80Y-ตอนที่ 88 องค์หญิงหยูหลินที่เดือดดาล
พระราชวังขาวและพระราชวังแดงของภูเขาหมาป่าสัญลักษณ์ทางใจของชาวเซียนเป่ยนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้น
แน่นอนว่าภูเขาหมาป่าก็คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา
มีคนจำนวนมากนับไม่ถ้วนที่ต้องการเข้าสู่ภูเขาหมาป่าเพื่อมาสักการะพระราชวังขาวและพระราชวังแดง
ชาวเซียนเป่ย นับไม่ถ้วน ต่างก็ใฝ่ฝันที่จะเป็นมาชิกของพระราชวังขาวและแดงบนยอดเขาหมาป่า
แต่คืนนี้…
ภายใต้สายตาของชาวเซียนเป่ยหลายล้านคน ความฝันของพวกเขา-พระราชวังขาวและพระราชวังแดง-ได้ถูกแยกออกจากกันด้วยกระบี่เดียว
แม้แต่ภูเขาหมาป่าขนาดใหญ่ก็ยังถูกแบ่งเป็นสองส่วน
กระบี่กระดูกที่น่าสะพรึงกลัวได้ฟาดฟันออกไปอย่างน่าตกใจ
ที่ราบทั้งหมดล้วนสั่นสะเทือน
ภูเขาหมาป่าที่สง่างามถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน
ปราณกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวนี้สามารถฆ่าปราชญ์การต่อสู้และยับยั้งเทพมนุษย์
ฉากนี้ได้เขย่าไปถึงแกนจิตใจของ มู่หรงหลิง
เขามองไปที่องค์หญิงหยูหลินอย่างไม่เชื่อ กระทั่งดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความตกใจ
ความเย่อหยิ่งและความถือดีของเขาล้วนถูกทำลายภายใต้การโจมตีในครั้งนี้
“ไม่ใช่ว่าเจ้าเพิ่งกลายเป็นเทพมนุษย์หรอกเหรอ!”มู่หรงหลิงกัดฟันแน่น
ร่างกายของเขาสั่นสะท้านและมีเหงื่อเย็นโชกอยู่บนแผ่นหลัง
เขาหวาดกลัว
โชคดีที่เขาไม่ได้โดนกระบี่เมื่อครู่ฟัน
มิฉะนั้นเขาคงไม่รอด
ภายใต้พลังกระบี่นั้น เขาสัมผัสได้ว่าแม้ตนเองจะทะลวงผ่านไปยังอาณาจักรพลังถ้ำสวรรค์ก็ยังไม่สามารถต้านทานมันได้
องค์หญิงหยูหลิน ได้มองไปที่ มู่หรงหลง ด้วยสีหน้าที่เย็นชา
คำพูดของ หลินจิ่วเฟิง ยังคงสะท้อนอยู่ในใจของนาง
“ไปฆ่าเขาซะ”
องค์หญิงหยูหลินได้อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ“ท่านอาจารย์...ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
“หากใช้กระบี่กระดูก เจ้าจะมีความมั่นใจมากแค่ไหน?”หลินจิ่วเฟิงได้กล่าวถาม
“ไม่ถึง 1 ส่วน!”องค์หญิงหยูหลินค่อนข้างลังเล
ถ้าพูดให้ถูกคือมันน้อยกว่าหนึ่งในหมื่น
ที่นางพูดว่าไม่ถึง 1 ส่วนนี้ นางไม่ได้โกหก
“แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ใช้ทักษะกระบี่กระดูกมรณะที่เจ้าเพิ่งเข้าใจในการฆ่าเขา”
หลินจิ่วเฟิงได้กล่าวเบา ๆ
องค์หญิงหยูหลิน ได้กลับมาควบคุมร่างกายของนางได้
นางได้ถือกระบี่กระดูกในมือ
ทว่าสิ่งที่นางสัมผัสคือภารอันหนักอึ้งหลายเท่าตัว
กระบี่กระดูกที่อยู่ในมือของเด็กสาวราวกับกระที่ล้ำค่าที่สุดในโลก
เด็กสาวค่อนข้างถนุถนอมมันราวกับสมบัติล้ำค่า
นางมองไปที่ มู่หรงหลิง ด้วยสายตาที่เย็นชา
“เจ้าคิดใช้ชีวิตของผู้คนนับล้านที่อาศัยอยู่ที่ชายแดนของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา มาเพื่อข่มขู่ เสด็จพี่จักรพรรดิของข้า อีกทั้งเจ้ายังคิดบีบบังคับให้ข้าต้องแต่งงานกับเจ้าอีก จุดประสงค์เพียงอย่างเดียวของเจ้าคือต้องการให้ข้าเป็นเครื่องจักรผลิตทายาทให้เจ้า…”
“ก่อนที่ข้าจะมาที่นี่ ข้าได้ป่าวประกาศไปแล้วว่าจะฆ่าเจ้า ข้าจะทวงคืนความอัปยศเหล่านั้นที่เจ้ามอบให้ข้าในครั้งเดียว!”
ขณะที่ เสียงของ องค์หญิงหยูหลิน ลดลง กระบี่กระดูกในมือของนางก็ฟาดฟันลงไป
นางได้หลับตาและนึกถึงการโจมตีของ หลินจิ่วเฟิง ก่อนหน้านี้
นางจำกระบวนท่าทั้งหมดได้
มันได้ตราตรึงในใจของนางอย่างลึกซึ้งและชัดเจนมาก
นางจะไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิต
เหตุผลที่นางบอกว่าไม่เข้าใจแล้วจริง ๆ นางก็ไม่เข้าใจเลย
เพียงแต่นางจำฉากที่ หลินจิ่วเฟิง ใช้ได้ก็เท่านั้น
นางเพียงแค่ลอกเลียนแบบการเคลื่อนไหวของเขา
เช่นเดียวกับที่นางใช้ทักษะกระบี่กระดูกมรณะ
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลินจิ่วเฟิงที่เฝ้ามองจากความว่างเปล่าเขาก็จมดิ่งในความคิดเช่นเดียวกัน
อาจกล่าวได้ว่านี่คือทักษะกระบี่กระดูกมรณะ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ยังขาดสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนมันเป็นทักษะกระบี่กระดูกมรณะที่แท้จริง
แต่กระบี่กระดูกแต่ละเล่มก็ล้วนแสดงพลังของมันออกมา
กึก!
ความว่างเปล่าได้ถูกพลังกระบี่นั้นบดขยี้
รอยแตกจำนวนนับไม่ถ้วนได้ปรากฏขึ้น
แกร๊ก แกร๊ก!
มู่หรงหลิง รู้สึกตกใจมากและรีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
“ช่วยข้าด้วย!”
เขาเป็นราชาของกองกำลังเหยี่ยวมังกร ราชาแห่งเซียนเป่ย
ตอนนี้เขาตกอยู่ในอันตราย เหตุใด นิกายแก่นแท้แห่งชีวิตถึงไม่ปรากฏตัวออกมา?
นิกายแก่นแท้แห่งชีวิตเป็นเหมือนกับมู่หรงหลิง
พวกเขามาจากยุคก่อน
เนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มคนของที่ราบ จึงไม่มีบันทึกของพวกเขาในหนังสือที่ สตรีศักดิ์สิทธิ์มอบให้ ดังนั้น หลินจิ่วเฟิง จึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย
แน่นอนว่าถึงแม้เขาจะรู้เขาก็ไม่ได้สนใจ
เขายังคงปล่อยให้องค์หญิงหยูหลินเข้าไปในที่ราบและท้าทายพวกเขา
นิกายแก่นแท้แห่งชีวิต!
ทันทีที่ มู่หรงหลิง ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ชายชราคนหนึ่งก็บินออกมาจากพรระาชวังแดงที่ถูกแยกออกจากพระราชวังขาว
เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่แปลกใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนของดินแดนที่ราบขณะที่เครายาวสีขาวของเขาได้ปลิวไสวไปตามลม
เขาได้ยกมือขึ้นและทำท่าทางที่น่าหวาดกลัว
มันเป็นหนึ่งในทักษะขั้นสูงสุดของนิกายแก่นแท้แห่งชีวิต-คลื่นระเบิดแก่นแท้พลังปราณ!
บูม!
คลื่นระเบิดแก่นแท้พลังปราณ คล้ายกับดวงอาทิตย์สีทอง
มันได้พุ่งชนเข้ากับกระบี่กระดูกโดยตรง
บูม บูม!
คลื่นระเบิดแก่นแท้พลังปราณ ชนเข้ากับกระบี่กระดูก มันก็ระเบิดออกโดยตรง
เกล็ดหิมะในอากาศได้ถูกฉีกกระชากอย่างรุนแรง
เพียงแต่การเคลื่อนไหวของกระบี่กระดูกไม่ได้ลดลงเลย
มันยังคงพุ่งไปทาง มู่หรงหลิง อย่างดุเดือด!
มู่หรงหลิง ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและพยายามจะหลบหนี
“ใช้มิติว่างเปล่า!”หลินจิ่วเฟิง ได้กระซิบที่ข้างหูของ องค์หญิงหยูหลิน
องค์หญิงหยูหลินได้ตะโกนออกมา“ไปตายซะ!”
พลังปราณแท้จริงของนางได้ไหลเข้าสู่กระบี่กระดูก
หึ่มม!
พริบตาเดียวกระบี่กระดูกก็กลายเป็นน่ากลัวมากเช่นกัน
พลังปราณขององค์หญิงหยูหลินได้เปลี่ยนเป็นปราณกระบี่อันแข็งแกร่งที่ผสมผสานกันในอากาศ
ขอบเขตของมันล้วนทำให้มิติว่างเปล่าล้วนถูกแช่แข็ง
ไม่ว่า มู่หรงหลิง จะพยายามหลบหนีอย่างไร เขาก็ยังติดอยู่ในมิติว่างเปล่าที่ถูกแช่แข็งนี้
เขาไม่สามารถหนีไปได้
“เจ้าบีบบังคับข้าเองนะ!”มู่หรงหลิงได้คำรามออกมาด้วยความโกรธ
เขาไม่ได้ซ่อนความแข็งแกร่งของตนเองอีกต่อไป
ฐานการบ่มเพาะพลังของเขาได้อยู่ในช่วง จุติใหม่ ของขั้นเทพมนุษย์ พลังของเขาได้ปะทุออกมาและเขาก็ได้ยกมือขึ้นเพื่อโจมตี
บูม!
การโต้กลับของเขาทรงพลังมาก แต่ทว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับกระบี่กระดูกและทักษะกระบี่กระดูกมรณะ
หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้ใช้ทักษะกระบี่นี้มากนัก
เป็นเวลาหลาย 10 ปีแล้วนับตั้งแต่เขาลงชื่อเข้าใช้และได้รับมันมา และเขาได้ใช้มันอย่างเป็นทางการแค่สองครั้งเท่านั้น
ครั้งแรกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ช่วงความโกลาหลที่พวกปีศาจจำนวนมากบุกมา
ในเวลานั้น หลินจิ่วเฟิง ได้เรียกกระบี่กระดูกออกมาและแสดงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของทักษะกระบี่กระดูก
ครั้งที่สองก็คือวันนี้
เขาได้ยืมร่างกายขององค์หญิงหยูหลินในการแยกภูเขาหมาป่าออกเป็นสองส่วนและตัดแบ่งพระราชวังขาวและพระราชวังแดงออกจากกันในครั้งเดียว
ทักษะกระบี่กระดูกนั้นทรงพลังเกินไป
หลินจิ่วเฟิง ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้มัน ดังนั้นเขาจึงมอบมันให้กับ องค์หญิงหยูหลิน
ไม่ว่าองค์หญิงหยูหลินจะเข้าใจทักษะกระบี่กระดูกมรณะแค่ไหน มันก็ยังไม่ใช่ความเข้าใจที่แท้จริงของนาง เพราะนางเพียงคัดลอกการกระทำของ หลินจิ่วเฟิง ก่อนหน้านี้ในการใช้งานมัน
นางได้ใช้ทักษะกระบี่กระดูกมรณะกับฐานการบ่มเพาะพลังที่เพิ่งไปถึงขั้นเทพมนุษย์ ร่วมกับกระบี่กระดูก ทำให้นางสามารถปะทะกับ มู่หรงหลิง ที่มีฐานการบ่มเพาะพลังในช่วงที่ 4 ของขั้นเทพมนุษย์ได้
นี่เป็นการประลองกันระหว่างองค์หญิงหยูหลินและมู่หรงหลิง
มันเป็นความแค้นระหว่างพวกเขา
พวกเขาต้องการสะสางเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
ดังนั้น หลินจิ่วเฟิง จึงไม่ได้เข้าร่วม
เขามองไปที่ชายชราจากนิกายแก่นแท้แห่งชีวิต
อีกฝ่ายต้องการแทรกแซงและโจมตีองค์หญิงหยูหลินจากภายนอก
ชายชราคนนี้แข็งแกร่งมาก
เขามีพลังเช่นเดียวกับ มู่หรงหลิง ซึ่งอยู่ในช่วงที่ 4 ของขั้นเทพมนุษย์
ถ้าเขาร่วมกันโจมตีกับมู่หรงหลิง องค์หญิงหยูหลิน จะเสียเปรียบแน่นอน
ดังนั้น หลินจิ่วเฟิง จึงได้สะบัดนิ้วของเขา
บูม!
พลังกระบี่อันไร้ตัวตนก็ได้ระเบิดกระแทกเข้าใส่หน้าอกของชายชราโดยตรง
สิ่งนี้ทำใหร่างกายของชายชราสั่นสะท้าน
เขากระอักโลหิตคำใหญ่ออกมาและมองไปที่รูที่หน้าอกของตนเอง
หัวใจของเขาได้ถูกทำลายภายใต้พลังกระบี่ของ หลินจิ่วเฟิง
ชายชราได้มองไปรอบ ๆ อย่างสับสน
ใครเป็นคนฆ่าเขา?
องค์หญิงหยูหลิน?
ไม่ใช่ นางกำลังต่อสู้กับ มู่หรงหลิง…
ทั้งคู่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ท่ามกลางพายุหิมะ องค์หญิงหยูหลิน ที่ถือกระบี่ยาวนับสิบเมตรได้ฟันออกไปอย่างต่อเนื่อง พลังกระบี่อันแข็งแกร่งได้บังคับให้ มู่หรงหลิง ตกเป็นฝ่ายป้องกัน
เขาทั้งเสียเปรียบและตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง
มู่หรงหลิงทั้งโกรธและอับอาย
ทว่าดูเหมือนองค์หญิงหยูหลินจะโกรธมากกว่าเขา
“เจ้าต้องการให้ข้าเป็นเครื่องจักรผลิตทายาทให้กับเจ้าอย่างไม่รู้จบหรือไม่?มาดูกันว่าวันนี้ข้าจะทุบตีเจ้าจนกว่าจะตาย!”
“เมื่อข้าออกจากเมืองหลวง ข้าก็ประกาศไปแล้วว่าจะฆ่าเจ้า วันนี้ก็ไม่มีใครช่วยเจ้าได้!”
“ตายซะ!”
เขาไม่ได้คาดหวังว่าองค์หญิงหยูหลินที่อ่อนแอและอ่อนโยนกลับมีเจตนาฆ่าที่รุนแรงถึงเพียงนี้
นางได้ใช้กระบี่กระดูกทุบมันไปที่ร่างของ มู่หรงหลิง โดยตรง
ถูกแล้ว…
นางได้ใช้กระบี่กระดูกในมือเป็นท่อนเหล็กไปแล้ว
นางไม่ได้ใช้งานมันตามลักษณะของกระบี่ แต่แปรเปลี่ยนเป็นอาวุธทื่อในการทุบ
หากมีการจู่โจมอย่างรุนแรง มู่หรงหลิง คงจะตายหรือพิการ
ทว่าเงาของทักษะกระบี่กระดูกมรณะก็ยังคงปรากฏขณะที่นางเหวี่ยงมันลงมา
กระบี่กระดูกให้ความร่วมมือกับนางในการแสดงพลัง
มุมปากของ หลินจิ่วเฟิง อดไม่ได้ที่จะกระตุก
องค์หยิงหยูหลินได้เปลี่ยนทักษะกระบี่กระดูกมรณะให้เหมือนกับนักเลงหัวไม้
ถ้ามีคนบอก หลินจิ่วเฟิง ว่านี่คือทักษะกระบี่กระดูกมรณะ
เขาคงไม่เชื่อว่าแม้ตนเองจะถูกทุบตีจนตาย
“ตายซะ!”การโจมตีขององค์หญิงหยูหลินในที่สุดก็พุ่งออกไปหา มู่หรงหลิง
เขาพยายามหลบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทว่ามิติความว่างเปล่าที่ถูกแช่แข็งและกระบี่กระดูกในมือของนางร้ายกาจเกินไป
บูม!
ร่างของเขาได้กลายเป็นหมอกสีเลือดโดยตรงภายใต้การโจมตีของทักษะกระบี่กระดูกมรณะ
มู่หรงหลิง เสียชีวิตแล้ว!
ยอดฝีมือจากนิกายแก่นแท้แห่งชีวิตมองดูฉากนี้ด้วยความงุนงง
เขาพยายามเคลื่อนไหวพุ่งไปทางซ้ายและขวาทว่าไม่นานพวกเขาก็ร่วงหล่นลงมา
ร่างของพวกเขาได้ถูกกลบฝังในหิมะสีขาวบริสุทธิ์
โดยไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นคนฆ่าพวกเขา