431-432
3/10
Ep.431
“พี่เฉิน ครั้งนี้พวกเราร่วมสู้ด้วยได้จริงๆใช่ไหม?”
หยางฮ่าวแทบอดใจรอไม่ไหว หันมาเอ่ยถามซูเฉินเพื่อความแน่ใจ
“ได้สิ” ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย
สัตว์อสูรที่ออกมามีแค่เลเวล 1 เท่านั้น เขาไม่จำเป็นต้องกังวลแทนคนอื่นๆเลย
“ฆ่า!”
ในจังหวะนั้นเอง สือต้าหนิวเป็นคนแรกที่กระโจนออกไป
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”
หยางฮ่าวกับเฉาหรานหันมาสบตา สบถด่าในเวลาเดียวกัน
เดิมที พวกเขาต้องการเป็นคนแรกที่จะได้สังหารสัตว์อสูร
ทว่าสือต้าหนิวกลับไม่ยอมอ่อนข้อให้เลย ไม่ปล่อยให้พวกเขาทันได้ตอบสนอง ก็ชิงตัดหน้าเสียแล้ว
หมาป่ายักษ์ขนแดงฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นมนุษย์เดินเข้ามา ตอนแรกมันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม พอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันรุนแรงที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของสือต้าหนิว มันก็ต้องตกใจ และไม่ลังเลเลยที่จะตีลังกากลับหลัง วิ่งหนีกลับไปยังวงแหวนเขตแดนที่ผ่านเข้ามา
มันเป็นแค่สัตวอสูรเลเวล 1 เท่านั้น ขณะที่สือต้าหนิวคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 กำลังรบระหว่างทั้งสอง ไม่อาจเทียบชั้นกันได้
หากไม่วิ่งให้เร็ว สุดท้ายก็จะโดนอีกฝ่ายทุบตีจนตาย
เห็นว่าหมาป่าแดงพยายามหลบหนี สือต้าหนิวเริ่มร้อนใจ ตัดสินใจขว้าง [ค้อนสวรรค์] ในมือเขา
บังเกิดเสียงเนื้อถูกบดดังตู้มใหญ่
ก่อนที่หมาป่าขนแดงจะทันได้มุดกลับเข้าไปยังทางผ่านเขตแดน มันก็ถูกค้อนใหญ่บดเป็นซอสเนื้อ
“ฮะฮ่า!”
สือต้าหนิววิ่งไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น หยิบเอา [ค้อนสวรรค์] แล้วกลับมาสมทบกับหยางฮ่าวและเฉาหราน ฉีกยิ้มซื่อๆ “โทษทีพรรคพวก ศพแรก ฉันขอรับมันไปแล้วกัน!”
“เชอะ!”
หยางฮ่าวกับเฉาหรานหันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่สนใจสือต้าหนิวอีกต่อไป
“มีสัตว์อสูรกำลังจะออกมาอีกแล้ว!”
ในตอนนั้นเอง สือต้าหนิวร้องเตือน
คนอื่นๆ หันมาสนใจเสาหิน ดังคาด พวกเขาเห็นสัตว์อสูรจำนวนมากกำลังจะวิ่งออกจากวงแหวนทางผ่านเขตแดน
ทั้งยังมีหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น หมาป่าอสูร , หมีอสูร วัวอสูร ฯลฯ
พริบตาเดียวทะลุออกมาเป็นร้อยตัว และจำนวนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เห็นภาพนี้ ดวงตาของซูเฉินเป็นประกาย แลบลิ้นเลียริมฝีปากเขา เอ่ยเสียงดัง “ลุยกันเถอะ อย่าปล่อยให้เหลือรอดไปได้แม้แต่ตัวเดียว ฆ่าทิ้งให้หมด!”
“ฆ่า!”
คราวนี้หยางฮ่าว เฉาหราน กระโจนเป็นคนแรก ไม่ยอมให้สือต้าหนิวแซง
ส่วนตันหลินและสาวๆหยิบ [ปืนพกเพาส์] ขึ้นมา แล้วคอยยิงจากระยะไกล
ปัง ปัง ปัง!
เสียงกระสุนดังสามนัดติด สัตว์อสูรสามตัวตายคาที่
หยางฮ่าวและสหายต่างรีดเร้นกำลังรบของตัวเองออกมา ไล่ล่าพวกสัตว์อสูรจนบาดเจ็บล้มตายเป็นเบือ
…
“แข็งแกร่งมาก!”
จูถงซึ่งอยู่ไม่ไกลเฝ้ามองด้วยความตกตะลึง
เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าหยางฮ่าวและชายหนุ่มคนอื่นๆล้วนเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ทั้งสิ้น
ส่วนพวกสาวๆสามคน แม้ไม่ได้ก้าวออกไป แต่อาวุธในมือพวกเธอทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง สามารถสังหารพวกสัตว์อสูรลงได้ไม่ต่างจากหั่นผักหั่นแตง
ส่วนอีกสองคนที่อยู่ข้างกายซูเฉิน เห็นได้ชัดว่าเป็นยอดฝีมืออย่างไม่ต้องสงสัย เพราะยอดฝีมือมักออกหน้าในตอนท้าย
เป็นผลให้เขาฉุกคิดขึ้นได้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมซูเฉินถึงมั่นใจนักที่จะดักสังหารพวกสัตว์อสูรตรงหน้าทางผ่านเขตแดน ที่แท้ก็คิดอาศัยความแข็งแกร่งของทีมเข้าสู้นี่เอง อ๊า!
ในความเป็นจริงแล้ว ความแข็งแกร่งของทีมซูเฉินที่เห็นอยู่นี้ เป็นแค่ปลายยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น
[รถศึกอัจฉริยะ] , [นักรบจักรกล] และสัตว์เลี้ยงวิญญาณเลเวล 6 ทั้งสองตัวยังไม่ได้โผล่หน้ามาเลย
ไม่ต้องกล่าวถึงซูเฉินผู้ไร้เทียมทานที่ยังคงเฝ้าดูอยู่เงียบๆ
จินตนาการเอาเถิด หากทุกอย่างถูกเปิดเผยออกมา จูถงจะทำหน้ายังไง
…
หยางฮ่าวกับอีกสามคนร่วมมือกัน นอกจากการคอยให้ความสนับสนุนจากตันหลินและสาวๆแล้ว ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที พวกเขาก็สามารถสังหารสัตว์อสูรลงได้หลายร้อยตัว
อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรในอีกทวีปยังคงหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
และยิ่งเวลาผ่านไป สัตว์อสูรจากต่างทวีปที่ออกมา ก็เริ่มมีเลเวลสูงขึ้นเรื่องๆ กำลังรบของพวกมัน ยิ่งนานยิ่งแข็งแกร่ง
จนเมื่อสัตว์อสูรเลเวล 3 ปรากฏตัว พวกหยางฮ่าวก็ไม่สามารถสู้มันได้อีกต่อไป
หวู่หยางกับหยางหลิงเทียนหันมาสบตา พร้อมใจกันก้าวสู่สนามรบ
ทั้งคู่เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 หากบุกเข้าไปกลางดงสัตว์อสูร คงไม่ต่างจากคนที่กำลังท่องอยู่ในดินแดนอันไร้ผู้คน สามารถเดินเหินได้อิสระดั่งใจนึก ทุกครั้งที่กวัดแกว่งคมอาวุธ จะมีสัตว์อสูรเลเวล 3 ตายคาที่
4/10
Ep.432
“ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ถึงสองคน!”
จูถงถึงกับอ้าปากค้าง จากนั้นหันไปมองหน้าซูเฉินอีกครั้ง
เขาพบว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ซูเฉินยังคงสงบและดูมั่นใจเป็นอย่างมาก ให้ความรู้สึกเหมือนทุกอย่างตกอยู่ภายใต้การควบคุม
เห็นภาพนี้ หัวใจของจูถงเต้นระรัว “หรือว่าเขาจะสามารถฆ่าพวกสัตว์อสูรทั้งหมดที่บุกเข้ามาได้จริงๆ?”
ความคิดนี้แล่นเข้าหัวเพียงวูบเดียว ก็ถูกดับลงอย่างรวดเร็ว
เพราะทวีปสัตว์อสูร มีผู้แข็งแกร่งอยู่เป็นจำนวนมาก สัตว์อสูรที่ออกมาตอนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นตัวตายตัวแทนทั้งสิ้น เมื่อทางผ่านเขตแดนค่อยๆเสถียรขึ้นเมื่อไหร่ ก็จะมีเลเวล 4 , 5 และ 6 ตามออกมา
ถึงเวลานั้น ซูเฉินและคนอื่นๆในทีมจะสามารถฆ่าสัตว์อสูรแบบในตอนนี้ได้อยู่ไหม?
คำตอบย่อมชัดเจน สัตว์อสูรจากต่างทวีป ไม่ว่าจะเป็นในด้านจำนวนและกำลังรบ มันมากพอที่จะกวาดล้างเกาะเจียวซูได้หลายเกาะ
ขณะที่ซูเฉินและคนอื่นๆเป็นแค่ทีมเล็กๆ พวกเขาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างแน่นอน
ได้ข้อสรุปแบบนี้ จูถงก็ถอนหายใจเบาๆ อารมณ์ตื่นเต้นของเขาเริ่มหมองลง เนื้อตัวรู้สึกหนักอึ้ง
…
พวกสัตว์อสูรยิ่งถูกสังหาร ชิ้นส่วนก็ยิ่งดรอปมากขึ้นเรื่อยๆ
ซูเฉินเฝ้ามองอยู่พักหนึ่ง รู้สึกคันไม้คันมือ ก้าวออกไปหยิบขึ้นมาตรวจสอบดู
หลังจากเก็บชิ้นส่วนแล้ว เขาก็ลากศพวัวอสูรกลับมาที่เดิม
จากนั้น ก็หยิบเอา [เตาอเนกประสงค์] ออกมา และเริ่มย่างบาร์บีคิว
ไม่นาน กลิ่นหอมอบอวลจากรสชาติอันเข้มข้นของเนื้อก็ลอยฟุ้งไปไกล
จูถงเห็นฉากนี้ถึงกับพูดไม่ออก
ปัจจุบันสมรภูมิกำลังเดือดพล่าน แต่ซูเฉินยังจะมีอารมณ์มาย่างเนื้ออีก นี่ใจเขามันจะกล้าหาญเกินไปหน่อยไหม?
มั่นใจในฝีมือของสมาชิกทีมทุกคนขนาดนี้เชียวหรือ?
คุณไม่กลัวว่าพวกเขาจะพลาดพลั้ง แล้วเผชิญกับความตายเลย?
แต่จูถงไม่รู้หรอก ว่าแม้ซูเฉินกำลังย่างเนื้อ แต่สมาธิเขายังคนให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวในสนามรบอยู่ตลอดเวลา
จนถึงตอนนี้ ระดับสูงสุดของสัตว์อสูรที่บุกเข้ามา อยู่ที่เลเวล 3 เท่านั้น หวู่หยางและคนอื่ๆยังสามารถรับมือได้ ดังนั้นเขาไม่ต้องกังวลอะไร
หลังจากย่างเนื้อจนสุก ซูเฉินก็หันไปเรียกตันหลินและสาวๆ ปล่อยให้พวกเธอได้พักบ้าง มาแวะกินเนื้อย่างสักครู่เพื่อเติมพลังงาน
หลังจากตันหลินและสาวๆกินเสร็จแล้ว ซูเฉินก็เปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] และปล่อยหมาป่ากลายพันธุ์สามตัวออกมา ให้พวกมันไปรับหน้าที่แนวหน้าแทนหยางฮ่าวและสหาย
หมาป่ากลายพันธุ์ทั้งสามเป็นทั้งผู้วิวัฒนาการและปรมาจารย์พลังจิต กำลังรบของพวกมันมากกว่าหยางฮ่าวและสหายหลายเท่า
เมื่อทั้งสามผนึกกำลังกัน ก็สามารถสังหารฝูงสัตว์อสูรลงได้อย่างง่ายดาย ไม่ต่างจากการเก็บเกี่ยวข้าวสาลี ที่ใช้เคียวกวาดครั้งเดียวก็สามารถตัดพวงข้าวแยกมันออกจากลำต้น
จูถงต้องตกตะลึงอีกครั้ง
กลวิธีของซูเฉินมีหลากหลายไร้ที่สิ้นสุด เรื่องนี้เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน
แต่ในตอนนั้นเอง ระหว่างที่ซูเฉินกำลังย่างเนื้อ สีหน้าท่าทีของเขาพลันแข็งทื่อไป
นั่นเพราะเขาพบว่ามีสัตว์อสูรกลุ่มใหม่บุกออกมาจากทางผ่านเขตแดน และคราวนี้ส่วนใหญ่เป็นเลเวล 4 แถมในหมู่พวกมัน ยังมีลิงอสูรปะปนอยู่ด้วย
ลิงอสูรตัวนี้เจ้าเล่ห์มาก พอออกมา มันไม่รีบเปิดฉากโจมตีในทันที แต่เลือกเข้าไปปะปนอยู่ในกลุ่มสัตว์อสูรเลเวลต่ำแทน ค่อยๆบุกเข้าไปใกล้หวู่หยาง
จุดประสงค์ของมันค่อนข้างชัดเจน นั่นคือลอบทำร้ายหวู่หยาง
หวู่หยางมีเลเวลอยู่แค่ 4 แม้จะเก่งกาจกว่าเลเวลเดียวกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นคู่มือของสัตว์อสูรเลเวล 5 หากถูกลอบโจมตีขึ้นมา มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงที่จะโดนสังหารตายในคราวเดียว
แน่นอนว่าซูเฉินจะไม่ยอมนั่งดูอยู่เฉยๆ เขาเปิดถุงเก็บของ และนำ [นักรบจักรกล] ออกมา เอ่ยบัญชา “เสี่ยวตี๋ ออกไปสับไอ้ลิงอสูรตัวนั้นให้ฉัน แล้วลากมันกลับมา”
“รับทราบ”
[นักรบจักรกล] น้อมรับคำสั่ง วิ่งเข้าหาลิงอสูรทันที
ณ ขณะนี้ ลิงอสูรเลเวล 5 ได้รุกเข้ามาจนประชิดเบื้องหน้าหวู่หยางแล้ว มันฉวยโอกาสที่หวู่หยางไม่ทันระวัง กระโดดเข้าโจมตี
“สัตว์อสูรเลเวล 5 !!”
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายทรงพลังที่เล็ดลอดออกมาจากลิงอสูร จูถงร้องอุทานด้วยความตื่นตระหนก
ณ จุดนี้ เขามั่นใจว่าหวู่หยางคงตายเป็นแน่แท้
หวู่หยางเองก็ตกใจเช่นกัน พอเห็นลิงอสูรกระโจนใส่ เขาก็ระเบิดกำลังทั้งหมดที่มี เพื่อหวังแหวกตาข่ายที่เรียกว่าลิงอสูรให้หลุดจากตัวเอง
และในจังหวะเดียวกันนั้นเอง [นักรบจักรกล] โฉบเข้ามา ฟาดฟันดาบโค้งเป็นแนวทแยง สะบั้นรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ แยกร่างลิงอสูรออกเป็นสองท่อนอย่างหมดจดงดงาม