำแข็ง เธอสูดหายใจเขาลึกๆ พร้อมกับพ่นน้ำแข็งของเธอไปทางซอด
ผมก็คือ เธอเห็นซอดชี้มือไปที่เธอ.
จากนั้นพลังงานในร่างกายก็เปลี่ยนเป็นแรงโน้มถ่วงและเอเธอร์ถูกดึงเข้าหาซอดด้วยความเร็วสูง.
แรงโน้มถ่วงนั้นทรงพลังมากจนแม้แต่ชาวคริปตอนอย่างเอเธอร์ก็ไม่อาจต้านทานได้.
หลังจากที่เอเธอร์มาอยู่ในกำมือแล้ว ซอดก็เปิดปากของเขาและเอเธอร์ก็อ้าปากของเธอเช่นกัน.
พ่นไฟ!
พ่นน้ำแข็ง!
ไฟและน้ำแข็งนั้นปะทะกัรนในระยะปะชิด จากนั้นเอเธอร์ก็มองดูไฟที่ออกจากปากของซอดและดวงตาก็ปล่อยแสงเลเซอร์ออกมา!
น้ำแข็งของเธอไม่ใช่คู่ปรับกับไฟของซอดเลย เธอถูกเผาทันทีและพร้อมกับแสงเลเซอร์ที่ตาของซอด เธอก็กระเด็นไปจนกระแทกจากผนัง.
เลเซอร์ยังคงโดนตัวของเอเธอร์ แต่พลังสนามชีวิภาพของเธอก็ต้านทานได้ดีมาก เธอใช้กำลังด้วยการต่อยผนังเพื่อหลุดออกจากจุดที่เลเซอร์ยังคงปล่อยอยู่.
เอเธอร์เลือกที่จะยอมแพ้.
เหตุผลหลักก็คือซอดแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พลังแม่เหล็กหรือพลังอื่นๆ เขาก็บดขยี้เธอได้ง่ายๆและไม่มีความหวังที่จะชนะแม้ว่าจะสู้ต่อไป.
นอกจากยอมแพ้แล้ว ซฮดก็ไม่มั่นใจว่าเธอจะสู้ต่อหรือไม่ ตัวของเขานั้นไม่สนใจที่สู้แบบหมัดต่อหมัดอีกต่อไป วิธีการต่อสู้ของเขาต้องเป็นพลังแม่เหล็กเป็นหลัก มันไม่จำเป็นต้องเข้าไปต่อยใครหรือทำอะไร แม้ว่าจะมีคนไม่มากที่จะสู้กันแบบหมัดต่อหมัดกับคริปโตเนียนได้.
เอเธอร์ยอมแพ้ให้กับร่างกายของซอด.
"เกิดอะไรขึ้น?"
ซอดไม่ได้ปรับการหลั่งฮอร์โมน ดังนั้นEQของเขาจึงไม่ได้ใช้เต็มที่.
"ฉันต้องการสู้กับบอสในสนามอื่น."
ขายาวๆของเอเธอร์เกี่ยวเข้าไปที่เอวของซอด.
มวยปล้ำ?
จากนั้นเขาก็คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงเย้ายวนของเอเธอร์.
ไม่มีอะไรพูดอีกและเธอก็ไม่ต้องการ.
ประโยคถัดมาสามารถอธิบายได้ด้วยบทกวี
เมื่อลมฤดูใบไม้ผลิและน้ำค้างหยกมาบรรจบกัน พวกเขาก็ได้รับชัยชนะนับครั้งไม่ถ้วน...
การต่อสู้ระหว่างชาวคริปโตเนียนทั้งสองคนนนี้ดุเดือนและกินเวลานานกว่าสามชั่วโมง.
ในที่สุด ซอดก็ชนะ.
ท้ายที่สุดเขาเพิ่งจะเสริมความแข็งแกร่งทางร่างกายและเอเธอร์ก็ยังห่างไกลที่จะมาสู้กับเขา.
TL:คือเอากันนี่อธิบายไรมากมายไม่รู้ ไม่อินเลย 555
เปรโตรตื่นจากอาการโคม่า.
เขาไม่เพดานที่คุ้นเคยตั้งแต่แรกเห็น เขาไม่เห็นแม้แต่นิ้วของเขาเพราะมันมีแต่ความมืด เขาคิดว่าเขาถูกปิดตา แต่หลังจากคลำอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตื่นตระหนก ฉันไม่ได้ตาบอดใช่ไหม!
เปโตรโพล่งออกมาด้วยเหงื่อที่เย็นเยียบ และหวนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่น่าเสียดาย เขารู้สึกหนักใจในตอนนั้นและความทรงจำของเจาก็ขาดๆหายไป.
ทั้งหมดที่เขารู้ดูเหมือนว่าเขาจะถูกทำร้าจนปางตายและถูกขังไว้ในห้องเย็นๆ.
ตอนนี้ ร่างกายของเขากำลังส่งความเจ็บปวดมาให้เขา นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา.
"ท้ายที่สุดเกิดอะไรขึ้น!"
"มีใครอยู่ไหม!"
"ช่วยด้วย!"
...
เมื่อเห็นเปรโตเริ่มโวยวาย ทหารสัตว์ก็ไม่ได้สนใจมากนัก.
เพราะกำลังของคนมีจำกัด เปรโตรจึงถูกทุบตีเมื่อคืนนี้ เขาหนาวและหิว เขากรีดร้องได้ไม่นานและถึงแม้ตะโกนจนคอแตก บ้านหลังนี้ก็จะไม่มีเสียงเล็ดลอดออกไป.
หลังจากที่ตะโกนอยู่ครู่หนึ่ง เปรโตรก็คำราม จากนั้นเขาก็ยอมแพ้.
ความมืดที่มองไม่เห็นมันสามารถกลืนกินวิญญาณและเจตจำนงของมนุษย์ได้เป็นอย่างมาก.
เขาไม่รู้เรื่องราวใดๆจากโลกภายนอก ไม่สิ พูดตรงๆ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขายังอยู่ดีหรือเปล่า บุคคลทั้งหมดนั้นเหมือนผี ล่องลอยท่ามกลางความมืดที่ไม่มีสิ้นสุด ตกอยู่ในขุมนรกตลอดเวลา.
ในเวลนี้ ดูเหมือนว่าเวลาจะเดินช้ามาก และแม้แต่เปรโตรก็ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว.
ความมืดชั่วนิรันด์.
ชั่วนิรันด์เพียงชั่วพริบตา!