ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 84 สังหารเทพมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 86 ชักกระบี่เพื่อเป็นเทพมนุษย์

80Y-ตอนที่ 85 ปราณกระบี่หลายหมื่นลี้


องค์หญิงหยูหลิน

ทุกคนรู้จักนางในฐานะเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ที่บอบบางและอ่อนแอ

ตอนอายุ 16 นางดูบอบบางยิ่งกว่าบุพผาเสียอีก

นางไม่จำเป็นจะต้องแต่งหน้าใด ๆ บนใบหน้า ความงามโดยธรรมชาติของนางคือสมบัติและทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของนางแล้ว

นางได้เดินไปบนหิมะสีขาวอันบริสุทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย

ร่างของนางเบาดุจขนของนกนางแอ่นจากนั้นนางก็รีบมุ่งหน้าไปยังภูเขาหมาป่า

ส่วนเทพมนุษย์ที่ถูกสังหารและร่างถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ นางไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

แม้ว่านางจะเป็นคนใจดีแต่ก็ไม่ใช่คนโง่

นางมาที่ทุ่งราบเพื่อแก้ไขปัญหาของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา โดยการปกป้องผู้คนนับล้านที่อยู่ชายแดนรวมถึงชีวิตของนางเองด้วย

หลายทศวรรษที่ผ่านมามีเพียง หลินจิ่วเฟิง เท่านั้นที่เคยถ่อมาถึงที่นี่เพื่อสังหารคน

ทว่ากลับไม่มีใครรู้เรื่องนี้

มีเพียงจักรพรรดิหมิงที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

การต่อสู้ครั้งนั้นทำให้ ชนเผ่าเซียนเป่ย ได้ถอนตัวจากความทะเยอทะยานมาร่วม 20 ปี

และตอนนี้พวกเขาก็ต้องการจะกลับมาอีกครั้ง

องค์หญิงหยูหลิน ผู้ซึ่งได้รับมรดกส่วนหนึ่งของ หลินจิ่วเฟิง ได้ถือกล่องกระบี่มาที่นี่

ในตอนแรกไม่มีใคนึกถึงสถานการณ์ของนาง…

นางได้ชักกระบี่ออกมาและสังหารเทพมนุษย์

ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วโลก

นางเป็นองค์หญิงเพียงคนเดียวของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา

หลายคนได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับนาง

กระทั่งบางคนยังสันนิษฐานว่าหลังจากองค์หญิงหยูหลินมาถึงที่ราบ นางจะถูกจับตัวและถูกส่งไปยังภูเขาหมาป่า

จากนั้นก็แต่งงานกับราชาของพวกเขา

เพื่อผลิตทายาทให้เขา

นี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับองค์หญิงแห่งราชวงศ์

หากเป็นสตรีธรรมดาสามัญพวกเขาคงไม่ติดใจอะไร แต่นี่กลับเป็นองค์หญิงแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา หากนางถูกปฏิบัติเช่นนี้ เกรงว่าจะทำให้ชื่อเสียงของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาต้องมัวหมอง

ทว่าความจริงบางอย่างก็ปรากฏขึ้นไกลเกินกว่าความคาดหวังของทุกคน

ก่อนที่องค์หญิงหยูหลินจะเข้าสู่ที่ราบนางไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ

นางได้เพิกเฉยต่อข่าวลือจากโกลภายนอกและมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายของนาง

หลังจากเข้าสู่ที่ราบนางก็โจมตีออกไปเพียงครั้งเดียว

การโจมตีนี้ทำให้นางสามารถข้ามธรณีประตูระหว่างปราชญ์การต่อสู้กับเทพมนุษย์ได้

นางได้เอาชนะผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตน!

ทั่วโลกล้วนตกใจกับการโจมตีเพียงครั้งเดียวนี้

องค์หญิงหยูหลิน ที่หลายคนพูดถึงว่าการบ่มเพาะพลังของนางมีเพียงขั้นก่อกำเนิด?

เหตุใดนางถึเข้ามาที่ราบและสังหารเทพมนุษย์ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว?

แม้ว่าการฟื้นตัวของพลังงานทางโลกจะทวีความรุนแรงมากขึ้น และ มีเทพมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ทว่าตัวตนเทพมนุษย์ก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่หาได้ยากและทรงพลัง

แต่นางกลับสามารถสังหารตัวตนเหล่านี้ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว?

มันน่าเหลือเชื่อเกินไป…

ทั่วโลกได้เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง

ตอนนี้พวกเขาได้มององค์หญิงหยูหลินแตกต่างไปจากเดิม

การเดินทางของนางที่เดิมพวกเขาไม่ได้สนใจ-ตอนนี้ได้กลายเป็นจุดสนใจทั่วโลก

แม้แต่ประมุขนิกายหลัวหยูที่ได้ยินข่าวนี้ก็ยังตกตะลึง

สังหารเทพมนุษย์ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดยีว ไม่ใช่ว่านางเป็นเด็กสาวที่อ่อนแอและบอบบางหรอกเหรอ?

ในภูเขาหมาป่า,มู่หรงหลิง ได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ“ขยะ!”

“ไม่แม้แต่จะสามารถเอาชนะเด็กผู้อายุ 16 ปีนางนึงได้ ซ้ำยังถูกสังหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว! เขาทำให้ศักดิ์ศรีของกองกำลังเหยี่ยวมังกรของข้าต้องมัวหมอง ส่งกำลังรบที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกไป ข้าต้องพบนางที่นี่ในอีกสามวันต่อมา”

ขุมพลังระดับสูงของกองกำลังเหยี่ยวมังกรได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้

รอยเท้าเพิ่มเติมได้ปรากฏขึ้นบนหิมะสีขาวบริสุทธิ์

องค์หญิงหยูหลิน ได้ถือกล่องกระบี่และมุ่งหน้าไปยังภูเขาหมาป่า

ภูเขาหมาป่าค่อนข้างดูสง่างามอย่างมาก

องค์หญิงหยูหลินได้มองเห็นมันจากระยะไกล

กลางคืนได้มาถึงแล้ว และ นางไม่ได้คิดจะเดินทางต่อ

นางมองหาถ้ำและเลือกจุดไฟให้ความอบอุ่นแทน

กองไฟที่ลุกโชติช่วงทำให้อุณหภูมิของถ้ำสูงขึ้น

องค์หญิงหยูหลินได้ถูมือด้วยใหบน้าที่แดงก่ำ นางใช้เวลาทั้งวันในการเดินทางท่ามกลางความหนาวเย็น มันยากมากที่นางจะมองหาโอกาสจุดไฟให้ความอบอุ่นได้

“อุณหภูมิที่นี่ต่ำเกินไป แม้แต่ข้าที่มีรากฐานการบ่มเพาะพลังขั้นปราชญ์การต่อสู้ พอเดินอยู่บนหิมะมาตลอดทั้งวัน ร่างกายของข้าก็เย็นลง แล้ว คนธรรมดาเหล่านั้นพวกเขาจะน่าสงสารมากขนาดไหนกันที่ต้องทนอยู่กับสภาพแวดล้อมเช่นนี้…”องค์หญิงหยูหลินได้คร่ำครวญ

นางยังคงเป็นองค์หญิงที่มีจิตใจดีและเมตตา นางไม่คิดจะมีชีวิตอยู่ท่ามกลางการปล้นชิงชีวิตผู้อื่น

“มีเพียงข้าเดินทางไปที่ภูเขาหมาป่าและฆ่ามู่หรงหลิงเท่านั้น หลังจากเขาตายแล้ว ชาวเซียนเป่ย ก็จะหวาดกลัวและไม่กล้าที่จะรังควานคนในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาอีกต่อไป”องค์หญิงหยูหลินได้กล่าวอย่างหนักแน่น

โลกภายนอกล้วนเป็นสีดำสนิท

บางครั้งก็มีเสียงร้องคร่ำครวญดังขึ้นอย่างรุนแรง

ผนวกกับความเย็นที่แทรกผ่านเข้ามาทำให้สถานที่แห่งนี้ดูอันตรายอย่างมาก

“ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถฆ่าเขาได้!”เทพมนุษย์คนนึงได้เดินออกมา

“ใช่แล้ว เจ้าไม่มีทางฆ่าเขาได้ จงยอมจำนนอย่างเชื่อฟังและกลายเป็นของเล่นของราชาพวกเรา”

เทพมนุษย์คนที่สองได้เดินเข้ามา

“เป็นเวลานานแล้วที่พวกเราได้กลายเป็นเทพมนุษย์ อันที่จริงพวกเราเป็นกลุ่มแรกที่กลายเป็นเทพมนุษย์ ไม่ใช่ตัวตลกในเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาที่ไม้กล้าแม้แต่จะเผยหน้าของเขา”เทพมนุษย์คนที่สามได้เย้ยหยัน

เทพมนุษย์ทั้ง 3 ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน

ในคืนที่หิมะตกหนัก ท่ามกลางสายลมและหิมะ พวกเขาได้มาหา องค์หญิงหยูหลิน

ทั้งสามคนเป็นเทพมนุษย์ที่แข็งแกร่งมาก

พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเทพมนุษย์ที่นางเพิ่งจัดการไป

คนที่องค์หญิงหยูหลินฆ่าไปก็คือเทพมนุษย์ที่เพิ่งเลื่อนขั้นพลังขึ้นมา

แต่ทว่าทั้งสามคนนี้คือเทพมนุษย์ได้เลื่อนขั้นพลังขึ้นมานานแล้ว

แต่ละคนล้วนเป็นตัวตนที่น่าเกรงขามและพวกเขาได้ล้อมรอบองค์หญิงหยูหลหิน

องค์หญิงหยูหลิน มองไปที่ทั้งสามคน นางได้จมดิ่งในความคิด

นางเป็นเพียงปราชญ์การต่อสู้ จะจัดการเทพมนุษย์ทั้ง 3 คนนี้ได้อย่างไร?

นางได้วางกล่องกระบี่ลง

นี่เป็นความมั่นใจเดียวของนาง

“กลับไปกับพวกเราที่ภูเขาหมาป่าและแต่งงานกับราชาของพวกเรา”เทพมนุษย์คนแรกได้ประกาศออกมาอย่างใจเย็น

เขาได้เคลื่อนย้ายตัวและปิดกั้นเส้นทางหลบหนีขององค์หญิงหยูหลิน

“เราจะไม่ทำร้ายเจ้า เราหวังว่าเจ้าจะมองเห็นความเมตตานี้ของเรา”

เทพมนุษย์คนที่ 2 และ 3 ได้คุกคามนาง

“ทุก ๆ ปี เมื่อหิมะตกหนัก จะมีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตจากการแข็งตาย แล้วหลายชีวิตในดินแดนของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า”

เทพมนุษย์คนที่ 3 ได้เย้ยหยัน

พวกเขาทั้งสามได้ปิดผนึกทางเข้าออก

และมองไปที่องค์หญิงหยูหลิน ที่ยืนตระหง่าน

หึ่มม!

พายุหิมะข้างนอกกำลังรุนแรงและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

อากาศยิ่งมายิ่งเย็นลงเรื่อย ๆ ราวกับว่านี่เป็นสัญญาณแห่งความตาย

องค์หญิงหยูหลินได้นึกถึงคำพูดของหลินจิ่วเฟิง

นางเพียงแค่มุ่งเน้นไปที่เจตนาฆ่าก็เพียงพอที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขา

ดวงตาขององค์หญิงหยูหลินได้เปล่งประกาย

เมื่อนางคิดถึง หลินจิ่วเฟิง ความหวาดกลัวและความหนาวเย็นในร่างกายก็ค่อย ๆ จางหายไป

กล่องกระบี่นี้นางได้รับมอบมาจาก หลินจิ่วเฟิง

มันบรรจุกระบี่ล้ำค่าทั้งหมดของเขาเอาไว้

นี่คือที่มาของความมั่นใจของนาง!

“ข้าขอปฏิเสธทุกเงื่อนไขที่พวกเจ้าเสนอมา!”

องค์หญิงหยูหลินได้สั่นศีรษะโดยตรงและเปิดกล่องเก็บกระบี่

ฟุ่บ!

กระบี่ยาวภายในกล่องได้ปรากฏขึ้น

พวกมันทั้งหมดล้วนเปล่งประกายกลิ่นอายอันทรงพลังออกมา

นี่คือกระบี่ล้ำค่าที่ถูกหล่อเลี้ยง

ตั้งแต่นั้นมาพวกมันก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ

ขณะที่นางเปิดกล่องเก็บกระบี่ เงาจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นข้างหลังขององค์หญิงหยูหลิน

มันเป็นจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของ หลินจิ่วเฟิง ที่เขาเก็บไว้ในกล่องเก็บกระบี่

ทันทีที่กล่องกระบี่เปิดออกจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ปรากฏขึ้น

“ท่านอาจารย์!”องค์หญิงหยูหลินได้ตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นการปรากฏตัวของหลินจิ่วเฟิง

ขณะเดียวกันนางก็สัมผัสได้ว่าเขาเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมาก…

บุรุษที่มีทั้งพลังและความแข็งแกร่ง

“ดูให้ดี ข้าเคยบอกเจ้าว่าทักษะกระบี่ผ่าสวรรค์ขั้นสูงสุดสามารถแยกนภาออกเป็นสองส่วนและสังหารเทพมนุษย์ได้โดยง่าย”

“เจ้าเคยฆ่าเทพมนุษย์ด้วยตัวเอง แต่เจ้าคงยังไม่รู้ว่าการแยกนภานั้นเป็นอย่างไร”

“วันนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของทักษะกระบี่ผ่าสวรรค์ขั้นสูงสุด!”

จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลินจิ่วเฟิง ได้คว้ากระบี่สังหารปีศาจออกมา

แล้ว…

เขาได้ชักกระบี่ออกจากฝัก!

ปราณกระบี่ที่มีความยาวหลายหมื่นลี้ได้พุ่งออกไป

“โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ ส่วนตัวข้ามีเพียงกระบี่เดียว…”

“อย่างไรก็ตามกระบี่ของข้ากลับมีความยาวหลายหมื่นลี้!”จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลินจิ่วเฟิงได้ประกาศกร้าวอย่างดุเดือด

เทพมนุษย์ทั้งสามได้มองไปที่ปราณกระบี่ที่แยกนภาออกเป็นสองส่วน

อันที่จริงมันได้ทอดยาวออกไปไกลหลายหมื่นลี้

พวกเขาทั้งหมดล้วนตะลึงงัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด