ตอนที่แล้ว411-412
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป415-416

413-414


3/10

Ep.413

“นั่นคงไม่ใช่หมาป่าปีศาจกระหายเลือดเลเวล 6 จากเทือกเขาคงถงหรอกนะ?” สีหน้าของซูเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เพราะเท่าที่เขารู้ มีสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 เพียงตัวเดียวเท่านั้นบนเกาะเฉียนหยู

ก่อนหน้านี้เขาเดินทางไปยังเทือกเขาคงถง แต่หมาป่าปีศาจกระหายเลือดได้หนีหายไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย เขาเลยฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าไอ้ที่อยู่ตรงหน้าคงไม่พ้นเป็นตัวเดียวกัน

“พวกแกทั้งสามจงประกาศชื่อมา ฉันไม่ฆ่าคนไร้นาม!”

ซูเฉินหรี่ตามอง กวาดผ่านร่างสองคนหนึ่งสัตว์ แสยะยิ้มเย็น

เมื่อต้องเผชิญกับคำพูดและท่าทีดูถูกของซูเฉิน ชายชราในชุดม่วงไม่โกรธ แต่ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าเขา กล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “เราผู้เฒ่าคือประมุขแห่งภูเขาสือจิน สมญานามผู้เที่ยงแท้สือหยาง”

สัตว์กลายพันธุ์ที่อยู่ข้างๆเขาฉีกยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวแหลม กล่าวเสียงหนักแน่นว่า “เราราชามาจากเทือกเขาคงถง เจ้าน่าจะรู้จักชื่อข้ามาก่อนแล้วนี่? ใช่ไหม?”

ชายลึกลับกล่าวเป็นคนสุดท้าย แต่คำที่เปล่งออกมากลับเป็นเสียงของกลไก “เราผู้ทรงเกียรติมีนามว่ายี่ซิน ได้ยินข่าวลือว่าเจ้าล่วงรู้ภาษาของทุกเผ่าพันธุ์ เราผู้เฒ่ามาจากเผ่าหุ่นเชิด เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างหรือไม่?”

ถูกเอ่ยถามด้วยคำถามนี้ ซูเฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เพราะแม้เขาจะมีความเชี่ยวชาญภาษาของทุกเผ่าพันธุ์ แต่ก็ไม่ได้รู้จักเผ่าพันธุ์ใดแบบเฉพาะเจาะจง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเกี่ยวกับเผ่าหุ่นเชิด

“อาศัยแค่พวกแกสามตัว คิดหรือว่าจะหยุดฉันได้? มั่นใจขนาดนั้นเชียว?” ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม

แม้เขาจะยังไม่ล่วงรู้ถึงกำลังรบของอีกฝ่าย แต่กับอีแค่สองคนหนึ่งสัตว์ เท่านี้ยังไม่นับว่าอยู่ในสายตา

ผู้เที่ยงแท้สือหยางยิ้มอีกครั้ง “คุณชายซูคือผู้มีพรสวรรค์ ครอบครองความแข็งแกร่งเป็นเลิศ แม้แต่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 7 ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณชาย ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเราสามคนคงไม่สามารถทำอะไรคุณชายได้”

“หืม?”

ซูเฉินรู้สึกได้รางๆว่าในคำพูดของอีกฝ่าย มีความนัยแฝงอยู่ แค่นเสียงเย็นว่า “พวกแกเรียกฉันมาที่นี่ เพราะมีใครหนุนหลังอยู่ล่ะสิ? งั้นก็รีบๆให้มันออกมา อย่ามัวแต่หลบซ่อน!”

“คุณชายซูเป็นคนฉลาดจริงๆ พวกเราขอตอบรับคำขอนั้นด้วยความยินดี”

ผู้ทรงเกียรติยี่ซินหัวเราะเสียงเย็น จากนั้นยกสองมือขึ้นประสาน เห็นแค่เพียงไฟสีแดงสองสายพุ่งออกมาจากในฝ่ามือเขา ไม่ช้าก็จมหายลงไปในห้องโถงใหญ่

ครืนนนนน!

เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วห้องโถงใหญ่ หลังจากนั้น ม่านพลังสีแดงเลือดก็ผุดขึ้นมาจากบริเวณขอบรอบๆห้องโถง

“นี่มันค่ายกล?” ซูเฉินอุทานเบาๆ

ก่อนหน้านี้ที่สถานชุมชนเฝิงซี เขาเคยได้เห็นค่ายกลมาแล้วครั้งหนึ่ง และปราการพลังงานสีแดงที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ น่าจะเป็นค่ายกลกับดักรูปแบบหนึ่ง

เป้าหมายของอีกฝ่ายชัดเจนมาก นั่นคือต้องการขังเขาไว้ในห้องโถงใหญ่

แต่สิ่งที่ซูเฉินไม่เข้าใจก็คือ อีกฝ่ายจะขังตัวเองเพื่ออะไร?

เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทั้งสามก็ต้องถูกขังด้วยเช่นกัน แล้วทั้งสามจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เขาได้หรอ?

ทำแบบนี้มันได้ประโยชน์อะไร?

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ผู้ทรงเกียรติยี่ซินจ้องมองซูเฉินด้วยความเย็นชา หัวเราะอย่าบ้าคลั่งและกล่าวว่า “ซูเฉิน ต่อให้วันนี้เจ้ามีความสามารถเทียมฟ้า ก็อย่าหวังว่าจะหนีรอดไปได้!”

“เลิกโม้ซักที มีความสามารถอะไรก็งัดออกมาให้ฉันดูเร็วๆ” ซูเฉินปาดจมูกเขา กล่าวอย่างสบายๆ

อีกฝ่ายมั่นใจในตัวเองซะเหลือเกิน นี่ทำให้เขาเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก

อีกอย่าง เขาอยากจะดูว่าอีกฝ่ายมีไพ่ตายอะไรกันแน่

“งั้นก็ไปลงนรกซะ!”

ผู้ทรงเกียรติยี่ซินแสยะยิ้มมืดมน แหงนศีรษะขึ้นเบื้องบน ขยับปากพึมพำ “ท่านอสูรกลืนฟ้าผู้ยิ่งใหญ่ ยี่ซินได้เตรียมอาหารอร่อยไว้รอต้อนรับท่านแล้ว ขอเชิญท่านออกมาเพลิดเพลินไปกับมัน!”

หึ่ง หึ่ง …

ในพริบตา พลันเกิดกระแสสายฟ้าแปล่บปลาบเหนือห้องโถงใหญ่ จากนั้นวังวนสีดำได้ผุดขึ้นมาจากมัน

“เหอ เหอ เหอ …”

ตามด้วยเสียงร้องฟังดูน่าขนลุกขนพอง หัวขนาดใหญ่ผลุบออกมาจากวังวน

หัวนี้มีขนาดเท่าบ้าน คอยปลดปล่อยกลิ่นอายของเลือดและความชั่วร้ายซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสัตว์กลายพันธุ์ที่แสนป่าเถื่อน ออกมา

รูปลักษณ์ของมันช่างดูดุร้ายและน่าหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก ขณะเดี๋ยวกันก็แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก

เพราะมันมีปากที่ยาวและแคบ แค่ตรงจุดนี้ก็กินพื้นที่ไปกว่าครึ่งหัวแล้ว ภายนอกเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคมสองซี่

ตรงกลางหน้าผาก คือดวงตาที่เปล่งประกายไปด้วยสีแดงสด

ภายในเต็มไปด้วยไอเลือด สามารถมองเห็นกระดูกสีขาวได้รางๆ ดูน่าขนลุกขนพอง

4/10

Ep.414

ซูเฉินเคยเห็นสัตว์อสูรมาแล้วครั้งหนึ่ง คิ้วของเขาอดขมวดเข้าหากันไม่ได้

อสูรกลืนฟ้ากระพริบตาสีเลือดของมัน กวาดมองไปรอบๆ ก่อนเบนมาหยุดลงบนร่างซูเฉิน

“พลังงานเลือดช่างทรงพลัง ,​ แก่นแท้ในกายอันเข้มข้น , ความผันผวนทางพลังเวทย์ก็รุนแรงไม่แพ้กัน นี่เจ้าเป็นผู้ฝึกตนทุกอาชีพ? อีกทั้งทุกอาชีพยังอยู่ในเลเวล 5!?”

อสูรกลืนฟ้าดูเหมือนจะมีความสามารถเช่นเดียวกับหนอนโลหิต เพียงมอง พริบตาเดียวมันก็ตระหนักถึงกำลังรบของซูเฉิน

ผู้ฝึกตนทุกอาชีพคือสิ่งที่ยากนักจะพบเจอในโลกใบนี้ ยิ่งเป็นเลเวล 5 ด้วยกันทั้งหมด มันยังไม่เคยได้ยินได้เห็นมาก่อนเลย

อสูรกลืนฟ้าอดตะลึงเล็กน้อยไม่ได้

ผู้ทรงเกียรติยี่ซินที่อยู่ข้างๆอธิบายว่า “นายท่าน เขาคือผู้ฝึกตนทุกอาชีพจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น พลังในส่วนของปรมาจารย์มนตราและผู้วิวัฒนาการ ยังเหนือกว่าในระดับเดียวกันเป็นอย่างมาก!”

“เราราชาโชคดีจริงๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้เจอกับผู้ฝึกตนทุกอาชีพที่มีระดับสูงเช่นนี้ หลังจากกลืนกินเจ้า ความแข็งแกร่งของเราราชาจะต้องเพิ่มพูนขึ้นมากอย่างแน่นอน!”

อสูรกลืนฟ้าเลียริมฝีปากตน ดวงตาสีเลือดจับจ้องไปยังซูเฉินด้วยความตะกละ

“อาศัยแค่แกน่ะหรอจะกลืนกินฉัน? อย่าพูดจาน่าเกลียดเพียงเพราะตัวแกดูอัปลักษณ์จะได้ไหม?” ซูเฉินเบ้ปาก ยิ้มเหยียดหยัน

อสูรกลืนฟ้าตรงหน้าเขา นอกจากกลิ่นอายที่ชั่วร้ายเป็นพิเศษแล้ว มันเป็นแค่สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 เท่านั้น

ด้วยระดับการฝึกตนเพียงเท่านี้ ยังคิดที่โค่นเขา? ช่างไร้สาระสิ้นดี!

“มนุษย์ จริงอยู่ที่เจ้ามีทุนมากพอให้จองหองเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง สุดท้ายเจ้ายังคงไม่ต่างจากมด”

อสูรกลืนฟ้าฉีกยิ้มน่าหวาดกลัว ดวงตาสีแดงสาดแสงสะท้อนไปมา พร้อมกับด้ายสีแดงที่ถูกพ่นออกไป ยิงตรงเข้าหาซูเฉิน

ในเวลาเดียวกัน ปากที่แคบและยาวพลันอ้าออก เสียงหวีดหวิวดังกังวานไปทั่วบริเวณ

บังเกิดสายลมกรรโชกแรง ราวกับเสียงร่ำไห้ของภูติผี

เมื่อด้ายแดงเข้าประชิด จู่ๆมันก็ระเบิดกลายเป็นหมอกสีเลือด ล่องลอยอยู่เบื้องหน้าซูเฉิน

ซูเฉินรู้สึกสั่นสะท้านไปถึงจิตวิญญาณ ความรู้สึกสับสนแล่นเข้ามาในสมองเขา แต่แล้วมันก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว

“นี่มันสิ่งชั่วร้าย?”

ซูเฉินหรี่ตาลง บ่นพึมพำกับตัวเอง

หมอกที่ละลายออกมาจากเส้นด้ายสีแดง บางทีอาจเป็นสิ่งโสมมอันชั่วร้ายที่ทำให้จิตใจสับสน

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนในเลเวล 6 คงมิแคล้วประสบเคราะห์กับสิ่งชั่วร้ายนี้ และมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเอง

หากแต่ซูเฉินมี [กายาเทพอสูรนิรันดร์ ] หมื่นพิษมิอาจย่างกราย ความโสมมทั้งปวงอย่าหมายจะเข้ามา

ต่อให้เป็นสิ่งชั่วร้ายที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ก็ไม่มีผลอะไรกับเขา

“ถูกวิชาจิตโลหิตของข้าไปแล้ว เหตุใดเจ้ายังคงสติไว้ได้อีก!?” ดวงตาของอสูรกลืนฟ้าเบิกกว้าง อุทานออกมาด้วยความตกใจ

วิชาจิตโลหิตคือหนึ่งในไพ่ตายของมัน ศัตรูในอดีตล้วนพ่ายแพ้

กระทั่งยามเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนเลเวล 7 อีกฝ่ายยังกลายเป็นเพ้อเจ้อ ไม่อาจสลัดหลุดจากห้วงภวังค์ลงได้ แล้วเหตุใดมนุษย์เลเวล 5 เบื้องหน้า ถึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย?

นี่มันจะแปลกเกินไปแล้ว น่าเหลือเชื่อเหลือเกิน

“อย่าบอกนะว่าไพ่ตายของแกมีแค่นี้? ถ้าไม่มีกลวิธีอื่นอีก ก็เตรียมตัวลงนรกได้เลย”ซูเฉินแสยะยิ้ม พร้อมดึง [ดาบเสริมมนตรา] ขึ้นมาจากถุงเก็บของอย่างช้าๆ

“คิดว่าแค่ทำลายวิชาจิตโลหิตได้ เราราชาจะไม่มีทางสู้เจ้าหรือ? ช่างไร้เดียงสา!”

อสูรกลืนฟ้าโกรธจัด หลังจากขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและร้องคำราม ปากใหญ่ของมันก็เริ่มสูบอากาศโดยรอบ ดูดกลืนอย่างรวดเร็ว

หึ่ง หึ่ง!

ทั่วบริเวณบังเกิดการสั่นสะเทือนในอากาศอย่างรุนแรง ทันใดนั้น เส้นด้ายสีดำหนาพลันปรากฏขึ้น และม้วนเข้ารัดพันรอบกายซูเฉิน

“ไม่ใช่พลังแห่งจิตวิญญาณ … ดูเหมือนจะมีความผันผวนเชิงมิติแฝงอยู่เล็กน้อย …”

ซูเฉินรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าพลังที่มองไม่เห็นกำลังพลุ่งพล่านไปทั่วบริเวณ แต่สิ่งนี้มันต่างจากพลังที่มองไม่เห็นซึ่งเกิดจากพลังจิตของเขา พลังนี้แฝงไปด้วยความแหลมคม ราวกับว่าสามารถหั่นทุกสรรพสิ่งให้เป็นชิ้นๆ

แม้เผชิญหน้ากับการโจมตีที่แปลกประหลาดเช่นนี้

แต่ซูเฉินยังคงไม่ตื่นตระหนกใดๆ

ชั้นแสงสีทองเปล่งประกายขึ้นบนฝ่ามือเขา ขณะเดียวกันทั้งคนทั้งร่างเปิดใช้งาน [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า]

“จงทำลายมันซะ!”​ซูเฉินตะโกนลั่น

จากนั้นยื่นมือทั้งสองยันออกไปข้างหน้า ตามมาด้วยเสียงดัง ‘กริ๊ก’ เส้นด้ายสีดำรอบๆเริ่มขาดวิ่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด