ตอนที่ 17 ยอดฝีมือระดับหนึ่ง!พลังเทพกลับคืน!
รางวัลสำหรับสิบราชวงศ์ไม่เลว มันคือม้วนคัมภีร์ที่สามารถช่วยให้ไปถึงระดับหนึ่งได้ รวมถึงของที่เกี่ยวกับทรัพยากรบ่มเพาะ
ตราบเท่าที่ไหวพริบของเราไม่บัดซบเกิน เราจะสามารถบ่มเพาะจนถึงระดับหนึ่งได้ด้วยคัมภีร์นี้
แน่นอน ตามไหวพริบกับความพยายามที่ต่างกัน จำนวนเวลาที่ใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ย่อมต่าง
ยิ่งไปกว่านั้น โลกนี้เรียกว่ายุคแห่งอาณาจักร ซึ่งหมายความว่าอำนาจของราชวงศ์สูงมาก
นักรบที่ทรงพลังจะไม่สนใจเกี่ยวกับเจ้าเมือง
แต่กับเหล่าราชวงศ์ผู้ปกครองอาณาจักรนั้นต่าง
นักรบทุกคนในเหลียงเหนือต้องก้มหัวให้ราชวงศ์ แม้พวกเขาจะไม่มีคำมั่นสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อราชวงศ์ พวกเขาก็๗ะไม่ทรยศและจะจงรักภักดีไปเอง
นี่คือกฏที่ว่าราชวงศ์คืออำนาจสูงสุด ซึ่งเป็นการตั้งค่าของยุคแห่งอาณาจักร
ผู้ปกครองราชวงศ์ก็เปรียบเสมือนราชา
นักรบทุกคนในอาณาเขตเหลียงเหนือต้องก้มหัวให้ราชา
ไม่ว่ามันจะมีเหตุผลหรือไม่ นี่ก็คือกฏของโลก
แน่นอน ถ้าผู้ปกครองโง่ คนก็จะเสียความภักดี
ทั้งยุคแห่งอาณาจักร เจ้าเมืองนับไม่ถ้วนจะจมกับการบ่มเพาะ
และในเวลาแค่ครึ่งปี มันก็มีคนที่บ่มเพาะสำเร็จ!
ในชั่วพริบตา ทั้งโลกต่างโกลาหล!
มันหมายความว่าม้วนคัมภีร์เป็นจริง และคนก็สามารถบ่มเพาะได้จริง พลังกายพวกเขาเพิ่มขึ้นมาก
และคนคนนี้ที่บ่มเพาะสำเร็จก็ได้เข้าสู่ระดับนักรบ!
เขายังอยู่ไกลจากนักรบระดับหนึ่ง
ว่ากันว่าถ้าเขากลายเป็นนักรบระดับหนึ่งได้ เขาจะเอาชนะนักรบทุกคนในสถานที่เขาได้
เขาเหมือนซูเปอร์แมนในโลกจริง เหมือนตัวละครที่อธิบายไว้ในนิยายไซไฟกับภาพยนตร์
คนทั้งโลกต่างพากันบ่มเพาะอย่างบ้าคลั่ง
เพราะคนสามารถเข้ายุคแห่งอาณาจักรได้ตอนอายุสิบแปดและกลายเป็นเจ้าเมือง มันจึงไม่ขาดเทคนิคบ่มเพาะ
ดังนั้น เทคนิคบ่มเพาะจึงกระจายบนโลกอย่างกว้างขวาง
มันแค่ว่ามีเทคนิคบ่มเพาะระดับสูงไม่มาก ส่วนใหญ่แค่จะช่วยให้คนบ่มเพาะเป็นกึ่งนักรบ
มีเทคนิคบ่มเพาะระดับหนึ่งน้อยมาก
มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าสู๋ระดับหนึ่งโดยปราศจากเทคนิคบ่มเพาะระดับหนึ่ง แต่แค่ว่ามันยากมาก ยากมาก ๆ ถ้าไม่มีมัน
อย่างไรก็ตาม ผู้คนยังค้นพบว่าคนเหล่านี้ที่บ่มเพาะได้เร็วสุดคือพวกที่อยู่ในยุคแห่งอาณาจักร
นี่ทำให้หลายคนเสียใจมากเพราะพวกเขาเคยมองยุคแห่งอาณาจักรเป็นแค่เกม
พวกเขาทำเรื่องโง่ทุกประเภทและทำให้เมืองโดนทำลาย สุดท้าย พวกเขาก็โดนขับไล่
ใครจะไปคิดว่ายุคแห่งอาณาจักรจะกลายเป็นสถานที่แสนวิเศษได้
…
ในค่ายทหารของเมืองท้องฟ้า
เจอร์รี่ตกใจขณะจ้องสองคนตรงหน้าเขา
“ระดับหนึ่ง?ระดับหนึ่ง?”
เจอร์รี่มองอาธีน่ากับเฮอร์คิวลิสมึนๆ
มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะ?ไม่ถึงครึ่งเดือนใช่ไหม?สองคนนี้กลับบ่มเพาะเป็นระดับหนึ่งได้แล้ว?
เป็นไปได้ไง!
ต้องรู้ว่าระดับโลกปัจจุบันคือหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าหนึ่งคือขีดจำกัดสูงสุด
สิ่งที่มั่นใจได้คือนักรบระดับหนึ่งเป็นตัวตนสูงสุด
แต่ทว่า เฮอร์คิวลิสกับอาธีน่ากลับใช้เวลาแค่ครึ่งเดือนเพื่อไปถึงระดับหนึ่ง!
“พวกเจ้า ทำได้ไงกัน?”
เจอร์รี่ถามอาธีน่ากับเฮอร์คิวลิสอย่างเหลือเชื่อ
เหนือสิ่งอื่นใด เขายังไม่ถึงธรณีของระดับหนึ่งเลยด้วยซ้ำ
และทั้งคู่ก็เป็นนักรบระดับหนึ่งแล้ว?
“ฝ่าบาท เราเองก็ไม่รู้เช่นกัน”
เฮอร์คิวลิสส่ายหัว เขาไม่รู้จริงๆ
แต่เขารู้ว่านี่เป็นเรื่องดี
มีเพียงพลังที่มากขึ้นพวกเขาถึงสามารถโจมตีเมืองและยึดเมืองให้เจอร์รี่ได้มากขึ้น!
“บางทีก่อนหน้าเราคงมีพลังของระดับหนึ่งอยู๋แล้วและเพิ่งฟื้นพลังผ่านการบ่มเพาะ”อาธีน่าพูดหลังเงียบไปสักพัก
ตามคาดของเทพีแห่งภูมิปัญญา แค่ประโยคเดียว นางบอกพวกเขาถึงเหตุผลว่าทำไมพลังพวกนางถึงเพิ่มขึ้นเร็วนัก
ตอนระดับโลกเพิ่ม พลังพวกเขาจะเพิ่ม
วินาทีที่ได้รับม้วนบ่มเพาะ พลังพวกเขาจะเพิ่มขึ้นมากจนไปถึงระดับหนึ่ง พวกเขาอาจไปถึงขั้นสมบูรณ์ของระดับหนึ่งในเวลาไม่กี่เดือน
“คงเป็นงั้น”
เจอร์รี่พยักหน้า บ่งบอกว่าเขาเข้าใจ
มันไม่น่าแปลก พวกเขาคือเทพจากตำนานและมีพลังของเทพเจ้า
แค่ยกมือ พวกเขาสามารถสร้างคลื่นยักษ์ และแค่การสะบัดมือ พวกเขาสามารถสร้างฝนไฟ
การยกบางสิ่งที่หนักห้าพันกิโลเป็นเรื่องง่ายมาก
พลังเทพของพวกเขาเหนือกว่าอาณาจักรของนักรบระดับหนึ่ง มันแค่ว่าพลังเทพพวกเขาโดนสะกดไว้โดยโลก
“ฝ่าบาท ข้าก็เป็นกึ่งนักรบระดับหนึ่งแล้ว ข้าอยู่ห่างจากระดับหนึ่งอีกแค่ก้าวเดียว”
“แต่ระดับหนึ่งของข้าดูเหมือนจะต่างเล็กน้อย ไม่ใช่ระดับจอมยุทธ์ที่แม่ทัพทั้งสองอยู่”
เมทิสเดินออกจากค่ายทหารและรายงานเขา
“อะไร อะไรนะ?!”
“เจ้า เจ้าไม่ได้ล้อข้าเล่นใช่ไหม?”
พอมองใบหน้าสวยของเมทิส เจอร์รี่ก็มึนงง
เจอร์รี่รู้สึกสั่นสะท้าน!
แม้กระทั่งเทพีแห่งภูมิปัญญา เมทิสก็กำลังจะไปถึงระดับหนึ่ง?
หลังสอบถาม เขาก็พบว่าแม้กระทั่งเทพแห่งความมั่งคั่ง พลูตัสก็เป็นนักรบระดับครึ่งก้าวแล้ว!
สำหรับเจอร์รี่?ในฐานะผู้ข้ามโลก จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ท้องฟ้า เขากลับยังไม่ถึงระดับครึ่งก้าวเลย
“บางทีคงเพราะรายชื่อทวยเทพ พวกเขาถือเป็นเทพสูงสุดในยุคตนเองด้วยซ้ำ”
“และถึงแม้ระดับโลกจะเพิ่ม พวกเขาก็ยังเป็นเทพ ยังก้มมองโลก”
เจอร์รี่ถอนหายใจด้วยความอิจฉา
แต่นี่เป็นเรื่องดี ด้วยอีกสองนักรบระดับหนึ่ง หรือแม้แต่สาม ราชวงศ์ท้องฟ้าจะไร้เทียมทานมาก
แม้นักรบระดับหนึ่งบางคนจะปรากฏตัว แต่พวกเขาไม่ได้ถูกอัญเชิญจากรายชื่อทวยเทพ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถไว้ใจพวกเขาได้
มากสุด พวกเขาก็เป็นแค่ขุนนางระดับกลาง
เขาไม่สามารถปล่อยให้พวกนั้นเป็นขุนนางระดับสูงได้
เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยรายชื่อทวยเทพ เขาสามารถอัญเชิญเทพได้มากขึ้นในอนาคต
แต่ละคนไร้เทียมทานในแง่พลัง และภูมิปัญญาก็สามารถบดขยี้ทุกคนของยุคนี้ได้
สำคัญสุด พวกเขายังภักดีต่อเขาเต็มร้อย
แล้วทำไมต้องใช้คนอื่น?