80Y-ตอนที่ 85 ปราณกระบี่หลายหมื่นลี้
องค์หญิงหยูหลิน
ทุกคนรู้จักนางในฐานะเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ที่บอบบางและอ่อนแอ
ตอนอายุ 16 นางดูบอบบางยิ่งกว่าบุพผาเสียอีก
นางไม่จำเป็นจะต้องแต่งหน้าใด ๆ บนใบหน้า ความงามโดยธรรมชาติของนางคือสมบัติและทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของนางแล้ว
นางได้เดินไปบนหิมะสีขาวอันบริสุทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย
ร่างของนางเบาดุจขนของนกนางแอ่นจากนั้นนางก็รีบมุ่งหน้าไปยังภูเขาหมาป่า
ส่วนเทพมนุษย์ที่ถูกสังหารและร่างถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ นางไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
แม้ว่านางจะเป็นคนใจดีแต่ก็ไม่ใช่คนโง่
นางมาที่ทุ่งราบเพื่อแก้ไขปัญหาของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา โดยการปกป้องผู้คนนับล้านที่อยู่ชายแดนรวมถึงชีวิตของนางเองด้วย
หลายทศวรรษที่ผ่านมามีเพียง หลินจิ่วเฟิง เท่านั้นที่เคยถ่อมาถึงที่นี่เพื่อสังหารคน
ทว่ากลับไม่มีใครรู้เรื่องนี้
มีเพียงจักรพรรดิหมิงที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
การต่อสู้ครั้งนั้นทำให้ ชนเผ่าเซียนเป่ย ได้ถอนตัวจากความทะเยอทะยานมาร่วม 20 ปี
และตอนนี้พวกเขาก็ต้องการจะกลับมาอีกครั้ง
องค์หญิงหยูหลิน ผู้ซึ่งได้รับมรดกส่วนหนึ่งของ หลินจิ่วเฟิง ได้ถือกล่องกระบี่มาที่นี่
ในตอนแรกไม่มีใคนึกถึงสถานการณ์ของนาง…
นางได้ชักกระบี่ออกมาและสังหารเทพมนุษย์
ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วโลก
นางเป็นองค์หญิงเพียงคนเดียวของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา
หลายคนได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับนาง
กระทั่งบางคนยังสันนิษฐานว่าหลังจากองค์หญิงหยูหลินมาถึงที่ราบ นางจะถูกจับตัวและถูกส่งไปยังภูเขาหมาป่า
จากนั้นก็แต่งงานกับราชาของพวกเขา
เพื่อผลิตทายาทให้เขา
นี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับองค์หญิงแห่งราชวงศ์
หากเป็นสตรีธรรมดาสามัญพวกเขาคงไม่ติดใจอะไร แต่นี่กลับเป็นองค์หญิงแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา หากนางถูกปฏิบัติเช่นนี้ เกรงว่าจะทำให้ชื่อเสียงของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาต้องมัวหมอง
ทว่าความจริงบางอย่างก็ปรากฏขึ้นไกลเกินกว่าความคาดหวังของทุกคน
ก่อนที่องค์หญิงหยูหลินจะเข้าสู่ที่ราบนางไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
นางได้เพิกเฉยต่อข่าวลือจากโกลภายนอกและมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายของนาง
หลังจากเข้าสู่ที่ราบนางก็โจมตีออกไปเพียงครั้งเดียว
การโจมตีนี้ทำให้นางสามารถข้ามธรณีประตูระหว่างปราชญ์การต่อสู้กับเทพมนุษย์ได้
นางได้เอาชนะผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตน!
ทั่วโลกล้วนตกใจกับการโจมตีเพียงครั้งเดียวนี้
องค์หญิงหยูหลิน ที่หลายคนพูดถึงว่าการบ่มเพาะพลังของนางมีเพียงขั้นก่อกำเนิด?
เหตุใดนางถึเข้ามาที่ราบและสังหารเทพมนุษย์ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว?
แม้ว่าการฟื้นตัวของพลังงานทางโลกจะทวีความรุนแรงมากขึ้น และ มีเทพมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ทว่าตัวตนเทพมนุษย์ก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่หาได้ยากและทรงพลัง
แต่นางกลับสามารถสังหารตัวตนเหล่านี้ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว?
มันน่าเหลือเชื่อเกินไป…
ทั่วโลกได้เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง
ตอนนี้พวกเขาได้มององค์หญิงหยูหลินแตกต่างไปจากเดิม
การเดินทางของนางที่เดิมพวกเขาไม่ได้สนใจ-ตอนนี้ได้กลายเป็นจุดสนใจทั่วโลก
แม้แต่ประมุขนิกายหลัวหยูที่ได้ยินข่าวนี้ก็ยังตกตะลึง
สังหารเทพมนุษย์ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดยีว ไม่ใช่ว่านางเป็นเด็กสาวที่อ่อนแอและบอบบางหรอกเหรอ?
ในภูเขาหมาป่า,มู่หรงหลิง ได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ“ขยะ!”
“ไม่แม้แต่จะสามารถเอาชนะเด็กผู้อายุ 16 ปีนางนึงได้ ซ้ำยังถูกสังหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว! เขาทำให้ศักดิ์ศรีของกองกำลังเหยี่ยวมังกรของข้าต้องมัวหมอง ส่งกำลังรบที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกไป ข้าต้องพบนางที่นี่ในอีกสามวันต่อมา”
ขุมพลังระดับสูงของกองกำลังเหยี่ยวมังกรได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้
รอยเท้าเพิ่มเติมได้ปรากฏขึ้นบนหิมะสีขาวบริสุทธิ์
องค์หญิงหยูหลิน ได้ถือกล่องกระบี่และมุ่งหน้าไปยังภูเขาหมาป่า
ภูเขาหมาป่าค่อนข้างดูสง่างามอย่างมาก
องค์หญิงหยูหลินได้มองเห็นมันจากระยะไกล
กลางคืนได้มาถึงแล้ว และ นางไม่ได้คิดจะเดินทางต่อ
นางมองหาถ้ำและเลือกจุดไฟให้ความอบอุ่นแทน
กองไฟที่ลุกโชติช่วงทำให้อุณหภูมิของถ้ำสูงขึ้น
องค์หญิงหยูหลินได้ถูมือด้วยใหบน้าที่แดงก่ำ นางใช้เวลาทั้งวันในการเดินทางท่ามกลางความหนาวเย็น มันยากมากที่นางจะมองหาโอกาสจุดไฟให้ความอบอุ่นได้
“อุณหภูมิที่นี่ต่ำเกินไป แม้แต่ข้าที่มีรากฐานการบ่มเพาะพลังขั้นปราชญ์การต่อสู้ พอเดินอยู่บนหิมะมาตลอดทั้งวัน ร่างกายของข้าก็เย็นลง แล้ว คนธรรมดาเหล่านั้นพวกเขาจะน่าสงสารมากขนาดไหนกันที่ต้องทนอยู่กับสภาพแวดล้อมเช่นนี้…”องค์หญิงหยูหลินได้คร่ำครวญ
นางยังคงเป็นองค์หญิงที่มีจิตใจดีและเมตตา นางไม่คิดจะมีชีวิตอยู่ท่ามกลางการปล้นชิงชีวิตผู้อื่น
“มีเพียงข้าเดินทางไปที่ภูเขาหมาป่าและฆ่ามู่หรงหลิงเท่านั้น หลังจากเขาตายแล้ว ชาวเซียนเป่ย ก็จะหวาดกลัวและไม่กล้าที่จะรังควานคนในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาอีกต่อไป”องค์หญิงหยูหลินได้กล่าวอย่างหนักแน่น
โลกภายนอกล้วนเป็นสีดำสนิท
บางครั้งก็มีเสียงร้องคร่ำครวญดังขึ้นอย่างรุนแรง
ผนวกกับความเย็นที่แทรกผ่านเข้ามาทำให้สถานที่แห่งนี้ดูอันตรายอย่างมาก
“ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถฆ่าเขาได้!”เทพมนุษย์คนนึงได้เดินออกมา
“ใช่แล้ว เจ้าไม่มีทางฆ่าเขาได้ จงยอมจำนนอย่างเชื่อฟังและกลายเป็นของเล่นของราชาพวกเรา”
เทพมนุษย์คนที่สองได้เดินเข้ามา
“เป็นเวลานานแล้วที่พวกเราได้กลายเป็นเทพมนุษย์ อันที่จริงพวกเราเป็นกลุ่มแรกที่กลายเป็นเทพมนุษย์ ไม่ใช่ตัวตลกในเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาที่ไม้กล้าแม้แต่จะเผยหน้าของเขา”เทพมนุษย์คนที่สามได้เย้ยหยัน
เทพมนุษย์ทั้ง 3 ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน
ในคืนที่หิมะตกหนัก ท่ามกลางสายลมและหิมะ พวกเขาได้มาหา องค์หญิงหยูหลิน
ทั้งสามคนเป็นเทพมนุษย์ที่แข็งแกร่งมาก
พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเทพมนุษย์ที่นางเพิ่งจัดการไป
คนที่องค์หญิงหยูหลินฆ่าไปก็คือเทพมนุษย์ที่เพิ่งเลื่อนขั้นพลังขึ้นมา
แต่ทว่าทั้งสามคนนี้คือเทพมนุษย์ได้เลื่อนขั้นพลังขึ้นมานานแล้ว
แต่ละคนล้วนเป็นตัวตนที่น่าเกรงขามและพวกเขาได้ล้อมรอบองค์หญิงหยูหลหิน
องค์หญิงหยูหลิน มองไปที่ทั้งสามคน นางได้จมดิ่งในความคิด
นางเป็นเพียงปราชญ์การต่อสู้ จะจัดการเทพมนุษย์ทั้ง 3 คนนี้ได้อย่างไร?
นางได้วางกล่องกระบี่ลง
นี่เป็นความมั่นใจเดียวของนาง
“กลับไปกับพวกเราที่ภูเขาหมาป่าและแต่งงานกับราชาของพวกเรา”เทพมนุษย์คนแรกได้ประกาศออกมาอย่างใจเย็น
เขาได้เคลื่อนย้ายตัวและปิดกั้นเส้นทางหลบหนีขององค์หญิงหยูหลิน
“เราจะไม่ทำร้ายเจ้า เราหวังว่าเจ้าจะมองเห็นความเมตตานี้ของเรา”
เทพมนุษย์คนที่ 2 และ 3 ได้คุกคามนาง
“ทุก ๆ ปี เมื่อหิมะตกหนัก จะมีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตจากการแข็งตาย แล้วหลายชีวิตในดินแดนของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า”
เทพมนุษย์คนที่ 3 ได้เย้ยหยัน
พวกเขาทั้งสามได้ปิดผนึกทางเข้าออก
และมองไปที่องค์หญิงหยูหลิน ที่ยืนตระหง่าน
หึ่มม!
พายุหิมะข้างนอกกำลังรุนแรงและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อากาศยิ่งมายิ่งเย็นลงเรื่อย ๆ ราวกับว่านี่เป็นสัญญาณแห่งความตาย
องค์หญิงหยูหลินได้นึกถึงคำพูดของหลินจิ่วเฟิง
นางเพียงแค่มุ่งเน้นไปที่เจตนาฆ่าก็เพียงพอที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขา
ดวงตาขององค์หญิงหยูหลินได้เปล่งประกาย
เมื่อนางคิดถึง หลินจิ่วเฟิง ความหวาดกลัวและความหนาวเย็นในร่างกายก็ค่อย ๆ จางหายไป
กล่องกระบี่นี้นางได้รับมอบมาจาก หลินจิ่วเฟิง
มันบรรจุกระบี่ล้ำค่าทั้งหมดของเขาเอาไว้
นี่คือที่มาของความมั่นใจของนาง!
“ข้าขอปฏิเสธทุกเงื่อนไขที่พวกเจ้าเสนอมา!”
องค์หญิงหยูหลินได้สั่นศีรษะโดยตรงและเปิดกล่องเก็บกระบี่
ฟุ่บ!
กระบี่ยาวภายในกล่องได้ปรากฏขึ้น
พวกมันทั้งหมดล้วนเปล่งประกายกลิ่นอายอันทรงพลังออกมา
นี่คือกระบี่ล้ำค่าที่ถูกหล่อเลี้ยง
ตั้งแต่นั้นมาพวกมันก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่นางเปิดกล่องเก็บกระบี่ เงาจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นข้างหลังขององค์หญิงหยูหลิน
มันเป็นจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของ หลินจิ่วเฟิง ที่เขาเก็บไว้ในกล่องเก็บกระบี่
ทันทีที่กล่องกระบี่เปิดออกจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ปรากฏขึ้น
“ท่านอาจารย์!”องค์หญิงหยูหลินได้ตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นการปรากฏตัวของหลินจิ่วเฟิง
ขณะเดียวกันนางก็สัมผัสได้ว่าเขาเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมาก…
บุรุษที่มีทั้งพลังและความแข็งแกร่ง
“ดูให้ดี ข้าเคยบอกเจ้าว่าทักษะกระบี่ผ่าสวรรค์ขั้นสูงสุดสามารถแยกนภาออกเป็นสองส่วนและสังหารเทพมนุษย์ได้โดยง่าย”
“เจ้าเคยฆ่าเทพมนุษย์ด้วยตัวเอง แต่เจ้าคงยังไม่รู้ว่าการแยกนภานั้นเป็นอย่างไร”
“วันนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของทักษะกระบี่ผ่าสวรรค์ขั้นสูงสุด!”
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลินจิ่วเฟิง ได้คว้ากระบี่สังหารปีศาจออกมา
แล้ว…
เขาได้ชักกระบี่ออกจากฝัก!
ปราณกระบี่ที่มีความยาวหลายหมื่นลี้ได้พุ่งออกไป
“โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ ส่วนตัวข้ามีเพียงกระบี่เดียว…”
“อย่างไรก็ตามกระบี่ของข้ากลับมีความยาวหลายหมื่นลี้!”จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลินจิ่วเฟิงได้ประกาศกร้าวอย่างดุเดือด
เทพมนุษย์ทั้งสามได้มองไปที่ปราณกระบี่ที่แยกนภาออกเป็นสองส่วน
อันที่จริงมันได้ทอดยาวออกไปไกลหลายหมื่นลี้
พวกเขาทั้งหมดล้วนตะลึงงัน