ตอนที่แล้วChapter 9 : ซ่อมฐานรูน – กำไรสี่เท่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 11 : ไข่รูน

Chapter 10 : บอสไคลน์เคยสังหารอสูรแห่งสุสานมาแล้ว?


ในช่องแชทโลก

“สหายคนไหนที่ขาดน้ำแต่มีไม้รีบไปที่ช่องซื้อขายให้ไวเลย ตอนนี้บอสไคลน์เอาน้ำมาวางขายอีกแล้ว”

“จะโวยวายทำไม? นายคิดว่าคนที่รอซื้อมีน้อยรึไง?”

“เฮอะๆไม่อยากจะคิดถึงเลย บอสไคลน์เอามาวางขายแปปเดียวก็หมดภายในไม่กี่วินาทีเอง คนมากมายในตอนนี้ต่างก็กำลังมุ่งเป้าไปที่ช่องซื้อขายกันทั้งนั้น”

“ไอ้ไคลน์คนนี้มันผิดปกติเกินไปไหม? เมื่อวานหมอนี่พึ่งจะวางขายน้ำ400มิลลิลิตรไปเองแล้ววันนี้ก็เอามาวางขายอีก300มิลลิลิตรเนี่ยนะ ไม่ใช่ว่าหมอนี่มีน้ำเยอะไปหน่อยรึไง?”

“บอสไคลน์ช่วยออกมาพูดอะไรหน่อยได้ไหม? ตอนนี้คุณขุดถึงสุสานไหนแล้ว? พอจะมีวิธีการดีๆมาเล่าสู่กันฟังบ้างไหม?”

“นอกจากน้ำก็ยังมีขนมปังด้วยนะ ไคลน์วางขายมันโดยแลกเปลี่ยนกับรูนทุกชนิดหรือไม่ก็ดวงวิญญาณ! รูนนี่ฉันยังไม่เคยเห็นแต่ดวงวิญญาณก็โผล่ออกมาให้เห็นบ้างแล้ว”

“ถ้าไม่มีอะไรเกิดคาดฉันคิดว่าหมอนี่น่าจะขุดสุสานไปได้หลายแห่งแล้วแหละ เฮ้อโชคของหมอนี่ดีไม่เลวเลย”

“…”

ผู้คนจำนวนมากมายยังคงพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้

ภายในช่องแชทโลกตลอดสองวันมานี้ไคลน์ถือได้ว่าเป็นคนที่หาตัวจับยากที่สุด

คนอื่นๆที่วางขายไอเทมมักจะใช้มันแลกกับอาหารหรือเครื่องดื่มทั้งนั้นแต่ไคลน์เป็นเพียงคนเดียวที่เสนอสิ่งแลกเปลี่ยนตรงกันข้าม

นอกจากนี้ยังมีรูนกับดวงวิญญาณอีก ดูๆไปแล้วคล้ายกับว่าเขาพยายามจะรวบรวมทรัพยากรระดับสูงก็ไม่ปาน

“น้ำนี่เป็นที่นิยมดีนะ”

ปริมาณไม้ของไคลน์เพิ่มขึ้นมาอีก30ชิ้น

ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากวางขายพวกมันก็ถูกซื้อไปอย่างรวดเร็ว

ผู้ที่ซื้อน้ำจำนวน15มิลลิลิตรนี้ไปจำนวนไม่น้อยเลยที่ทักข้อความส่วนตัวมาหาไคลน์เพื่อขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้

พวกเขายังบอกอีกว่าถ้าในอนาคตไคลน์มีน้ำพร้อมวางขายอีกให้ช่วยบอกกับพวกเขาก่อน

อลิซเองก็ส่งข้อความมาหาไคลน์เช่นกัน “คุณไคลน์รบกวนช่วยบอกหน่อยได้ไหมคะว่าดวงวิญญาณคืออะไร?”

อลิซที่เคยทำการแลกเปลี่ยนกับไคลน์ในครั้งที่แล้วส่งข้อความมาและไคลน์ก็บังเอิญเห็นพอดี

ในความเป็นจริงแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่อลิซที่ถาม มีผู้คนนับพันเลยทีเดียวที่สอบถามเขาเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องของดวงวิญญาณ

ส่วนข้อความส่วนตัวที่เหลือก็คือพวกคนที่ทักมาขอร้องให้ไคลน์บริจาคน้ำและอาหารให้บ้างหรือบางคนก็มีของแปลกๆบางอย่างต้องการจะแลกเปลี่ยนกับเขา

การที่อลิซมาถามถึงดวงวิญญาณเช่นนี้ก็หมายความว่าเจ้าหล่อนไม่ได้ขาดแคลนน้ำหรืออาหารในชั่วระยะเวลาสั้นๆนี้แน่นอน

“ควรจะเปิดเผยข้อมูลนี้ออกไปดีไหมนะ?”

ไคลน์คิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจบอกข้อมูลให้ทุกคนทราบ

อย่างแรกเลยก็คือข้อมูลนี้ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่นัก

และ...ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องมีคนสังหารสัตว์อสูรแห่งสุสานได้และได้รับข้อมูลเกี่ยวกับดวงวิญญาณมาอยู่ดี

บางทีในตอนนี้ก็อาจจะมีคนสังหารสัตว์อสูรแห่งสุสานไปได้บ้างแล้วก็เป็นได้

แม้ว่าสัตว์อสูรแห่งสุสานจะอันตรายแต่ในบรรดามนุษย์เองก็หาใช่ว่าจะขาดแคลนพวกมนุษย์ผู้บ้าคลั่งเหมือนกัน

ต่อให้อาวุธเป็นเพียงแค่พลั่วแต่ก็พอจะทำให้พยัคฆ์ร้ายตัวสั่นได้เหมือนกัน

“ถ้าฆ่าสัตว์อสูรแห่งสุสานได้ก็จะได้รับดวงวิญญาณ” ไคลน์ตอบคนที่ถามเข้ามาทุกคน

อลิซ “สุดยอด”

“บอสโคตรเจ๋ง”

“ไม่ใช่ว่าสัตว์อสูรแห่งสุสานมันโคตรอันตรายเลยหรอ?”

“แล้วดวงวิญญาณเอาไว้ทำอะไรอ่ะ?”

“เชี่ย ในตอนที่พวกเรายังต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดแต่บอสไคลน์ไปสู้กับมอนสเตอร์มาแล้วเนี่ยนะ? ไม่ขำเลยอ่ะ”

หลังจากทราบแล้วว่าดวงวิญญาณได้มาจากสัตว์อสูรแห่งสุสาน ผู้เล่นทุกๆคนก็แตกตื่นกันขึ้นมา

มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่สอบถามเขาเข้ามาเกี่ยวกับวิธีการใช้ดวงวิญญาณ แน่นอนว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ไคลน์เมินไปและไม่สนใจจะตอบ

อย่างแรกเลยก็คือเขาเองก็ยังรู้ไม่มากนัก

อย่างที่สองก็คือตัวเขาอยากจะแลกเปลี่ยนดวงวิญญาณ ดังนั้นถ้าคนอื่นๆรู้วิธีใช้ดวงวิญญาณพวกนั้นก็คงจะเก็บเอาไว้ก่อนจนกว่าจะถึงที่สุดจริงๆถึงจะยอมเอามาแลกเป็นแน่

เขาคงซ่อนข้อมูลตรงนี้ได้ซักระยะ

หลังจากไคลน์ตอบข้อความเสร็จ ข่าวเรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งแชทโลก

“ฉันไปถามไคลน์มาแล้ว เขาบอกว่าวิธีเดียวที่จะได้ดวงวิญญาณมาก็คือการสังหารสัตว์อสูรแห่งสุสาน!”

แน่นอนว่าคนที่มาคุยไม่ได้มีแค่คนเดียว ไม่นานนักก็มีอีกคนมาพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน

“บอสไคลน์ต้องเคยสังหารสัตว์อสูรแห่งสุสานมาแล้วแน่ๆถึงได้รู้ข้อมูลนี้!”

คนจำนวนมากเองก็คาดเดาเช่นนั้น

แชทโลกแทบจะระเบิดในทันที

ขณะที่พวกเขายังต้องขุดสุสานกันอย่างระมัดระวังเพื่อเอาชีวิตรอดแต่ผู้อื่นกลับสังหารสัตว์อสูรแห่งสุสานได้แล้ว

เทียบกันไม่ได้เลยจริงๆ!

ไคลน์ไม่ได้สนใจสถานการณ์ในแชทโลกแต่อย่างใด เขาเลือกดูแต่เพียงกล่องข้อความส่วนตัวเท่านั้น

คงต้องบอกจริงๆว่าหลังจากที่เริ่มมีชื่อเสียงกล่องข้อความส่วนตัวของเขาก็มีคนทักมาแน่นจนแทบจะระเบิด

ต้องขอบคุณที่กล่องข้อความส่วนตัวนี้มีฟังก์ชั่นคัดกรองและสามารถตัดข้อความส่วนตัวขยะๆที่ส่งมาป่วนไปได้ไม่น้อย

“บอสไคลน์ต้องการพิมพ์เขียวเสื้อแจ็คแก๊ตทั่วไปหไหม? ฉันอยากแลกกับขนมปังน่ะ!”

“นายต้องการพิมพ์เขียวชามหินทั่วไปรึเปล่า?”

“ฉันเอาหญ้าเรืองแสงแลกกับขนมปังได้ไหม? ฉันมีอยู่สิบชิ้นน่ะ”

“นายอยากได้เชือกไหม?”

“ที่รัก! อยากได้แส้รึเปล่า?”

ทั้งหมดนี้คือไอเทมแปลกๆที่มีคนเสนอมาและโคตรจะไร้สาระเลย

ไคลน์สนใจเพียงพิมพ์เขียว ดวงวิญญาณและรูนเท่านั้นแต่กลับไม่มีใครเสนอดวงวิญญาณและรูนเลย

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงไคลน์ก็เห็นหนึ่งในข้อความส่วนตัวที่ส่งเข้ามาซึ่งกระตุ้นความสนใจของเขาได้ไม่น้อย

คนที่ทักมาชื่อโรเจอร์

โรเจอร์พูดขึ้น “เฮ้บอส! ฉันมีพิมพ์เขียวมีดแมเชเท(Machete)ชั้นยอดกับพิมพ์เขียวเครื่องย่างบาบิคิวทั่วไปอยู่ นอกจากนี้ยังมีรูนไฟด้วย ถ้านายสนใจหนึ่งในของพวกนี้ก็บอกได้นะ?”

ไคลน์ตอบ “ฉันอยากได้ทั้งหมดเลย เอาเป็นว่าฉันจะเพิ่มของพวกเนื้อให้แล้วกัน”

โรเจอร์ตอบ “เยี่ยมเลย ขอบคุณมาฉันกำลังหิวใจจะขาดพอดี!”

ไคลน์กล่าว “รอแปปหนึ่งนะ ฉันขอไปหยิบของก่อน”

หลังจากนั้นคนทั้งคู่ก็ทำการแลกเปลี่ยนกันแบบส่วนตัว

อาหารเขายังพอมีเหลือ

เบคอนที่เขามีอาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าก้อนขนมปังแต่แต่ก็ทำให้หายหิวได้แน่นอน

[แจ้งเตือนจากระบบ : การแลกเปลี่ยนขนมปังธัญพืช400กรัมเสร็จสิ้น – รูนไฟ +1]

[แจ้งเตือนจากระบบ : การแลกเปลี่ยนเบคอน1ชิ้นเสร็จสิ้น – พิมพ์เขียวมีดมาเชเทชั้นยอด+1 , พิมพ์เขียวเครื่องย่างบาบิคิวทั่วไป+1]

พิมพ์เขียวทั้งสองชนิดปรากฏขึ้นมาในมือของไคลน์แต่ไม่มีชิ้นใดเลยที่เป็นอุปกรณ์รูน

“เรียนรู้ทั้งหมด”

พิมพ์เขียวทั้งสองสลายกลายเป็นแสงและพุ่งเข้าใส่หัวของไคลน์

ไคลน์เปิดหน้าต่างการสร้างและไล่รายการมองหาสูตรการสร้างที่เขาพึ่งเรียนรู้มา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด