ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 73 ความตายของจักรพรรดิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 75 ข้าไม่ได้แข็งแกร่ง

80Y-ตอนที่ 74 นิกายเส้นทางสวรรค์


ในวันนี้ ผู้คนในเมืองหลวงราชวงศ์ได้คร่ำครวญ…

เจ้าหน้าที่ในราชสำนักได้ขนโลงศพของ หลินเทียนหยวน และ ไปส่งเขายังจุดหมายปลายทางสุดท้าย ซึ่งก็คือ สุสานหลวง

หลินเทียนหยวน และ จักรพรรดิหยวน ถูกฝังไม่ไกลจากกันเกินไป

เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นพ่อลูกและมีรากฐานที่เหมือนกัน

หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้เข้าร่วมงานศพของเขา เขาได้เฝ้ามองจากระยะไกลขณะที่ หลินเทียนหยวน ได้ถูกฝังข้าง ๆ จักรพรรดิหยวน

บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความโศกเศร้าและเสียงระฆังที่ดังขึ้น

บรรยากาศชวนน่าหดหู่จริง ๆ

หลินจิ่วเฟิง อดไม่ได้ที่จะรื้อฟื้นทักษะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาที่ได้รับมาจากการลงชื่อเข้าใช้

“ข้าต้องศึกษาทักษะบ่มเพาะพลังนี้อย่างรอบคอบ เพื่อที่ในอนาคตหากข้ามีโอกาส ข้าจะสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของพวกเจ้าทั้งสองคนได้”หลินจิ่วเฟิง ได้กล่าวอย่างหนักแน่น

เขากลับไปที่ตำหนักเย็น

เมื่อทุกอย่างได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว เขาไม่ต้องการอยู่ที่สุสานหลวงอีกต่อไป

การกลับมาที่ตำหนักเย็น เพื่อสานต่อเป้าหมายในการแข็งแกร่งยิ่งขึ้นคือสิ่งที่ หลินจิ่วเฟิง ควรทำ

สำหรับการเปลี่ยนแปลงภายในราชวงศ์ หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย

เขาไม่ได้มีความรู้สึกต่อองค์รัชทายาท แต่ถ้าอีกฝ่ายมีปัญหาในอนาคต และ จักรพรรดินีมาขอความช่วยเหลือจากเขา เขาก็จะช่วย

เมื่อ หลินจิ่วเฟิง กลับไปที่ตำหนักเย็น เขาก็ได้พบกับนักบวชชิงหยุน

นักบวชชิงหยุน ได้นำข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับยุคก่อนหน้านี้ ที่ สตรีศักดิ์สิทธิ์ ตงลงจะมอบให้กับ หลินจิ่วเฟิง มาให้

เช่นเดียวกันมันมีหนังสือหลายเล่ม…

สตรีศักดิ์สิทธิ์รู้ว่า หลินจิ่วเฟิง ไม่ใช่คนง่ายที่จะหลอกลวง ดังนั้นนางจึงเตรียมสิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดด้วยความอุตสาหะเพื่อได้รับการให้อภัยที่แท้จริงจากเขา

หลินจิ่วเฟิง ได้เก็บหนังสือกลับไปก่อนที่จะสั่งให้ นักบวชชิงหยุน จากไป

“บอก สตรีศักดิ์สิทธิ์ด้วยว่า บุญคุณความแค้นระหว่างเราได้หมดไปแล้ว”หลินจิ่วเฟิงได้บอกนักบวชชิงหยุน

“ขอรับ”นักบวชชิงหยุนได้ตอบกลับ

เขาไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อและหันหลังจากไป

หลินจิ่วเฟิง ได้กลับเข้าไปยังตำหนักเย็นพร้อมกับหนังสือกองโต

จากนั้นเขาก็มองดูพวกมันพร้อมกับเจ้าแมวขาว

ยุคก่อนกับยุคนี้แตกต่างกันอย่างไร?

หลินจิ่วเฟิงไม่เข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับยุคก่อน แต่หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ในที่สุดเขาก็เข้าใจความแตกต่างของพวกมัน

โลกนี้มีขึ้นและมีลง

คนทั่วไปไม่สามารถสังเกตุเห็นการขึ้นลงของสิ่งเหล่านี้ได้ พวกเขาทำได้เพียงสัมผัสกับประสบการณ์ความเปลี่ยนแปลงของพลังงานทางโลก

พลังงานทางโลกแต่ละยุคสมัยได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่เมื่อถึงจุดสิ้นสุดของยุคมันจะลดลงช่วงระยะเวลาหนึ่ง

และเมื่อถึงจุดสูงสุดมันก็จะอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน

ต่อมาก็เข้าสู่สภาวะถดถอย

เมื่อพลังงานทางโลกค่อย ๆ ถดถอย แหล่งพลังงานทั้งหมดก็จะค่อย ๆ หายไปเช่นเดียวกัน

บ้างก็สลายหายไป บ้างก็ปิดตัวลง ดังนั้นคนจากยุคสมัยก่อนจึงเลือกที่จะปิดผนึกตัวเอง

การสิ้นสุดของยุคที่แล้วคือเมื่อ 1,500 ปีก่อน

ในเวลานั้นผู้บ่มเพาะพลังขั้นเทพมนุษย์ถือว่าแข็งแกร่งที่สุด

คนอย่างจอมมารได้รับผลกระทบจากการลดลงของพลังงานทางโลก

ถ้าไม่ใช่ด้วยเหตุผลนี้ เขาคงสามารถทะลวงผ่านอาณาจักรถ้ำสวรรค์หรืออาณาจักรพลังที่สูงกว่าได้

พลังงานทางโลกยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อหลายร้อยปีก่อน แม้แต่ปราชญ์การต่อสู้ก็ได้หายตัวไป เหลือเพียง ปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ เท่านั้น

หลังจาก หลินจิ่วเฟิง มาถึงโลกนี้ พลังงานทางโลกก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ

มันเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นยุคสมัยใหม่

หลินจิ่วเฟิง โชคดีมาก เขามีความก้าวหน้าด้านการบ่มเพาะพลังในช่วงเริ่มต้นของยุค ตอนนี้เขาได้มาถึงอาณาจักรถ้ำสวรรค์แล้ว

ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากความโชคดีและโอกาสมากมายที่มารวมตัวกัน

“ตามหนังสือเล่มนี้ ผู้บ่มเพาะพลังหนึ่งคนสามารถสร้างถ้ำสวรรค์ได้ 10 ถ้ำ ตอนนี้เจ้าสร้างถ้ำสวรรค์ได้กี่แห่งแล้ว?”เจ้าแมวขาวได้กล่าวถาม

“หนึ่ง!”หลินจิ่วเฟิงได้ตอบกลับ

“ถ้าอย่างนั้นเจ้ายังต้องสร้างถ้ำสวรรค์อีก 9 แห่ง”เจ้าแมวขาวได้พูดต่อ

“ไม่จำเป็น ข้าไม่คิดจะสร้างถ้ำสวรรค์อีก 9 แห่ง”หลินจิ่วเฟิง ได้สั่นศีรษะ

“เพราะอะไร?”เจ้าแมวขาวกล่าวถามด้วยความสงสัย

“เหตุผลที่อาณาจักรถ้ำสวรรค์ อนุญาติให้คน ๆ นึงสร้างถ้ำสวรรค์ได้ 10 แห่ง ก็เพราะเมื่อรวมกันแล้ว พลังของพวกเขาจะก้าวกระโดดอย่างมาก”

“แต่ทว่าในอาณาจักรถ้ำสวรรค์มีเส้นทางการบ่มเพาะพลังมากมาย”

“ข้ากำลังวางแผนที่จะฝึกฝนถ้ำสวรรค์เพียงแห่งเดียว จากนั้นก็ใช้โอกาส 9 แห่งที่เหลือในการปรับปรุงถ้ำสวรรค์เพียงหนึ่งเดียวนี้ ข้าแน่ใจว่าตอนท้ายที่สุดของถนนสายนี้ ถ้ำสวรรค์เพียงแห่งเดียวจะทรงพลังกว่ามาก…”

“และเส้นทางนี้ก็เหมาะสมสำหรับข้าที่สุดเช่นเดียวกัน”หลินจิ่วเฟิง ได้อธิบาย

เดิมทีเขาต้องการสร้างถ้ำสวรรค์ 10 แห่ง แต่หลังจากอ่านหนังสือวิเคราะห์ถ้ำสวรรค์ที่เขาได้รับมาจากการลงชื่อเข้าใช้ เขาก็ตระหนักได้ถึงหลายสิ่งหลายอย่าง

ถ้ำสวรรค์แบ่งออกเป็นระดับ ต่ำ,กลาง,สูง,ศักดิ์สิทธิ์ และ เทพ

เส้นทางการบ่มเพาะพลังถ้ำสวรรค์ 10 แห่ง นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่สร้างถ้ำสวรรค์ระดับต่ำถึงสูงเท่านั้น

นี่เป็นเพราะว่าถ้ำสวรรค์ของพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งจนเกินไป ดังนั้นพวกเขาจำเป็นจะต้องสร้างถ้ำสวรรค์ขึ้นเพิ่มเติม

ทว่า สำหรับผู้บ่มเพาะพลังที่มีถ้ำสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์และระดับเทพ

พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องสร้างถ้ำสวรรค์ 10 แห่ง พวกเขาเพียงแค่ต้องมุ่งเน้นความสนใจไปที่การพัฒนาถ้ำสวรรค์เพียงหนึ่งเดียว

จากนั้นถ้ำสวรรค์นี้ก็จะกลายเป็นโลกขนาดเล็กที่อิสระ

มันจะกลายเป็นแหล่งพลังงานของพวกเขา

นี่คือเส้นทางที่ หลินจิ่วเฟิง เลือก

เจ้าแมวขาวได้ฟัง หลินจิ่วเฟิง พูดถึงหลายสิ่งหลายอย่าง แต่มันก็ยังไม่เข้าใจ

มันอยู่ที่ระดับเทพมนุษย์เท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากอาณาจักรพลังถ้ำสวรรค์

“อ่านหนังสือเหล่านี้ให้ดีเพื่อเพิ่มพูนความรู้ของเจ้า พวกมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการช่วยฝึกฝนให้กับเจ้า”หลินจิ่วเฟิง ได้ลูบขนของเจ้าแมวขาวเบา ๆ

5 ปีผ่านไปในพริบตา

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ หลินจิ่วเฟิง ไม่เคยออกจากตำหนักเย็นเลย นอกจากต้าชุนที่มาส่งอาหารเดือนละครั้งแล้วก็ไม่มีใครมาเยี่ยมเขาอีก

หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้มีความคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงหรือันตรายของโลกภายนอก

สิ่งที่เขารู้มาจากสิ่งที่ได้ยินจากต้าชุนเท่านั้น

หลินจิ่วเฟิงในตอนนี้ไม่ได้สนใจทุกสิ่งอย่าง

เขากำลังปรับแต่งและขยายถ้ำสวรรค์ของเขา

เขาไม่อยากจะรู้แม้แต่เรื่องภายในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา

สิ่งที่เขารู้มีเพียงอย่างเดียวคือ องค์รัชทายาทได้เสด็จขึ้นครองบัลลังก์และเปลี่ยนรัชสมัยเป็นเต๋อ ชื่อของเขาคือ จักรพรรดิเต๋อ

นอกจากนี้ หลินจิ่วเฟิง ก็ไม่รู้อะไรเลย

เขาได้ลงชื่อเข้าใช้ตำหนักเย็นอย่างเงียบ ๆ และ เยี่ยมชมถ้ำปีศาจในพระราชวังใต้ดินเพื่อเอาชนะพวกมัน

นับตั้งแต่ที่ เทพปีศาจเหล่านี้เห็น หลินจิ่วเฟิง สังหาร เทพปีศาจนภา ในตอนนั้น อารมณ์ที่ดุร้ายของพวกมันก็ลดลงอย่างมาก

ทุกวันนี้พวกมันล้วนเชื่อฟังดี

ทุกวัน มีปีศาจและเทพปีศาจ ได้ออกไปสู้กับ หลินจิ่วเฟิง โดยอัตโนมัติ หลังจากที่ หลินจิ่วเฟิง มอบความพ่ายแพ้ให้กับพวกมัน พวกปีศาจเหล่านี้ก็กลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในถ้ำปีศาจอีกครั้ง

ภายใน 5 ปีที่ผ่านมานี้ ความเห็นเดียวของปีศาจเหล่านี้ที่มีต่อ หลินจิ่วเฟิงก็คือ-เขาน่ากลัวเกินไป

เทพปีศาจทุกคนที่ต่อสู้กับ หลินจิ่วเฟิง ล้วนกล่าวว่า หลินจิ่วเฟิง เป็นสิ่งที่ทำให้พวกมันเข้าใจยากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้อีกฝ่ายราวกับมหาสมุทรอันไร้ขอบเขต

ดังนั้นพวกมันจึงเชื่อฟังเขาราวกับลูกไก่ตัวน้อย

ดูเหมือนว่าพวกมันจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ หลินจิ่วเฟิง เลี้ยงดูไปแล้ว

ตราบใดที่พวกมันไม่สร้างปัญหา หลินจิ่วเฟิง ก็ไม่คิดที่จะฆ่าพวกมัน

วันนี้เป็นวันที่ต้าชุนมาส่งอาหารอีกครั้ง

ทุก ๆ เดือน ต้าชุน ยืนยันที่จะมาส่งอาหารให้ตัวเอง

ปัจจุบันต้าชุนมีอายุ 50 ปีแล้ว

ลูกของเขาแต่งงานและตอนนี้เขาก็ได้เป็นปู่คนแล้ว

ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้อีกฝ่ายยังคงซื่อสัตย์ไม่เปลี่ยนแปลง

เขาได้นำอาหารและไวน์มาส่งตามปกติและยังบอก หลินจิ่วเฟิง เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเมืองหลวง

หลินจิ่วเฟิง ได้เพลิดเพลินไปกับอาหารเหล่านี้พร้อมกับเจ้าแมวขาวขณะที่ฟังต้าชุน เล่า

“องค์ชาย เมื่อวานนี้…”

“จักรพรรดิเต๋อ ได้กราบอาจารย์เป็นศิษย์อย่างเป็นทางการ อาจารย์คนนั้นได้รับพระราชทานยศเป็นราชครูของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาแห่งนี้”ต้าชุนได้พูดออกมา

“คนแบบไหนกันที่จะมาเป็นราชครู?”หลินจิ่วเฟิงกล่าวถามด้วยความสงสัย

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาค่อนข้างเงียบสงบ

เป็นเพราะทุกคนรู้ว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในคืนที่จักรพรรดิหมิงสวรรคต ฝูงปีศาจได้บุกล้อมเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา แต่พวกมันทั้งหมดก็กลายเป็นเถ้าถ่านโดยเทพผู้พิทักษ์ของราชวงศ์

ตอนนี้…

ทุกคนต่างก็รู้ว่ามีสัตว์ประหลาดเฒ่าคอยปกป้องเมืองหลวงราชวงศ์มาตั้งแต่สมัยจักรพรรดิหยวนจนกระทั่งจักรพรรดิหมิง และ ต่อมาก็เป็นช่วงเวลาของจักรพรรดิเต๋อ

หากพวกเขาต้องการยั่่วยุราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา พวกเขาจะต้องเอาชนะสัตว์ประหลาดเฒ่าคนนี้ให้ได้

นี่เป็นคำบอกเล่าที่ถูกส่งผ่านไปทั่วทั้งโลก

หลินจิ่วเฟิง ที่ได้ยิน ต้าชุน เล่าว่า จักรพรรดิเต๋าได้กราบอาจารย์เป็นศิษย์ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างสนใจ

เขาต้องการอยากรู้อยากเห็นในเรื่องนี้

เพื่อที่จะได้เป็นราชครูของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา คนผู้นี้มีความสามารถอะไร?

“ข้าก็ไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนแบบไหน…”

“ข้าได้ยินมาจากคนอื่น ๆ ว่าเขาคือประมุขนิกายที่ซ่อนเร้นมานาน ถ้าข้าจำไม่ผิดชื่อของนิกายนี้ถูกเรียกว่านิกายเส้นทางสวรรค์”ต้าชุนได้ตอบกลับ

“นิกายเส้นทางสวรรค์!”ดวงตาของ หลินจิ่วเฟิงได้หรี่ลง

เขาจำได้ในทันทีเพราะชื่อของนิกายนี้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือที่ สตรีศักดิ์สิทธิ์มอบให้กับเขา

เจ้าแมวขาวมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง อย่างเคร่งขรึม

มันก็เคยอ่านเจอชื่อนี้ในหนังสือมาก่อนด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด