ตอนที่แล้ว401-402
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป405-406

403-404


3/10

Ep.403

หลังสังหารชายนิรนาม ซูเฉินได้ปลดปล่อยเวทมนต์ออกมาอีกครั้ง ระเบิดเข้ากลางวงเผ่ามายา ปลิดชีวิตพวกมันไปกว่าครึ่ง อีกครึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส

จบเรื่องตรงส่วนนี้ ซูเฉินหันหัวพุ่งไปอีกทาง ตรงเข้าสังหารมหาจักรพรรดิเฮยหยุนเป็นรายต่อไป

เฮยหยุนในเวลานี้ถูกห้อมล้อมเอาไว้ด้วยปราณมรณะ ขัดขวางมิให้ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] เข้าใกล้ สามารถทำได้เพียงก่อกวนไม่หยุดจากรอบนอกเท่านั้น

เมื่อซูเฉินมาถึง พรรคพวกจากเผ่าอมตะจำนวนมากก้าวออกมาขวางทางเขา ทั้งหมดพร้อมใจกันปลดปล่อยปราณมรณะออกมา ผนึกกำลังกันเป็นโล่ทมิฬขนาดใหญ่

โดยไม่คำนึงถึงปราการเบื้องหน้า ซูเฉินกระโจนเข้าชนโล่ทมิฬด้วยร่างกายเขา จากนั้นกวาดคมดาบตัดเป็นแนวนอน เห็นแค่เพียงกระแสคลื่นสีฟ้าโหมกระหน่ำ สังหารเผ่าอมตะที่ขวางหน้าตายไม่มีเหลือ

“เหตุใดเขาถึงไม่หวั่นเกรงพิษซากศพของพวกเรา?”

เห็นซูเฉินไล่เข่นฆ่าทุกสารทิศ ทั้งๆที่จมอยู่ภายใต้ปราณมรณะ ความหวาดกลัวในใจมหาจักรพรรดิเฮยหยุนพุ่งทะยานถึงขีดสุด

เหตุผลที่เผ่าอมตะกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ ก็เนื่องมาจากพิษซากศพของพวกมัน

หากกระทั่งพิษซากศพก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งซูเฉิน นั่นมิได้หมายความว่าซูเฉินคงกระพันหรอกหรือ?

แล้วแบบนี้จะสู้ได้ยังไง? จะรออะไรอีก วิ่งสิวิ่ง!

ความคิดนี้ผุดเข้ามาในหัวใจเขา มหาจักรพรรดิเฮยหยุนไม่กล้ารั้งอยู่ต่อ ระหว่างถูกบีบบังคับให้ล่าถอย [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] หันหลังกลับ มุ่งไปกำจัดผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกละทิ้งแทน

“คิดหนี?”

ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา เปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] อีกครั้งเพื่อไล่ตาม

ในเวลาเดียวกัน เทคนิคพันธนาการธาตุไม้และพลังจิตได้ถูกปลดปล่อยออกมา ทางหนึ่งกลางอากาศ ทางหนึ่งไล่ไปตามพื้น เข้าถึงตัวมหาจักรพรรดิเฮยหยุนอย่างรวดเร็ว

เฮยหยุนที่กำลังหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง จู่ๆพลันรู้สึกว่าเท้าเขาโดนพันธนาการโดยบางสิ่งบางอย่าง พยายามออกแรงแต่ก็สลัดไม่หลุด

ท่ามกลางสภาวะฉุกละหุก เขาก้มลงและกวาดตามอง เมื่อพบว่ามีเถาวัลย์สีเขียวพันอยู่รอบข้อเท้า เขาคล้ายรู้สึกเกิดความไม่อยากจะเชื่อขึ้นในใจ

อาศัยเทคนิคพันธนาการธาตุไม้เพียงอย่างเดียว สามารถหยุดข้าได้อย่างไร?

เฮยหยุนกัดฟัน พยายามออกแรงยิ่งกว่าเดิม

แคว๊ก!

เริ่มได้ยินเสียงเถาวัลย์ฉีกขาด มหาจักรพรรดิเฮยหยุนมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง แต่ขณะที่เขากำลังจะดิ้นรนจากพันธนาการ พลังที่มองไม่เห็นก็โถมกดลงบนตัวเขา

“พลังจิตเลเวล 5 ? แค่นี้คิดหรือจะรั้งฉันได้?”

มหาจักรพรรดิเฮยหยุนยิ้มเยาะ ระเบิดพลังของผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 ออกมาเต็มพิกัด

แคว๊กกก!

เถาวัลย์เขียวฉีกขาด พลังที่มองไม่เห็นรอบตัวก็สลายหายไปเช่นกัน

เมื่อหลุดพ้นจากพันธนาการทั้งสอง มหาจักรพรรดิเฮยหยุนเตรียมวิ่งหนีอีกครั้ง

แต่ในเวลานั้นเอง ซูเฉินสามารถเข้าประชิดตัวเขาได้แล้ว สองมือกุมด้ามดาบฟาดฟันลงมา

เปรี้ยงงง!!

กระแสสายฟ้าพุ่งออกมาจาก [ดาบเสริมมนตรา] ชั่วพริบตาเดียวกลืนทั้งตนทั้งร่างของมหาจักรพรรดิเฮยหยุนเข้าไป

“ไม่ …”

มหาจักรพรรดิเฮยหยุนกรีดร้องอย่างไม่ยินยอม สุดท้ายกลายเป็นศพไหม้เกรียม

ไม่ไกลออกมา เซินหลางผู้ซึ่งพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า ถูกเต่าทรราชกดดันจนต้องถอยร่นอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้เห็นฉากนี้ ก็บังเกิดความรู้สึกหวาดกลัวอกแทบแตกตาย

ผู้แข็งแกร่งเลเวล 6 ฝั่งเขามีทั้งสิ้น 4 คน ทว่า ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที กลับตกตายไปแล้วถึงสองคน อีกหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการดำรงอยู่อันน่าสยดสยองเช่นซูเฉิน ที่สามารถสังหารผู้ฝึกตนเลเวล 6 ได้ในเวลาไม่กี่วินาที เซินหลางก็กระจ่างแก่ใจ ว่าหากเขาไม่รีบหนีให้พ้น คงต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่

“เผ่าวิหคเหินทุกตนจงฟัง! รีบหนีไปพร้อมกับข้า!”

เซินหลางตะโกน สยายปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

เผ่าวิหคเหินในบรรดาหมื่นเผ่าพันธุ์ กำลังรบของพวกเขาอยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางล่างเท่านั้น ทว่าความสามารถในการหลบหนี ไม่เป็นสองรองใคร

เมื่อใดก็ตามที่พบคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถเอาชนะได้ พวกเขาก็จะสยายปีกบินขึ้นไปในอากาศ

และในครั้งนี้ เซินหลางยังคงเลือกใช้วิธีนี้รักษาชีวิตตน

เมื่อเห็นเซินหลางและสมาชิกเผ่าวิหคเหินตนอื่นๆบินไกลออกไป จิตใจของซูเฉินก็เริ่มเกิดความกังวล

คิดตัดวัชพืช หากไม่ถอนถึงรากจะนำมาซึ่งปัญหาไม่รู้จบ

เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เซินหลางหนีไป แต่เขาบินไม่ได้ แล้วแบบนี้จะไล่ตามเซินหลางได้อย่างไร?

ท่ามกลางช่วงเวลาฉุกละหุก ซูเฉินพลันนึกถึงชิ้นส่วน [ก้าวเมฆามรกต] ขึ้นมาได้

ชิ้นส่วนที่สะสมในตอนนี้ยังไม่เพียงพอ จึงไม่ทราบว่ามันมีคุณสมบัติอะไร แต่เขารู้สึกได้รางๆ ว่าตราบใดที่ปลดล็อค [ก้าวเมฆามรกต] --

--เขาจะสามารถไล่ตามเซินหลางได้อย่างแน่นอน!

4/10

Ep.404

ซูเฉินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] ใช้ 5,000 แต้มพลังงานแลกเปลี่ยนกับ [ก้าวเมฆามรกต] ในทันที

ช่วงเวลาที่การแลกเปลี่ยนสำเร็จ ข้อมูลก็ถูกส่งเข้ามาในหัวเขา

และเป็นเช่นเดียวกับลางสังหรณ์ เพราะ [ก้าวเมฆามรกต] สามารถช่วยให้เขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้จริงๆ!

แต่หากให้อธิบายแบบละเอียดกว่านี้ ต้องบอกว่ามันคือความสามารถที่ช่วยให้วิ่งบนท้องฟ้าได้อย่างอิสระ เฉกเช่นเดียวกับเวลาอยู่บนบก

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า …! คราวนี้มาดูกันว่าแกจะรอดจากเงื้อมมือฉันไปได้ยังไง!” ซูเฉินระเบิดเสียงหัวเราะอย่างไม่อาจควบคุม

จากนั้น  เขาก็เริ่มย่ำขึ้นไปในอากาศที่ว่างเปล่า ทะยานเป็นแนวทแยง ราวกับกำลังเหยียบขั้นบันได

เมื่อถึงความสูงระดับหนึ่งแล้ว เขาก็หันไปสั่งเต่าทรราชปราณฟ้า “เสี่ยวปา นายกับเสี่ยวจินช่วยกันฆ่าพวกต่างเผ่าให้หมด!”

สิ้นเสียง เขาก็เปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] วิ่งไล่ตามเซินหลางไป พริบตาเดียวหายวับจากสายตาของทุกคน

สมาชิกบน [รถศึกอัจฉริยะ] ได้เห็นฉากอันน่าเหลือเชื่อนี้ ทั้งหมดต่างอ้าปากตาค้าง ตกใจจนอธิบายไม่ถูก

“นี่พี่เฉินสามารถบินได้ด้วยหรอ?” สมองของหยางฮ่าวคล้ายมีเสียงหึ่ง หึ่ง บ่นงึมงำด้วยความงุงงง

เฉาหรานที่อยู่ข้างๆเดาะลิ้น กล่าวเสริมว่า “ไม่ใช่บิน แต่เขากำลังวิ่งอยู่ในอากาศต่างหาก”

“มีอะไรในโลกใบนี้อีกไหมที่พี่ใหญ่เฉินทำไม่ได้?” สือต้าหนิวกลืนน้ำลาย ทอดถอนหายใจจากก้นบึ้งของหัวใจ

อีกด้านหนึ่ง เซินหลางกำลังพาลูกน้องที่เหลือหลบหนีไปด้วยกันกับเขา บินอยู่บนท้องฟ้า มุ่งหน้ากลับขุนเขาเทียนฉีอย่างสบายอารมณ์

“ซูเฉิน ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหน จะสามารถกำตัดผู้ฝึกตนเลเวล 6 ได้ในไม่กี่วินาทีรึอย่างไร สุดท้ายหากคิดสังหารเราเซินหลาง เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน!”

เซินหลางพึมพำอย่างภาคภูมิใจ ราวกับว่าตนเพิ่งคว้าชัยชนะมา

“แย่แล้วนายท่าน เจ้ามนุษย์น่ากลัวคนนั้นกำลังไล่ตามมา!”

แต่ในเวลานั้นเอง เผ่าวิหคเหินที่อยู่ข้างกายเขาพลันร้องโวยวายขึ้น

มนุษย์น่ากลัว? ผู้ใดกัน? ซูเฉินงั้นหรือ?

แต่ซูเฉินเป็นแค่มนุษย์ แล้วเขาจะสามารถโบยบินได้อย่างไร?

คำตอบแน่นอนว่าไม่มีทาง! เพราะมนุษย์ไม่มีสองปีก พวกเขาไม่สามารถบินได้

“นี่เจ้าหวาดกลัวจนโง่งมไปแล้วหรือไร? มนุษย์ที่ไหนจะบินได้?” เซินหลางตวาดใส่ลูกน้องเผ่าเขา

ในความคิดของเขา ลูกน้องเหล่านี้คงกำลังหวาดกลัว เกิดการกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงจนเห็นภาพหลอน หากมิใช่เพราะศึกปิดล้อมซูเฉินในครานี้พ่ายแพ้ เกิดการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงมาก่อนแล้วล่ะก็ เขาคงตัดหัวลูกน้องคนนี้ไปแล้ว

“มิใช่นายท่าน  เขาไม่ได้บิน แต่ดูเหมือนเขา … จะกำลังวิ่งเข้ามา” ลูกน้องเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“วิ่งมางั้นหรอ?” คิ้วของเซินหลางขมวดเข้าหากัน กวาดสายตามองไปข้างหลังโดยไม่รู้ตัว

ไม่นาน ร่างสูงตระหง่านก็ปรากฏขึ้นในสายตาเขา แถมยังกำลังพุ่งตรงเข้ามาราวกับสายฟ้าฟาด

“ซูเฉิน … เขาขึ้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!!!”

มุมปากของเซินหลางสั่นระริก หัวใจเต้นแรงจนแทบวายตาย ลืมขยับปีกจนเกือบร่วงตกจากฟ้า

“นายท่าน พวกเราจะทำอย่างไรดี? เขาใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว!” ลูกน้องเผ่าวิหคเหินวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหมดมองมายังเซินหลางเป็นสายตาเดียว

‘มองข้าทำไม? อาศัยเพียงกำลังของข้าจะไปทำอะไรได้!’ เซินหลางคร่ำครวญในใจ

หากหยุดสู้กับซูเฉิน ก็เท่ากับโยนตัวเองลงสู่ความตายโดยเปล่าประโยชน์ หากหลบหนี ด้วยความเร็วที่ห่างชั้นกันอย่างชัดเจน ไม่ช้าสุดท้ายคงถูกไล่ตามทัน

ในสมองของเซินหลางปั่นความคิดอย่างรวดเร็ว ก่อนร้องคำรามออกมา “พี่น้องทั้งหลาย หนีต่อไปก็เปล่าประโยชน์ พวกเรามาร่วมมือกันสู้กับเขาเถิด!”

“นายท่าน แต่พวกเราไม่ใช่คู่มือเขา!” ลูกน้องคนหนึ่งเตือน

เซินหลางหัวเราะเสียงดัง “แล้วอย่างไร? มีเราราชาร่วมสู้ไปพร้อมกับเจ้า ยังจะกลัวอะไรอีก? เผ่าวิหคเหินของพวกเราไม่มีคนขี้ขลาด! ตามข้ามา! วกกลับไปฆ่ามัน!”

ลูกน้องเผ่าวิหคเหินได้ฟังจนฮึกเหิม ทั้งหมดร้องตะโกนว่า “ขอสาบานว่าพวกเราจะร่วมเป็นร่วมตายกับนายท่าน! สู้มัน!”

เซินหลางเป็นคนแรกที่หันหลังกลับ โฉบบินไปทางซูเฉิน

เผ่าวิหคเหินตนอื่นๆเห็นตัวอย่างก็ทำตาม ทั้งหมดหันกลับมา ตามหลังเซินหลางไป

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ลูกน้องเผ่าวิหคเหินคาดไม่ถึงก็คือ เซินหลางเพียงพุ่งไปข้างหน้าไม่ถึงสิบเมตร จู่ๆก็หันหลังกลับ และบินหนีไปอีกครั้ง ทิ้งให้พวกเขาพุ่งเข้าหาซูเฉินเพียงลำพัง

เอ่อ … นี่มันเรื่องอะไรกัน?

เหตุใดนายท่านถึงหนีไป?

ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งบอกจะร่วมสู้กับทุกคนหรอกหรือ?

เห็นฉากนี้ ลูกน้องเผ่าวิหคเหินทั้งหมดตะลึงลานอยู่กลางอากาศ สีหน้าท่าทีเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด