ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 94 รับกุญแจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 96 เร่งความเร็ว

80Y-ตอนที่ 95 รอฝนอีกครั้ง?


หลังจากได้รับกุญแจจากองค์หญิงหยูหลินแล้ว จักรพรรดิเต๋อ ก็ไม่ได้รีบไปยังตำหนักเย็นในทันที เขาไม่ได้บอกใครในเรื่องนี้และกลับไปที่พระราชวังต้องห้ามเพื่อจัดการงานราชกิจ

ในช่วงครึ่งหลังของคืนนั้น จักรพรรดิเต๋อได้ออกจากพระราชวังต้องห้ามอย่างเงียบ ๆ และ มุ่งหน้าไปยังตำหนักเย็น

ตอนดึกเขาได้เปิดประตูของตำหนักเย็น

เมื่อประตูเปิดออกมา จักรพรรดิเต๋อ ก็ยังไม่ได้เข้าไป

เขาได้โค้งคำนับอยู่ที่ทางเข้าและได้ตะโกนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“หลานของคาระวะเสด็จปู่ใหญ่”

หลินจิ่วเฟิง และ เจ้าแมวขาวที่กำลังฝึกฝนได้ลืมตาขึ้น

“หลานของเจ้ามาที่นี่”เจ้าแมวขาวมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง

หลินจิ่วเฟิง รู้สึกงุนงง“เขารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่?”

จักรพรรดินีพระมารดาบอกเขาหรือไม่?

ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น…

หากจักรพรรดินีพระมารดา บอกจักรพรรดิเต๋อเกี่ยวกับเรื่องของเขา นางคงทำเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อนแล้ว และ คงไม่ยินยอมให้มีเรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ขององค์หญิงหยูหลินเกิดขึ้น

ทำไมต้องรอจนถึงตอนนี้?

หลินจิ่วเฟิง ต้องการจะเมินเฉยต่อคำพูดของเขา แต่จักรพรรดิเต๋อได้เรียกเขาว่า ‘เสด็จปู่ใหญ่’ ด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจมาก แสดงว่าอีกฝ่ายรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่?”หลินจิ่วเฟิงกล่าวถามด้วยความสงสัย

ด้านนอกตำหนักเย็น การแสดงออกของจักรพรรดิเต๋อได้สั่นสะท้าน

เขาได้ดึงตัวเองเข้าหากันและตอบกลับ“นั่นเป็นเพราะว่าข้าได้ตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อหลาย 10 ปีก่อน กระทั่งข้อมูลในที่เก็บพระธาตุของเสด็จพ่อและเสด็จปู่ที่ทิ้งเอาไว้”

“ฉลาดไม่เบา”เจ้าแมวขาวได้ชื่นชม

หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้คาดหวังเลยว่าจักรพรรดิเต๋อจะค้นพบตัวเองผ่านการคาดเดาต่าง ๆ

สิ่งนี้ทำให้ หลินจิ่วเฟิง เองก็ชื่นชมอีกฝ่าย

“ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาไม่ใช่ว่าสงบสุขดีหรอกเหรอ เหตุใดเจ้าถึงมองหาข้า?”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายฉลาดมาก หลินจิ่วเฟิง ต้องการถามจุดประสงค์ที่มาที่นี่

เกิดอะไรขึ้นเหตุใดจักรพรรดิเต๋อถึงมาที่นี่เพื่อตามหาเขา?

แทนที่จะเป็นจักรพรรดินีพระมารดา

ท้ายที่สุดจักรพรรดินีพระมารดาก็เป็นเพียงคนเดียวที่รู้ถึงการดำรงอยู่ของเขา

แต่นางไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ

จักรพรรดิเต๋อได้บอกเล่าเหตุการณ์ล่าสุดของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาและเรื่องราวเกี่ยวกับ 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าอสูรและปีศาจ

คนหนึ่งได้ยืนอยู่หน้าตำหนักเย็นส่วนอีกคนได้ยืนอยู่หน้าลานที่พัก

เสียงของพวกเขาไม่ดังแต่ทั้งสองฝ่ายกลับได้ยินซึ่งกันและกัน

หลังจากจักรพรรดิเต๋อพูดถึง 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่เสร็จแล้ว เขาก็คุกเข่าทั้งสองข้างด้วยท่าทีอ้อนวอน

“เสด็จปู่ใหญ่,เสด็จปู่จักรพรรดิและเสด็จพ่อ ได้ส่งผ่านราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาจนมาถึงมือของข้า แม้จะไม่ต้องพูดถึงเรื่องการบุกเบิกดินแดนใหม่ อย่างน้อยหน้าที่ของข้าก็คือปกป้องรากฐานของบรรพบุรุษไม่ให้สูญเสียไปแม้แต่ดินแดนเดียว”

“แต่ 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งเกินไป…”

“พลังของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ไม่ใช่คู่มือของพวกเขา หากข้าต้องสละดินแดนของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ข้าก็จะกลายเป็นคนบาปทันที แม้ต้องตายหมื่นครั้งก็ไม่อาจชดใช้ความผิดได้”

“ข้าไม่อาจกลายเป็นคนบาปเช่นนั้นได้ หลานผู้อกตัญญูคนนี้ ได้มาเยือนหน้าบ้านท่านอย่างไม่เต็มใจทั้งนี้ยังรบกวนเวลาฝึกฝนของเสด็จปู่ใหญ่อีก แต่ข้าหวังว่าเสด็จปู่ใหญ่จะช่วยเหลือราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ปกป้องดินแดนที่บรรพบุรุษของเราสืบทอดกันมา…”

“ด้วยวิธีนี้ เสด็จปู่ และ เสด็จพ่อ ในปรโลกจะต้องรู้สึกดีใจเป็นแน่”

จักรพรรดิเต๋อ ได้กล่าวขอร้องด้วยความจริงใจ

เมื่อ 5 ปีก่อน เขายังเป็นเพียงเด็กน้อยที่ไม่รู้จักความรับผิดชอบ และ มุ่งเน้นไปที่เส้นทางการบ่มเพาะพลังของเขาเท่านั้น

แต่ตอนนี้ อีกฝ่ายมีหน้าที่ที่ต้องแบกรับในฐานะจักรพรรดิ

หลินจิ่วเฟิง ที่ยืนอยู่ในลานที่พักเขามองไปที่กำแพงที่ปกคลุมไปด้วยรอยกระบี่

สายตาของเขาจางลงเมื่อเขามองผ่านรอยบนกำแพงเหล่านั้น

จากนั้นเขาก็มองเห็นจักรพรรดิเต๋อที่คุกเข่า

เขารู้สึกประทับใจ

หลินจิ่วเฟิง จำได้ชัดว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ราชาแห่งกองกำลังเหยี่ยวมังกร ต้องการยื่นเงื่อนไขอย่างการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์เพื่อรักษาสันติภาพกับราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา

เจ้าหน้าที่ในราชสำนักต่างมีข้อพิพาทร้ายแรงในเรื่องนี้

และในฐานะพี่ชายและจักรพรรดิ จักรพรรดิเต๋อไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้

อีกฝ่ายไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงและพยายามซ่อนตัวอยู่ในพระราชวังเพื่อฝึกฝนอย่างขันแข็ง

ถ้าไม่ใช่เพราะการมีอยู่ของ หลินจิ่วเฟิง องค์หญิงหยูหลิน คงไม่สามารถหนีหายนะครั้งนั้นได้

จักรพรรดิเต๋อเมื่อ 5 ปีที่แล้วเป็นเพียงเด็กน้อยจริง ๆ

แต่ 5 ปีต่อมาเขาได้กลายเป็นบุรุษที่มีความรับผิดชอบในฐานะจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา

เขารู้ว่าด้วยความแข็งแกร่งของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ไม่มีทางต้านทานการโจมตีของ 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ ดังนั้นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็คือการชดเชยพวกเขาด้วยดินแดนจำนวนมากเพื่อระงับความโกรธของพวกเขา

แต่จักรพรรดิเต๋อ รู้ว่าหากตนเองทำเช่นนั้นเขาจะกลายเป็นคนบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงศ์ตระกูลของเขาเอง ดังนั้นด้วยความอับจนหนทางอีกฝ่ายจึงมองหา หลินจิ่วเฟิง

เขาไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเองและคุกเข่าลงร้องขอความช่วยเหลืออย่างจริงใจ

แต่ทำไมสิ่งที่เรียกว่า 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ จึงฟังดูคุ้นเคย?

หลินจิ่วเฟิง มั่นใจว่าเขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาจากใครบางคน

“7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่…”เจ้าแมวขาวได้ชี้ลงไปที่ใต้ดินด้วยเล็บของมัน

หลินจิ่วเฟิง จำได้ทันทีว่ามันคือ เทพปีศาจ ที่พ่ายแพ้แก่เขาในวันนั้น

เทพปีศาจผู้นั้นกล่าวว่าตนเองคือ 1 ใน 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ราชาปีศาจผิงเทียน

หลินจิ่วเฟิง กล่าวถามด้วยความสงสัย“7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่พวกนี้คือใคร?”

เมื่อได้ยินคำถามของ หลินจิ่วเฟิง จักรพรรดิเต๋อรู้สึกตื่นเต้น

ตราบใดที่ หลินจิ่วเฟิง ยินดีรับฟัง เขาก็ยังมีความหวังที่จะได้รับความช่วยเหลือ

“พวกเขาคือ มหาปราชญ์แห่งพื้นสมุทร-ราชาปีศาจเจียว ,มหาปราชญ์แห่งความโกลาหล-ราชาปีศาจต้าเผิง,มหาปราชญ์แห่งขุนเขา-ราชาปีศาจกุ้ย,มหาปราชญ์แห่งผืนนภา-ราชาปีศาจหยวน,มหาปราชญ์แห่งชุดขาว ไป่จื่อหลง , มหาปราชญ์แห่งห้วงฝัน หยุนซานไห่,มหาปราชญ์จุติสวรรค์-ราชาปีศาจผิงเทียน”

จักรพรรดิเต๋อได้ระบุชื่อของเขา

เมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับ 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ การแสดงออกบนใบหน้าของเขาก็เป็น ‘ตามที่คาดเอาไว้’

มหาปราชญ์จุติสวรรค์-ราชาปีศาจผิงเทียน 1 ใน 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าอสูรและปีศาจ ได้ถูกปราบปรามในถ้ำปีศาจแห่งนี้

เขาได้พ่ายแพ้แก่ หลินจิ่วเฟิง ทำให้ตัวเขาได้รับการลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง

และได้รับ ทักษะเคลื่อนกระบี่!

และในคืนวันเดียวกัน จักรพรรดิเต๋อก็มาขอความช่วยเหลือ โดยแจ้ง หลินจิ่วเฟิง เกี่ยวกับ สมาชิกคนอื่น ๆ ของ 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่กำลังมาที่เมืองหลวงราชวงศ์เพื่อขอดินแดน

หลินจิ่วเฟิง มองไปที่ จักรพรรดิเต๋อและตอบกลับ“กลับไปตรวจสอบว่า 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่นี้ จะมากันกี่คน และ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน และที่สำคัญ อย่าได้แพร่งพรายเรื่องของข้าออกไป”

จักรพรรดิเต๋อ รู้สึกยินดีในทันที

เขารู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก

เขารู้สึกราวกับว่าภาระอันยิ่งใหญ่ของเขาได้ถูกยกออกจากอก

จักรพรรดิเต๋อรีบโค้งตัวลงสองสามครั้งและตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้น“ข้าจะรีบกลับไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดและจะกลับมารายงานที่นี่”

“อืม”หลินจิ่วเฟิงได้พยักหน้าตอบรับ

จักรพรรดิเต๋อ ได้ลุกขึ้นก่อนที่จะปิดประตูตำหนักเย็นอย่างระวังและกลับไปสืบสวน

ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้เห็นรูปร่างของ หลินจิ่วเฟิง ด้วยตัวเอง

แต่หลังจากได้ยินเสียงของ หลินจิ่วเฟิง เขาก็รู้สึกวางใจอย่างมาก

นี่อาจะเป็นเพราะพวกเขามีสายเลือดเดียวกันก็เป็นได้

ด้วยเหตุผลบางอย่าง คำพูดของ หลินจิ่วเฟิง เพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอที่จะระงับความตื่นตระหนกในใจทั้งหมดของเขา

หลังจากจักรพรรดิเต๋อจากไป หลินจิ่วเฟิง และ เจ้าแมวขาวก็ได้มองหน้ากัน

“เจ้าคิดจะสอดมือเข้าไปยุ่งเรื่องนี้งั้นหรือไม่?”เจ้าแมวขาวได้กล่าวถาม

“ถูกต้อง ถ้าราชสำนักเริ่มที่จะสละดินแดนให้พวกเขา ความตายก็คงคืบใกล้เข้ามาแล้ว”หลินจิ่วเฟิง ได้พยักหน้า

เมื่อมีครั้งแรก ก็ย่อมมีครั้งที่สอง และ สาม จนกระทั่งนับไม่ถ้วน

หลินจิ่วเฟิง ไม่ต้องการให้ ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ผู้ซึ่ง จักรพรรดิหยวน และ จักรพรรดิหมิง ที่ได้ปฏิรูปอย่างยากลำบาก ต้องมาพังทลายหลังจากผ่านไปเพียงสามชั่วอายุคน

“คิดจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”เจ้าแมวขาวได้นอนบนไหล่ของ หลินจิ่วเฟิง และกล่าวถาม

หลินจิ่วเฟิง ได้ครุ่นคิดอยู่ครู่นึง

จากนั้นเขาก็ตอบกลับ“บางที...ข้าอาจจะไม่ต้องเข้าไปหยุด 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ด้วยตนเอง”

“ถ้าเจ้าไม่ปรากฏตัวแล้วใครจะหยุด 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่?”เจ้าแมวขาวกล่าวถามด้วยความสับสน

7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าอสูรและปีศาจไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรพลังขั้นเทพมนุษย์

หลินจิ่วเฟิง ได้ยิ้มและตอบกลับ“อันที่จริง ก็ไม่มีใครในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาที่ต่อกรกับพวกเขาได้ แต่ก็มีใครบางคนที่สามารถทำได้”

“ใครกัน?”เจ้าแมวขาวกล่าวถามด้วยความสงสัย

สายตาของมันมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง อย่างคาดหวัง

เงาสะท้อนในดวงตาของมันไม่เพียงแต่เป็นลักษณะของดวงดาวเท่านั้น ยังมี ภาพของ หลินจิ่วเฟิง ด้วยเช่นเดียวกัน

“ไม่ใช่ว่าเช้านี้เจ้าเห็นเขาไปแล้วหรอกเหรอ”หลินจิ่วเฟิงได้ตอบกลับ

“มหาปราชญ์จุติสวรรค์-ราชาปีศาจผิงเทียน?”เจ้าแมวขาวจำได้

ราชาปีศาจผิงเทียน เป็น 1 ใน 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่

“ข้ากำลังคิดว่าจะปล่อยเขาออกมาให้เขาไปแก้ไขปัญหานี้ให้กับข้า”หลินจิ่วเฟิง ได้บอกเจ้าแมวขาวถึงแผนการของเขา

“เจ้ากำลังสร้างปัญหาให้ตัวเอง ปีศาจเหล่านั้นไม่ควรจะล้อเล่นด้วย เมื่อพวกเขาได้ดูดซับพลังงานทางโลก ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะฟื้นคืนกลับมาอย่างก้าวกระโดด”เจ้าแมวขาวรู้สึกกังวล

“ไม่เป็นไร ตราบใดที่ข้าอยู่ใกล้ ๆ เมืองหลวงราชวงศ์ ไม่มีทางที่ ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาจะเกิดความโกลาหล!”หลินจิ่วเฟิง ค่อนข้างมั่นใจ

“แล้วเหตุใด เจ้าถึงไม่หยุด 7 มหาปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยตนเอง?”เจ้าแมวขาวค่อนข้างสงสัยในเรื่องนี้

“ตอนนี้ข้าไม่สะดวกที่จะออกหน้าเอง เพราะข้ากำลังรอฝนฤดูใบไม้ผลิแรกอยู่!”

“รอฝนอีกแล้ว?”เจ้าแมวขาวมองไปที่อีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ

หลินจิ่วเฟิง เพียงแค่ยิ้ม สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด