ตอนที่ 64 ซื้อวัตถุดิบ (อ่านฟรี 04-10-2021)
ตอนที่ 64 ซื้อวัตถุดิบ
เนื่องจากกายนอนแต่หัวค่ำ ทำให้ตื่นเช้ากว่าปกติ ตอนนี้ด้านนอกยังมืดแต่อากาศไม่ได้เย็นมากนัก ยังมีแสงไฟสีส้มส่องสว่างท่ามกลางความมืดยามเช้าในบางจุดที่สำคัญภายในสถาบันศาสตร์นักรบ มีแมลงบินวนชนกับแก้วใส่ของหลอดไฟจิตวิญญาณเป็นครั้งคราวราวกับมันต้องการเผาตัวเองในดวงไฟจิตวิญญาณพวกนั้น
กายายหน้าพลางลุกขึ้นจากเตียงอาศัยแสงสว่างสลัวที่น้อยนิด เดินไปหยิบตะเกียงน้ำมันขึ้นมาความหากล่องไม้ขีดไฟ จุดมันเพียงหนึ่งก้านอย่างชำนาญ แสงจากก้านไม้ขีดสว่างมากภายในห้องเล็ก ๆ
กายยื่นมันไปด้านบนของตะเกียงน้ำมัน จ่อเปลวไปดวงเล็กที่เผาไหม้ก้านไม้ขีดไปที่ชนวนชุ่มน้ำมัน
พรึบ!
ตะเกียงถูกจุดส่องแสงกระจายไปทั่วห้อง ชายหนุ่มหยิบตะเกียงน้ำมันเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวเล็กในห้อง เปิดหนังสือบันทึกข่างโลหะ ไปหน้าของพิมพ์เขียวค้อนสั่นสะเทือน ทำการจดวัตถุดิบที่ต้องใช้ลงไปในกระดาษด้วยปากกาหมึกซึม ซึ่งภายในด้ามบรรจุหมึกเหลวสีดำที่สามารถถอดเติมได้
กายกดไปเบา ๆ กลัวหมึกจะออกมาเยอะเกินก่อนจะเขียนข้อมูลวัตถุดิบลงไปด้วยภาษาลิธัวเนียที่ใช้กันของโลกราชัน ส่วนเรื่องที่มันรู้ได้ยังไงนั้นต้องยกความดีความชอบให้กับระบบช่วยเหลือผู้เล่นของเกม มันก็เหมือนกับที่เขาฟังและพูดกับ NPC หรือการอ่านหนังสือบันทึกช่างโลหะรู้เรื่อง
เขาต้องรออีก 3 วันถึงจะหายเป็นปกติ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำอย่างอื่นไม่ได้ กายไม่คิดจะปล่อยให้เวลาสูญเปล่า หลังจากจดรายชื่อวัตถุดิบหลากหลายที่ทั้งเคยได้ยินและไม่ได้ยินลงไปในกระดาษ
เสียงไฟวูบวาบในตะเกียงน้ำมันทำให้มองยากพอสมควร กายวางปากกาลงพลางนวดขมับเล็กน้อย
“เราควรเปลี่ยนไปห้องระดับกลางหรือไม่ก็ระดับสูงดีหรือเปล่า”
กายพึมพำออกมาคนเดียว ห้องระดับกลางและสูงจะมีพวกหลอดไฟจิตวิญญาณให้ใช้ แต่ราคาของมันก็แพงไม่แพ้กัน สุดท้ายหายก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป เพราะว่าหลังจากนี้กายอาจจะไปนอนที่โรงตีเหล็กที่ซื้อไว้ซะเป็นส่วนใหญ่
กายจัดการแต่งตัวด้วยชุดธรรมดาที่หาด้วยทั่วไปในนครดาราฟ้า ก่อนจะออกจากสถาบันศาสตร์นักรบไป ขึ้นรถม้าต่อไปอีกสองสามถนน เพื่อมายังสถานที่ขายวัตถุดิบและแร่ต่าง ๆ มันคือร้านที่ขายแร่และโลหะต่าง ๆ ให้กับโรงตีเหล็กขนาดเล็กเป็นหลัก
ร้านขายส่งพวกนี้จะไปซื้อแร่ดิบจากเหมืองโดยตรงในปริมาณมาก ๆ มาและขายปลีกกินส่วนแบ่งซึ่งมีร้านประเภทนี้กระจายอยู่ทั่วนครดาราฟ้า แม้จะมีการบวกราคาสูงกว่าปกติ 5-10% แต่ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะกายไม่อาจจะทุ่มทุนทั้งหมดซื้อแร่แค่ชนิดเดียวในปริมาณมาก ๆ ได้ แน่นอนว่าทางเหมืองใหญ่ ๆ พวกนั้นก็ไม่แบ่งขายจำนวนน้อย ๆ อยู่แล้ว
อีกอย่างทางร้านยังมีพวกแร่ที่ผ่านการถลุงแล้วให้ด้วยซึ่งสะดวกมา
กายเดินลงจากรถม้ามาหยุดหน้าอาคารสามชั้นที่ราวกับสร้างจากโลหะทั้งหลัง ที่ประตูเป็นเหล็กหน้าเสริมด้วยลวดลายที่ทั้งทรงพลังและแปลกประหลาดในตัวเอง เหนือขึ้นไปมีป้ายขนาดใหญ่ที่ใช้แร่หลากชนิดยึดติดเขียนแทนตัวอักษร
“ตัวตุ่นโลหะ”
กายอ่านชื่อในใจก็คิดว่ามันเป็นชื่อร้านที่แปลกและธรรมดาชะมัด แต่มันก็ไม่ได้ดูถูกการที่สามารถเป็นร้านขายแร่และวัตถุดิบได้นั้นคงไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น
ด้านหน้าประตูมีคนเดินเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายรูปร่างกำยำ แต่ก็มีเด็กหนุ่มสาวหลายคนที่แต่งกายด้วยชุดราคาถูก ท่าทางให้ความรู้สึกที่ต่างจากช่างโลหะทั่วไป เด็กพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ช่วยช่างโลหะ มักจะทำหน้าที่จัดซื้อแร่และวัตถุดิบให้กับเหล่าช่างโลหะหรือไม่ก็จัดการงานด้านอื่น ๆ
โดยแลกกับการตอบแทนในการเรียนรู้วิชาช่างโลหะ แน่นอนว่ายังมีค่าตอบแทนเล็กน้อยเป็นเงินซึ่งให้ตามกฎหมายการจ้างงานของนครดาราฟ้ากำหนด
เพียงเดินเข้าไปก็ได้กลิ่นอายของโลหะตีเข้ามาอย่างชัดเจน มันทั้งรู้สึกทรงพลังและสรรค์สร้าง ราวกับพวกเหล่าแร่และวัตถุดิบกำลังรอคอยช่างโลหะสักคนอยู่
กายยิ้มกับความคิดตลกของตนเอง
เพราะด้านในไม่ได้มีแร่และวัตถุดิบกองรวมเป็นจำนวนมาก ที่จริงพวกมันมีเพียงสินค้าจัดแสดง ซึ่งมีทั้งป้ายราคาและเกรดซึ่งมักจะปรับเปลี่ยนทุก ๆ สัปดาห์ เพราะราคาแร่นั้นขึ้นลงยากมาก แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ส่วนที่ว่าทำไมต้องเปลี่ยนทุก 7 วันนั้น เพราะทางร้านจะไปซื้อแร่ดิบและวัตถุดิบสัปดาห์ละครั้ง
กายคิดตามข้อมูลในหัวที่ผ่านมาพอรู้ว่าตัวเองจะต้องทำอาชีพช่างโลหะเลี้ยงชีพมันก็ทำการบ้านมาบ้างพอสมควร
กายเดินผ่านสินค้าจัดแสดงโชว์โดยไม่สนใจจะหันไปมองให้เสียเวลา เพราะมันมีสิ่งที่ต้องการเขียนอยู่แล้วในรายการกระดาษ แน่นอนว่าชายหนุ่มได้ทำการเพิ่มแร่และวัตถุดิบชนิดอื่น ๆ เข้าไปปนด้วย เพื่อไม่ให้รู้ว่ามันกำลังสร้างค้อนสั่นสะเทือน แม้จะมั่นใจว่าไม่น่าจะมีใครมองรายชื่อของที่จะซื้อแล้วรู้ว่าเขาจะสร้างค้อนสั่นสะเทือนก็ตาม
แต่กายไม่ประมาท บางทีอาจจะมีคนแบบ ปรมาจารย์ช่างโลหะอีไลแอส เรบีอิล ผู้ที่อาจจะรู้เรื่องของหนังสือบันทึกช่างโลหะ
ตอนนี้เรายังอ่อนแอเกินไป...
กายถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ หยิบรายการวัตถุดิบที่ต้องการเดินไปที่หน้าโต๊ะเคาน์เตอร์ซึ่งมีบริกรสาวสวยแต่งกายด้วยชุดสีทางการสีดำแดงของร้านตัวตุ่นโลหะจำนวนสี่คน แต่มีเพียงคนเดียวที่ยังว่างอยู่ นอกนั้นก็มีลูกค้ายืนคุยอยู่ก่อนแล้ว
กายเดินเข้าไปด้วยหน้าตายิ้มแย้มมันไม่กลัวว่าใครจะจำตัวเองได้ เพราะอย่างไรเรื่องที่ตัวเองซื้อร้านด้วยตัวตนเดวินก็คงปิดไม่ได้นานอยู่แล้ว แต่กายก็ไม่คิดจะไปเปล่าประกาศ
“ผมต้องการซื้อของตามรายการนี้ครับ” กายส่งกระดาษให้กับบริกรสาวด้วยความสุภาพ
เธอรับมาด้วยท่าทียิ้มแย้มปกติ แต่พอเห็นรายการหญิงสาวก็อึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมาถามกายอย่างลืมตัว “รายการพวกนี้เป็นของอาจารย์ช่างโลหะเหรอคะ”
กายรู้สึกแปลก ๆ ที่เธอถามแบบนี้ก็คิดขึ้นมาได้ว่าบริกรสาวคงเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้ช่วยของอาจารย์ช่างโลหะสักคน เพราะของส่วนใหญ่แม้จะดูธรรมดา แต่ถ้าเทียบกับคนคุ้นเคยอย่างบริกรสาวที่รับรายการซื้อทุกวันคงจะพอเดาได้ไม่อยาก
กายยังไม่ทันตอบ บริกรสาวก็นึกขึ้นได้ว่าเธอกำลังทำตัวไม่สุภาพจึงกล่าวขอโทษในทันที
“อ้า...ขอโทษสำหรับคำถามด้วยค่ะ พอดีไม่ค่อยเห็นผู้ช่วยมาซื้อของราคาสูงขนาดนี้บ่อย”
กายเพียงพยักหน้าอย่างผิดหวังเล็กน้อยแต่ไม่มากไปกว่านั้น แม้ชายหนุ่มจะรู้ว่าของส่วนใหญ่ไม่ใช่วัตถุดิบระดับสูง แต่มันหายากดังนั้นจึงไม่ได้หวังว่ามาเพียงครั้งเดียวแล้วจะได้ของไปครบอยู่ก่อนแล้ว
บริกรสาวยังกล่าวต่อ “เออ..รายการหลายอย่างเป็นของหายากทางเราไม่มีสำรองไว้ของขออภัยด้วยค่ะ”
“ถ้างั้นช่วยจัดการตามรายการที่ทางร้านมีได้ไหมครับ”
“ถ้าเรื่องนั้นไม่มีปัญหาค่ะ”
บริกรสาวตอบด้วยร้อยยิ้ม หลังจากนั้นก็รีบถือรายการเดินเข้าไปหลังร้าน ผ่านไปสักพักก็กลับมาพร้อมใบสั่งซื้อสินค้าและแนบมาด้วยสัญญาซื้อขาย เพราะด้วยการซื้อขายของกายในครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 953 เหรียญทอง ซึ่งถือว่าเป็นเงินที่มากพอสมควร
กายเซ็นสัญญาจ่ายเงินมัดจำครึ่งหนึ่งคือ 476 เหรียญทอง กับอีก 5 เหรียญเงิน พร้อมกับเขียนชื่อของร้านที่จะให้ไปส่ง
“สินค้าจะถูกจัดส่งในเย็นวันนี้ ส่วนนี่คือสัญญาซื้อขายและใบรายการสินค้าขอให้ลูกค้าเก็บไว้จนกว่าสินค้าจะไปส่งพร้อมกับชำระเงินส่วนที่เหลือ แล้วก็อันนี้ใบรายการสินค้าของลูกค้าค่ะ”
กายรับมาแล้วลองเปรียบเทียบกับใบรายการสินค้าดูว่ายังมีของที่ยังหาไม่ได้อยู่อีกกี่รายการ
แร่หินดำ โลหะสั่นพร้อง และหินลูกบาศก์ แร่หินดำนั้นเป็นของที่ใช้ในการซ่อมเกราะเกล็ดทมิฬ ส่วนอีกสองที่เหลือนั้นใช้สร้างค้อนสั่นสะเทือน
“ขอโทษครับ พอมีแหล่งซื้อขายวัตถุดิบเหล่านี้ไหมครับ”
กายถามไปตรง ๆ เพราะบางทีเธออาจจะพอมีคำแนะนำดี ๆ ก็ได้ และก็เป็นอย่างที่กายคาดการบริกรสาวตอบกลับมาในทันที
“ในทุกสัปดาห์ทางร้านขายแร่และวัตถุดิบสำหรับช่างโลหะทั่วนครดาราฟ้าจะรวมตัวกันจัดการประมูลซื้อขายวัตถุดิบหายาก เริ่มตั้งแต่เช้าไปถึงเที่ยงคืน ถ้าลูกค้าสนใจสามารถซื้อตั๋วกับทางร้านเราได้ใน 25 เหรียญทอง ทางเรามีบริการรับส่งถึงที่พร้อมกับแจ้งรายละเอียดด้านอื่น ๆ” บริการสาวอธิบายด้วยความคาดหวัง
กายอึ้งไปเล็กน้อย 25 เหรียญทองแม้จะดูเหมือนน้อย แต่มันไม่น้อยเลยแม้แต่น้อย ค่าอาหาร 1 มื้อในสถาบันศาสตร์นักรบแค่ 5 เงิน 1 ทองแดงเท่านั้น นั้นเกือบเท่ากับค่าอาหาร 50 มื้อ แถมยังเป็นเงินสูญเปล่าอีก
ดูท่าแล้วช่างโลหะคงจะรวยน่าดูถึงยอมจ่ายค่าเข้าประมูลแพงขนาดนี้ได้ บางทีอาจจะเป็นพวกช่างโลหะทั่วไป ถึงอาจารย์ช่างโลหะที่ทำเงินได้หลายพันทองต่อสัปดาห์
“ไว้เดี๋ยวจะกลับไปคิดดูก่อนครับ”
กายยังไม่รีบร้อน เพราะคิดจะไปเดินดูร้านอื่น ๆ ก่อน บางทีอาจจะได้พวกมันมา แต่แน่นอนกายยังไม่สามารถซื้อมาได้ เพราะเย็นนี้ทางร้านตัวตุ่นโลหะจะไปส่งของ ซึ่งกายต้องจ่ายค่าสินค้าอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้กายเหลือเงินเพียง 82 เหรียญทองเท่านั้น
พอให้กายประทังชีวิตไปอีกสักสองสามสัปดาห์ ซึ่งบางส่วนกายก็คิดจะไปซื้อของเข้าหน้าร้านของโรงตีเหล็กด้วย เพราะเจ้าของขี้เมาคนเก่าขายของในร้านไปเกือบหมด
หลังจากกายออกจากร้านตัวตุ่นโลหะก็เดินไปสอบถามร้านอีกหลายแห่งคำตอบก็คือเหมือนกัน ไม่มีสำรองไว้ในคลังของร้าน บางร้านก็บอกเพราะไม่ค่อยมีคนซื้อทำให้ไม่ได้มีของเข้าร้าน นั้นทำให้ชายหนุ่มเดินคอตกขึ้นรถม้ากลับไปที่โรงตีเหล็กที่ตนเองซื้อไว้