WS บทที่ 201 แมงมุมลาย
ใบหน้าของพ่อมดเบรนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามองดูศพอย่างระมัดระวังและสังเกตว่าสภาพศพบิดเบี้ยวจนจำแทบไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น ร่างกายดูเหมือนจะพันกันด้วยไหมสีขาวซึ่งพันรอบศพ มันช่างแปลกประหลาดเสียจริง
“นี่ดูเหมือนจะเป็นนักเวทย์ที่เข้าไปในโบราณสถานก่อนหน้านี้แต่เขาเสียชีวิตอย่างผิดปกติ เขาไปเจออะไรกันแน่?”
พ่อมดแซมเมียร์ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน พวกเขาไม่รู้ว่านักเวทย์หล่านี้ซึ่งเป็นผู้นำทางเข้าข้างในได้พบเจออะไร ท้ายที่สุด มีอันตรายทุกประเภทที่ซุ่มซ่อนอยู่ในโบราณสถาน ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าพวกเขาจะเจออันตรายแบบไหนเช่นกัน
“เอาล่ะ เราไปสำรวจข้างในกันต่อดีกว่า”
ดูเหมือนพ่อมดเบรนจะได้รับข้อความบางอย่างจากโฮมุนครุสของเขาและการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
ดังนั้น เมอร์ลินและคนอื่นๆ จึงติดตามโฮมุนครุสของพ่อมดเบรนเข้าไปข้างใน
หลังจากเดินไปครู่หนึ่ง กลิ่นเหม็นของเลือดก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ พ่อมดแซมเมียร์ พ่อมดเบรนและพ่อมดรีเซนสามารถตรวจจับกลิ่นได้อย่างชัดเจนและทั้งสามคนอดไม่ได้ที่จะชักสีหน้าออกมา
“ระวัง ข้างหน้าอาจมีอันตราย!”
พ่อมดแซมเมียร์เตือนพวกเขาด้วยเสียงเบา เมอร์ลินไม่กล้าลดการ์ดลงเช่นกัน เขาขยายพลังจิตของเขา ให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมโดยรอบของเขาอย่างใกล้ชิด หากมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติใด ๆ เขาจะสามารถรับรู้ได้ทันที
ไม่นานเมอร์ลินและคนอื่นๆ ก็มาถึงห้องที่ดูเหมือนห้องรับประทานอาหารของทหาร ห้องนี้จัดวางโต๊ะหินยาวหลายโต๊ะและอุปกรณ์บนโต๊ะถูกฝุ่นจับหนา
เมอร์ลินคุ้นเคยกับอุปกรณ์นี้มากเพราะเป็นของใช้สำหรับการปรุงยา นอกจากนี้ เมอร์ลินยังพบอุปกรณ์ที่แปลกตาและเขาไม่รู้ว่ามันใช้งานยังไง
บนโต๊ะหินอื่น ๆ มีการจัดขวดกระเบื้องลวดลายอันละเอียดอ่อนที่มีการปิดภาชนะอย่างแน่นหนา
“นี่คือห้องที่เจ้าของหอคอยปรุงยาไว้เมื่อสามพันปีที่แล้ว ขวดกระเบื้องเหล่านี้ต้องมียาวิเศษ!”
พ่อมดแซมเมียร์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง จุดประสงค์ของเขาในการมาที่โบราณสถานคือการแสวงหายาที่จะขจัดความไม่เสรียร์ให้หายจากโครงสร้างเวทมนต์ของเขาไป
เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะค้นพบสถานที่สำหรับปรุงยาทันทีหลังจากเข้ามาในโบราณสถาน ดังนั้น พ่อมดแซมเมียร์จึงมีความสุขอย่างไม่อาจปกปิดได้
เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ พ่อมดแซมเมียร์กำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดขวดกระเบื้องที่ปิดสนิทและดูว่ามียาอะไรอยู่ข้างใน
“พ่อมดแซมเมียร์ระวัง!! นักเวทย์อยู่บนพื้นดูเหมือนจะตายด้วยอะไรบางอย่าง พวกเขาต้องเจออะไรบางอย่างแน่ๆ” เมอร์ลินลดเสียงลงและพูดกับพ่อมดแซมเมียร์
พ่อมดแซมเมียร์หรี่ตาลงเล็กน้อยและพบว่ามีศพจำนวนมากนอนอยู่บนพื้นอย่างไม่เป็นระเบียบ ทั้งหมดเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้และถูกมัดด้วยไหมสีขาว
พ่อมดแซมเมียร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หยุดกลางทาง แม้ว่าเขาจะกระตือรือร้นที่จะตรวจสอบยาแต่เขาก็จะไม่เปิดขวดกระเบื้องบนโต๊ะโดยประมาท ดังนั้นเขาจึงสั่งให้โฮมุนครุสของเขาเปิดแทน
"เปิดมัน!"
ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากพ่อมดแซมเมียร์ โฮมุนครุสก็ดึงผ้าสีดำที่คลุมขวดออกอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น ฝุ่นก็ลอยขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว มีกลิ่นแปลก ๆ ปกคลุมทั่วทั้งห้อง
ทันใดนั้น โฮมุนครุสที่เปิดขวดได้ล้มลงบนพื้น จากนั้นแมงมุมลายหลายตัวก็ได้ปรากฏตัวออกจากขวดกระเบื้อง
เมื่อแมงมุมลายเหล่านี้ตกลงบนพื้น พวกมันก็ตื่นขึ้นทันที พวกเขาค่อย ๆ เริ่มสั่นร่างกายของพวกเขาและพุ่งไปที่โฮมุนครุส
“นี่มันแมงมุมพิษมรณะ!”
พ่อมดแซมเมียร์ขมวดคิ้วและการแสดงออกของเขาเผยให้เห็นถึงความผิดหวัง นี่ไม่ใช่ยาที่เขาตั้งตารอ ดังนั้นเขาจึงร่ายคาถาธาตุไฟใส่พวกแมงมุมทันที
ในชั่วพริบตา เปลวเพลิงได้เผาผลาญแมงมุมลายอย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ ไปค้นหาห้องถัดไปกันเถอะ” พ่อมดแซมเมียร์ส่ายหัวเล็กน้อยขณะที่เขาเตรียมจะจากไป
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ เส้นด้ายสีขาวลอยออกมาจากเปลวไฟ พุ่งมายังพ่อมดแซมเมียร์และคนอื่นๆ ล้อมรอบพวกเขาทันที
“หืม? ยังไม่ตาย?” พ่อมดแซมเมียร์ไม่กล้ารีรออีกต่อไป เขาร่ายเวทย์ป้องกันทันที
ทางด้านเมอร์ลิน เขาร่ายรูปปั้นผู้พิทักษ์แบบเสริมพลังผ่านอุปกรณ์เวทมนต์
ตอนนี้ เมอร์ลินและคนอื่นๆ ถูกห่อตัวด้วยไหมสีขาว ไหมขาวมีคุณสมบัติกัดกร่อนรุนแรงและจะค่อย ๆ กัดกร่อนแม้แต่คาถาระดับหนึ่ง มันไม่น่าแปลกใจที่นักเวทย์จำนวนมากเสียชีวิตที่นี่ พวกเขาได้เปิดขวดกระเบื้องอย่างไม่ระมัดระวังและปล่อยแมงมุมลายเหล่านี้ออกมา
“เพลิงพิโรธ!”
เมอร์ลินใช้เพลิงพิโรธอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา เปลวไฟที่พลุ่งพล่านก็ปรากฏขึ้นบนรูปปั้นผู้พิทักษ์ของเขาและเริ่มลุกไหม้ในขณะที่ไหมอย่างเกรี้ยวกราด
ดูเหมือนเพลิงพิโรธแบบปกติไม่ได้ผลกับไหมสีขาวนี้ มันต้องเผาเป็นเวลานานกว่าจะตัดด้ายออกได้ อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินร่ายคาถาแบบเสริมพลังทันทีและความร้อนของเปลวไฟก็เพิ่มขึ้น มันสามารถทำลายไหมสีขาวได้
ในที่สุด ไหมสีขาวที่ห่อหุ้มเมอร์ลินก็ถูกเผาไหม้ไปจนหมดและร่างของเมอร์ลินก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว
นอกจากเมอร์ลินแล้ว พ่อมดแซมเมียร์ พ่อมดเบรนและพ่อมดรีเซนสามารถดิ้นรนออกจากเงื้อมมือของไหมสีขาวได้ อย่างไรก็ตามความไม่พอใจถูกเขียนบนใบหน้าของพวกเขา หากพวกเขาไม่ใช่นักเวทย์ระดับสามที่มีคาถาอันทรงพลัง พวกเขาอาจถูกไหมสีขาวดักไว้และจบชีวิตลงเหมือนเหล่านักเวทย์ที่นอนอยู่บนพื้น
“ระวัง แมงมุมลายพวกนั้นด้วย!”
ใบหน้าของพ่อมดแซมเมียร์เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเมื่อเขามองดูแมงมุมลายซึ่งเขาได้ร่ายมนตร์ใส่พวกมัน แม้ว่าแมงมุมเหล่านี้กลายเป็นสีดำไหม้เกรียมไปทั้งตัว แต่ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเหลือเชื่อ
ร่างของแมงมุมลายทุกตัวขยายอย่างรวดเร็วจนมีขนาดเท่ากับอ่างล้างหน้า พวกมันดูน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
“แมงมุมลายพวกนี้เป็นสัตว์ประหลาดประเภทไหนกัน?”
เมอร์ลินทำหน้าบึ้ง เขาเคยพบแมงมุมเหล่านี้มาก่อนแต่แค่คาถาแช่แข็งก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแมงมุมลาย พวกนี้มันต่างจากที่เขาเคยพบไว้มาก
"แช่แข็ง!"
เมอร์ลินร่ายแช่แข็งอย่างรวดเร็วแต่คราวนี้ไม่เป็นผล แมงมุมลายขนาดมหึมาเหล่านี้ออกแรงเพียงเล็กน้อยเพื่อทำลายผลึกน้ำแข็งก่อนจะพุ่งเข้าหาเมอร์ลินและคนอื่นๆ อีกครั้ง
“วิ่งหนี ทุกคนรีบหนีเร็วเข้า!”
พ่อมดแซมเมียร์ไม่คิดว่าแมงมุมเหล่านี้น่ากลัวมาก ดังนั้นสัญชาตญาณแรกของเขาคือการล่าถอย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่พวกเขากำลังจะกลับออกไป ทันใดนั้นพวกเขาหันกลับไปก็พบว่าข้างหลังพวกเขา ฝูงแมงมุมลายจำนวนมากได้ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“มันเป็นแมงมุมลายตัวเล็ก พวกมันแอบย่องมาข้างหลังเราและตอนนี้พวกมันก็ล้อมเราไว้แล้ว พวกมันมีสติปัญญาระดับนี้ได้อย่างไร?”
พ่อมดแซมเมียร์พึมพำด้วยเสียงต่ำ แมงมุมลายล้อมรอบพวกมันไว้ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นพวกมันมีสติปัญญาที่ชาญฉลาด ถ้าไม่ใช่แมงมุมที่มีสติปัญญาสูง มันก็อาจมีพลังลึกลับบางอย่างที่ควบคุมแมงมุมที่มีลายเหล่านี้ก็เป็นได้
“ในเมื่อเราไม่สามารถล่าถอยได้ ก็แค่ฆ่าพวกมันทิ้งซะ!”
พ่อมดเบรนกล่าวเสียงแหบ พวกเขาเป็นนักเวทย์ระดับสาม พวกเขามีคาถาระดับสามที่ทรงพลัง พวกมันไม่มีทางต้านพลังของคาถาระดับสามได้แน่นอน
“บูม! บูม! บูม!”
เวทย์มนตร์กระจายเต็มห้อง พวกมันพุ่งเข้าหาแมงมุมลายในทุกทิศทาง บางทีคาถาระดับหนึ่งอาจไม่มีประโยชน์อะไรกับแมงมุมเหล่านี้มากนักเพราะพวกมันไม่กลัวการโจมตีธรรมดา เนื่องจากการต้านทานของพวกมันแข็งแกร่งมาก
อย่างไรก็ตาม พ่อมดแซมเมียร์และคนอื่นๆ ได้ร่ายคาถาระดับสาม ซึ่งสามารถทำลายแมงมุมลายได้อย่างง่ายดายแต่ทว่าคาถาพวกนี้เป็นการโจมตีเดี่ยว ดังนั้นเพื่อกำจัดกองทัพแมงมุมเหล่านี้ พวกเขาจะต้องเสียเวลาอย่างมาก
ณ จุดนี้ เวทมนตร์โจมตีหมู่ของเมอร์ลิน ลูกสายฟ้า เห็นได้ชัดว่ามันเป็นคาถาที่สำคัญในสถานการณ์นี้
“วงล้อวารี!”
พ่อมดแซมเมียร์ร่ายคาถาควบคุมของเขาอย่างรวดเร็วซึ่งจำกัดการเคลื่อนไหวของแมงมุมลายส่วนใหญ่ในห้อง แม้ว่าแมงมุมเหล่านี้จะมีพละกำลังมหาศาลและสามารถคายไหมสีขาวที่ทนทานออกมาได้ แต่พวกมันก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากคาถาควบคุมระดับสามได้
“พ่อมดเมอร์ลิน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่านแล้ว!”
พ่อมดแซมเมียร์บอกเมอร์ลินด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ขณะที่พ่อมดเบรนและพ่อมดรีเซ่นต่างก็หันไปมองเมอร์ลิน ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน หากฆ่าแมงมุมลายทีละตัว? พวกเขาอาจไม่มีพลังเวทย์มนตร์เพียงพอสำหรับสิ่งนั้น
“ลูกสายฟ้า!”
เมอร์ลินพยักหน้าและร่ายลูกสายฟ้าโดยไม่ชักช้า สายฟ้าที่มีรูปทรงกลมปรากฏขึ้นในทันที ลูกสายฟ้าจำนวยมากกำลังพุ่งเข้าหาแมงมุมลายที่ถูกมัดไว้
*เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!*
ทุกการโจมตีจากลูกสายฟ้าสามารถทำร้ายแมงมุมได้เพียงบางส่วนเท่านั้นแต่เป็นคาถาระดับหนึ่ง มันไม่สามารถฆ่าพวกมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่เขาคิดเรื่องนี้ เมอร์ลินจึงใช้ลูกสายฟ้าแบบเสริมพลังทันที
ทันใดนั้น พลังของสายฟ้าก็เพิ่มขึ้นสองเท่าอย่างชัดเจน ลำแสงสายฟ้าขนาดมหึมาต้องการเพียงไม่กี่ครั้งเพื่อกวาดล้างแมงมุมลาย ดูเหมือนว่าขีดจำกัดของความสามารถในการป้องกันของแมงมุมไม่ได้ขยายไปถึงคาถาระดับสอง
คาถาระดับสองส่วนใหญ่จะเพียงพอที่จะจัดการกับแมงมุมเหล่านี้ ลูกสายฟ้าแบบเสริมพลังของเมอร์ลินได้ขยายขีดความสามารถ มันเทียบเท่าได้กับพลังของคาถาระดับสอง ดังนั้นจึงเขาเพียงแค่ร่ายไม่กี่ครั้งก็เพียงพอที่จะจัดการแมงมุมลาย
เมื่อเห็นว่าลูกสายฟ้าส่งผลได้เกินคาด พ่อมดแซมเมียร์และคนอื่นๆ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย แน่นอน ด้วยสายตาที่เฉียบแหลมของพวกเขา พวกเขาจะไม่สังเกตเห็นได้อย่างไรว่าตั้งแต่ต้นจนจบว่าลูกสายฟ้าของเมอร์ลินได้รับการเพิ่มพลังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พวกเขาเชื่อมโยงสิ่งนี้กับอุปกรณ์เวทมนต์แบบเสริมพลังอันแสนลึกลับที่เมอร์ลินมีทันที เพียงแค่เปิดใช้งานมันก็ทำให้คาถาที่ใช้งานเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
‘อุปกรณ์เวทมนต์แบบเสริมพลังเป็นไอเทมที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!’
พ่อมดเบรนและพ่อมดแซมเมียร์แลกเปลี่ยนสายตากันและร่องรอยของความปรารถนาหุนหันพลันแล่นปรากฏบนใบหน้าของพวกเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาคิดว่าพ่อมดเดอมาร์โก้จบลงอย่างไร หัวใจของพวกเขาก็สั่นเล็กน้อย พวกเขาผลักความปรารถนาออกจากจิตใจทันที
มีเพียงพ่อมดรีเซนผู้ซึ่งเคยเป็นคนลึกลับมาโดยตลอด จ้องมองที่แผ่นหลังของเมอร์ลิน ขณะที่ดวงตาของเขามีประกายระยิบระยับแปลก ๆ เป็นครั้งคราว