THW ตอนที่ 9+10(2/3)
THW ตอนที่ 9+10(2/3) ข้อมูลสำหรับการล่าสมบัติ + โต๊ะเล็กสไตล์บารอก
หลังจากคุยกันสักพัก ทั้งสองก็ดื่มเบียร์ไปสามสี่ขวด พร้อมทั้งรู้สึกสนุกมาก
เมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว เย่เทียนจึงได้ลุกขึ้นพร้อมกับเตรียมตัวกลับ
เมื่อเขาลุกขึ้น หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นหนังสือที่กองอยู่บนเตียงของเจสัน มันเป็นหนังสือที่หนามาก แต่ก็สวยดี และค่อนข้างเก่า
เมื่ออ่านชื่อหนังสือดู ตาของเย่เทียนก็เบิกออก และเขาก็ได้ชี้ไปที่หนังสือและพูดขึ้นว่า
“เจสัน ฉันขอยืนแคตตาล็อกของโบราณเล่มนี้ได้หรือเปล่า? ฉันจำเป็นต้องรีบเพิ่มความรู้เกี่ยวกับทางด้านนี้ หากสามารถขายให้ฉันได้ยิ่งดี ฉันจะให้ราคาที่นายพอใจอย่างแน่นอน”
เจสันหันไปมองหนังสือเก่าๆ ที่อยู่บนเตียง พร้อมกับสายตาที่วาบประกายแห่งความสุขออกมา
นี่เป็นหนังสือที่เขาได้มาจากร้านขายของมือสอง หากว่าสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ ทำไมเขาถึงจะไม่ทำล่ะ?
อย่างน้อยมันก็สามารถแลกพิซซ่าได้! หนังสือเล่มนี้มีขายอยู่ในร้านแล้วตอนนี้ ดังนั้น เขาสามารถอ่านมันได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
เมื่อคิดอย่างนี้ เขาก็รีบเดินไปที่เตียง พร้อมกับหยิบหนังสือส่งให้กับเย่เทียน
“ตกลง ฉันขายหนังสือเล่มนี้ให้กับนาย นายสามารถใช้มันเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับของโบราณในตลาดเกือบทั้งหมด และมันยังบอกราคาของพวกมันด้วย
และฉันยังมีแคตตาล็อกของเก่าแบบนี้อีกเล่ม ซึ่งเล่มนี้เป็นหนังสือเกี่ยวกับของมือสองเล่มหนึ่ง ฉันเห็นว่านายอยากได้มันมาก ดังนั้นฉันสามารถขายมันให้นายได้ ส่วนเรื่องราคานั้น แล้วแต่นายจะให้เลย”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็เดินไปที่โต๊ะถัดจากเขา และหยิบหนังสือเล่มหนาเล่มหนึ่งออกมา
“ขอบคุณ ฉันเชื่อว่าหนังสือสองเล่มนี้จะให้ความรู้อย่างมากแก่ฉัน ส่วนราคาของหนังสือสองเล่มนี้ เอาเป็นหนึ่งร้อยดอลลาร์เป็นยังไง? หากคิดว่าเหมาะสม งั้นฉันก็จะจ่ายเงินให้นายเลย”
เย่เทียนรับมาดูและขอบคุณเขา จากนั้นก็เสนอราคาไป
ราคานั้นสูงมาก ซึ่งเหนือไปกว่าราคาปัจจุบันของหนังสือสองเล่มนี้
นี่ถือเป็นการจงใจ เรื่องแรก เขาจำเป็นต้องใช้หนังสือสองเล่มนี้ ส่วนเรื่องที่สองคือ เขาวางแผนจะใช้โอกาสนี้เพื่อทำความสนิทกับเจสัน เพื่อที่เขาจะได้ข้อมูลจำนวนมากจากอีกฝ่ายในอนาคต
“เชี่ย! มันเยี่ยมมาก! สหายผู้นี้ช่างใจใหญ่จริงๆ คิดว่าอย่างมากก็ได้แค่ 20 เหรียญ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะขายได้ถึง 100 เหรียญ!”
เจสันตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดโห่ร้องออกมา แล้วยังจะรออะไรอีก? หากไม่ตกลง อย่างนั้นเขาคงเป็นคนโง่แล้ว!
“ตกลง สตีเวน พวกมันเป็นของนายแล้ว”
“ขอบคุณเจสัน นี่หนึ่งแฟรงคลิน”
เย่เทียนยิ้มพร้อมกับหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา จากนั้นก็หยิบแบงก์หนึ่งร้อยเหรียญออกมาส่งให้กับเจสัน
เจสันรับมันมาด้วยความตื่นเต้น แต่ก็ยังไม่วายที่จะเอ่ยเตือนเย่เตือนเพิ่มอีกสักหน่อย
“หนังสือของโบราณและของมือสองทั้งสองเล่มนี้นั้นดีอยู่ แต่ก็ไม่ได้แม่นยำนัก ดังนั้น จะดีกว่าหากว่านายจะเช็คราคาจริงของมันแบบออนไลน์ ซึ่งนายสามารถหามันได้จากเว็บไซต์ของบ้านประมูลไม่ก็อีเบย์”
“ฉันรู้แล้ว วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อน ฉันต้องกลับไปพักแล้ว ไว้เจอกันพรุ่งนี้!”
เย่เทียนพยักหน้า พร้อมกับเดินถือหนังสือสองเล่มเดินไปที่ประตู
“สตีเวน ขอบใจสำหรับเบียร์และก็แฟรงคลินสีเขียว ราตรีสวัสดิ์!”
เจสันมาส่งเย่เทียนที่ประตูอย่างกระตือรือร้น
.......
หลังจากกลับมาที่บ้านและอาบน้ำอาบท่าแล้ว เย่เทียนก็นอนลงบนเตียง พร้อมกับเริ่มเปิดหนังสือสองเล่มนี้ดูเพื่อเพิ่มความรู้ของเขา
จากนั้น เวลาก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และมันก็ได้เลยห้าทุ่มครึ่งมาในพริบตาเดียว
เขารู้สึกง่วงหน่อยๆ จึงได้โยนหนังสือไว้ด้านข้างและเตรียมตัวพักผ่อน
และในจังหวะก่อนที่จะนอน เขาก็มองไปที่กำแพงหนาอีกครั้ง พร้อมกับตั้งใจใช้ความสามารถตาทิพย์ เพื่อที่จะดูว่าแข็งแกร่งขึ้นหรือไม่
ดวงตายังคงเห็นเป็นสีเหลือง และไม่สามารถมองทะลุกำแพงได้ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะสามารถมองทะลุได้มากกว่าเมื่อวานหน่อย
“อะไรกัน.....”
ขณะที่เขากำลังตั้งใจอยู่นั้น เสียงกรีดร้องจากห้องถัดไปก็พลันดังขึ้นมา จนเย่เทียนสะดุ้งโหยง
“ไอ้บ้ากามเอ๊ย!”
เย่เทียนหัวเราะพร้อมกับสบถออกไป จากนั้นก็ทำเป็นหูทวนลมพร้อมกับหลับไป
วันพรุ่งนี้เป็นวันดีสำหรับการล่าสมบัติ!
ในตอนเช้าตรู่ เย่เทียนตื่นขึ้นมาด้วยกลิ่นเหม็นเน่า
หลังจากดมดู เขาก็พบว่าที่มาของกลิ่นนั้นมาจากร่างกายของเขา!
บนร่างของเขานั้น ปรากฏคราบสกปรกบางๆ เป็นจุดสีดำๆ ซึ่งส่งกลิ่นเหม็นออกมา ราวกับว่าหลุดออกมาจากรูขุมขนของเขา
แม้ว่าจะไม่สกปรกมาก แต่คราบนั้นก็ติดไปกับผิวหนังทำให้คนรู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก
และชุดชั้นในรวมถึงผ้าปูเตียงที่เปลี่ยนใหม่ก็เปื้อนไปด้วยคราบพวกนั้น และพวกมันก็พากันส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา
ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนเขาอาบน้ำแล้วหรอกเหรอ? ทำไมถึงได้เกิดเรื่องนี้ขึ้น?
เย่เทียนมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยท่าทางสงสัย จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำและเริ่มอาบน้ำ ขณะที่น้ำร้อนไหลผ่านร่าง เขาก็ครุ่นคิดว่าทำไมถึงได้เกิดเรื่องผิดปกตินี้ขึ้น
แต่หลังจากได้ใคร่ครวญแล้ว ก็มีเพียงแค่ความสามารถของดวงตาเท่านั้นที่พอจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ดูเหมือนว่าอ่อร่าที่ดวงตาได้ดูดซับไปเมื่อวาน จะถูกใช้เพื่ออัพเกรดพลังของเขา และมีส่วนน้อยที่ถูกใช้ไปเพื่อปรับปรุงร่างกายและขจัดสิ่งสกปรกออกไปจากร่างของเขา
หลังจากหาข้อสรุปได้แล้ว เย่เทียนก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ตอนนี้ร่างกายของเขาได้ขาดการออกกำลังกายมาเป็นเวลานาน! ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่สามารถถามหาของดีได้ในทันที!
ร่างกายเป็นแกนหลักของพัฒนาการ นี่ไม่ใช่คำพูดที่ถูกต้องหรอกเหรอ!
หลังจากอาบน้ำ เขาก็รู้สึกสดชื่นในทันที และร่างกายก็รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก ดูเหมือนทุกเซลล์ในร่างกำลังกรีดร้อง และทั้งร่างก็รู้สึกเบากว่าเมื่อวานอยู่หน่อย
จากนั้น เย่เทียนก็พบว่าผิวของเขาได้กลายเป็นเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์กว่าเมื่อก่อน และเส้นกล้ามเนื้อของเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน มันเข้ารูปและเรียบเนียนกว่าเมื่อก่อน แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะไม่มาก แต่ก็สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
จากนั้น เขาก็ได้ลองทำท่าดันพื้นดู และเขาก็พบว่าทำได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นเพิ่มขึ้น
และที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดที่สุดก็คือแผลเป็นที่ต้นขาของเขา
นี่เป็นแผลที่เกิดจากจักรยานตอนเขายังเป็นวัยรุ่นอยู่ ในตอนนั้นมันมีรอยเย็นมากกว่าสิบแผล ซึ่งทิ้งแผลเป็นที่น่าเกลียดไว้บนขาของเขา ซึ่งดูคล้ายกับตะขาบ ดูน่ากลัวนิดหน่อย แต่ว่าตอนนี้มันได้หายไปแล้ว
ดูเหมือนว่าแผลเป็นนี้จะหายไปจากร่างของเขาอย่างสมบูรณ์ ตราบเท่าที่เขาทำอย่างนี้อีกไม่กี่ครั้ง!
หลังจากหายตกใจแล้ว เย่เทียนก็เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเริ่มหาข่าว
มันมีบางสิ่งที่เขาต้องทำให้มั่นใจ ไม่อย่างนั้น เขาคงรู้สึกเป็นกังวลอยู่หน่อยๆ
นั่นก็คืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์ในเมโทรโพลิทันเมื่อวานนี้ มาดูกันว่าตำรวจจะสันนิษฐานว่าอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นจากอะไร และค้นพบเบาะแสอะไรหรือเปล่า
อย่างรวดเร็ว เขาก็เห็นหัวข้อข่าวในโซเซี่ยลออนไลน์ซึ่งเป็นข่าวจาก “นิวยอร์กไทม์” และนับว่าเป็นข่าวดี!
ซึ่งแน่นอนว่าในข่าวนั้นบอกว่าพิพิธภัณฑ์และตำรวจไม่สามารถหาสาเหตุที่ภาพวาดเกิดการย่อยสลายได้ ทำได้เพียงสันนิษฐานว่าเกิดจากการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งเขาคงต้องขอโทษด้วยจริงๆ!
ในข่าวยังบอกอีกว่ารัฐบาลและกลุ่ม RB ต่างก็ไม่พอใจต่อการรักษาของโบราณของพิพิธภัณฑ์เมโทรโพลิทัน
สำหรับเหล่า RB นั้น เมื่อวานถือเป็นวันที่โชคร้ายอย่างมาก เพราะว่าพวกเขาได้สูญเสียสมบัติแห่งชาติชิ้นหนึ่งไป ซึ่งนี่เปรียบเสมือนผลงานที่เป็นจิตวิญญาณและที่ยึดเหนี่ยวของชาว RB
เมื่อเห็นรายงานข่าว เย่เทียนก็พลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก พร้อมกับหัวใจที่ผ่อนคลายลงมาก
อุบัติเหตุนี้ได้จบลงแล้ว ตราบเท่าที่เขาระวังเพิ่มขึ้นในอนาคต ก็จะไม่มีใครหาเขาเจอ
สำหรับความไม่พอใจของชาว RB และผู้รักศิลปะนั้น ปล่อยพวกเขาไป เขามีแต่จะสะใจเท่านั้น!
คนจีนไม่พอใจพวกเขามาเป็นร้อยปีแล้ว! สำหรับเรื่องนี้ เพียงแค่น่าสนใจเล็กน้อยเท่านั้น!
.......