ตอนที่ 1 เปิดใช้งานระบบ เริ่มฟัวชั่นได้!
ตอนที่ 1 เปิดใช้งานระบบ เริ่มฟัวชั่นได้!
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย
“อ๊าก! รสชาติห่วยชะมัด”
วัตสัน เด็กชายวัย 10 ขวบกำลังถือขนมปังสีดำเมี่ยมเอาไว้ในมือก่อนที่จะยัดมันเข้าปาก ปากของเขาจะต้องออกแรงเคี้ยวอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ฟันของตัวเองต้องหักไป
วัตสันเป็นลูกชายคนที่ 8 ของบารอนผู้อ่อนแอภายในดินแดนตะวันออกของอาณาจักรมังกรศักดิ์สิทธิ์ วัตสันรู้สึกโชคดีที่ยังพอมีขนมปังที่แข็งเป็นหินกิน 3 มื้อต่อวัน
อาณาจักรมังกรศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ที่ใจกลางโลก มันเป็นดินแดนที่อบอุ่นราวกับเป็นดินแดนที่มีแต่ฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี แม้ว่าจะเป็นดินแดนที่ดีแค่ไหนแต่มันก็มีแต่ผู้คนที่เกียจคร้าน มีผู้คนกว่าหลายสิบล้านคนที่อาศัยอยู่ และมีคนกว่าพันคนที่ได้เป็นขุนนาง แม้ว่าจะมีศักดิ์เป็นถึงขุนนางแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะอยู่ดีกินดีมีชีวิตที่ดีได้
หน้าที่ของขุนนางก็คือการจัดการควบคุมและดูแลที่ดินที่อยู่ในการครอบครองของตน และเป็นเพราะที่ดินที่มีมาก เพราะแบบนั้นจึงทำให้เหล่าขุนนางจึงต้องจ่ายภาษีให้กับทางอาณาจักรเป็นจำนวนมาก นั่นเองเป็นสาเหตุที่ทำให้ขุนนางบางคนต้องมีหนี้สินล้นตัว ครอบครัวตระกูลแกรี่ ครอบครัวที่วัตสันเป็นสมาชิกเองก็เป็นหนึ่งในครอบครัวผู้โชคร้ายนั้น
ครอบครัวตระกูลแกรี่เป็นเจ้าของดินแดนอันอุดมสมบูรณ์กว่าหลายร้อยเอเคอร์ แต่ถึงแบบนั้นพวกเขาก็ล้มเหลวที่จะจัดหาคนงาน พ่อของวัตสันไม่มีความสามารถมากพอที่จะจัดการที่ดินที่มี ในฐานะที่เป็นขุนนาง ตัวเขาจึงไม่ได้มีความสามารถในทำไร่ที่ดีเด่นอะไร ที่ดินเองเต็มไปด้วยวัชพืช ถ้าหากไม่ใช่เพราะฟาร์มไก่ที่มี ทุกคนในครอบครัวก็คงจะอดตายไปแล้ว
ชีวิตของวัตสันจะต้องเจอกับความยากลำบากมาโดยตลอด นอกจากความอดอยากแล้วก็ยังมีพ่อที่งี่เง่าวัย 40 อยู่ พ่อคนนี้พยายามเพิ่มความโชคร้ายของวัตสันมาโดยตลอด พ่อของวัตสันได้ดื่มเหล้าทั้งวันก่อนที่จะเล่นจ้ำจี้กับผู้เป็นแม่วัย 38 ปีในทุกๆ คืน ดูเหมือนว่าผู้เป็นพ่อของเขาจะกระตือรือร้นที่จะสร้างน้องชายคนที่เก้าให้กับวัตสัน
“เมื่อไหร่ชีวิตนี่จะจบลงกัน?”
วัตสันได้แต่ถอนหายใจ ตัวเขาทุกข์ทรมานก่อนที่จะกล้ำกลืนกินขนมปังสีดำต่อไป
“วัตสัน นายมัวฝันกลางวันอะไรกัน? ถ้าหากนายมีเวลาฝันกลางวันมากนักล่ะก็ ทำไมนายไม่ไปล่าสัตว์กับฉันล่ะ? ถ้าหากนายยอมช่วยฉัน ฉันจะแบ่งซุปเนื้อหมักเค็มให้กับนายกินในทุกวันจันทร์ก็ได้นะ ว่าไงล่ะ สนใจรึเปล่าวัตสัน?”
เสียงอันสดใสได้ดังขึ้นจากทางด้านหลัง วัตสันรีบหันหน้าไป ตัวเขามองเห็นเด็กสาวคนหนึ่งกำลังผลักประตูไม้เข้ามา
เด็กสาวที่เห็นมีรูปร่างเล็กกะทัดรัดกำลังดี ที่หลังของเธอพกธนูไม้ติดตัวไว้ เด็กสาวคนนี้สวมกระโปรงหนัง เธอมีผมยาวสีม่วงทรงห้างม้า ใบหน้าของเด็กสาวดูอ่อนโยน ดวงตาของเธอเป็นสีเหลืองอำพัน สีหน้าของเด็กสาวคนนี้เปี่ยมไปด้วยพลังอันสดใส
วัตสันลืมตาขึ้นก่อนที่จะจ้องมองไปยังที่ทั้งสองแห่ง
ต้นขาของเด็กสาวดูเรียวงามสมบูรณ์แบบ หน้าอกของเธอปูดโปนขึ้นมาเล็กน้อย นี่จะต้องเป็นผลจากการเข้าสู่วัยแรกรุ่น ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เธอดูน่ารักมากกว่าเดิม คงไม่มีใครที่จะละสายตาไปจากเด็กสาวคนนี้ได้
แต่น่าเสียดายที่วัตสันไม่มีความคิดที่ชั่วร้ายอะไรกับเด็กสาวตรงหน้า
“สการ์เล็ต ฉัน...ไม่ไปล่าสัตว์หรอกนะ”
สการ์เล็ตคือลูกคนที่เจ็ดในครอบครัว เธอเป็นเด็กสาวที่มีอายุมากกว่าวัตสันแค่ 1 ปี พี่คนโตของตระกูลแกรี่จะต้องออกไปจากดินแดนก็เพื่อที่จะหางานทำ ส่วนพี่สาวคนรองจะถูกส่งไปยังเมืองก็เพราะเธอแสดงพรสวรรค์ในการใช้เวทมนตร์บางอย่างออกมา ส่วนลูกคนอื่นๆ ล้วนร่างกายอ่อนแอและไม่ชอบที่จะออกไปไหน สการ์เล็ตจึงเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวที่จะต้องแบ่งเบาภาระครอบครัว
แม้ว่าจะต้องแบ่งเบาภาระแต่สการ์เล็ตกับมีทักษะการยิงธนูที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร การจะล่ากระต่ายสักตัวจะต้องใช้เวลาในการเหลาลูกธนูให้คมกว่าหลายวัน วัตสันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฝ่ายไหนจะได้กำไรจากการล่าสัตว์มากกว่า
“นายไม่อยากคิดที่จะทำอะไรน่าสนใจหน่อยเหรอ? นั่นสินะ ฉันลืมไปว่านายอยู่ที่นี่ก็เพื่อดูแลฟาร์มไก่ การดูแลฟาร์มไก่คงจะดีกว่าฝันกลางวันเยอะนั่นแหละ”
ท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยพลังของสการ์เล็ตค่อยๆ จางหายไป การที่สการ์เล็ตต้องไปล่าสัตว์นั้นทำเพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ มันเป็นการล่าสัตว์ก็เพื่อที่จะหาเลี้ยงครอบครัว และการล่าสัตว์ของเธอก็เป็นเพียงเรื่องอาศัยโชคเท่านั้น พอเห็นว่าวัตสันไม่สนใจสการ์เล็ตก็ได้พึมพำด้วยความผิดหวังก่อนที่จะหันหลังและเดินจากไป
ฟาร์มไก่ที่สการ์เล็ตพูดถึงตั้งอยู่ที่ลานหลังบ้าน มันมีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลสนามหนึ่ง
เมื่อได้ยินสการ์เล็ตพูดแบบนั้น วัตสันก็เดินทางมายังฟาร์มไก่ วัตสันบังเอิญเห็นเด็ก 2 คนอายุราว 16 ปีกำลังเดินออกมาจากด้านใน ทั้งคู่ดูแข็งแรงและดูเกือบจะเป็นเหมือนคนคนเดียวกัน
“พี่สาม พี่สี่”
ทั้งสองคนก็คือพี่ชายของวัตสัน ซีคและเซโน่ ว่ากันว่าทั้งสองคนก็คือฝาแฝดที่เกิดในวันเดียวกัน ทั้งคู่ต่างก็มีความสามารถพิเศษที่เรียกว่าโทรจิต มันเป็นความสามารถที่ทำให้ทั้งคู่เข้าใจความคิดของกันและกันในระดับหนึ่ง
“แกมาดูฟาร์มสินะวัตสัน? บังเอิญจริงๆ ไก่เพิ่งจะออกไข่ พวกเราต้องการจะใช้ไข่พวกนั้นแลกของเล่น เพราะงั้นอย่าฟ้องพ่อซะล่ะ”
ซีคเอื้อมมือออกไปก่อนที่จะตบไหล่ของวัตสัน หน้าตาของซีคเปลี่ยนไปนิดหน่อย ที่กระเป๋าเสื้อของเขาปูดโปนขึ้นมา ด้านในนั้นเต็มไปด้วยเปลือกไข่สีขาว
เซโน่พูดต่อ “ไข่ 100 ฟองน่าจะเพียงพอแล้วที่จะแลกขนมปังและหนังสติ๊กเพื่อล่านกได้! ถ้าหากพวกเราโชคดี พวกเราอาจจะแลกลูกแก้วดีๆ ก็ได้นะ”
“ฉันเข้าใจ ฉันจะไม่พูดอะไร”
เมื่อเห็นผู้เป็นพี่ทั้ง 2 คนจากไป วัตสันก็ได้แต่นั่งยองๆ ตัวเขานั่งอย่างหมดหวัง
แล้ววัตสันจะพูดอะไรได้? วัตสันจะต้องทนหิวในทุกๆ วันซะด้วยซ้ำ แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงเรื่องเล่นสนุกเลย วัตสันจะทำอะไรได้ในเมื่อคนในครอบครัวแต่ละคนไม่สามารถที่จะพึ่งพาได้เลย
เมื่อวันก่อนมีฝนตกหนักตลอดทั้งวัน บนพื้นใกล้ๆ วัตสันจึงมีแอ่งน้ำอยู่ วัตสันมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง ผมของวัตสันเป็นสีน้ำตาลเข้ม ร่างกายของเด็กอายุ 10 ขวบมันช่างบอบบาง มีเพียงดวงตาของเขาเท่านั้นที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่ทำอะไรไม่ถูก ใครก็ตามที่มองเห็นดวงตาของเขาในตอนนี้ต้องคิดว่าวัตสันเป็นชายที่มีอายุ 30 ปีแน่
วัตสันไม่ใช่ผู้ที่มาจากโลกใบนี้ ตัวเขาเคยเป็นพนักงานออฟฟิศที่อยู่บนโลกใบเดิมมาก่อน วัตสันจะต้องใช้ชีวิตอันเลวร้ายในฐานะพนักงานออฟฟิศมากว่า 9 ปี วัตสันที่ต้องอดทนได้แต่ตัดพ้อออกมา “ทำไมฉันต้องมาอยู่อย่างอนาถแบบนี้ด้วย?” ในที่สุดพระเจ้าก็ทำตามคำปรารถนาของวัตสัน ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ถูกย้ายให้ไปอยู่ในร่างกายของลูกชายคนที่แปดของบารอนคนหนึ่ง เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน
วัตสันหยิบอาหารไก่จำนวนหนึ่งก่อนที่จะเทมันลงพื้น ตัวเขาได้แต่จ้องมองไก่ตัวผอมบางแต่ละตัววิ่งกรูเข้ามากินอาหาร พวกมันตะเกียกตะกายเพื่อกลืนอาหารอย่างไม่คิดชีวิต
มันไม่ง่ายเลยที่จะใช้ชีวิตในต่างโลกได้ ถ้าหากวัตสันไม่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและกลายเป็นวีรบุรุษได้ ตัวเขาก็คงจะไม่มีวันร่ำรวยขึ้นมาได้ วัตสันก็คงได้แต่เลี้ยงไก่ทั้งหมดและใช้ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้นต่อไป และท้ายที่สุดตัวเขาก็คงจะต้องตายเพราะโรคภัยไข้เจ็บไม่ก็ความหิวโหย...
ความเจ็บปวดในจิตใจเกือบจะทำให้ตัวเขาต้องหลั่งน้ำตา
[ตรวจพบความเศร้าเล็กน้อย ระบบฟิวชั่นเปิดใช้งาน]
[เปิดใช้งานสำเร็จ ผู้ใช้ระบบจะสามารถหลอมรวมทุกอย่างเพื่อเพิ่มคุณภาพได้! ไม่ว่าจะเป็นสัตว์วิเศษ แร่ เหรียญทอง เวทมนตร์...ทุกสิ่งทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับจินตนาการของผู้ใช้]
นี่มันความสามารถของการเล่นแร่แปรธาตุในตำนานอย่างงั้นสินะ?
มีข่าวลือมาว่าผู้ที่มาต่างโลกมักจะได้พรติดตัวมา 1 อย่าง และพรนั้นจะกลายเป็นความจริง วัตสันถึงกับตกตะลึง ทันใดนั้นเองตัวเขาก็รู้สัมผัสได้ถึงข้อความที่อธิบายไม่ได้กำลังปรากฏขึ้น คำเหล่านั้นกำลังลอยอยู่เหนือไก่ที่อยู่ด้านหน้า
[วัตถุดิบสำหรับการฟิวชั่น: แม่ไก่ธรรมดา]
[ความสามารถ: วางไข่ในแต่ละวัน (หลังจากฟิวชั่นแล้ว ความเร็วในการวางไข่และคุณภาพของไข่จะเพิ่มขึ้น)]
เพิ่มความเร็วในการวางไข่อย่างงั้นเหรอ?
ดวงตาของวัตสันเป็นประกาย ไก่ธรรมดามักจะไข่วันละฟองสองฟองเท่านั้น ในฟาร์มไก่ตอนนี้มีไก่มากกว่าพันตัว ตราบใดที่ไก่แต่ละตัววางไข่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ครอบครัวของวัตสันก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
วัตสันที่คิดแบบนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น ในตอนนั้นเองระบบก็ได้ถามต่อ [ตรวจพบเป้าหมายสำหรับการฟิวชั่น ฟิวชั่นเลยไหม?]
วัตสันตอบตกลง [เริ่มฟิวชั่นเลย]
พรึ๊บ!
เสียงที่นุ่มนวลดังขึ้น ทันใดนั้นเองแสงสีขาวก็ส่องสว่างจากไก่ทั้ง 2 ตัว ไก่ทั้ง 2 ตัวนั้นเริ่มประสานกัน สิ้นสุดการประสานวัตสันก็ได้เห็นไก่ที่ตัวใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า ไก่ตัวนั้นได้เดินเข้ามาใกล้ก่อนที่จะเอาหัวถูกับวันสันอย่างเสน่ห์หา
[ฟิวชั่นสำเร็จ!]
[วัตถุที่ผ่านการฟิวชั่นถูกเปลี่ยนเป็น: ราชาแม่ไก่]
[ความสามารถ: วางไข่แสนอร่อย 2 ฟอง: 1 วัน]
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ผ่านการฟิวชั่นจะเชื่อฟังวัตสัน 100% ไม่เพียงแต่อัตราการผลิตไข่ของ ‘ราชาแม่ไก่’ จะเพิ่มมากขึ้น รสชาติของไข่เองก็ยังดีขึ้นอีกด้วย
วัตสันก้มศีรษะลงก่อนที่จะลูบหัวแม่ไก่ ตัวเขามองไปรอบตัว ทันใดนั้นเองวัตสันก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ถ้าหากฟิวชั่นไก่ 2 ตัว ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถึงขนาดนี้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าตัวเขาผสมไก่ทั้งหมดที่มี?
ตู๊ม!
วัตสันไม่รอช้ารีบเปลี่ยนความคิดที่มีให้เป็นจริง ไก่ทุกตัวในฟาร์มส่องแสงออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกมันได้แปรเปลี่ยนเป็นลูกบอลที่มีแสงหลากสีต่อหน้าเขา ที่รอบตัวของวัตสันมีเพียงเสียงร้องของไก่นับร้อยและแสงหลากสีเท่านั้น
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย