451 - การตอบโต้
451 - การตอบโต้
ขณะที่เล่ยสือตงสังหารนักฆ่าสามคนในเมืองผิงซี เอี้ยนลี่เฉียง ก็ยิงธนูลูกแรกของเขาออกไปแล้ว…
แม้ว่าคันธนูสิบต้านจะไม่ทรงพลังเท่ากับคันธนูยี่สิบต้านที่จักรพรรดิให้เป็นรางวัล แต่คันธนูแบบนี้สามารถยิงทะลุร่างกายของคนหลายคนด้วยลูกศรเดียวในระยะ 70 วาได้อย่างง่ายดาย
เป้าหมายของเอี้ยนลี่เฉียงคือค่ายทหารชั่วคราวของชาวชาตูซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาทางตะวันตกของเมืองผิงซี ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 ลี้
ในค่ายทหารมีชาวชาตูมากกว่าสี่สิบคนซึ่งดูเหมือนกองคาราวานค้าขายปกติทั่วไป ค่ายทหารล้อมรอบด้วยอูฐและม้าแรดกว่า 20 ตัว
สินค้าที่อูฐกำลังขนอยู่ทั้งหมดถูกขนถ่ายลงที่พื้น อูฐและสินค้ารายล้อมกระโจมหนังวัวห้าหลัง กองไฟตั้งอยู่กลางกระโจม ข้างกองไฟยังมีเนื้อย่างที่เหลือและกาต้มน้ำวางอยู่เหนือกองไฟที่กำลังลุกไหม้
ชาวชาตูสองสามคนกำลังนั่งข้างกองไฟเฝ้าพื้นที่อย่างผ่อนคลาย...
ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติใดๆกับคาราวานชาตูนี้เนื่องจากพวกเขาดูไม่ต่างจากกองคาราวานที่เดินทางไปยังเส้นทางศิลาขาวรวมไปถึงเมืองผิงซีตามปกติ
อย่างไรก็ตามเอี้ยนลี่เฉียงรู้ว่านี่ไม่ใช่คาราวานชาตูธรรมดาเพราะพวกเขาเป็นกลุ่มนักฆ่า เหยี่ยวที่ติดตามเขาจากเบื้องบนมาจากกลุ่มนี้
เขาเคยมีประสบการณ์ในการติดตามเหยี่ยวแบบนี้มาก่อน และครั้งนี้ก็ไม่มีความผิดพลาดอะไร
นี่เป็นกลยุทธ์ที่ผ่านการทดสอบมาอย่างดีของชาวชาตู ซึ่งแทบจะไม่เคยล้มเหลวในสนามรบมาก่อน แต่น่าเสียดายที่ชาวชาตูต้องมาพบเจอกับเอี้ยนลี่เฉียงอีกครั้ง
ด้วยการรับรู้ที่เหนือกว่าของเอี้ยนลี่เฉียง เมื่อเหยี่ยวทะยานข้ามท้องฟ้าและมุ่งเป้าไปที่หุบเขาโลกนี้ เขาก็ได้เล็งเป้าหมายไปที่เหยี่ยวด้วย เขาตามเหยี่ยวไปค้นหาเจ้าของของมันอย่างรวดเร็ว
นักบวชเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นคนที่สามารถควบคุมนกเหล่านั้นได้ และจะต้องมีนักบวชเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ซ่อนอยู่ภายในกองคาราวานนี้อย่างแน่นอน
เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกถึงความคุ้นเคยจากเงาของคนชาวชาตูที่อยู่กลางค่ายทหาร พวกเขาทำให้เอี้ยนลี่เฉียงนึกถึงกลุ่มโจรวายุทมิฬ
เนื่องจากเอี้ยนลี่เฉียงเป็นเป้าหมายของพวกเขา นักฆ่าที่แข็งแกร่งที่สุดก็ควรอยู่ในใจกลางเมืองผิงซีในขณะนี้ และนักฆ่าพวกนั้นก็ควรจะจบสิ้นในมือของเล่ยสือตงแล้ว
ถึงแม้ว่าดูเหมือนจะมีชาวชาตูจำนวนมากในหุบเขาเล็กๆแห่งนี้ แต่ก็เหมือนจะไม่มีสุดยอดฝีมืออยู่ที่นี่แม้แต่คนเดียว นี่จึงถือเป็นนช่วงเวลาที่ 'กองกำลังพิเศษ' ของชาวชาตูอ่อนแอที่สุด
เอี้ยนลี่เฉียงไม่อยากค้นหาว่าทำไมคนชาตู ถึงกำหนดเป้าหมายมาที่เขา อาจเป็นความเกลียดชังระหว่างเขากับกลุ่มโจรวายุทมิฬ
หรืออาจเป็นคำสั่งจากผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองหลวง ทั้งหมดนี้อาจเป็นเหตุผลที่ทำไมชาวชาตูถึงต้องการปลิดชีพเขา สำหรับเอี้ยนลี่เฉียงตัวเลือกหลังดูมีแนวโน้มมากกว่า
หากเป็นกรณีนี้ ก็ไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่าการฆ่า!
ด้วยเหตุผลบางอย่างเอี้ยนลี่เฉียงไม่รู้สึกกลัวใดๆ เมื่อรู้ว่าอีกไม่นานเขาจะต้องเผชิญหน้ากับผู้คนหลายสิบคนเขากลับรู้สึกตื่นเต้นแทน
อะดรีนาลีนที่พุ่งพล่านทำให้รูม่านตาของเอี้ยนลี่เฉียงขยายตัว ลมหายใจของเขาถี่เร็วขึ้นเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่ได้ หัวใจเต้นและเลือดของเขาพุ่งพล่านในทันที
รูม่านตาขยายช่วยให้เขามองเห็นได้ชัดเจนขึ้นในความมืด ในขณะที่การหายใจอย่างรวดเร็วของเขาทำให้ออกซิเจนและพลังงานในร่างกายของเขามากขึ้น
เอี้ยนลี่เฉียงยิงธนูสี่ดอกครั้งแรกในครั้งเดียว เมื่อลูกศรทั้งสี่ออกจากนิ้วของเอี้ยนลี่เฉียง เสียงของลูกศรพุ่งทะลุผ่านความเงียบของหุบเขา มันทะลุกระโหลกศีรษะของชาวชาตูทั้งสี่ที่นั่งข้างกองไฟ
ส่วนผสมของสมองและเลือดโปรยปรายลงบนกองไฟ ทำให้เกิดเสียงอันร้อนแรง ชาวชาตูคนหนึ่งที่ถูกยิงล้มกระแทกเข้าใส่กองไฟและกาน้ำร้อนจนเกิดเสียงดัง
ความสงบสุขของค่ายทหารขนาดเล็กแห่งนี้พังทลายลงทันที ชาวชาตูคนหนึ่งออกมาจากกระโจมของเขาทันทีหลังจากที่เขาได้ยินเสียงจากภายนอกกระโจม
ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆตัว ลูกศรพุ่งทะลุกระโหลกศีรษะของเขา ในเวลาเดียวกันลูกศรอีกสามลูกพุ่งตรงเข้าไปในกระโจมหนังวัวและสังหารคนชาตูสองสามคนที่นอนอยู่บนพื้น
ภายในกระโจมถูกเลือดสาดกระเซ็นในทันทีและเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดหวั่น…
เอี้ยนลี่เฉียงเป็นเหมือนป้อมปืนกลที่ยิงออกไปอย่างต่อเนื่อง เขาเล็งลูกธนูไปที่กระโจมทั้งห้าที่อยู่ด้านล่าง และยิงลูกศรออกไปโดยไม่พักมือ
กระโจมเหล่านั้นเต็มไปด้วยชาวชาตูที่กำลังพักผ่อนและนอนหลับอยู่ หนังวัวชั้นบางๆนั้นไม่สามารถเทียบได้กับเกราะปกติ
ลูกธนูจากคันธนูงูเหลือมเขาสิบต้านของเอี้ยนลี่เฉียง ยิงทะลุแผ่นหนังเหมือนกับยิงทะลุผ่านแผ่นกระดาษ ลูกธนูที่แทงทะลุกระโจมเป็นเหมือนจูบของเทพมรณะที่นำความรื่นรมย์มาสู่ผู้คนในกระโจมจนพวกเขาต้องนอนหลับไหลไปตลอดกาล
ในขณะนี้ เห็นได้ชัดว่าเอี้ยนลี่เฉียงมีระดับเหนือกว่านักธนูธรรมดา
เขาสามารถยิงลูกธนูสองชุดได้ภายในหนึ่งลมหายใจในระหว่างนี้มีลูกศรสี่ลูกถูกยิงออกไปในหนึ่งชุด นั่นหมายความว่าในหนึ่งลมหายใจเอี้ยนลี่เฉียงสามารถยิงลูกศรออกไปได้ถึงแปดลูก
พลังการยิงอันน่าสะพรึงกลัวทำให้เกิดพายุร้ายแรงในหุบเขาเล็กๆ หลังจากที่เอี้ยนลี่เฉียงยิงธนูชุดที่สอง เสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวดังก้องมาจากภายในกระโจมเหล่านั้น
ชาวชาตูในกระโจมตระหนักว่าพวกเขาถูกโจมตี พวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวจากภายนอก และเห็นว่าคนข้างๆ ถูกยิงด้วยลูกธนูจากด้านนอกอย่างไร
พวกเขาเชื่อศัตรูที่โจมตีพวกเขาตอนนี้เป็นยอดฝีมือในด้านการยิงธนูกลุ่มนึง
ชาวชาตูบางคนพยายามวิ่งออกจากกระโจมแต่ไม่มีใครรอด บรรดาผู้ที่หนีออกจากกระโจมก็ถูกลูกธนูบินที่ฝังอยู่ในหัวของพวกเขาลงมาทันที
เอี้ยนลี่เฉียงนำลูกธนูมาด้วยสองซอง แต่ละซองมีลูกธนูสามสิบหกดอก รวมทั้งหมดเจ็ดสิบสองดอก ลูกธนูทั้งเจ็ดสิบสองดอกนี้ถูกยิออกไปในเวลาเก้าลมหายใจเท่านั้น
กระโจมแต่ละหลังถูกแทงด้วยลูกศรอย่างน้อยสิบดอก กระโจมที่ใหญ่ที่สุดถูกลูกศรทะลุอย่างน้อยยี่สิบดอก ซึ่งทำให้มีรูมากมายในนั้น
หลังจากยิงลูกธนูจนหมด เอี้ยนลี่เฉียงก็วางคันธนูลงและชักกระบี่ยาวของเขาพร้อมกับวิ่งผ่านเนินเขา พุ่มไม้และกอหญ้าที่รกทึบ กลายเป็นพยัคฆ์เหินฟ้าบินเข้าสู่กองคาราวานอย่างโหดร้าย
กระโจมของค่ายทหารชาตูเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บภายในเวลาไม่ถึงสิบลมหายใจ เสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวดังก้องไปทั่วค่ายทหาร อย่างไรก็ตามยังมีผู้รอดชีวิตท่ามกลางสายฝนลูกศร
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงมาถึงค่ายทหาร ชายชาวชาตูที่มีใบหน้าเปื้อนเลือดกำลังตัดกระโจมใกล้ๆกับเอี้ยนลี่เฉียง เขารีบออกมาโดยไม่ทันได้ดูอะไรแต่กลับต้องเจอกับมัจจุราชในทันที
เอี้ยนลี่เฉียงตอบสนองอย่างรวดเร็วและไม่ให้โอกาสชายชาตูคนนั้น เอี้ยนลี่เฉียงแทงกระบี่ของเขาเข้าไปในหน้าอกของชายชาตู
ชายคนนั้นร้องออกมาและเอี้ยนลี่เฉียงก็เตะหนักตามไป ด้วยเสียงกระดูกหัก ร่างของชายชาตูก็บินถอยหลังเข้าไปในกระโจมราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่กระแทกชายชาตูคนที่สองซึ่งกำลังจะออกมาจากกระโจม
ชายทั้งสองมีเลือดไหลท่วมร่างกายในขณะที่พวกเขาปลิวกลับเข้าไปในกระโจม
เอี้ยนลี่เฉียงบุกเข้าไปในกระโจมโดยใช้ทางออกเดียวกัน
ภายในมีชาวชาตูแปดถึงเก้าคน ผู้คนมากกว่าครึ่งเสียชีวิตบนพื้นหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสจากลูกธนูที่เอี้ยนลี่เฉียงยิงก่อนหน้านี้และสูญเสียความสามารถในการต่อสู้อย่างรวดเร็ว
พวกเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดบนพื้นและเลือดก็ไหลไปทั่วกระโจม เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงรีบเข้าไปในกระโจม ชายชาตูเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บก็ถูกตัดศีรษะโดยที่ยังไม่ได้ลุกขึ้นจากที่นอนด้วยซ้ำ
ชายชาวชาตูอีกสองคนที่ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่และหน้าท้องพยายามหยิบอาวุธ กระบี่ของเอี้ยนลี่เฉียงส่องประกาย และชายทั้งสองก็ถูกตัดศีรษะเช่นกัน