Chapter 5 : ตลาดแลกเปลี่ยน – แลกเปลี่ยนทรัพยากร!
[ถ้ำทางด้านซ้ายเต็มไปด้วยแก๊ซพิษ โปรดสวมใส่หน้ากากกันแก๊ซก่อนหรือไม่อย่างนั้นท่านอาจจะท่านทันทีที่เข้าไป]
[ขุดต่อไปด้านหน้าจะมีแมลงเวหาสีเลือดหลายตัวรอท่านอยู่ มีโอกาสสูงมากที่ท่านจะไม่อาจเอาชนะมันได้]
[ในถ้ำด้านบนมีค้างคาวนิทราอยู่สามตัว ถ้าท่านถูกพวกมันกัดเข้าจะทำให้หลับใหลในทันที]
[ถ้ำทางด้านขวามีสัตว์อสูรแห่งสุสานนอนหลับอยู่แต่ทักษะการใช้หอกสั้นของท่านในปัจจุบันอาจจะยังสูงไม่พอจัดการกับมัน]
[ทางด้านล่างดีที่สุดถ้าไม่ขุดลงไปไม่อย่างนั้นท่านจะตายอย่างแน่นอน]
เส้นทางทั้งห้าสายต่างก็เต็มไปด้วยอันตรายทั้งสิ้นและยังกว้างมากอีกด้วย
ไคลน์ลังเลขึ้นมาทันที
“ควรจะเลือกทางไหนดีนะ?”
ทางด้านล่างกับซ้ายนี่คงไม่ได้แน่นอน
ถ้างั้นก็เหลือสาม...
แมลงเวหาสีเลือดมีจำนวนมากถ้างั้นก็คงไม่ไหวเหมือนกัน
เหลือแค่บนกับขวา
ไคลน์มองขึ้นไปยังกำแพงด้านบนที่อยู่สูงขึ้นไปราวสี่เมตร
ถ้าเขาใช้ทรายเพื่อช่วยย่นระยะก็น่าจะพอปีนขึ้นไปได้
แต่ขั้นตอนสุดท้ายนี่สิที่โคตรจะยาก
ถ้าในระหว่างที่เขาปีนขึ้นไปทำให้ค้างคาวนิทราทั้งสามตัวตื่นขึ้นมามันคงกระโจนเข้าใส่เขาทันทีเป็นแน่ ถ้าเขาติดอยู่บริเวณทางเข้าขึ้นมาถ้างั้นก็คงจบสิ้นกันพอดี
เขาต้องระวังกว่านี้!
จากที่ดูแล้วมีเพียงทางขวาเท่านั้นที่พอจะเป็นไปได้
ไคลน์กำหอกสั้นในมือแน่นและสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆรอบหนึ่ง
ควรจะเข้าไปลุยเลยดีไหม?
แน่นอนว่าไม่ดี
หลังจากคิดอยู่แปปนึงเขาก็พึมพำขึ้นมา “คำใบ้บอกว่าฉันยังมีทักษะการใช้หอกไม่พอ บางทีถ้าหากฉันมีทักษะการใช้หอกมากพอแล้วก็อาจจะจัดการมันได้ก็ได้ ฉันควรจะฝึกให้ดีก่อนแล้วค่อยขุดไปต่อ”
แต่ทันใดนั้นเองจู่ๆไคลน์ก็บังเกิดความคิดอีกอย่างขึ้นมา
สัตว์อสูรแห่งสุสานเองก็ต้องกินเหมือนกัน
เป็นไปได้ไหมที่มันอาจจะออกจากสุสานชั่วคราวเพื่อหากิน?
เขาหยุดเคลื่อนไหวและสังเกตบริเวณรอบๆอย่างถ้วนถี่จากนั้นก็ลองใช้หอกในมือแทงเข้าไปในชั้นดินอยู่หลายหน
เมื่อเสร็จสิ้นเขาก็เรียกฐานรูนออกมาและเข้าไปซ่อนตัวฝึกอยู่ภายในนั้น แม้ว่าพื้นที่ของฐานรูนจะมีขนาดเล็กแต่ก็ปลอดภัยมากกว่า
ถ้าสัตว์อสูรแห่งสุสานที่หลับอยู่จู่ๆก็โผล่ออกมาและตัวเขาไม่ทันระวังถ้างั้นเรื่องร้ายๆคงเกิดขึ้นเป็นแน่
800 , 900 , 1000 ครั้ง...
ไคลน์ยังคงฝึกต่อไป
พอเขาเหนื่อยเขาก็จะพักครู่หนึ่งและหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม
ไม่นานนักน้ำแร่ของเขาจากที่มีอยู่สามขวดก็เหลือเพียงสองขวดครึ่งเท่านั้น
พอถึงเวลาพักแล้วเขาก็ไม่มีสิ่งใดให้ทำเขาจึงเปิดหน้าต่างพูดคุยขึ้นมา
หลังจากเลื่อนดูอยู่ครู่หนึ่งเขาก็พบว่ามีหลายคนที่ร้องหาอาหาร
ตั้งแต่ที่ทุกคนถูกส่งมายังสุสานเวลาก็ล่วงเลยมาราวๆห้าถึงหกชั่วโมงแล้ว
ไคลน์ขุดมาจนถึงสุสานที่ห้าแล้วขณะที่ผู้คนที่เหลือส่วนใหญ่ยังคงติดอยู่ที่สุสานที่สองหรือสามเท่านั้น
บ้างก็ได้รับบาดเจ็บขณะที่บ้างก็โชคดีขุดไปเจอของดีเข้า
เช่นเดียวกันก็มีบางคนที่เสียชีวิตไปแล้ว!
ในช่องพูดคุยเฉพาะภูมิภาคจะมีคนโดยรวมต่อช่องเพียงแค่1,000คนเท่านั้นในช่วงเริ่มต้นเกม
ในเวลานี้จำนวนที่แสดงลดลงไปค่อนข้างมาก
ภายในช่องพูดคุยเฉพาะภูมิภาคของไคลน์ตอนนี้เหลือผู้เล่นเพียง937คนเท่านั้น
เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสร้างแรงกดดันให้กับคนที่เหลืออย่างมหาศาล
จงเลือกให้ดีไม่อย่างนั้นจะตายเอาจริงๆ!
บางคนที่ขุดมาถึงสุสานที่สองก็เริ่มบังเกิดความกล้าขึ้นมาแต่พอจะขุดต่อไปยังสุสานที่สามกลับสังเกตุว่ามีคนตายก็เริ่มปอดแหกขึ้นมา
“ความคืบหน้าของเราถือว่าเร็วมากเลยนะเนี่ย”
“ถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิดดูเหมือนว่าการขุดจากสุสานแรกไปสุสานที่สองจะยังไม่มีการตายและถ้าโชคดีมากพอก็อาจจะขุดไปเจอของดีๆเข้า”
“แต่จากสุสานที่สามเป็นต้นไปความเสี่ยงก็จะค่อยๆเพิ่มมากขึ้น”
ไคลน์คิดหนัก
เขากดปิดหน้าต่างแชทและกดเข้าไปในหน้าต่างแลกเปลี่ยน
ตอนนี้เริ่มมีคนมาแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายไอเทมกันแล้ว
“คนส่วนใหญ่ต้องการน้ำกันงั้นหรอ?”
ไคลน์ลองเสริชหาดูแล้วพบว่าคนส่วนใหญ่มักจะมองหาการแลกเปลี่ยนอาหารกับน้ำ
ยังไงเสียอาหารและเครื่องดื่มในตอนนี้ก็คือวัตถุดิบในการเอาชีวิตรอดที่หายากและสำคัญที่สุด
“ไม่มีใครขายรูนเลยแฮะ”
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวขึ้นมา “ย่อยน้ำแร่หนึ่งขวด”
เขาตัดสินใจใช้น้ำปริมาณ400มิลลิลิตรเพื่อแลกกับรูนไฟและรูนน้ำ
แน่นอนว่าน้ำสามารถขายได้แต่ขวดพลาสติกคงต้องเก็บเอาไว้
ส่วนคนที่ซื้อไปจะดื่มมันยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเขา
[แจ้งเตือนจากระบบ : น้ำ + 400 มิลลิลิตร]
[แจ้งเตือนจากระบบ : ขวดพลาสติก+1]
ภายในช่องซื้อขายมีโพสต์ใหม่เด้งขึ้นมา
[ผู้ขาย : ไคลน์ 182.56]
[ไอเทม : น้ำดื่ม400มิลลิลิตร]
[ของที่ต้องการแลกเปลี่ยน : 1 รูนน้ำหรือ1รูนไฟ]
[จำนวน : 1]
ในตอนที่ไคลน์โพสต์ลงไปนั้นช่องแชทก็ระเบิดขึ้นมาทันใด
“เชี่ยมีคนกำลังขายน้ำดื่มว่ะ”
“รูนคืออะไร? ถ้าใครแลกกับเขาแล้วฉันขอแลกกับนายต่อก็ได้นะ”
“น้ำคือทรัพยากรที่หายากที่สุด วันนี้ทั้งวันฉันยังไม่เห็นมีคนโพสต์ขายในตลาดเลย หมอนี่เป็นคนแรกเลยแหละ!”
“ฉันอยากจะแลกเปลี่ยนเป็นการส่วนตัวกับพี่ใหญ่ไคลน์”
การสนทนาจู่ๆก็เดือดพล่านขึ้นมา
ในทางกลับกันก็เริ่มมีหลายคนที่ทักมาหาไคลน์ทางแชทส่วนตัวผ่านทางช่องแลกเปลี่ยน
“พี่ชายฉันขอแลกทราย100กองกับน้ำได้ไหม?”
“น้องชายอยากแลกเปลี่ยนกับฉันไหม? ไม่ว่านายเสนออะไรฉันก็จะพยายามหามาให้!”
บางคนก็ยิ้มแล้วกล่าว “ฉันเป็นเศรษฐีนะให้น้ำกับฉันดีกว่าแล้วเมื่อไหร่ที่ออกไปได้ฉันจะให้เงินนายหมื่นล้านเลย!”
บางคนก็ถาม “พี่ชายนายอยากได้เหล็กบ้างไหม? ฉันต้องการน้ำจริงๆ!”
“...”
แต่ไม่มีใครเลยที่มีรูนไฟหรือรูนน้ำ
ในบรรดาคนนับหมื่นที่ส่งข้อความส่วนตัวมาหาไคลน์มีบางคนใช้รูปโปรไฟล์เป็นชาวต่างชาติแต่ข้อความที่ส่งมากลับเป็นภาษาจีน
น่าจะเป็นระบบที่ทำการแปลภาษาให้โดยอัตโนมัติ
ในบรรดาคนพวกนี้มีคนดังบางคนที่ไคลน์รู้จักหรือกระทั่งบางคนก็เป็นคนรวยและเจ้าหน้าที่ราชการ
บ้างก็อ้อนวอน บ้างก็ขมขู่ บ้างก็สัญญาว่าจะตอบแทนและบ้างก็ยั่วยวนเขาด้วยความสวยงาม
แน่นอนว่าไคลน์เมินพวกเขาทั้งหมด
ในสายตาของไคลน์ทุกๆคนเมื่ออยู่ในโลกนี้ล้วนเท่าเทียม
ถ้าไม่มีรูนก็ไม่ต้องมาแลก!
คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นแหละที่รู้ว่าพวกเขาจะได้กลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริงแบบเป็นๆไหม!
หลังจากพักอยู่ราวๆยี่สิบนาทีไคลน์ก็พบว่าไม่มีใครเสนอแลกเปลี่ยนมาเลย เขาจึงยืนขึ้นและเริ่มฝึกการใช้หอกสั้นต่อ
การทำงานหนักมักจะได้ผลตอบแทนอันคุ้มค่าเสมอ
ตอนนี้ความเชี่ยวชาญในการใช้หอกสั้นของเขาเพิ่มขึ้นมามหาศาล
หลายชั่วโมงผ่านไปแสงภายในสุสานก็เริ่มหม่นลง
ตอนนี้ไคลน์เหลือน้ำแร่อยู่เพียงครึ่งของครึ่งขวดเท่านั้น
นอกจากนี้เขายังกินขนมปังไปอีกหลายก้อนด้วย
ในเวลาเดียวกันไคลน์ก็ตรวจสอบทางเข้าสุสานทางขวาอีกครั้งและพบว่าคำใบ้ที่แสดงออกมาเปลี่ยนไปแล้ว
[สัตว์อสูรแห่งสุสานในถ้ำทางด้านขวาตื่นขึ้นมาแล้ว อย่าตื่นตกใจและจงรอให้ถึงยามเช้าจากนั้นค่อยจบชีวิตมันด้วยหอกในมือท่าน]
คำใบ้ที่เผยออกมาทำให้เขาได้ข้อมูลสำคัญๆมาสองอย่างดังนี้
1.สัตว์อสูรแห่งสุสานตื่นแล้ว
2.เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความชำนาญในการใช้หอกอีกเพราะมันมากพอแล้ว!