THW ตอนที่ 1+2(1/3)
THW ตอนที่ 1+2(1/3) อเมริกันดรีม+ความสามารถปรากฏ
“ช่างแม่งอเมริกันดรีม! ช่างแม่งนิวยอร์ก! ฉันไม่สนหัวแม่งมันแล้ว!”
เย่เทียนยืนอยู่บนสะพานบรูคลิน พร้อมกับมองไปที่แมนแฮตตันที่อยู่ไม่ไกล ขณะที่ร้องตะโกนออกไปอย่างสิ้นหวัง จากนั้นก็กระโดดลงไปยังแม่น้ำที่กำลังไหลเชี่ยว
และในตอนนี้ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในรอบหกเดือนที่ผ่านมาก็ได้เริ่มปรากฏขึ้นในสมองของเขา
ตกงาน ล้มละลาย ถูกบอกเลิก บ้านถูกยึด หวาดระแวงทุกวัน พร้อมแอปหางานที่ถูกปฏิเสธอย่างนับไม่หวาดไม่ไหว จนตอนนี้เขาแทบจะไม่เหลืออะไร และตกอยู่ในความสิ้นหวัง!
นี่คือความมืด และเป็นความมืดตลอดครึ่งปี เต็มไปด้วยความผิดหวังและเจ็บปวด ไม่มีแม้แต่ช่วงเวลาดีๆ แม้สักครั้งที่จะคุ้มค่าแก่การจดจำ รวมถึงไร้ซึ่งความสุข!
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้คือเงินห้าสิบดอลลาร์ ซึ่งพรุ่งนี้เขาต้องเดินเข้าไปยังศูนย์ให้การช่วยเหลือเพื่อลงทะเบียนเข้ารับผลประโยชน์คนตกงาน หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องทนหิวตายบนถนน
ซึ่งหนทางแห่งการมีชีวิตอยู่แบบนี้เขาไม่สามารถทนได้ และก็จะไม่มีวันยอมรับ ศักดิ์ศรีสุดท้ายที่เหลืออยู่ในใจของเขาไม่อนุญาตให้เขาต้องมีชีวิตอยู่ด้วยการขอทาน!
ไอ้ที่เรียกกันว่าอเมริกันดรีมอะไรนั่นแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ และทุกสิ่งที่ได้รับมาจากการทำงานหนักก็หายไปอย่างสมบูรณ์!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เย่เทียนก็พลันปรากฏรอยยิ้มที่โศกเศร้าบนใบหน้า
“ในเมื่อโลกนี้ละทิ้งฉัน งั้นฉันก็คงทำได้เพียงละทิ้งโลกใบนี้ไปเช่นกัน!”
ตัวเขาเข้าใกล้ผิวน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ และในชั่วขณะที่กำลังจะแตะกับมันนั้นเอง
สีหน้าที่โกรธแค้นและสิ้นหวังก็พลันหายไปจากใบหน้าของเย่เทียน เขาในตอนนี้สงบมาก สายตาของเขาตายด้าน ไม่มีซึ่งความเศร้าและหวาดกลัว!
และในขณะที่กำลังจะตกลงไปในแม่น้ำตะวันออกนี้เอง เย่เทียนก็พลันเห็นแสงสีขาวที่ตกลงมาจากฟ้าผ่านทางหางตา และแสงนั้นก็ได้พุ่งตรงมาที่เขา พร้อมกับหายเข้าไปในร่างของเขาราวกับสายฟ้า
“นี่มันอะไรกัน? ทำไมถึงได้เข้ามาในร่างของฉัน?”
แต่เขาก็ได้ปล่อยวางมันไปอย่างสมบูรณ์
“ช่างเถอะ จะเป็นอะไรก็ช่าง!”
“ตู้มมมม!”
เย่เทียนกระแทกน้ำอย่างหนัก จนน้ำสาดกระเซ็นออกทุกทิศทาง
ทุกอย่างได้จบลงแล้ว!
........
“แค่ก!”
น้ำสายหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้า
อึดใจต่อมา เย่เทียนก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ตอนนี้ฉันคงจะอยู่ในนรกแล้วสินะ!
แต่เสียงที่ดังเข้าหูทำให้เขารู้ว่าเขายังอยู่บนโลก แม่งยังคงอยู่ในนิวยอร์ก!
“ตื่นแล้ว! ในที่สุดก็ตื่นได้สักที ดีที่เขาไม่ได้ดื่มน้ำเข้าไปมาก!”
ภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังเป็นสำเนียงบรูคลินท้องถิ่นอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าเขาถูกช่วยเอาไว้
“มันเปล่าประโยชน์ ฉันไม่ตาย! ฉันทำได้เพียงแค่มีชีวิตอยู่เท่านั้น!”
เย่เทียนกัดฟันพร้อมกับพึมพำออกมาเป็นภาษาจีน
ในตอนนี้ไม่มีร่องรอยแห่งความตื่นเต้นอยู่ในใจของเขาหลังจากที่ผ่านหายนะมาได้ ไม่มีความรู้สึกขอบคุณให้กับผู้ช่วยชีวิต มีเพียงแต่ความผิดหวังอันไร้สิ้นสุดเท่านั้น!
เป็นชายผิวดำวัยกลางคนสองคนที่ช่วยเขาไว้ ซึ่งทั้งสองคนเป็นคนเก็บขยะในแม่น้ำ
เมื่อเห็นเย่เทียนกระโดดลงแม่น้ำ พวกเขาก็รีบขับเรือเก็บขยะเข้ามาช่วยเขาในทันที พร้อมกับพาเขามาส่งที่ริมแม่น้ำ
หลังจากทำหัวให้กระจ่างเล็กน้อย เย่เทียนก็พลันยืนขึ้นพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มเศร้ากับชายผิวดำทั้งสอง
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณ ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”
“พ่อหนุ่ม ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมนายถึงกระโดดลงแม่น้ำ แต่ฉันรู้ว่านี่เป็นทางเลือกที่โง่ที่สุด!”
ชายผิวดำที่สูงกว่าพูด
“ใช่ ไม่ว่าชีวิตจะยากลำบากหรือว่าสิ้นหวังขนาดไหน แต่อย่างน้อยมันก็มีความสุขมากกว่าตาย!”
ชายผิวดำอีกคนเริ่มพูดกล่อม พร้อมกับกลิ่นซุปไก่อ่อนๆ ที่โชยมา
“ขอบคุณ ตอนนี้ฉันไปได้แล้วหรือยัง?”
“แน่นอน นายสามารถไปตอนไหนก็ได้ แต่ฉันหวังว่าจะไม่เห็นนายกระโดดลงแม่น้ำอีกครั้งนะ!”
“ไม่แล้วล่ะ! ในเมื่อพระเจ้าไม่ให้ฉันตาย งั้นฉันก็จะมีชีวิตอยู่ และจะคอยดูว่าอนาคตจะเป็นยังไง”
เย่เทียนเค้นรอยยิ้มน่าเกลียดออกมา พร้อมกับก้มหัวให้กับสหายผิวดำทั้งสอง จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปยังถนนที่อยู่ไม่ไกล
ชั่วชีวิตนี้ ยากที่สุดก็คือความตาย!
หลังจากผ่านประสบการณ์นี้ ความลำบากทุกอย่างและปัญหาก่อนหน้า รวมถึงเมฆหมอกที่อยู่ในใจของเขาก็ได้สลายไป
การหายใจคือเรื่องที่ง่ายกว่าจริงๆ
เย่เทียนที่รอดจากความตายมาได้ ก็ได้พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชีวิตอีกครั้ง
หลังจากข้ามถนนมา เขาก็โยนมือถือที่เปียกน้ำลงถังขยะ พร้อมกับเดินไปข้างหน้าต่อ ที่ที่เขาอยู่ อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ใช้เวลาเดินแค่สิบนาทีเท่านั้น
เขาคงต้องเก็บกระเป๋าเมื่อกลับไป จากนั้นก็คงต้องนอนบนถนนในอนาคต
.........
หลังจากเดินมาได้ประมาณสิบนาที เขาก็ได้มาถึงที่พักในที่สุด
เย่เทียนสิ้นหวังอย่างมาก เขาเดินพร้อมกับคิดว่าจะทำอะไรดีในอนาคต
วอลล์สตรีทเขาคงไม่สามารถกลับไปได้แล้ว และเรื่องที่เกี่ยวกับการเงินและการลงทุนก็ได้ปิดประตูให้กับตัวเขา ดูเหมือนว่าเขาคงต้องเริ่มทำงานตั้งแต่ระดับล่าง ซึ่งเป็นงานที่ครั้งหนึ่งเขาเคยดูถูก ตัวอย่างเช่น คนส่งของ พนักงานท่าเรือ พนักงานขาย และอื่นๆ
อันดับแรกต้องรับประกันว่าจะมีชีวิตอยู่ให้ได้ก่อน จากนั้นจึงค่อยมองหาอนาคต
ขณะที่กำลังคิด ก็ได้มีเสียงดังลอยมาเข้าหูเขา
เมื่อเขามองไป ก็พบว่ามีคน 20-30 คนกำลังรวมกันอยู่ที่บริษัทโกดังเก็บของตรงหน้า บ้างก็กำลังคุย หัวเราะ หรือว่าปรึกษากันอยู่
เย่เทียนคุ้นเคยกับฉากนี้อย่างมาก เห็นได้ชัดว่าวันนี้มีการประมูลโกดังเก็บของขึ้น
เขาเคยเข้าร่วมงานนี้มาก่อนเมื่อตอนอยู่มหาลัย เพื่อที่จะซื้อบางอย่างเก็งกำไร แต่ว่าเขาก็ต้องผิดหวังกับมันทุกครั้ง เพราะว่าเขาซื้อมาแต่ของที่ไร้ประโยชน์หรือไม่ก็ขยะ
หลายคนที่มารวมกันตรงหน้านี้ พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนแต่อาศัยอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พวกเขาพากันมาดูว่าจะสามารถเก็บของในราคาถูกไปได้หรือเปล่า และยังมีนักล่าสมบัติมืออาชีพหลายคนที่มาหาเงินผ่านการประมูลโกดังที่ถูกทิ้งพวกนี้
มองไปที่พวกเขา เย่เทียนก็พลันจำได้ว่าเขามีโกดังเก็บของหลังหนึ่งอยู่ที่นี่
หลังจากที่บ้านถูกธนาคารยึดไป ของบางอย่างที่ไม่รู้ว่าจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนก็ถูกโยนมาไว้ที่นี่ หลังจากนี้พวกมันก็จะถูกเขาขายเพื่อมาเป็นค่าอาหารให้กับตนเอง
โกดังนี้ถูกเขาเช่าเป็นเวลาครึ่งปี และจะหมดสัญญาในเดือนหน้า
และในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำการเซ็นสัญญาเช่าใหม่ และหากว่าไม่มีการต่อสัญญา มันก็จะถูกนำออกไปประมูลผ่านบริษัทโกดังเก็บของ
แต่ไม่ว่าใครจะประมูลได้มันไป มันก็จะเป็นเพียงแค่ธุรกิจที่ขาดทุน เพราะว่าข้างในมีแต่ขยะทั้งนั้น
แต่ว่าตอนนี้เขาคงต้องไปที่โกดังอีกครั้ง ดูว่ายังมีของอะไรที่พอจะขายได้อยู่ไหม เพราะว่าเขาสามารถนำมันไปขายให้กับร้านขายของมือสองเผื่อจะเปลี่ยนเป็นเงินได้บ้าง
เมื่อคิดได้อย่างนี้ เย่เทียนก็ทำการตบกระเป๋ายีนส์ของตน และก็พบว่ากุญแจยังอยู่ในกระเป๋า รวมถึงเงินห้าสิบดอลลาร์สุดท้ายด้วย