74 - ของวิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
74 - ของวิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
“ข้ามีความสัมพันธ์บางอย่างกับสหายน้อยจริงๆ”
“*มาเถอะข้าจะเสี่ยงกับชีวิตกับเจ้าเอง……” เย่ฟ่านหน้าแดงด้วยความโกรธ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่านักพรตอ้วนจะวนเวียนอยู่รอบๆตัวเขานี่เอง
“มีเพียงผีเท่านั้นที่จะมีความผูกพันกับเจ้า!”
“เจ้ากับข้า โชคชะตากำหนดไว้จริงๆ”
ใบหน้าของนักพรตอ้วนนั้นสงบในขณะที่เขางอนิ้วและเริ่มนับเสียงดัง
“ดูสิ ในช่วงเวลาสั้นๆเราได้พบสามครั้งแล้ว พูดได้ยังไงว่าเราไม่มีความสัมพันธ์ นี่คือเจตจำนงของสวรรค์!”
“ความประสงค์ของสวรรค์ปู่ของเจ้า!”
เย่ฟ่านยืนขึ้นในตอนแรกเขาต้องการที่จะสู้ตาย แต่สุดท้ายเมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว เย่ฟ่านก็ไม่รอช้าเขารีบโยนแหวนวงนั้นออกไปด้านนอกทันที
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถครอบครองมันได้ แต่เขาก็ไม่ยินดีที่จะมอบมันให้กับผู้ฝึกคนที่เต็มไปด้วยความโลภอย่างเช่นนักพรตอ้วนคนนี้
ความเร็วในการตอบสนองของนักพรตอ้วนนั้นตรงกันข้ามกับรูปร่างของเขาอย่างสิ้นเชิง และด้วยเสียง “วูช” เขาได้พุ่งออกไปและแหวนนิ้วโป้งสีม่วงก็ตกเข้าสู่มือเขาอีกครั้ง เขาหัวเราะเสียงดังแล้วกล่าวว่า
“เจตจำนงของสวรรค์! นี่เป็นเจตจำนงของสวรรค์อย่างแน่นอน!”
เย่ฟ่านรู้สึกจริงๆว่าเขาอาจจะพ่นเลือดออกมาได้ทุกเมื่อ คนอ้วนคนนี้เป็นคนที่น่ารังเกียจจริงๆ
“นักพรต เจ้าไม่คิดว่าทำเกินไปหรือ?” เส้นเลือดปูดโปนบนหน้าผากของเย่ฟ่านในขณะที่เขาพูดต่อ “แม้ว่าเจ้าจะมีความแข็งแกร่งแต่เจ้าก็ควรหยุดเมื่อเห็นสมควร”
“นักพรตคนนี้ทอมตัวอยู่เสมอ วัตถุทางโลกแทบไม่เคยทำให้ใจข้าสั่นไหว หัวใจของข้าบริสุทธิ์เหมือนกับดวงจันทร์อันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนท้องฟ้า”
เมื่อเห็นการแสดงออกที่ร่าเริงของเขา ใบหน้าของเย่ฟ่านก็มืดมนในขณะที่เขาพูดว่า
“ในเมื่อเจ้ามีวินัยในตนเองมาก โปรดส่งคืนสิ่งนั้นให้ข้า!”
“นักพรตย่อมน้อมรับความเมตตา ในเมื่อข้าช่วยให้เจ้าพ้นจากภัยพิบัติดังนั้นค่าก็ควรจะได้รับอะไรบางอย่างบ้าง”
นักพรตอ้วนมีสีหน้าแสดงความเมตตา ดูเหมือนซื่อสัตย์และตรงไปตรงมามากในขณะที่เขาสาธยายคุณความดีของเขาอยู่ตรงนั้น
“บริสุทธิ์สดใสบิดาเจ้า….. ข้าขอสาปแช่งเจ้าพบเจอแต่ความโชคร้าย!” เย่ฟ่านกัดฟันในขณะที่เขาพูดต่อ “นักพรตเจ้าชื่ออะไร?”
“ต้วนเต๋อ”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าขาดศีลธรรม ต้วนเต๋อศีลธรรมเสื่อมทราม เห็นได้ชัดว่าเจ้าทำลายความสมบูรณ์ทางศีลธรรมทั้งหมดของเจ้าแล้ว!”
เย่ฟ่านหันกลับก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับสาปแช่งไม่หยุด
“เจ้าอ้วนที่แซ่ต้วน ข้าขอสาปแช่งให้ลูกชายของเจ้าไม่มีองคชาติ!”
“นักพรตคนนี้ไม่มีความตั้งใจที่จะแต่งงานอยู่แล้ว”
“เจ้าเดินตามข้ามาทำไม เจ้าขโมยสมบัติของค่าไฟสามชิ้นแล้วยังไม่พอใจอีกหรือ?”
“ข้ารู้สึกสนิทสนมกับสหายน้อยเป็นอย่างมาก จึงต้องการจะทำความรู้จักเจ้าให้มากกว่านี้……” นักพรตอ้วนตอบอย่างร่าเริง
“เจ้าคนแซ่ต้วน เจ้ารังแกข้ามากเกินไปแล้ว!”
ใบหน้าของเย่ฟ่านมืดมนในขณะที่เขาเดินไปข้างหน้าและไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับนักพรตอ้วนคนนี้อีก
“กรรมสะสมแล้วสลายไป ดูเหมือนว่านักพรตผู้ต่ำต้อยและสหายน้อยจะสิ้นสุดกรรมกันที่นี่ ส่วนเรื่องในอนาคตนั้นเป็นเรื่องที่ลี้ลับบางทีเราอาจได้พบกันอีกครั้ง” นักพรตอ้วนหัวเราะในขณะที่เขาพูดต่อ
“ตอนนี้นักพรตผู้ต่ำต้อยรู้สึกว่าหน้าผาหินแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับข้าดังนั้นข้าจึงตัดสินใจจะอยู่ที่นี่ต่อเจ้าไปได้แล้ว”
เย่ฟานตกใจมาก เขาไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าอ้วนที่ไร้ยางอายจะมีความเฉลียวฉลาดถึงขนาดนี้ เขายังตระหนักว่าหน้าผาหินนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เย่ฟานเข้าใจสิ่งนี้จึงหยุดฝีเท้าของเขาทันที
“สหายน้อยหากตัดสินใจอยู่ต่อเจ้าจะได้รับผลประโยชน์บางประการอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามแม้วันนี้จะเป็นขุมทรัพย์ขนาดใหญ่
แต่ด้วยการฝึกฝนของเจ้ามีเพียงจะนำความตายมาสู่ตัวเองเท่านั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนในโลกนี้จะใจดีเหมือนข้า เรื่องนี้เจ้าต้องเรียนรู้อีกมาก”
“บูม!”
ในขณะนั้นผู้เชี่ยวชาญห้าคนได้เริ่มการโจมตีอีกครั้ง เนื่องจากพลังศักดิ์สิทธิ์ที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้นเปรียบเสมือนจักรวาลขนาดใหญ่บนท้องฟ้าพังทลายลงมา
ผู้ฝึกฝนทุกคนตัวสั่นและหลายคนสูญเสียการควบคุมรุ้งลึกลับของพวกเขาและพวกเขาก็ตกลงมาจากท้องฟ้าเพราะไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเอง
นี่คือพลังของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า เมื่อพวกเขาใช้พลังศักดิ์สิทธิ์สามารถทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือน สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระดับต่ำกว่าไม่สามารถที่จะต่อต้านความกดดันนี้ได้
“บูม!”
การจู่โจมครั้งสุดท้ายจากห้าผู้เชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้ทำให้สุสานของจักรพรรดิปีศาจแตกเป็นเสี่ยงๆ การระเบิดของพลังปราณปีศาจกระจายไปทั่วท้องฟ้า สร้างความหายนะไปทุกทิศทุกทาง
วังโบราณอันยิ่งใหญ่ส่งเสียงครวญครางและพังทลายลงทั้งหมด
ในเวลาเดียวกันแสงแดดหลากสีจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง อาวุธจิตวิญญาณทั้งหมดที่ฝังอยู่ที่นี่ล้วนพุ่งออกไปทุกที่
ในหมู่พวกมันมีเส้นแสงที่พร่างพรายมากกว่าสายอื่นๆ มันเป็นแสงที่สะดุดตาและแวววาวจะน่าเหลือเชื่อ ในตอนนี้แม้ว่าจะเป็นช่วงค่ำคืนแต่แสงของมันก็ทำให้บริเวณรอบๆสว่างไสวราวกับช่วงกลางวัน
ยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้ห้าคนต่างก็ใช้ความสามารถอันน่าทึ่งของพวกเขาในขณะที่พวกเขาเหยียดมือใหญ่ออกมาและใครบางคนก็สามารถคว้าสมบัติชิ้นนั้นไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีอาวุธทางจิตวิญญาณที่มีความสดใสทัดเทียมกันอยู่สองสามดวงที่สามารถหลุดรอดจากมือของพวกเขาและล่องลอยออกไปด้านนอก
ยอดฝีมือทั้งห้าไม่ได้ไล่ตามแสงเท่านั้นไปและพยายามปกป้องพื้นที่โดยรอบเพื่อไม่ให้อาวุธจิตวิญญาณชิ้นอื่นสามารถหลบรอดออกไปได้อีก
ในขณะเดียวกันสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาก็กวาดออกไปทุกทิศทางโดยต้องการทราบว่ายังมีอาวุธพิเศษชิ้นใดที่หลบรอดออกจากสายตาพวกเขาหรือไม่
คลื่นพลังที่กว้างใหญ่และประเมินค่าไม่ได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอันไกลโพ้น ในขณะที่ผู้ฝึกฝนทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นบ้า และพยายามไล่ตามอาวุธวิเศษเหล่านั้นออกไปโดยไม่ได้หวาดกลัวต่ออันตราย
หลุมฝังศพของจักรพรรดิปีศาจได้พังทลายลงอย่างทั่วถึงและเศษหินก็พุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง สิ่งที่เหลืออยู่คือคลื่นของพลังงานที่พร่างพราย
“สมบัติล้ำค่าที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์แห่งดินแดนรกร้างตะวันออกเหตุใดจึงไม่ปรากฏ”
“อาวุธของจักรพรรดิอสูรผู้ยิ่งใหญ่ มีข่าวลือว่าไม่ด้อยกว่าสมบัติล้ำค่าที่สุดของเรา ทำไมมันถึงไม่ปรากฏขึ้นด้วยล่ะ?”
ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้ห้าคนแสดงสีหน้างุนงงขณะที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังของพวกเขายังคงกวาดออกไปด้านนอกอย่างต่อเนื่อง
“บูม!”
ในขณะนี้ จากภายในแสงระยิบระยับที่ถูกยอดฝีมือทั้งห้าควบคุมไว้ก็มีบางสิ่งบางอย่างพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความพยายามหลบหนีออกไปอย่างหักโหม
มันเป็นแสงสีทองที่สว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆ!
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ธรรมดาทั้งห้าก็ยังมีปัญหาในการไล่ตามมันไป พวกเขาไม่กล้าจ้องมองไปที่ของชิ้นนั้นตรงๆ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นปฏิกิริยาของพวกเขาก็เร็วมาก
ทุกคนปิดดวงตาของตัวเองลงและใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ในการไล่ตามของวิเศษชิ้นนั้น
“ชิ!”
แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องผ่านท้องฟ้า มีพลังงานที่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้ และท้องฟ้าทั้งหมดก็สั่นสะท้าน
ความผันผวนอันน่าสะพรึงกลัวนั้นกว้างใหญ่ไพศาลจนประเมินค่าไม่ได้ และมันสามารถโจมตียอดฝีมือทั้งห้าจนต้องล่าถอยกลับลงมาพื้นดิน
ในขณะเดียวกันอาวุธวิเศษที่พวกเขาครอบครองอยู่ก็ถูกทำลายจนสีสันหม่นหมองลงอย่างชัดเจน!