411-412
1/10
Ep.411
“พวกแกมาจากขุมกำลังไหน?” ซูเฉินกวาดสายตาไปยังชายร่างผอมแห้ง เอ่ยถามเสียงเย็น
“บิดามาจากขุมกำลังไหน แกมีสิทธิ์ที่จะรู้หรือ?”
ชายร่างผอมแค่นเสียง ก่อนหันไปสั่งชายชุดดำคนอื่นๆว่า “พี่น้องทั้งหลาย จับกุมคนกลุ่มนี้ อย่าปล่อยให้หนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว”
“น้อมรับคำสั่ง!”
แทบจะในทันที ชายชุดดำหลายสิบคนพุ่งเข้าหาซูเฉินและคนอื่นๆ
“เสี่ยวตี๋ ฆ่าพวกมัน!” ซูเฉินหันไปอนุมัติ [นักรบจักรกล]
[นักรบจักรกล] ไม่พูดพล่ามทำเพลง กระโจนออกไป กวัดแกว่งดาบโค้งสองสามครั้ง สังหารกลุ่มชายชุดดำไปได้หลายสิบคน
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ ผู้คนในชุดดำทั้งหมดตะลึงงัน ขณะเดียวกัน ความหนาวเย็นเริ่มแผ่ซ่านออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
ในสายตาพวกเขา เห็นแค่เพียงประกายแสงกระพริบวิบวับเบื้องหน้า จากนั้น … รู้สึกตัวอีกที สหายหลายสิบคนก็ถูกแยกออกเป็นคนละสองซีกแล้ว
รู้อะไรไหมว่า สหายที่เพิ่งตายไปเมื่อครู่ไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งหมดเป็นผู้วิวัฒนาการ แต่พวกเขากลับถูกฆ่าตายเอาง่ายๆ เช่นนั้นหุ่นเชิดหุ้มเหล็กของอีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งเพียงใด?
กำลังรบของหุ่นเชิดเลเวล 3 ไม่มีทางทำได้แน่ๆ อย่าบอกนะว่ามันคือหุ่นเชิดเลเวล 4 ?
แต่หุ่นเชิดเลเวล 4 พวกเขาไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นมาก่อนเลย
“ตอนนี้จะบอกได้รึยัง ว่าพวกแกมีที่มาที่ไปยังไง?” ซูเฉินจ้องมองชายร่างผอม กล่าวเย้ยหยัน
ชายร่างผอมกลืนน้ำลาย ตัวสั่นงันงก “ผู้อาวุโส พวกเราทุกคนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายท่านซู”
ถูกข่มขวัญโดย [นักรบจักรกล] ชายร่างผอมแสดงความขลาดเขลาออกมา ท่าทีเย่อหยิ่งที่มีก่อนหน้านี้ มลายหายไปสิ้น
“ถ้างั้น แสดงว่าพวกแกทุกคนมาจากภูเขาสือจินใช่ไหม?” ซูเฉินเอ่ยถามน้ำเสียงเย็นชา
ชายร่างผอมไม่กล้าปิดบัง รีบสารภาพ “ผู้อาวุโส พวกเรามาจากภูเขาสือจินอย่างที่ท่านว่าจริงๆ”
ซูเฉินครุ่นคิดสักเล็กน้อย แล้วถามต่อว่า “นอกจากภูเขาสือจินของพวกแกแล้ว ในเขตเตอหลินยังมีขุมกำลังอื่นอยู่อีกรึเปล่า? มีพวกซอมบี้หรือสัตว์กลายพันธุ์บ้างไหม?”
การเดินทางสู่เขตเตอหลิน นอกจากกำจัดภูเขาสือจินแล้ว การล่าซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
“ผู้อาวุโส ในเขตเตอหลินของเราเหลือแค่ขุมกำลังจากภูเขาสือจินเท่านั้น พวกซอมบี้กับสัตว์กลายพันธุ์ ถูกพวกเรากวาดล้างไปนานแล้ว” ชายร่างผอมแห้งตอบกลับมา
“เห~”
คำตอบนี้ทำให้ซูเฉินประหลาดใจมาก
ต้องรู้นะว่า พื้นที่เขตเตอหลินไม่ได้ดีเด่ไปกว่าเขตหวงหลินมากนัก ทว่ากลับมีเพียงขุมกำลังเดียวเท่านั้นที่เป็นใหญ่ นั่นคือภูเขาสือจิน บ่งบอกได้ถึงความแแข็งแกร่งของพวกมัน
“ใครคือคนที่ทรงพลังที่สุดในภูเขาสือจิน? ระดับฝึกตนของเขาอยู่ขั้นไหน?” ซูเฉินเอ่ยถามอย่างใจเย็น
ในเมื่อตัดสินใจกำจัดภูเขาสือจิน เป็นธรรมดาที่ต้องล่วงรู้ข้อมูลของศัตรู เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น
“คนที่ทรงพลังที่สุดในภูเขาสือจินของพวกเรา คือ ‘ผู้เที่ยงแท้สือหยาง’ เขาเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ที่ทรงพลัง”
“ไม่ใช่นายท่านซูหรอกหรอ?” ซูเฉินอุทานขึ้นมาเบาๆ
ทั้งๆที่อีกฝ่ายเอ่ยปากว่าเป็นลูกน้องของนายท่านซู เช่นนั้นนายท่านซูก็ควรเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดสิ แล้วทำไมจู่ๆผู้เที่ยงแท้สือหยางถึงโผล่ออกมาได้?
“นายท่านซูเข้าร่วมกับพวกเราทีหลัง พวกเราไม่เคยเห็นเขาต่อสู้มาก่อน เลยไม่มั่นใจว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน” ชายร่างผอมอธิบาย
ซูเฉินเริ่มสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ เอ่ยถามอีกครั้งว่า “ในเมื่อไม่รู้ความแข็งแกร่งของเขา แล้วทำไมพวกแกถึงต้องป่าวประกาศว่าเป็นลูกน้องของนายท่านซู?”
ชายผอมแห้งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายยอมสารภาพ “เป็นผู้เที่ยงแท้สือหยางที่สั่งให้พวกเราพูด”
ได้ยินแบบนี้ ซูเฉินหรี่ตา ในสมองเกิดความคิดขึ้นมากมาย
หากสิ่งที่ชายร่างผอมพูดเป็นความจริง ภูเขาสือจินน่าจะจงใจดึงดูดความสนใจเขา ให้บุกเข้าไปยังภูเขาสือจิน
นี่ต้องมีแผนการบางอย่างแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน
กระนั้น ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ซูเฉินขบคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ
ในเมื่ออีกฝ่ายรู้ข้อมูลของเขา ดังนั้นน่าจะทราบว่าเขาทรงพลังมากแค่ไหน
งั้น … ทำไมถึงยังกล้าทำแบบนี้อีก?
ไม่กลัวเดือดร้อนรึไง? เดี๋ยวก็ถูกสังหารหมู่ทั้งภูเขาหรอก?
2/10
Ep.412
“เอาล่ะ หมดคำถามแล้ว ได้เวลาส่งแกไปที่ชอบที่ชอบซักที”
มุมปากซูเฉินยกโค้งเป็นรอยยิ้มพิศวง ก่อนหันไปส่งสายตาให้หวู่หยางและคนอื่นๆ
“ที่ชอบที่ชอบ? ผู้อาวุโส นี่ท่าน ..” ชายร่างผอมนิ่งค้างไป
หวู่หยางและคนอื่นๆเข้าใจความหมายในทันที แทบจะในเวลาเดียวกัน บังเกิดเสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่ว
ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ชายชุดดำนับพันแห่งภูเขาสือจินถูกสังหารหมู่
หลังจากนั้น ซูเฉินและคนอื่นๆกลับขึ้นไปบน [รถศึกอัจฉริยะ] ล็อคตำแหน่งเป็นภูเขาสือจิน และมุ่งหน้าไป
ระหว่างทาง พวกเขาพบเจออุปสรรคหลายครั้ง และครั้งที่รุนแรงที่สุด คือการเผชิญหน้ากับชายชุดดำเกือบ 10,000 คน
อย่างไรก็ตาม กำลังรบของอีกฝ่ายมีจำกัด ภายใต้การร่วมมือกันระหว่างซูเฉินและ [รถศึกอัจฉริยะ] กองกำลังเหล่านั้นจึงแตกพ่าย ผู้คนกว่าครึ่งเสียชีวิต ส่วนที่เหลือบาดเจ็บสาหัส
หลังจากได้รับบทเรียนราคาแพงนี้ การเดินทางหลังจากนั้นก็ไม่มีอุปสรรคใดๆมาขวางกั้นอีก
เจ็ดวันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ได้มาถึงเชิงเขาสูงตระหง่านอย่างราบรื่น นี่คือที่ตั้งของภูเขาสือจิน
ภูเขาสือจินสูงหลายร้อยจั้ง ยอดเขาตั้งตระหง่านทะลุเข้าไปในก้อนเมฆ ข้างนอกมีหมอกสีม่วงบางๆลอยอยู่ ให้ความรู้สึกลึกลับและพิศวง
ในเวลานี้ นอกประตูใหญ่ของภูเขาสือจิน มันว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลย
“คงไม่ใช่ว่าหนีไปกันหมดแล้วหรอกนะ?”
ซูเฉินหรี่ตาลง ปั่นความคิดหาคำตอบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
อย่าลืมนะว่า ก่อนจะมาถึงภูเขาสือจิน เขาเคยแวะเวียนไปยังนิกายของเหล่ามหาอำนาจมาแล้ว และทุกที่ก็เป็นแบบนี้ บนอาคารว่างเปล่าไร้ผู้คน ราวกับรู้ว่าเขาจะมา จึงพากันหลบซ่อน
ขณะที่ซูเฉินกำลังพิจารณาว่าจะเข้าไปข้างในดีหรือไม่ ทันใดนั้นเอง เสียงชราภาพที่ฟังดูคลุมเครือก็ดังออกมาจากข้างในนิกายภูเขาสือจิน
“ซูเฉิน เจ้าคนไม่รู้จักฟ้าสูงดินต่ำ ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าบุกเข้ามาถึงภูเขาสือจินของข้าจริงๆ ไม่รู้หรือว่าที่นี่จะกลายเป็นหลุมฝังศพของเจ้า?”
ซูเฉินปาดจมูกเขา เดินลงจากรถ ตะโกนเสียงดัง “หยุดทำตัวเหมือนผีสางเถอะ! แกคงเป็นผู้เที่ยงแท้สือหยางล่ะสิใช่ไหม? แน่จริงก็ปรากฏตัวออกมา อย่าเล่นเป็นเต่าหัวหดแบบนี้ หรือว่าแม้แต่การพูดกันต่อหน้า แกก็ยังไม่กล้า?”
“ข้าได้ยินมานานแล้วว่าเจ้ามันปากปีจอ วันนี้ได้เห็นกับตา สมคำร่ำลือจริงๆ”
เสียงชราดังแว่วเข้ามาในหูซูเฉินอีกครั้ง
“ถ้าแกยังไม่ยอมแสดงตัว เชื่อไหมว่าฉันจะเหยียบภูเขาสือจินทั้งหมดให้เหลือแต่ซาก?” ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา
ด้วยกลวิธีที่เขามีในตอนนี้ หากคิดเหยียบย่ำภูเขายักษ์ แม้ว่าอาจตึงมือไปบ้าง และใช้เวลาอีกหน่อย ก็ยังพอสามารถทำได้
กล่าวได้ว่า ประโยคนี้มิใช่คำขู่แต่อย่างใด
ได้ยินแบบนั้น อีกฝ่ายก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยความรังเกียจว่า “พวกเราอยู่ในห้องโถงใหญ่ของนิกาย ถ้าเจ้ากล้าก็ก้าวเข้ามาเจอกัน!”
ซูเฉินเดาได้ทันที อีกฝ่ายต้องวางแผนซุ่มโจมตีในห้องโถงใหญ่นิกายแน่ๆ ถึงได้เชื้อเชิญเขาเข้าไปข้างใน
แต่ไม่ว่าจะเป็นการซุ่มโจมตีหรืออะไรก็ช่าง เขาไม่ได้หวาดกลัวเลยสักนิด แม้แต่มุมปากยังผุดรอยยิ้มเยาะ
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา การเผชิญหน้ากับผู้วิวัฒนาการเลเวล 7 ก็ยังพอฟัดพอเหวี่ยงได้ ฉะนั้นภูเขาสือจินที่ไม่มีผู้วิวัฒนาการเลเวล 7 คงไม่ต้องกล่าวถึง
“หัวหน้าหวู่ พวกคุณรอในรถ ผมจะรีบไปรีบกลับ”
ซูเฉินหันมากำชับ ก่อนมุ่งหน้าสู่ห้องโถงใหญ่ของนิกายภูเขาสือจิน
เมื่อก้าวเข้ามาในภูเขา หมอกสีม่วงรอบๆก็หนาแน่นขึ้น การมองเห็นเริ่มพร่ามัว
แต่ซูเฉินไม่สนใจ เพิ่มความเร็วยิ่งกว่าเดิม
ใช้เวลาไม่ถึงนาที เขาก็เดินเข้าสู่ห้องโถงใหญ่นิกายภูเขาสือจินได้ในที่สุด
และฝั่งตรงข้ามห้องโถง มีสองคนหนึ่งสัตว์กำลังยืนรอเขาอยู่
หนึ่งในนั้นเป็นชายชราที่แต่งกายด้วยอาภรณ์เต๋าสีม่วง ผิวพรรณของคนผู้นี้แดงระเรื่อ มีผมยาวสีเงินพาดอยู่บนไหล่ทั้งสองข้าง ให้ความรู้สึกราวกับเป็นเทพเซียน
ข้างกายชราชราชุดม่วง เป็นชายสวมหมวกไม้ไผ่ บนร่างกายเขามีชั้นหมอกสีเทาลอยอยู่รอบๆ ให้ความรู้สึกลึกลับ
แต่ในตัวชายคนนี้ สิ่งที่ทำให้ซูเฉินรู้สึกสนใจที่สุดก็คือ อีกฝ่ายไร้ซึ่งกลิ่นอายของชีวิต ราวกับเป็นแค่หุ่นเชิด
สำหรับสัตว์กลายพันธุ์ มันมีลำตัวยาวมากกว่าห้าเมตร รูปร่างเหมือนหมาป่าขยายส่วน ตามร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้ายแผ่ซ่านออกมา และมันคือสัตว์กลายพันธุ์ในเลเวล 6!