80Y-ตอนที่ 67 โอกาสในการพัฒนา
หน้าที่ของนางในฐานะสมาชิกของนิกายเต๋าสวรรค์คือเหตุผลที่นางให้คำแนะนำแก่ปราชญ์การต่อสู้หลายคนที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทะลวงขั้นเทพมนุษย์
โดยรวมแล้วนางได้ให้คำแนะนำแก่ผู้บ่มเพาะพลัง 30 คน
สมาชิกของนิกายเต๋าสวรรค์มีตำแหน่งพิเศษในโลกมาตั้งแต่สมัยโบราณ พวกเขาสามารถควบคุมพลังส่วนหนึ่งของเต๋าสวรรค์ได้
จากนั้นพวกเขาก็ใช้พลังเต๋าสวรรค์ในการบ่มเพาะพลังตนเองหรือให้คำแนะนำแก่ผู้อื่น
นกกระเรียนกระดาษกว่า 30 ตัวได้บินออกไป
ในเวลาไม่ถึงครึ่งวันพวกมันก็บินกลับมาพร้อมกับ 30 คำตอบ
ท่านหญิงหง ได้เปิดดูทีละอัน
คำตอบแรกคือ…”
“หลังจากถูกเนรเทศไปยังตำหนักเย็นเขาจะต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาตลอดหลายสิบปี หัวใจของเขาจะต้องทุกข์ระทมและไม่พอใจเป็นแน่ ดังนั้นวิธีการตอบแทนที่ดีที่สุดคือโค่นล้มจักรพรรดิของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาคนปัจจุบัน และ สนับสนุนให้เขาขึ้นเป็นจักรพรรดิ…”
“จากนั้นเขาก็จะสามารถแก้แค้นและเข่นฆ่าศัตรูเพื่อระงับความขุ่นเคืองในใจของเขาได้”
ท่านหญิงหง ขมวดคิ้วแน่นและพึมพัมออกมา“สมแล้วที่เป็นความคิดของผู้บ่มเพาะพลังปีศาจ”
‘ถ้าข้าโค่นลมราชบัลลังก์ของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาในปัจจุบัน ทั่วโลกคงโกลาหลกันน่าดู จากนั้นข้าก็จะไม่สามารถงับพวกคนจากยุคก่อนได้อีกต่อไป นี่คือสิ่งที่พวกเขาอยากให้มันเกิดขึ้นงั้นหรือไม่?’
ถ้านางทำเช่นนั้นจริง ๆ คงโง่เขลาน่าดู
คำตอบที่สองคือ…
“รักษาร่างกายของเขาและช่วยให้เขาขึ้นครองบัลลังก์ของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา…”
ท่านหญิงหงได้ครุ่นคิด
‘คำตอบนี้ไม่ต่างอะไรไปจากคำตอบแรก’
คำตอบที่สาม…
ที่สี่…
ท่านหญิงหงได้อ่านไปถึง 29 คำตอบติดต่อกัน
นางได้รับคำแนะนำมากมายแต่ก็ยังไม่มีคำตอบที่น่าพึงพอใจ
จนกระทั่งคำตอบที่ 30 มาถึง
มันถูกเขียนโดย นักบวชชิงหยุน แห่ง วัดต้าหลิน ในพื้นที่เจียงหนาน
‘หากคิดจะโค่นล้มราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาในปัจจุบันและช่วยให้องค์รัชทายาทที่ถูกปลดขึ้นครองบัลลังก์ ก็คงจะไม่สามารถทำได้ง่าย ในตำหนักเย็นไม่ใช่เขาคนเดียวที่อาศัยอยู่ ยังมีเทพมนุษย์แห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาที่อยู่กับเขา…’
‘พลังของเขาไร้ขอบเขตและน่าสะพรึงกลัว หากเราไปทำให้เขาขุ่นเคืองใจ เกรงว่ามันจะจบลงด้วยการห่ำหั่นซึ่งกันและกัน ดังนั้น ข้าจึงแนะนำให้ใช้ชีวิตประนีประนอมโดยยึดหลักในการตอบแทนอีกฝ่าย’
ท่านหญิงหง ค่อนข้างสนใจความคิดนี้
แต่พวกเขาจะประนีประนอมได้อย่างไร?
‘ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา เป็นราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งบนโลกนี้ เรียกได้ว่าพวกเขามีอิทธิพลที่แข็งแกร่งขึ้นมาก กระทั่งกำลังรบปราชญ์การต่อสู้จำนวนมาก และ ยังมีเทพมนุษย์คนอื่น ๆ อีก…
‘หากคิดจะโค่นล้มราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาก็คงเป็นไปไม่ได้’
‘เช่นนั้นทำไมเราไม่เลือกประเทศเล็ก ๆ และทำให้ทั่วทั้งโลกตกใจกับการปรากฏตัวขององค์รัชทายาทคนนั้น? ให้เขาขึ้นครองบัลลังก์ประเทศเล็ก ๆ และ ให้ ท่านหญิงหง เป็นผู้สนับสนุนเขา เขาจะสามารถเติมเต็มความฝันของเขาในการดูแลประเทศ…’
คำแนะนำของนักบวชชิงหยุนได้จุดประกายความหวังในดวงตาของ ท่านหญิงหง
นางรู้สึกแปลกใจ!
ความคิดนี้ยอดเยี่ยมอย่างมาก
อาณาเขตของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวานั้นกว้างใหญ่เกินไป
เมื่อเกิดสงครามขึ้นทั่วทั้งโลกคงจะตกอยู่ในความโกลาหลอย่างแน่นอน
ทว่านางก็เป็นสาเหตุที่ทำให้องค์รัชทายาทถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ถ้านางต้องการคืนตำแหน่งจักรพรรดิให้กับเขา นางจะต้องมองหาประเทศเล็ก ๆ นอกจากราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา
‘คำถามคือ-ประเทศไหนกันที่เหมาะสม?’ ท่านหญิงหง ได้พึมพัมออกมา
ตุ๊บ ตุ๊บ!
ในขณะเดียวกัน สาวใช้นางนึงก็รีบเดินเข้ามาในห้องและพูดอย่างกังวล“ท่านหญิง! ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ท่านหมั้นหมายกับองค์รัชทายาทของเขา…”
“การแต่งงานจะจัดขึ้นในอีกสามเดือน…”
“องค์รัชทายาทกำลังรออยู่ด้านนอก”
“เขาต้องการจะบุกเข้ามาที่นี่!”
ท่านหญิงหงรู้สึกตกตะลึง
ร่างของนางแข็งค้างทันที
เห็นแบบนี้นี่ทำให้สาวใช้ยิ่งเข้าใจผิด“ท่านหญิง ได้โปรดอย่าเศร้าไปเลย ฝ่าบาททรงชราภาพมากแล้ว เขาคิดว่าองค์รัชทายาทค่อนข้างไร้ประโยชน์ดังนั้นจึงต้องการให้เขาแต่งงานกับท่าน แต่ทว่า ประชาชนในราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน…”
นางได้ตอบรับคำแนะนำของ นักบวชชิงหยุน และพึมพัมออกมา“ดูเหมือนว่าจะมีคนยื่นหมอนให้ข้าตอนที่กำลังรู้สึกง่วงอยู่พอดี!”
สาวใช้ได้มองไปที่ ท่านหญิงหง อย่างสับสน นางไม่เข้าใจว่าครึ่งหลังนั้นหมายถึงอะไร
“ไปกราบทูลให้องค์รัชทายาทเสด็จกลับไปซะ ในขณะเดียวกันก็ขอให้เขาเพลิดเพลินไปกับเหล่าลูกคุณหนูสูงศักดิ์จากตระกูลใหญ่ที่มีแทน หากเขากล้าที่จะรุกล้ำเข้ามาที่นี่ เขาต้องตาย!”
ท่านหญิงหง ได้โบกมือ
นางขี้เกียจเกินกว่าที่จะใส่ใจองค์รัชทายาทที่ปราถนาความงามของนางมาโดยตลอด
สาวใช้ได้ถอยหลังออกไปทันที
ท่านหญิงหงได้ส่งนกกระเรียนกระดาษอีก 30 ตัวออกไปอย่างเงียบ ๆ
มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้นที่อยู่ในนั้น
“มาที่ราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่และทำงานบางอย่างให้ข้า!”
นางต้องการใช้ราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดเพื่อชำระหนี้ของนางด้วยความกตัญญู
…
ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ในตำหนักเย็น
ชีวิตของ หลินจิ่วเฟิง ยังคงสงบสุขเช่นเคย
กิจวัตรประจำวันของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยตลอดเดือนที่ผ่านมา
เขาตื่นขึ้นจากการบ่มเพาะพลังในตอนเช้า เดินทางไปยังพระราชวังใต้ดินและปลดผนึกถ้ำปีศาจ จากนั้นเขาก็ปลุกเทพปีศาจและเอาชนะพวกมันทีละคน
หลังจากนั้นเขาก็ลงชื่อเข้าใช้และรับเอาสมบัติล้ำค่า ทักษะบ่มเพาะพลัง และ สิ่งของอื่น ๆ เป็นรางวัล
เมื่อสิ่งนี้สิ้นสุดลง เขาก็ปิดผนึกถ้ำปีศาจและกลับไปที่ตำหนักเย็น
จากนั้นเขาก็ทบทวนตัวเองและตั้งคำถามเกี่ยวกับการฝึกฝน
ในช่วงเวลานี้ ฐานการบ่มเพาะพลังของ หลินจิ่วเฟิง ได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
เขาได้ก้าวข้ามช่วงด่านกายาศักดิ์สิทธิ์และเข้าสู่ช่วงด่านจุติใหม่แล้ว
ขั้นตอนต่อไปก็คือการทะลวงด่านพลังไปสู่ขั้นถัดไป
นี่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ หลินจิ่วเฟิง
ขณะที่เขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แรงกดดันในการเผชิญหน้ากับปีศาจในถ้ำปีศาจก็ลดน้อยลง วันนี้ หลินจิ่วเฟิง ได้ไปเยี่ยมถ้ำปีศาจตามปกติ แต่มันกลับเงียบจนผิดแปลก
มีปีศาจมากกว่าสิบตัวที่มักจะวิ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกันแต่ตอนนี้…
มันไม่มีการเคลื่อนไหวภายในถ้ำปีศาจเลย
เขาไม่รู้สึกถึงอันตรายแม้แต่น้อย
ความสงบสุขดังกล่าวค่อนข้างน่าขันเมื่อเทียบกับชื่อเรียกที่ถูกกล่าวขานว่า ‘ถ้ำปีศาจ’
แต่สิ่งนี้ก็ยังแสดงให้เห็นถึงการที่ปีศาจถูกทรมานตลอดระยะเวลาหลายเดือน
พวกมันหยิ่งผยองน้อยลงกว่าตอนที่ถ้ำปีศาจเปิดออกครั้งแรก
หลังจากที่ผนึกถ้ำปีศาจเปิดออกอีกครั้งพวกปีศาจก็สั่นสะท้านและพยายามหลบซ่อนตัว
พวกมันไม่กล้าส่งเสียงออกมา
พวกมันกลัวว่า หลินจิ่วเฟิง จะค้นพบพวกมัน
เพราะหลังจาก หลินจิ่วเฟิง ค้นพบพวกมันแล้ว
พวกมันก็จะต้องไปต่อสู้กับเขา หลังจากพ่ายแพ้เสร็จพวกมันก็จะถูกโยนกลับเข้าไปในถ้ำปีศาจโดยไม่ได้ตั้งใจ
การถูกปฏิบัติเช่นนี้-มันน่าละอายเกินไป!
นั่นก็เพราะพวกมันไม่รู้ว่า หลินจิ่วเฟิง ได้รับรางวัลมากมายจากการเอาชนะพวกเขา
นี่เป็นผลให้พวกมันทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า หลินจิ่วเฟิง ตั้งใจทำเช่นนี้ก็เพื่อทำให้พวกมันอับอายขายขี้หน้า
หลังจากมอบความอับอายให้ครั้งนึง วันต่อไป อีกฝ่ายก็ยังทำเช่นนี้อยู่เหมือนเดิม เขาได้สุ่มเลือกปีศาจมา และ สร้างความอับอายโดยการมอบความพ่ายแพ้ให้อีกฝ่าย
คน ๆ นี้น่ารังเกียจเกินไป
ปีศาจและเทพปีศาจต่างถูกแผดเผาไปด้วยความโกรธ
วันนี้ หลินจิ่วเฟิง ได้ยืนอยู่บนถ้ำปีศาจหลังจากเปิดผนึก หลังจากตระหนักได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ อยู่ภายใน เขาก็ยกแขนขึ้นและเอื้อมมือออกไปเคาะที่ประตูทางเข้า
“อย่าแม้แต่จะแกล้งตาย พวกเจ้าคนหนึ่งออกมาสู้กับข้าซะ เมื่อสู้กันเสร็จ ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าอยู่กันตามปกติ”หลินจิ่วเฟิง ได้ตะโกน
เขาไม่ต้องการที่จะลงไปด้วยร่างกายที่แท้จริงของเขาในตอนนี้
มันค่อนข้างน่าอึดอัดเกินไป
ใครจะไปรู้ว่ามีเทพปีศาจกี่ตัวอยู่ที่นั่น?
มันจะดีกว่าหากเขาเล่นสนุกกับพวกมันอย่างปลอดภัย
อีกอย่างมันคงไม่สายเกินไปสำหรับเขาที่จะลงไปหลังจากทะลวงผ่านขั้นพลังต่อไป
ถ้ำปีศาจนี้เป็นพื้นที่อันไร้ขอบเขต
มีปีศาจหลายร้อยตัวและเทพปีศาจ 2-3 ตัวที่อยู่ภายในได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
แต่พวกมันทั้งหมดก็พ่ายแพ้ให้กับ หลินจิ่วเฟิง โดยไม่มีข้อยกเว้น
จากนั้นพวกมันทั้งหมดก็ถูกโยนกลับไปยังถ้ำปีศาจหลังจากที่พ่ายแพ้
ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของ หลินจิ่วเฟิง พวกมันก็พลันโกรธจัด
“ข้าจะขึ้นไปดูว่าเขาเป็นคนอย่างไร ย้อนไปในอดีต พวกเราต่างก็เป็นผู้นำนิกายปีศาจ มีใครในโลกบ้างที่กล้าที่จะทำให้พวกเราขายหน้าแบบนี้?”เทพปีศาจที่เพิ่งตื่นในวันนี้ รู้สึกโกรธอย่างมากกับสิ่งที่เขาได้ยิน
ปอดของเขาแทบจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธขณะที่เขาพุ่งขึ้นไปด้านบน
บูม!
กลิ่นอายพลังปีศาจของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอหลังจากถูกผนึกมาเป็นเวลานาน แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่ปีศาจธรรมดาจะสามารถเทียบได้
“เจ้าหนู เลิกหย่องผยองได้แล้ว ท่านปู่คนนี้จะฆ่าเจ้าซะ!”
เทพปีศาจได้ส่งเสียงคำรามออกมา
รัศมีพลังของเขาได้ทะยานขึ้นปราณกระบี่อันเจิดจรัสได้ฟาดฟันออกไป
เขาต้องการฆ่า หลินจิ่วเฟิง ในครั้งเดียว
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่เย่อหยิ่งของอีกฝ่าย หลินจิ่วเฟิง ก็สั่นศีรษะ“เจ้ายังคงอ่อนแอเกินไป”
เขาได้ยื่นมือออกไปข้างนึง
พลังปราณของเขาได้พลุ้งพล่านไปทั่ว รัศมีพลังเต๋าอันยิ่งใหญ่ และ คลังสมบัติทั้ง 4 ภายในร่างกาย ได้หลอมรวมความแข็งแกร่งของเขาไว้ด้วยกัน
บูม!
จากนั้นทักษะปราบปรามปีศาจก็ปะทุขึ้น
ตราประทับสีดำอันน่าสะพรึงกลัวได้ปรากฏออกมาและพุ่งออกไปทุบลงบนร่างกายของเทพปีศาจ
ปั้ง!
เพียงชั่วพริบตาเดียว เทพปีศาจก็ถูกส่งลงไปที่ก้นของถ้ำปีศาจในทันที
เทพปีศาจตัวอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจเขา
นี่เป็นลักษณะของความพ่ายแพ้ของพวกเขาเช่นเดียวกัน
หลินจิ่วเฟิง ได้ผนึกถ้ำปีศาจด้วยความพึงพอใจหลังจากนั้นเขาก็ลงชื่อเข้าใช้
[ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับถ้ำสวรรค์ระดับเทพ]
เมื่อ หลินจิ่วเฟิง ได้เห็นสิ่งที่เขาได้รับ ดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้น
เขาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ“ในที่สุดโอกาสสำหรับการพัฒนาของข้าก็มาถึง”