ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 281 เถาวัลย์พันกร
บทที่ 281 เถาวัลย์พันกร
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินไม่เอ่ยคำใดและหันหลังหนีไปกับสายลมทันที
หลงเอ๋อร์น้อยที่แปลงกายเป็นมังกรทำให้ปีศาจเฒ่าพลาดท่าจนกระดูกสันหลังแทบหักและยังรู้สึกปวดร้าว แต่เยี่ยฉวนที่ยืนอยู่บนกำแพงกลับแผ่ออร่าน่าหวาดหวั่นเสียยิ่งกว่า ต่อให้ปีศาจร้ายไม่บาดเจ็บก็อาจไม่สามารถต่อกรกับอีกฝ่ายได้
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินเข่นฆ่าผู้คนราวกับตบแมลงวันอีกทั้งยังฉลาดเป็นกรด มันรีบหนีไปทันทีที่กำลังเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
เห็นได้ชัดว่ามีการดักซุ่มโจมตีในคืนนี้ มันไม่รู้ว่าเผ่ามู่ได้ตัวยอดฝีมือทั้งสองมาจากที่ใด แต่ที่รู้คือขืนสู้ต่อไปโดยไม่ยั้งคิดจะต้องพ่ายแพ้ย่อยยับเป็นแน่ หากหนีมาเสียตอนนี้ยังสามารถกลับไปล้างแค้นอีกครั้งได้ ยอดฝีมือทั้งสองคงไม่อยู่ที่หมู่บ้านเผ่ามู่ตลอดไป ถึงอย่างไรแถบนี้ก็เป็นอาณาเขตของมันจึงไปไหนมาไหนได้ดังใจปรารถนา
“หยุดมันไว้ อย่าให้มันหนีไปได้!”
เฒ่ามู่พุ่งตัวไปข้างหน้าพลางยกปากกาขนนกในมือขึ้น เขาตวัดวาดเส้นสายในอากาศก่อนพยัคฆ์ร้ายจะกระโจนเข้าใส่ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยิน
ฉับพลันคทาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในมือของปีศาจเฒ่า มันฟาดพยัคฆ์ร้ายอย่างแรงก่อนลากคทาผ่านร่างของเฒ่ามู่ สายลมเย็นเฉียบทำให้ชายชรารู้สึกหนาวเหน็บตั้งแต่หัวจรดเท้าจนไม่อาจขยับเขยื้อนราวกับประติมากรรมน้ำแข็ง เขาได้แต่เฝ้ามองปีศาจเฒ่าหลบหนีไปอย่างไร้ซึ่งหนทาง
จังหวะเหมาะเช่นนี้แต่กลับพลาดจนได้… พวกเขาคงไม่มีโอกาสกำจัดปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินได้อีก!
ชายชราพูดไม่ออกด้วยความกลัดกลุ้มและร้อนใจยิ่ง
“โฮก!” หลงเอ๋อร์น้อยเข้าไปขวางทางปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินเอาไว้และใช้ส่วนหัวพุ่งชนตัวต่อตัว!
การจู่โจมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนปีศาจเฒ่าตั้งตัวไม่ทัน หากแต่มันไม่ได้พยายามหลบหลีกด้วยเกรงว่าเยี่ยฉวนจะตามทันแต่อย่างใด คทาในมือพลันขยายใหญ่ขึ้นเป็นท่อนไม้ขนาดมหึมาหนักอย่างน้อยหนึ่งหมื่นจินและฟาดเข้าที่หน้าผากของหลงเอ๋อร์น้อยเต็มแรง “ตึง!” หลงเอ๋อร์น้อยชะงัก ท่อนไม้หักเป็นสองท่อนตรงจุดที่ปะทะทันใด
“ไอ้มังกรชั่ว! สักวันข้าจะกลืนกินโลหิตและปราณหยางของเจ้าให้หมด!”
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินกรีดร้องก่อนรีบเร่งหนีไปกับสายลมโดยไม่ตอบโต้อีก มันผ่อนคลายขึ้นเมื่อกระโดดข้ามกำแพงที่ล้อมรอบลานเล็กได้สำเร็จก่อนหันกลับไปมองเฒ่ามู่และมู่ซานด้วยรอยยิ้มเย็นเยียบ “ตาเฒ่า ดื่มด่ำกับชัยชนะของเจ้าในวันนี้ไปเถอะ แต่วันหน้าข้าจะเอาคืนเจ้าให้สาสมและดูดกลืนพลังชีวิตของเจ้าให้หมด ฮิๆๆ”
วิญญาณร้ายแผดเสียงหัวเราะด้วยความฮึกเหิมที่หนีออกจากวงล้อมได้สำเร็จ
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะชั่วร้ายกลับเงียบลงเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งผิดปกติ
‘เอ๊ะ แล้วไอ้หนุ่มคนนั้นเล่า?’
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินกวาดสายตามองรอบตัวเมื่อพบว่าเยี่ยฉวนที่ยืนอยู่บนกำแพงหายตัวไป มันมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวังและแผ่กระแสจิตบริสุทธิ์ออกไปค้นหาแต่ไม่พบสิ่งใด เยี่ยฉวนหายวับไปในอากาศราวกับไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน
ปีศาจเฒ่าที่ออกอาละวาดไปทั่วโดยไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใดกลับรู้สึกกลัวขึ้นมา เหงื่อเย็นเฉียบผุดขึ้นบนหน้าผากและหัวใจสั่นรัว
“มองหาข้าอยู่หรือตาเฒ่า?”
เสียงยานคางดังขึ้นจากเบื้องหลัง
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินหันกลับไปมองจึงพบว่าเยี่ยฉวนยืนขวางทางอยู่นอกกำแพงตั้งแต่เมื่อใดไม่อาจทราบ
“ไอ้หนู ข้าจะสู้กับเจ้าให้ตายกันไปข้าง!” ปีศาจเฒ่าพุ่งเข้าใส่เยี่ยฉวนอย่างเกรี้ยวกราด สายลมพัดกระโชกแรง อุณหภูมิในรัศมีร้อยเมตรลดลงอย่างกะทันหัน
ในเมื่อหนีไปจากที่นี่ไม่ได้ ปีศาจเฒ่าจึงพร้อมเสี่ยงชีวิตสุดตัว มันกางนิ้วมือขวาทั้งห้าออกและงอนิ้วลงเล็กน้อยราวกับตะขอคมกริบห้าอัน ก่อนจ้วงแทงเข้าที่หน้าอกของเยี่ยฉวนหมายจะควักหัวใจออกมา!
เยี่ยฉวนเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยและเหวี่ยงหมัดออกไป...
หมัดของเขาแลดูไร้ซึ่งความลึกซึ้งหรือความแข็งแกร่งใด ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินหัวเราะเยาะพร้อมแววตาลุกโชน “ฮิๆๆ เจ้าเป็นแค่ปรมาจารย์แห่งเต๋าระดับหนึ่งจริงๆ สินะไอ้หนู ข้านึกว่าเจ้าเป็นยอดฝีมือชั้นเลิศเสียอีก เหอะ! ยอมมอบชีวิตของเจ้าให้ข้าซะดีๆ! คืนนี้ข้าจะดูดกลืนพลังชีวิตของเจ้าและกวาดล้างหมู่บ้านเผ่ามู่เสีย ฮิๆๆ”
ปีศาจเฒ่าสามารถมองเห็นขั้นการฝึกตนของเยี่ยฉวนได้อย่างชัดเจนยามที่เขาออกหมัด
แม้แต่ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋าระดับสูงอย่างเฒ่ามู่และมู่ซานยังทำอะไรวิญญาณร้ายไม่ได้ นับประสาอะไรกับปรมาจารย์แห่งเต๋าระดับหนึ่ง!
ชายหนุ่มไม่แข็งแกร่งพอจะป้องกันตัวเองได้ด้วยซ้ำแต่กลับคิดจะมาขวางทาง! ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี!
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินระเบิดหัวเราะเมื่อความหวังในการกลืนกินปราณหยางของชาวเผ่ามู่ทุกคนคืนกลับมาอีกครั้ง เฒ่ามู่และมู่ซานรู้สึกสิ้นหวัง แขนขาของพวกเขาเย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง ในตอนแรกทั้งสองคิดว่าเยี่ยฉวนเป็นยอดฝีมือชั้นเลิศจากสำนักหมอกเมฆา ทว่าขั้นการฝึกตนของชายหนุ่มกลับต่ำต้อยกว่าพวกเขา เพียงแต่ว่องไวกว่าเล็กน้อยเท่านั้นเอง!
ท่ามกลางฝูงชนมีเพียงสีหน้าของหลงเอ๋อร์ที่ยังไม่แปรเปลี่ยน เขามั่นใจในตัวเยี่ยฉวนเต็มเปี่ยมและพุ่งไปสกัดกั้นปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินอีกทาง สองพี่น้องเข้าประกบปีศาจร้ายให้จนมุม
หมัดของเยี่ยฉวนและกรงเล็บของปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินปะทะกัน!
กรงเล็บของปีศาจเฒ่าแตกออกก่อนจะร้าวไปถึงข้อมือและแขน หมัดของเยี่ยฉวนที่แลดูไม่มีพิษภัยกลับทรงพลังอย่างน่าอัศจรรย์และบดขยี้อกซ้ายของอีกฝ่ายในคราเดียว!
“อ๊าก…”
ปีศาจเฒ่าหัวเราะไม่ออกอีกต่อไป มันส่งเสียงกรีดร้องน่าสยดสยอง ควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากบาดแผล การโจมตีถึงชีวิตทำให้มันอาการสาหัสปางตาย!
เยี่ยฉวนค่อยๆ คลายกำปั้นออกเผยให้เห็นแผ่นอักขระหยางบนฝ่ามือ เขากดมันลงไปบนร่างของวิญญาณร้ายแนบแน่น
กำปั้นของเยี่ยฉวนไม่เพียงรุนแรงเหมือนการพุ่งชนของหลงเอ๋อร์น้อยแต่ยังซ่อนกระบวนสังหารเอาไว้ ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินที่ไม่ทันตั้งตัวสั่นสะท้านไปทั้งกาย แผ่นอักขระบนฝ่ามือของเยี่ยฉวนคล้ายคลึงกับแผ่นอักขระของเผ่ามู่หากแต่ทรงพลังกว่าถึงสามเท่า พลังงานในร่างของปีศาจร้ายพลันหายวับไปราวกับถูกไฟฟ้าดูด
“เจ้าอยากกกลืนกินโลหิตและปราณหยางของข้าไม่ใช่หรือ? มาสิตาเฒ่า อยากกัดตรงไหนก็เชิญ!”
เยี่ยฉวนแสยะยิ้มร้ายกาจด้วยท่าทีไม่รีบร้อนและปรารถนาดี หากแต่ยังคงกดอักขระหยางในมือลงบนร่างของอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง ปีศาจเฒ่ารู้สึกเหมือนเยี่ยฉวนกำลังนาบเปลวไฟร้อนระอุและย่างสุกร่างของมัน!
“อ๊าก… ไอ้สารเลว ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินกรีดร้องลั่น เสื้อผ้าของมันฉีกขาดออกก่อนหนวดยั้วเยี้ยนับไม่ถ้วนจะงอกออกมาราวอสุรกายพันมือ! ปีศาจร้ายฉวยโอกาสขณะเยี่ยฉวนตกตะลึงหนีไปกับสายลม หลังหนีออกไปได้ราวหนึ่งกิโลเมตรก็แว่วเสียงกรีดร้องชวนขนหัวลุกดังมาจากระยะไกล หมัดของเยี่ยฉวนทำลายกระดูกของมันจนสูญเสียพลังชีวิตไปอย่างน้อยหนึ่งร้อยปี...
“สวรรค์บอกข้าที วิญญาณร้ายนั่นมันอะไรกัน?!” เยี่ยฉวนปวดหัวแปลบ เขาไม่เคยพบเจอวิญญาณร้ายประเภทนี้มาก่อนแม้แต่ในชาติที่แล้ว
“นั่นคืออสุรกายเถาวัลย์อายุกว่าแสนปี มันดูดกลืนพลังงานจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มาเป็นเวลาช้านานจนกลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์และออกอาละวาด ผู้คนขนานนามมันว่าเถาวัลย์พันกรหรืออสุรกายพันกร หากมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกแปดร้อยลี้จะพบเทือกเขาหยินที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์ หรือที่เรียกขานกันว่าเทือกเขาหยินห้านิ้วมรณะ ที่นั่นเป็นรังของมัน” เฒ่ามู่เดินเข้ามาพลางกล่าวออกด้วยน้ำเสียงกลัดกลุ้ม
แม้วันนี้จะขับไล่ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินไปได้ แต่มันย่อมหวนกลับมาตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ชาวเผ่าทุกคนต่างเป็นกังวลและอยู่ไม่สุข
“หลงเอ๋อร์น้อย ไล่ตามมันไป!”
เยี่ยฉวนพุ่งตามปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินไปอย่างรวดเร็วโดยมีหลงเอ๋อร์น้อยตามหลังมาติดๆ ชายหนุ่มและมังกรหายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา มู่ซานเองอยากตามไปด้วยแต่ไม่ทันการณ์ เขารู้สึกเหมือนเหยียบลงบนบางสิ่งจึงก้มตัวลงหยิบแผ่นอักขระหยางขึ้นมา... เป็นแผ่นอักขระหยางแผ่นเดียวกับที่เยี่ยฉวนใช้ทำร้ายปีศาจเฒ่าจนบาดเจ็บสาหัสไม่ผิดแน่ เขารู้สึกไม่คุ้นชินเมื่อมองแวบแรก ดูเหมือนว่าอักษรบนแผ่นอักขระนี้จะมีจำนวนมากกว่าแผ่นอักขระที่บิดาของเขาเขียนขึ้น แต่ชายร่างใหญ่ไม่มีเวลาพินิจดูให้ถี่ถ้วน เขารีบเก็บมันไว้และออกเดินทางไปยังทิศตะวันออกพร้อมกองทัพเผ่ามู่ภายใต้การนำของเฒ่ามู่ผู้เป็นบิดา