80Y-ตอนที่ 72 ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ
หลินจิ่วเฟิงได้หายตัวไปจากกำแพงเมือง
เป็นเพราะเขาพบว่ามีคนจำนวนมากวิ่งมาและต้องการจะคุกเข่าเพื่อทำความเคารพแก่เขา
ที่สำคัญที่สุดส่วนใหญ่ยังเป็นผู้หญิง
และทุกคนก็ดูมีสีหน้าจริงจัง
พวกเขาราวกับคนบ้าที่ชอบวิ่งไล่ตามไอดอลในชีวิตก่อนหน้านี้
หลินจิ่วเฟิง ทำได้เพียงจากไปตามสถานการณ์
แต่เขาไม่ได้กลับไปที่ตำหนักเย็น เพราะเขายังมีบางอย่างที่จะต้องจัดการอยู่
สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่
เป็นเพราะสตรีนางนี้ในอดีต หลินจิ่วเฟิง คนก่อนถึงถูกจับส่งตัวเข้าไปในคุกและตกตายในเวลาต่อมา
หากไม่มีนาง หลินจิ่วเฟิง คนปัจจุบันก็คงไม่มีทางครอบครองร่างกายนี้ได้
เดิมเขาคิดว่าตนเองอาจจะไม่ได้พบนางอีกในชีวิตนี้ แต่ใครจะไปคิดว่านางจะนำกองทัพ 200,000 นายมาที่นี่และข่มขู่ หลินเทียนหยวน ให้ปล่อยไป
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
หลินจิ่วเฟิง ไม่เข้าใจ
เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วนับตั้งแต่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กันครั้งสุดท้าย
ในตอนแรกนางไม่ได้คิดจะชำระหนี้ความกตัญญูนี้ด้วยซ้ำ
แต่พอผ่านไป 30 ปี จู่ ๆ นางก็จำมันได้?
มันจะไม่ทิ้งช่วงเวลาห่างกันไปหน่อยเหรอ?
ดังนั้น หลินจิ่วเฟิง จึงไม่ประทับใจในความพยายามที่จะปลดปล่อยเขา
เขาพบว่ามันไร้สาระที่ สตรีศักดิ์สิทธิ์ คนนี้คิดจะมาปล่อยเขาเอาป่านนี้
ดังนั้น หลินจิ่วเฟิง จึงต้องการมองหานางและทำให้ทุกอย่างชัดเจน เขาต้องการยุติความสัมพันธ์ที่โชคร้ายระหว่างเจ้าของร่างคนเก่ากับนางซะ
ดังนั้นเขาจึงตั้งใจไปเยี่ยมนาง
ซ้ำเขายังพาเจ้าแมวขาวไปด้วย
…
กองทัพทหารที่แข็งแกร่งกว่า 200,000 นายตั้งค่ายอยู่ข้างนอก
โดยด้านหน้าของกองทัพมีเทพมนุษย์ทั้ง 30 คนที่ได้จ้องมองไปทางเมืองหลวงของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา
กลิ่นอายพลังปีศาจอันแข็งแกร่ง และ เจตนาดาบอันเยือกเย็น…
ถ้ำสวรรค์ที่บดบังท้องฟ้า และ ความเงียบสงบและสันติที่ตามมา…
สิ่งนี้ทำให้เทพมนุษย์ทั้ง 30 คนล้วนตกตะลึง
“พวกเขาทั้งหมดแข็งแกร่งมาก”นักพรตเต๋าหลิวหยุนได้กล่าวอย่างขมขื่น
เพียงแค่มองไปที่สนามรบด้วยตาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือเทพมนุษย์แห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาก็ล้วนแข็งแกร่งมาก
อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็แข็งแกร่งกว่าพวกตนเองที่มีเทพมนุษย์กว่า 30 คนอยู่ที่นี่
พวกเขาคิดว่าการทะลวงผ่านขั้นเทพมนุษย์จะทำให้พวกเขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของเส้นทางการบ่มเพาะพลัง
แต่ดูจากลักษณะแล้วพวกเขาเพิ่งจะมาถึงยอดเนินเขาเล็ก ๆ เท่านั้น
“ผู้อาวุโสคนนั้นที่เราพบกันครั้งล่าสุดเป็นผู้ที่เอาชนะปีศาจเหล่านั้นได้หรือไม่?”นักบวชชิงหยุนได้พึมพัมออกมา
เขาเป็นนักบวชที่ฉลาดและมีไหวพริบทำให้เขาสามารถคาดเดาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
นักพรตเต๋าหลิวหยุนและนักพรตเต๋าไห่หยู ได้นิ่งเงียบไป
ย้อนกลับไปในตอนนั้น หลินจิ่วเฟิง สามารถปราบปรามพวกเขาได้ด้วยการสะบัดนิ้วเพียงครั้งเดียว
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายง่ายที่จะจัดการพวกเขายิ่งกว่า
บุรุษร่างใหญ่ได้พึมพัมออกมา“เขาฝึกฝนอย่างไรกันถึงกลายเป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังขนาดนี้?”
ใช่…
พวกเขาทั้งหมดล้วนต้องการคำตอบสำหรับคำถามนี้ของพวกเขา
พวกเขาล้วนเป็นมนุษย์ด้วยกันทั้งหมด แต่แล้วเหตุใด หลินจิ่วเฟิง ถึงโดดเด่นกว่าพวกเขา?
การปรากฏตัวของ หลินจิ่วเฟิง ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดมาก
เพราะเมื่อเทียบกันแล้วพวกเขากลับดูไร้ความสามารถไปเลย
บูม!
ขณะที่พวกเขากำลังบ่นพึมพัม ปราณกระบี่อันแข็งแกร่งก็พุ่งมายังทิศทางของพวกเขาโดยตรง
มันได้พุ่งมาตั้งแต่ระยะนับพันกิโลเมตรก่อนหน้านี้
เทพมนุษย์ทั้ง 30 คนสัมผัสได้ถึงความตายในทันที
ตอนนี้ผมทั้งหมดของเขาได้ลุกตั้งขึ้น
ความรู้สึกนี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ
พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้ามองปราณกระบี่ที่พุ่งเข้ามา
แต่ทว่าก่อนที่ปราณกระบี่นี้จะสัมผัสถึงตัวพวกเขามันก็หายไปในทันที
เทพมนุษย์ทั้ง 30 คนนี้ไม่รู้ว่ามันหายไปที่ไหน
พลังปราณกระบี่นี้ย่อมเป็นของ หลินจิ่วเฟิง โดยธรรมชาติ
เขาเพียงแค่แสดงความแข็งแกร่งให้กับเทพมนุษย์ทั้ง 30 คนเห็น
หลินจิ่วเฟิง มองเห็น นักพรตเต๋า ทั้งสองคน นักบวชหนุ่ม และ บุรุษร่างใหญ่ ท่ามกลางเทพมนุษย์เหล่านี้
ในที่สุดเขาก็เข้าใจ
พวกเขาเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่มาสำรวจตำหนักเย็นครั้งสุดท้ายภายใต้คำสั่งของท่านหญิงหง
หลินจิ่วเฟิง ค่อนข้างคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนนั้น
ใครคือท่านหญิงหง?
ตลอดเวลานี้เขาก็ยังไม่มีคำตอบ
เขาไม่เคยต่อต่อกับท่านหญิงหงนางนี้มาก่อน
แต่วันนี้ในที่สุดเขาก็ได้คำตอบ
ท่านหญิงหง ก็คือสตรีศักดิ์สิทธิ์จากราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่
นางเป็นผู้หญิงที่ ‘หลินจิ่วเฟิง’ คนก่อนปล่อยไปในตอนนั้น
หลังจากผ่านไปหลายทศวรรษ สตรีศักดิ์สิทธิ์นางนี้ก็ได้ริเริ่มตามหาเขา หลินจิ่วเฟิง ไม่รู้ว่านางมีแรงจูงใจอะไร ดังนั้นเขาจึงต้องการมองหานางในครั้งนี้
ในค่ายทหาร หลินจิ่วเฟิง มองเห็น สตรีศักดิ์สิทธิ์ ที่กำลังตรวจสอบเข็มทิศของนาง
ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่
เพราะเขาได้ป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นเขา
สตรีศักดิ์สิทธิ์กำลังตรวจสอบเข็มทิศ
ภายในเข็มทิศนี้ราวกับมีโลกเล็ก ๆ ที่เผยให้เห็นตำแหน่งแม่น้ำและทะเลทรายทั่วโลก
มันยังแสดงให้เห็นถึงสถานที่ที่ซ่อนอยู่อีกมากมาย
สตรีศักดิ์สิทธิ์กำลังศึกษามันอย่างระวังขณะที่นางบ่นออกมา…
“มันไม่ควรจะเป็นอย่างนี้ มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่ปีศาจจำนวนมากจะปรากฏตัวขึ้นพร้อม ๆ กัน นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการกู้คืนพลังงานทางโลกเท่านั้น ปีศาจเหล่านี้คำนวณเวลาการตื่นอย่างแม่นยำได้อย่างไร?”
หลินจิ่วเฟิง กอดเจ้าแมวขาวและเฝ้าดูอย่างสงบ
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า สตรีศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นคนจากยุคก่อนเช่นเดียวกับพวกปีศาจ
เข็มทิศของนางแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของผู้ที่ผนึกตนเองไว้ใต้ดิน
“เฮ้อ ข้าสงสัยว่าเบื้องหลังของเหตุการณ์นี้คืออะไรกันแน่...ข้าไม่สามารถทะลวงผ่านไปยังอาณาจักรพลังถ้ำสวรรค์ได้ และไม่สามารถปลุกศิษย์พี่ศิษย์น้องขึ้นมาได้ มันยากยิ่งสำหรับข้าหากคิดจะจัดการพวกเขาทั้งหมดด้วยตัวเอง…”
“จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของข้ายังไม่สมบูรณ์ ข้าจะต้องมองหาองค์รัชทายาทของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาที่ถูกปลด เพื่อที่จะได้มีโอกาสในการฟื้นฟูจิตวิญญาณของตนเอง”สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ถอนหายใจอย่างต่อเนื่องขณะที่นางขบริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด
“เจ้าอยากพบข้างั้นหรือไม่?”
เสียงที่ชัดเจนได้ดังขึ้น หลินจิ่วเฟิง ได้เปิดเผยตัวเองออกมา
สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ถอยห่างไปสองสามก้าวด้วยความประหลาดใจ ขณะที่นางยกมือขึ้นมาป้องกันตัวเอง
แต่เมื่อนางเห็นรูปลักษณ์ของ หลินจิ่วเฟิง แล้วนางก็ตกตะลึง
“เจ้า...เป็นไปได้อย่างไร...นี่มันผ่านมามากกว่า 30 ปีแล้ว แต่เจ้ายังดูอ่อนเยาว์เช่นเดิม”
“เจ้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลย”สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้พูดอย่างติดอ่าง
รูปลักษณ์ของหลินจิ่วเฟิงไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คืออารมณ์และความคิดของเขา
แต่อารมณ์ของเขาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในรูปลักษณ์ของเขา
อย่างไรก็ตาม สตรีศักดิ์สิทธิ์ ยังคงจำ หลินจิ่วเฟิง ได้อย่างรวดเร็ว
“เจ้าก็เหมือนกัน เจ้าดูไม่ได้เปลี่ยนไปเลย”หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับอย่างใจเย็น
สตรีศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบัน คล้ายกับตัวตนในความทรงจำของ หลินจิ่วเฟิง
แน่นอนว่าอารมณ์ของนางก็เปลี่ยนไปมากเช่นเดียวกัน
เมื่อ 30 ปีก่อน หลินจิ่วเฟิง คนเก่าเคยติดต่อกับ สตรีศักดิ์สิทธิ์นางนี้
ในเวลานั้น หลินจิ่วเฟิง คนเก่า ได้หมกหมุ่นอยู่กับนาง ก็ทั่งยินยอมสละตำแหน่งองค์รัชทายาทและชีวิตของตนเองเพื่อความปลอดภัยของนาง
แต่ทว่า หลินจิ่วเฟิงในปัจจุบันไม่ใช่ ‘หลินจิ่วเฟิง’ ในอดีตอีกต่อไป
“ฐานการบ่มเพาะพลังของเจ้า…”สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ตรวจสอบ หลินจิ่วเฟิง
ทันใดนั้น นางก็ปิดปากด้วยความประหลาดใจขณะที่รูม่านตาได้ขยายออก
“เจ้าเป็นคนเดียวกันกับคนที่เอาชนะปีศาจในเมืองหลวง?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์กล่าวถามด้วยความตกใจ
“ถูกต้อง เจ้าส่งคนไปหาข้าถึงสองครั้งสองครา เจ้าต้องการอะไรจากข้ากันแน่?”หลินจิ่วเฟิง ได้กล่าวถาม
“นี่…”
“ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยช่วยชีวิตข้าไว้งั้นเหรอ?”
“ข้าได้ยินว่าเจ้าถูกคุมขังอยู่ในตำหนักเย็นมาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่ข้าต้องการช่วยเจ้าออกมา และ มอบบัลลังก์แห่งราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่ให้กับเจ้า ย้อนกลับไปในตอนนั้น เพราะข้าคือเหตุผลที่ทำให้เจ้าต้องเสียบัลลังก์ของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาไป ดังนั้นข้าถึงต้องการตอบแทนโดยให้สิ่งที่เจ้าเคยสูญเสียไป”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้สูดลมหายใจเข้าลึกและพยายามระงับความตกใจในหัวใจของนาง
“เจ้าดูไม่จริงใจเลยแม้แต่น้อย เจ้าเพียงแค่ต้องการจะชำหนี้ความกตัญญูที่เจ้าเป็นหนี้ข้าเพื่อแลกกับการทำให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าสมบูรณ์”
หลินจิ่วเฟิง ชี้ให้เห็นถึงคำโกหกของนาง
สตรีศักดิ์สิทธิ์กระพริบตาด้วยความอับอาย
“ก่อนหน้าที่เจ้าจะค้นพบความบกพร่องในจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า เจ้าอาจจะจำข้าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นั่นเป็นเหตุผลทำให้เจ้าร้อนใจถึงเพียงนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งหมดที่เจ้าทำก็เพื่อตัวเจ้าเอง เจ้าไม่จำเป็นจะต้องยกเหตุผลเรื่องข้ามาเป็นข้ออ้างหรอก”
หลินจิ่วเฟิง คาดเดาความคิดของ สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้
“ข้าขอโทษ”สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ขอโทษทันที
“ไม่จำเป็น ถอยทัพกลับไปซะ อย่าทำให้คนธรรมดาทั่วไปต้องตื่นตระหนก”หลินจิ่วเฟิง ได้ปฏิเสธอย่างเย็นชา
“ข้าควรทำอย่างไรเพื่อให้เจ้ายกโทษให้แก่ข้า? ได้โปรดให้โอกาสข้า ข้าจำเป็นจะต้องฟื้นฟูจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของข้าให้สมบูรณ์จริง ๆ”สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ขอร้อง หลินจิ่วเฟิง
หลินจิ่วเฟิง ได้ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และกล่าวถาม“เจ้ามาจากยุคก่อนใช่หรือไม่?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้พยักหน้า“ถูกต้องข้าเกิดเมื่อตอนสิ้นสุดยุคที่แล้ว”
“เข้าใจแล้ว...หากเจ้าคิดจะตอบแทนข้าจริง ๆ ให้เอาหนังสือทุกเล่มและข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับยุคก่อนที่เจ้ามีมาให้หมด ให้นักบวชชิงหยุน ส่งมันไปที่หน้าประตูตำหนักเย็นของข้าในเมืองหลวง…”
“หลังจากที่ข้าได้รับมันแล้ว บุญคุณความแค้นของพวกเราก็จะสิ้นสุดลง”
“ไม่มีปัญหา ข้าจะเตรียมมันไว้ให้เจ้า”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ยิ้มออกมา
หลินจิ่วเฟิง ได้หันหลังกลับและจากไปโดยตรง
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสตรีศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นจาก ‘หลินจิ่วเฟิง’ คนก่อน
หลังจากที่ ‘หลินจิ่วเฟิง’ คนก่อนเสียชีวิต เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะให้ข้องแวะกับนาง
หลินจิ่วเฟิง ในปัจจุบัน ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับสตรีศักดิ์สิทธิ์มาก่อน
ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมสิ่งที่เขาร้องขอไปถึงเป็นผลดีสำหรับทั้งสองฝ่าย เขาคิดจะจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสม
เมื่อเขาได้สิ่งที่เขาต้องการ เขาก็จะอภัยให้กับสตรีศักดิ์สิทธิ์
ประชาชนทั่วไปก็จะรอดพ้นจากหายนะจากสงคราม
ทั้งหลินจิ่วเฟิงและสตรีศักดิ์สิทธิ์ต่างก็พึงพอใจกับผลลัพธ์นี้
พวกเขาแต่ละคนล้วนได้สิ่งที่ตนเองต้องการ
ตลอดการสนทนาทั้งหมด มีเพียงเจ้าแมวขาวเท่านั้นที่รู้สึกสับสน