80Y-ตอนที่ 95 รอฝนอีกครั้ง?
หลังจากได้รับกุญแจจากองค์หญิงหยูหลินแล้ว จักรพรรดิเต๋อ ก็ไม่ได้รีบไปยังตำหนักเย็นในทันที เขาไม่ได้บอกใครในเรื่องนี้และกลับไปที่พระราชวังต้องห้ามเพื่อจัดการงานราชกิจ
ในช่วงครึ่งหลังของคืนนั้น จักรพรรดิเต๋อได้ออกจากพระราชวังต้องห้ามอย่างเงียบ ๆ และ มุ่งหน้าไปยังตำหนักเย็น
ตอนดึกเขาได้เปิดประตูของตำหนักเย็น
เมื่อประตูเปิดออกมา จักรพรรดิเต๋อ ก็ยังไม่ได้เข้าไป
เขาได้โค้งคำนับอยู่ที่ทางเข้าและได้ตะโกนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“หลานของคาระวะเสด็จปู่ใหญ่”
หลินจิ่วเฟิง และ เจ้าแมวขาวที่กำลังฝึกฝนได้ลืมตาขึ้น
“หลานของเจ้ามาที่นี่”เจ้าแมวขาวมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง
หลินจิ่วเฟิง รู้สึกงุนงง“เขารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่?”
จักรพรรดินีพระมารดาบอกเขาหรือไม่?
ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น…
หากจักรพรรดินีพระมารดา บอกจักรพรรดิเต๋อเกี่ยวกับเรื่องของเขา นางคงทำเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อนแล้ว และ คงไม่ยินยอมให้มีเรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ขององค์หญิงหยูหลินเกิดขึ้น
ทำไมต้องรอจนถึงตอนนี้?
หลินจิ่วเฟิง ต้องการจะเมินเฉยต่อคำพูดของเขา แต่จักรพรรดิเต๋อได้เรียกเขาว่า ‘เสด็จปู่ใหญ่’ ด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจมาก แสดงว่าอีกฝ่ายรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่?”หลินจิ่วเฟิงกล่าวถามด้วยความสงสัย
ด้านนอกตำหนักเย็น การแสดงออกของจักรพรรดิเต๋อได้สั่นสะท้าน
เขาได้ดึงตัวเองเข้าหากันและตอบกลับ“นั่นเป็นเพราะว่าข้าได้ตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อหลาย 10 ปีก่อน กระทั่งข้อมูลในที่เก็บพระธาตุของเสด็จพ่อและเสด็จปู่ที่ทิ้งเอาไว้”
“ฉลาดไม่เบา”เจ้าแมวขาวได้ชื่นชม
หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้คาดหวังเลยว่าจักรพรรดิเต๋อจะค้นพบตัวเองผ่านการคาดเดาต่าง ๆ
สิ่งนี้ทำให้ หลินจิ่วเฟิง เองก็ชื่นชมอีกฝ่าย
“ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาไม่ใช่ว่าสงบสุขดีหรอกเหรอ เหตุใดเจ้าถึงมองหาข้า?”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายฉลาดมาก หลินจิ่วเฟิง ต้องการถามจุดประสงค์ที่มาที่นี่
เกิดอะไรขึ้นเหตุใดจักรพรรดิเต๋อถึงมาที่นี่เพื่อตามหาเขา?
แทนที่จะเป็นจักรพรรดินีพระมารดา
ท้ายที่สุดจักรพรรดินีพระมารดาก็เป็นเพียงคนเดียวที่รู้ถึงการดำรงอยู่ของเขา
แต่นางไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ
จักรพรรดิเต๋อได้บอกเล่าเหตุการณ์ล่าสุดของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาและเรื่องราวเกี่ยวกับ 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าอสูรและปีศาจ
คนหนึ่งได้ยืนอยู่หน้าตำหนักเย็นส่วนอีกคนได้ยืนอยู่หน้าลานที่พัก
เสียงของพวกเขาไม่ดังแต่ทั้งสองฝ่ายกลับได้ยินซึ่งกันและกัน
หลังจากจักรพรรดิเต๋อพูดถึง 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่เสร็จแล้ว เขาก็คุกเข่าทั้งสองข้างด้วยท่าทีอ้อนวอน
“เสด็จปู่ใหญ่,เสด็จปู่จักรพรรดิและเสด็จพ่อ ได้ส่งผ่านราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาจนมาถึงมือของข้า แม้จะไม่ต้องพูดถึงเรื่องการบุกเบิกดินแดนใหม่ อย่างน้อยหน้าที่ของข้าก็คือปกป้องรากฐานของบรรพบุรุษไม่ให้สูญเสียไปแม้แต่ดินแดนเดียว”
“แต่ 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งเกินไป…”
“พลังของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ไม่ใช่คู่มือของพวกเขา หากข้าต้องสละดินแดนของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ข้าก็จะกลายเป็นคนบาปทันที แม้ต้องตายหมื่นครั้งก็ไม่อาจชดใช้ความผิดได้”
“ข้าไม่อาจกลายเป็นคนบาปเช่นนั้นได้ หลานผู้อกตัญญูคนนี้ ได้มาเยือนหน้าบ้านท่านอย่างไม่เต็มใจทั้งนี้ยังรบกวนเวลาฝึกฝนของเสด็จปู่ใหญ่อีก แต่ข้าหวังว่าเสด็จปู่ใหญ่จะช่วยเหลือราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ปกป้องดินแดนที่บรรพบุรุษของเราสืบทอดกันมา…”
“ด้วยวิธีนี้ เสด็จปู่ และ เสด็จพ่อ ในปรโลกจะต้องรู้สึกดีใจเป็นแน่”
จักรพรรดิเต๋อ ได้กล่าวขอร้องด้วยความจริงใจ
เมื่อ 5 ปีก่อน เขายังเป็นเพียงเด็กน้อยที่ไม่รู้จักความรับผิดชอบ และ มุ่งเน้นไปที่เส้นทางการบ่มเพาะพลังของเขาเท่านั้น
แต่ตอนนี้ อีกฝ่ายมีหน้าที่ที่ต้องแบกรับในฐานะจักรพรรดิ
หลินจิ่วเฟิง ที่ยืนอยู่ในลานที่พักเขามองไปที่กำแพงที่ปกคลุมไปด้วยรอยกระบี่
สายตาของเขาจางลงเมื่อเขามองผ่านรอยบนกำแพงเหล่านั้น
จากนั้นเขาก็มองเห็นจักรพรรดิเต๋อที่คุกเข่า
เขารู้สึกประทับใจ
หลินจิ่วเฟิง จำได้ชัดว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ราชาแห่งกองกำลังเหยี่ยวมังกร ต้องการยื่นเงื่อนไขอย่างการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์เพื่อรักษาสันติภาพกับราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา
เจ้าหน้าที่ในราชสำนักต่างมีข้อพิพาทร้ายแรงในเรื่องนี้
และในฐานะพี่ชายและจักรพรรดิ จักรพรรดิเต๋อไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้
อีกฝ่ายไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงและพยายามซ่อนตัวอยู่ในพระราชวังเพื่อฝึกฝนอย่างขันแข็ง
ถ้าไม่ใช่เพราะการมีอยู่ของ หลินจิ่วเฟิง องค์หญิงหยูหลิน คงไม่สามารถหนีหายนะครั้งนั้นได้
จักรพรรดิเต๋อเมื่อ 5 ปีที่แล้วเป็นเพียงเด็กน้อยจริง ๆ
แต่ 5 ปีต่อมาเขาได้กลายเป็นบุรุษที่มีความรับผิดชอบในฐานะจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา
เขารู้ว่าด้วยความแข็งแกร่งของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ไม่มีทางต้านทานการโจมตีของ 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ ดังนั้นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็คือการชดเชยพวกเขาด้วยดินแดนจำนวนมากเพื่อระงับความโกรธของพวกเขา
แต่จักรพรรดิเต๋อ รู้ว่าหากตนเองทำเช่นนั้นเขาจะกลายเป็นคนบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงศ์ตระกูลของเขาเอง ดังนั้นด้วยความอับจนหนทางอีกฝ่ายจึงมองหา หลินจิ่วเฟิง
เขาไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเองและคุกเข่าลงร้องขอความช่วยเหลืออย่างจริงใจ
แต่ทำไมสิ่งที่เรียกว่า 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ จึงฟังดูคุ้นเคย?
หลินจิ่วเฟิง มั่นใจว่าเขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาจากใครบางคน
“7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่…”เจ้าแมวขาวได้ชี้ลงไปที่ใต้ดินด้วยเล็บของมัน
หลินจิ่วเฟิง จำได้ทันทีว่ามันคือ เทพปีศาจ ที่พ่ายแพ้แก่เขาในวันนั้น
เทพปีศาจผู้นั้นกล่าวว่าตนเองคือ 1 ใน 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ราชาปีศาจผิงเทียน
หลินจิ่วเฟิง กล่าวถามด้วยความสงสัย“7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่พวกนี้คือใคร?”
เมื่อได้ยินคำถามของ หลินจิ่วเฟิง จักรพรรดิเต๋อรู้สึกตื่นเต้น
ตราบใดที่ หลินจิ่วเฟิง ยินดีรับฟัง เขาก็ยังมีความหวังที่จะได้รับความช่วยเหลือ
“พวกเขาคือ มหาปราชญ์แห่งพื้นสมุทร-ราชาปีศาจเจียว ,มหาปราชญ์แห่งความโกลาหล-ราชาปีศาจต้าเผิง,มหาปราชญ์แห่งขุนเขา-ราชาปีศาจกุ้ย,มหาปราชญ์แห่งผืนนภา-ราชาปีศาจหยวน,มหาปราชญ์แห่งชุดขาว ไป่จื่อหลง , มหาปราชญ์แห่งห้วงฝัน หยุนซานไห่,มหาปราชญ์จุติสวรรค์-ราชาปีศาจผิงเทียน”
จักรพรรดิเต๋อได้ระบุชื่อของเขา
เมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับ 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ การแสดงออกบนใบหน้าของเขาก็เป็น ‘ตามที่คาดเอาไว้’
มหาปราชญ์จุติสวรรค์-ราชาปีศาจผิงเทียน 1 ใน 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าอสูรและปีศาจ ได้ถูกปราบปรามในถ้ำปีศาจแห่งนี้
เขาได้พ่ายแพ้แก่ หลินจิ่วเฟิง ทำให้ตัวเขาได้รับการลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง
และได้รับ ทักษะเคลื่อนกระบี่!
และในคืนวันเดียวกัน จักรพรรดิเต๋อก็มาขอความช่วยเหลือ โดยแจ้ง หลินจิ่วเฟิง เกี่ยวกับ สมาชิกคนอื่น ๆ ของ 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่กำลังมาที่เมืองหลวงราชวงศ์เพื่อขอดินแดน
หลินจิ่วเฟิง มองไปที่ จักรพรรดิเต๋อและตอบกลับ“กลับไปตรวจสอบว่า 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่นี้ จะมากันกี่คน และ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน และที่สำคัญ อย่าได้แพร่งพรายเรื่องของข้าออกไป”
จักรพรรดิเต๋อ รู้สึกยินดีในทันที
เขารู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก
เขารู้สึกราวกับว่าภาระอันยิ่งใหญ่ของเขาได้ถูกยกออกจากอก
จักรพรรดิเต๋อรีบโค้งตัวลงสองสามครั้งและตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้น“ข้าจะรีบกลับไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดและจะกลับมารายงานที่นี่”
“อืม”หลินจิ่วเฟิงได้พยักหน้าตอบรับ
จักรพรรดิเต๋อ ได้ลุกขึ้นก่อนที่จะปิดประตูตำหนักเย็นอย่างระวังและกลับไปสืบสวน
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้เห็นรูปร่างของ หลินจิ่วเฟิง ด้วยตัวเอง
แต่หลังจากได้ยินเสียงของ หลินจิ่วเฟิง เขาก็รู้สึกวางใจอย่างมาก
นี่อาจะเป็นเพราะพวกเขามีสายเลือดเดียวกันก็เป็นได้
ด้วยเหตุผลบางอย่าง คำพูดของ หลินจิ่วเฟิง เพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอที่จะระงับความตื่นตระหนกในใจทั้งหมดของเขา
…
หลังจากจักรพรรดิเต๋อจากไป หลินจิ่วเฟิง และ เจ้าแมวขาวก็ได้มองหน้ากัน
“เจ้าคิดจะสอดมือเข้าไปยุ่งเรื่องนี้งั้นหรือไม่?”เจ้าแมวขาวได้กล่าวถาม
“ถูกต้อง ถ้าราชสำนักเริ่มที่จะสละดินแดนให้พวกเขา ความตายก็คงคืบใกล้เข้ามาแล้ว”หลินจิ่วเฟิง ได้พยักหน้า
เมื่อมีครั้งแรก ก็ย่อมมีครั้งที่สอง และ สาม จนกระทั่งนับไม่ถ้วน
หลินจิ่วเฟิง ไม่ต้องการให้ ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ผู้ซึ่ง จักรพรรดิหยวน และ จักรพรรดิหมิง ที่ได้ปฏิรูปอย่างยากลำบาก ต้องมาพังทลายหลังจากผ่านไปเพียงสามชั่วอายุคน
“คิดจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”เจ้าแมวขาวได้นอนบนไหล่ของ หลินจิ่วเฟิง และกล่าวถาม
หลินจิ่วเฟิง ได้ครุ่นคิดอยู่ครู่นึง
จากนั้นเขาก็ตอบกลับ“บางที...ข้าอาจจะไม่ต้องเข้าไปหยุด 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ด้วยตนเอง”
“ถ้าเจ้าไม่ปรากฏตัวแล้วใครจะหยุด 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่?”เจ้าแมวขาวกล่าวถามด้วยความสับสน
7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าอสูรและปีศาจไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรพลังขั้นเทพมนุษย์
หลินจิ่วเฟิง ได้ยิ้มและตอบกลับ“อันที่จริง ก็ไม่มีใครในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาที่ต่อกรกับพวกเขาได้ แต่ก็มีใครบางคนที่สามารถทำได้”
“ใครกัน?”เจ้าแมวขาวกล่าวถามด้วยความสงสัย
สายตาของมันมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง อย่างคาดหวัง
เงาสะท้อนในดวงตาของมันไม่เพียงแต่เป็นลักษณะของดวงดาวเท่านั้น ยังมี ภาพของ หลินจิ่วเฟิง ด้วยเช่นเดียวกัน
“ไม่ใช่ว่าเช้านี้เจ้าเห็นเขาไปแล้วหรอกเหรอ”หลินจิ่วเฟิงได้ตอบกลับ
“มหาปราชญ์จุติสวรรค์-ราชาปีศาจผิงเทียน?”เจ้าแมวขาวจำได้
ราชาปีศาจผิงเทียน เป็น 1 ใน 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
“ข้ากำลังคิดว่าจะปล่อยเขาออกมาให้เขาไปแก้ไขปัญหานี้ให้กับข้า”หลินจิ่วเฟิง ได้บอกเจ้าแมวขาวถึงแผนการของเขา
“เจ้ากำลังสร้างปัญหาให้ตัวเอง ปีศาจเหล่านั้นไม่ควรจะล้อเล่นด้วย เมื่อพวกเขาได้ดูดซับพลังงานทางโลก ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะฟื้นคืนกลับมาอย่างก้าวกระโดด”เจ้าแมวขาวรู้สึกกังวล
“ไม่เป็นไร ตราบใดที่ข้าอยู่ใกล้ ๆ เมืองหลวงราชวงศ์ ไม่มีทางที่ ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาจะเกิดความโกลาหล!”หลินจิ่วเฟิง ค่อนข้างมั่นใจ
“แล้วเหตุใด เจ้าถึงไม่หยุด 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยตนเอง?”เจ้าแมวขาวค่อนข้างสงสัยในเรื่องนี้
“ตอนนี้ข้าไม่สะดวกที่จะออกหน้าเอง เพราะข้ากำลังรอฝนฤดูใบไม้ผลิแรกอยู่!”
“รอฝนอีกแล้ว?”เจ้าแมวขาวมองไปที่อีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ
หลินจิ่วเฟิง เพียงแค่ยิ้ม สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไร