THW ตอนที่ 5+6(2/3)
THW ตอนที่ 5+6(2/3) ในที่สุดพระเจ้าก็ได้ลืมตาตื่น + ความหวังอยู่ที่มุม
เมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็ได้เป็นเวลา 2 ทุ่ม
ควรจะพูดว่าเขาตื่นขึ้นมาเพราะความหิว ในจังหวะที่เขาลืมตาขึ้น เสียงร้องของกระเพาะก็ดังขึ้นมาถึงหูของเขา
แต่ว่าตอนนี้เขาไม่สนใจที่จะหาอะไรกิน และในสมองของเขารู้สึกแจ่มใสเล็กน้อย เย่เทียนพลันกวาดสายตาไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกล เพื่อจะเช็คดูว่าสายตาของเขายังคงมองทะลุได้อยู่อีกไหม
แต่ว่าน่าเสียดาย!
เขาจ้องไปที่ตู้เสื้อผ้าเป็นเวลาสิบนาที จนกระทั่งน้ำตาไหลออกมา แต่ไม้ก็ยังคงเป็นไม้! เขาไม่สามารถมองทะลุเข้าไปเห็นว่าอะไรที่อยู่ข้างใน
จากนั้นเขาก็ลองมองของสิ่งอื่น และก็พบว่าผลลัพธ์ยังคงเหมือนเดิม!
หรือว่าความสามารถของตาทิพย์นี้จะอยู่ได้แค่วันเดียว? บางทีพระเจ้าอาจจะต้องการเปิดตาเขาด้วยความสงสาร จากนั้นก็ดึงของขวัญกลับคืนไป?
เย่เทียนรู้สึกสูญเสียอย่างถึงที่สุด พร้อมกับรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
แต่ในพริบตา เขาก็คิดว่าตัวเองยังมีเงิน 6,000 ดอลลาร์อยู่ในกระเป๋า และอีก 20,000 อยู่ในธนาคาร ทันใดนั้นอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นเล็กน้อย
ฉันได้รับมามากแล้ว อย่างน้อยก็ได้พบกับจุดเปลี่ยนของชีวิต แล้วฉันยังจะร้องขออะไรอีก?
หลังจากนั่งอยู่ในห้องสักพัก เขาก็ทิ้งสิ่งที่คิดออกไปชั่วคราว และไปหาอะไรกิน
หลังจากกินเสร็จ เขาก็แบกถุงเสื้อผ้าสกปรกสองถุงใหญ่ลงไปซักยังร้านซักผ้าที่อยู่ไม่ไกลจากที่เขาอาศัยอยู่
หลังจากทุกอย่างแล้วเสร็จ มันก็เป็นเวลาเที่ยงคืน
พร้อมกับความตื่นเต้นและความสูญเสีย เย่เทียนก็ล้มลงบนเตียง พร้อมกับสิ้นสุดวันด้วยอารมณ์ที่คละเคล้าไปด้วยความสุขและเสียใจ
.........
เช้าวันถัดมา
“ติ๊ด ติ๊ด.....”
เสียงนาฬิกาปลุกตอนเวลา 7 นาฬิกา
เย่เทียนลืมตาขึ้นและลุกนั่งบนเตียง เหมือนกับเมื่อคืน สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากลืมตาตื่น ก็คือการมองไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่ถัดจากเตียง
โดยไร้ซึ่งสิ่งกีดขวาง สายตาของเขาก็มองเห็นเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ข้างในอย่างชัดเจนอีกครั้ง!
ความสามารถตาทิพย์ของเขากลับมาแล้ว! นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจอีกครั้ง!
“เยี่ยม! ในที่สุดพระเจ้าก็ได้ลืมตาตื่น มันเยี่ยมมาก!”
เย่เทียนกระโดดด้วยความตื่นเต้น ยืนอยู่บนเตียง พร้อมกับกระโดดและโห่ร้องออกมา
“ไอ้บ้าเอ๊ย! หนวกหู!”
เสียงด่าดังมาจากอีกห้อง
แต่ว่าตอนนี้ใครจะไปสนกัน!
หลังจากดีใจ เย่เทียนก็ค่อยๆ ใจเย็นลง และเริ่มคิดถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปในดวงตาเขา
ดูเหมือนว่าความสามารถตาทิพย์นี้จะมีเวลาจำกัด คำนวณจากเวลาที่ใช้เมื่อวาน หลังจากที่ใช้ไปประมาณสิบนาที ความสามารถนี้ก็จะหายไป
และก็จะใช่ว่าจะสามารถมองทะลุได้ทุกสิ่ง อย่างน้อยก็ไม่สามารถมองทะลุกำแพงของพวกเขาได้
ในขณะเดียวกัน เขาก็สามารถมองเห็นแสงเฉพาะที่เปล่งออกมาจากของโบราณ ขณะที่ของทั่วๆ ไปจะไม่มีความผิดปกตินี้
ส่วนจะเป็นของโบราณทุกอย่างไหมที่เปล่งออกมานั้น อันนี้เขาก็ไม่รู้ และเขาจำเป็นต้องทำการยืนยันไปทีละขั้นตอน
ถึงยังไงเขาก็เห็นแค่ลูเกอร์ พี 08 ที่อยู่ไกลๆ และเขาก็ไม่รู้ถึงปฏิกิริยาเมื่อมองของโบราณอย่างอื่น
เมื่อคิดได้อย่างนี้ เย่เทียนก็พลันตัดสินใจถึงที่ที่เขาจะไปในวันนี้
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน!
พริบตาก็เป็นเวลา 9 โมงเช้า
เย่เทียนยังไม่ได้ไป แต่เขากำลังรอบางคนอยู่
“ก๊อก.....”
มีเสียงเคาะประตูดังมา
“ได้ยินแล้ว กำลังไป!”
เย่เทียนขานตอบและเดินไปที่ประตูด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้าที่บึ้งตึงของผู้หญิงผิวขาววัยกลางคนซึ่งเป็นเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ พร้อมกับเอวที่หนาและน้ำหนัก 100 กิโลกรัม!
“ไง ซูซาน อรุณสวัสดิ์!”
เย่เทียนพูดทักทายด้วยรอยยิ้ม
ป้าซูซานไม่ได้มองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น พร้อมกับพูดเข้าเรื่องในทันที
“อรุณสวัสดิ์สตีเวน เตรียมค่าเช่าไว้หรือยัง? หากยังล่ะก็ ฉันคงได้แต่ขอให้นายออกไป นายติดค่าเช่ามา 2 เดือนแล้ว ฉันไม่สามารถปล่อยเอาไว้ได้อีก!”
ค่าเช่าที่นี่ตกอยู่เดือนละ 1,000 ดอลลาร์ เย่เทียนยังมีเงินอยู่ตอนที่ย้ายเข้ามาตอนแรก และเขาก็ได้จ่ายค่าเช่าสำหรับสี่เดือนออกไป
ตอนแรกเขาคิดว่าคงจะหางานได้ในเวลาไม่นาน และคงจะรับกับค่าเช่านี้ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กังวล
แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะโชคร้ายอย่างนี้ ตลอดหกเดือนที่เผ่าน เขาไม่ได้รับการตอบรับเข้าทำงานจากที่ไหนเลย และทุกที่ต่างก็ปฏิเสธเขาอย่างเย็นชา ทั่วทั้งแมนแฮตตันต่างก็ปฏิเสธเขา!
ทำให้เขามีเงินเหลือเพียงเล็กน้อยเพื่อปะทังชีวิต และต้องติดค้างค่าเช่าของที่นี่!
ดังนั้น เมื่อเวลาสี่เดือนได้ผ่าน และถึงเวลาจ่ายค่าเช่า เขาจึงทำได้เพียงแค่ลากถ่วงออกไปวันแล้ววันเล่า
จนลากถ่วงมาได้สองเดือน และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้าย หากว่าเขายังไม่จ่ายอีก เขาก็จะถูกไล่ออกไปและต้องนอนอยู่ข้างถนน ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงต้องไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายอย่างสิ้นหวังเมื่อวาน
ป้าซูซานตรงหน้าเขานั้นความจริงก็ไม่ใช่คนเลว แต่ว่าเมื่อเป็นเรื่องของเงิน ก็จะไม่มีการเห็นแก่ความสัมพันธ์อย่างเด็ดขาด! ยิ่งกว่านั้น มันก็ถือว่าใจดีมากแล้วสำหรับการปล่อยให้ผู้เช่าอย่างเย่เทียนค้างค่าเช่าสองเดือน
“ซูซาน ขอบคุณสำหรับความอดทนและความมีน้ำใจของคุณ ไม่อย่างนั้นฉันคงกลายเป็นพวกไร้บ้านไปแล้ว ฉันรู้ว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย และฉันก็ได้เตรียมค่าเช่าเอาไว้แล้ว”
“อะไรนะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียน ซูซานก็ต้องก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ
วันนี้เธอเตรียมใจไว้แล้วว่าต้องกลับบ้านมือเปล่า และจะรับห้องคืน ส่วนเย่เทียนจะกลายเป็นคนไร้บ้านหรือไม่นั้น เธอไม่สนใจ!
แต่ไม่คาดว่าคำตอบจากปากของเย่เทียนจะออกมาในรูปแบบนี้ ซึ่งทำให้เธอตกใจ
จากนั้น ซูซานก็เผยรอยยิ้มกว้าง ซึ่งดูแล้วเจิดจ้าอย่างถึงที่สุด
“เยี่ยมมาก! นายเป็นสุภาพบุรุษที่เชื่อใจได้จริงๆ!”
ใบหน้าเย่เทียนแดงเล็กน้อย และไม่ตอบอะไรกลับไปสำหรับคำชมนี้
หากไม่ใช่เพราะการผจญภัยเมื่อวาน วันนี้เขาคงต้องเสียความน่าเชื่อถือไป
“นายจะจ่ายเฉพาะค่าเช่าที่ค้างเอาไว้ก่อนหน้า? หรือว่าจะจ่ายสำหรับเดือนถัดไปด้วย?”
ป้าซูซานถามอย่างตื่นเต้น สามารถมองเห็นแบงค์ดอลลาร์สีเขียวในดวงตาสีฟ้าของเธอ!
“นี่เป็นเงินค่าเช่าที่ค้างเอาไว้สองเดือน และจะจ่ายค่าเช่าของอีกสี่เดือนถัดไปด้วย! รอเดี๋ยวนะ ฉันจะไปเอาเงินมาให้”
หลังจากพูดจบ เย่เทียนก็เดินกลับไปยังห้องนอนที่ได้เช่าอยู่
ป้าซูซานก็เดินไปที่ประตูและตะโกนลงไปข้างล่าง
“พอล ขึ้นมาเร็วเข้า!”
“ได้! จะไปเดี๋ยวนี้”
บางคนที่อยู่ข้างล่างตะโกนตอบเสียงดัง จากนั้นก็ได้ยินเสียง “ปัง” ของประตูรถ