ตอนที่แล้ว448 - แผนงานธุรกิจขนาดใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป450 - ฟ้าผ่ากระทันหัน

449 - ผู้ใดครอบครองน้ำมันผู้นั้นครองโลก


449 - ผู้ใดครอบครองน้ำมันผู้นั้นครองโลก

เอี้ยนลี่เฉียงเหลือบมองเล่ยสือตง จากนั้นหยิบขวดกระเบื้องเคลือบสีดำและสีขาวออกจากหน้าอกของเขา เขาถอดจุกขวดสีขาวออกก่อนแล้วจึงเทของที่บรรจุอยู่เล็กน้อยลงบนโต๊ะ

เมื่อมองไปที่อนุภาคสีขาวเป็นประกายบนพื้นผิวของโต๊ะเล่ยสือตงก็ขมวดคิ้ว

"นี่คือ…"

“ลองชิมดูลุงเล่ย!”

เล่ยสือตงเหลือบมองที่เอี้ยนลี่เฉียง จากนั้นบีบนิ้วเล็กน้อยระหว่างนิ้วแล้วใส่เข้าไปในปากของเขาโดยไม่ลังเลหรือกังวลว่ามันอาจจะเป็นพิษ ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นทันที

"เกลือ…"

“ใช่ มันคือเกลือ!” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้ม

“เกลือจะขาวได้ขนาดนี้ได้ยังไง? แม้แต่คุณภาพของเกลือสีน้ำเงินที่นำเข้าโดยแคว้นกานและเกลือทะเลสาบที่ดีที่สุดที่ผลิตในแคว้นหลันยังอ่อนไปเมื่อเทียบกัน

ไม่เพียงเท่านั้น รสขมก็หายไปด้วย! นี่เป็นเกลือบรรณาการแบบใหม่ที่เจ้านำกลับมาจากเมืองหลวงอย่างนั้นหรือ?” เล่ยสือตง ถามด้วยความประหลาดใจ

เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มและส่ายหัว

“นี่ไม่ใช่เกลือสีน้ำเงิน เกลือในทะเลสาบหรือเกลือของจักรพรรดิรูปแบบใหม่จากพระราชวัง มันเป็นเกลือที่ผลิตโดยแคว้นกานของเรา!”

"เป็นไปไม่ได้!"

เล่ยสือตงเกือบจะยืนขึ้นด้วยความตกใจในขณะที่เขาส่ายหัว

“แคว้นกานเรามีเกลือดินเท่านั้น! ถ้าเราสามารถผลิตเกลือชนิดนี้ได้เราคงรวยไปนานแล้ว และข้าจะไม่เป็นผู้ว่าการแคว้นที่จนที่สุดเช่นนี้!”

เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มจากนั้นถอดจุกขวดลายครามสีดำออกแล้วเทสิ่งที่บรรจุในขวดออกมา

ขวดเครื่องลายครามสีดำบรรจุเกลือดินที่ผลิตในแคว้นกานซึ่งมีสีน้ำตาลอมเหลือง ดูเหมือนทรายผลึกมากกว่าเกลือ นอกจากรสเค็มแล้ว ยังมีรสฝาดและรสขมที่รุนแรงอีกด้วย

นี่เป็นเกลือที่มีคุณภาพต่ำที่สุดซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะบริโภคโดยครอบครัวที่ยากจนที่สุดเช่นกัน แม้จะถือว่าคุณภาพต่ำที่สุดแต่ก็ยังมีราคาแพงมาก

หนึ่งจินมีราคามากกว่า 120 เหรียญทองแดง(300 เหรียญ=1 ตำลึง) ในขณะที่เกลือสีน้ำเงินละเอียดมีราคามากกว่าเงินหนึ่งตำลึงต่อจิน

และเกลือทะเลสาบของแคว้นหลันมีราคามากกว่า 600 เหรียญทองแดงต่อจิน

ส่วนเรื่อง 'เกลือจักรพรรดิ' ที่ลือกันว่าต่อให้เป็นคนระดับผู้ว่าการแคว้นก็ไม่แน่ว่าจะเคยเห็น เกลือประเภทนี้มีไว้ให้จักรพรรดิใช้แปรงฟันเท่านั้น

“ถ้าข้าเปลี่ยนเกลือดินในขวดสีดำนี้ให้เป็นเกลือในขวดสีขาวได้ คิดว่าธุรกิจนี้จะได้ผลมั้ยลุงเล่ย?”

ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเอี้ยนลี่เฉียง น้ำมันเป็นสินค้าที่มีค่าที่สุดในสังคมยุคใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย น้ำมันเป็นเลือดของเศรษฐกิจโลกสมัยใหม่ เป็นแหล่งความมั่งคั่งและรากฐานของอุตสาหกรรม

หากไม่มีน้ำมัน สังคมโดยรวมก็จะหยุดชะงัก ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเอี้ยนลี่เฉียง น้ำมันมักเชื่อมโยงกับสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศ ตระกูลผู้มีอิทธิพลและหน่วยงานลับ

มันไม่เพียงแต่นำมาซึ่งความมั่งคั่งมหาศาลเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดสงคราม ความสุข และการแยกจากกันนับไม่ถ้วน Henry Alfred Kissinger เคยกล่าวไว้ว่า "ใครก็ตามที่ควบคุมน้ำมันได้จะเป็นผู้ควบคุมโลก"

บนทวีปสีเงินโลกที่เอี้ยนลี่เฉียงอาศัยอยู่ในปัจจุบัน คุณค่าของเกลือนั้นเทียบเท่ากับน้ำมันในชีวิตก่อนหน้านี้อย่างไม่ต้องสงสัย อันที่จริง เกลือมีค่ายิ่งกว่าน้ำมันเสียอีก

เพราะคนเราสามารถอยู่ได้โดยปราศจากน้ำมัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ได้โดยปราศจากเกลือ แร่นี้เป็นตัวเอกในโลกนี้และเป็นสินค้าที่มีตลาดใหญ่ที่สุดในโลก

การเพิ่มขึ้นและการล่มสลายของอาณาจักรที่มีอิทธิพลรวมไปถึงสงครามระหว่างอาณาจักรล้วนมีความเกี่ยวข้องกับเกลือ

ในอาณาจักรที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลและทุกคนต่างก็ฝึกฝนวิชาต่อสู้ ระบบราชการของจักรวรรดิฮั่นยิ่งใหญ่ย่อมไม่สามารถผูกขาดการขายเกลือไว้เพียงลำพังได้

ดังนั้นการค้าเกลือจึงไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่ค่อนข้างจะเสียภาษีในอัตราส่วนสูง

เกลือถูกแบ่งออกเป็นระดับบน กลาง ล่าง และต่ำสุด หากสามารถเปลี่ยนให้เกลือระดับต่ำสุดกลายเป็นเกลือระดับสูง ไม่ต้องคิดเลยว่ามันจะทำเงินมากมายแค่ไหน

การค้าเกลือยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ทำกำไรมากที่สุดในโลก เนื่องจากสินค้าพวกนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สำหรับพ่อค้าเกลือสิ่งที่พวกเขาต้องลงทุนมีเพียงเรื่องแรงงานและการขนส่งเท่านั้น

แม้ว่าทางการจะเอากำไรไปครึ่งหนึ่ง แต่ผลกำไรก็ยังมากกว่าต้นทุนหลายสิบเท่า

หากพ่อค้าเกลือไม่ยอมจ่ายภาษีให้กับทางการ เกลือที่พวกเขาครอบครองจะถือเป็นเกลือที่ลักลอบนำเข้ามา การลักลอบนำเข้าเกลือถือเป็นความผิดร้ายแรงในอาณาจักรฮั่น

หากสามัญชนคนหนึ่งรายงานว่าพวกเขาซื้อเกลือที่ลักลอบนำเข้ามาและได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง พวกเขาจะได้รับรางวัลเป็นทองคำที่พอจะทำให้พวกเขาร่ำรวยไปตลอดชีวิต

ในขณะเดียวกันพ่อค้าเกลือนั้นก็จะมีความผิดฐานลักลอบขายเกลือเถื่อน ความผิดนี้จะทำให้พวกเขาถูกประหารทั้งตระกูล

ด้วยระบบการจัดการที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ จึงมีคดีลักลอบนำเข้าเกลือเพียงไม่กี่คดีเท่านั้นตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้คิดถึงวิธีการค้าเกลือในตอนเริ่มต้น อย่างไรก็ตามระหว่างการเดินทางกลับมายังแคว้นกาน เอี้ยนลี่เฉียงพยายามครุ่นคิดหาวิธีที่จะทำให้เขามีอำนาจมากที่สุดเท่าที่จะมากได้

สุดท้ายเอี้ยนลี่เฉียงก็รู้แจ้งว่าขอเพียงเขามีเงินมากพอเท่านั้นเขาก็จะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างหลับที่เขาต้องการ และในโลกนี้อาชีพใดจะถือเป็นอาชีพที่ทำรายได้มากที่สุด คำตอบก็คือเกลืออย่างแน่นอน

ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเอี้ยนลี่เฉียง ความรู้เรื่องการสกัดเกลือนั้นถูกบรรจุอยู่ในแบบเรียนของวิชาเคมีสำหรับนักเรียนมัธยมอยู่แล้ว

แคว้นกานผลิตเกลือป่นซึ่งเป็นเกลือชนิดหนึ่ง เนื่องจากข้อจำกัดของเทคโนโลยีในยุคนี้ เกลือป่นที่ถูกผลิตในแคว้นกานจึงมีคุณภาพระดับปานกลางลงไปหาต่ำ

โชคดีที่เอี้ยนลี่เฉียงมีความรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ภายในห้องทำงานของผู้ว่าการแคว้นเขาก็เปลี่ยนเกลือสีเทาน้ำตาลที่อยู่ในขวดให้กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น

ธุรกิจเกลือเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจรถสี่ล้อ อย่างไรก็ตามเอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้ถือเป็นผู้มีอิทธิพลที่จะครอบครองธุรกิจขนาดใหญ่แบบนี้ได้

บางทีในอนาคตข้างหน้าอีกสักสองสามปีเอี้ยนลี่เฉียงคงมีสถานะยิ่งใหญ่เพียงพอที่จะครอบครองมันเพียงลำพัง น่าเสียดายที่เวลาไม่เคยคอยใคร

ดังนั้นเอี้ยนลี่เฉียงจึงได้แต่หาพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และผู้ทรงอิทธิพลภายในแคว้นกานคงไม่มีผู้ใดยิ่งใหญ่ไปกว่าเล่ยสือตง

หลังจากที่เอี้ยนลี่เฉียงสกัดเม็ดเกลือที่ขาวบริสุทธิ์ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาทั้งสองคนก็ปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานที่จะเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

การผลิตเกลือภายในแคว้นกานไม่ได้หรูหราอะไร ตระกูลที่มีอิทธิพลในท้องถิ่นจะเป็นผู้ควบคุมบ่อเกลือ ดังนั้นเล่ยสือตงจะเป็นผู้ออกไปรวบรวมบ่อเกลือพวกนั้นมา

ขั้นตอนแรกของพวกเขาหลังจากความร่วมมือคือให้ เล่ยสือตง เข้าควบคุมเหมืองเกลือทั้งหมดที่อยู่ในแคว้นกานและแคว้นอวิ๋นเถา

เอี้ยนลี่เฉียงจะจัดหากำลังคน เงินทุน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับการผลิต เล่ยสือตงจะรับผิดชอบความปลอดภัยของเหมืองเกลือรวมทั้งอำนวยความสะดวกในด้านการขนส่ง

เอี้ยนลี่เฉียงจะรับผิดชอบด้านการตลาด และกำไรสุทธิจะถูกแบ่งครึ่ง เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักหน่อยเพราะเล่ยสือตงจำเป็นต้องรวบรวมเหมืองเกลือทั้งหมดที่อยู่ในแคว้นใกล้เคียง

แม้ว่าเล่ยสือตงจะเป็นผู้ว่าการแคว้น แต่เขาก็ไม่สามารถคว้าเหมืองเกลือทั้งหมดและส่งให้เอี้ยนลี่เฉียงได้ในทันที ด้วยธุรกิจที่ใหญ่โตขนาดนี้จำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมตัวนานกว่าครึ่งปี

เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาพูดคุยกันเสร็จ มันก็เข้าสู่ช่วงดึกแล้วดังนั้นเอี้ยนลี่เฉียงจึงลาจากไป

“ลุงเหล่ย ไม่จำเป็นต้องส่งข้าอีก…”

หลังจากพูดคุยกันเป็นเวลานานเอี้ยนลี่เฉียงพบว่าการเรียกเล่ยสือตงเป็นลุงเล่ยโดยไม่รู้สึกเคอะเขิน

“ลี่เฉียง ถ้าเจ้าเจอปัญหา เจ้าสามารถมองหาเจี้ยนเป่ยและอู่เฉิง ได้โดยตรง ใครก็ตามที่กล้าหาเรื่องกับเจ้าหมายความว่าพวกมันกำลังหาเรื่องกับข้า”

เล่ยสือตงยิ้มขณะที่ชี้ไปที่ผู้ว่าการแคว้นผิงซีและผู้ว่าการทหารที่เพิ่งแต่งตั้งใหม่

“ตกลงตามนี้ ในอนาคตคงต้องพึ่งพาใต้เท้าทั้งสองอีกมาก…”

เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด