80Y-ตอนที่ 63 ไข่ฟาร์มมอนเตอร์
พลังงานทางโลกคล้ายกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด มันมีวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด
ก็เหมือนกับบอลลูนที่ปล่อยขึ้นไปบนอากาศ เมื่อเหล่าผู้ที่มีอำนาจมากที่เกิดในยุคสมัยนั้นดูดซับพลังงานทางโลกไป พลังงานทางโลกก็จะลดลงอย่างมาก จากนั้นมันก็จะกลายเป็นเรื่องยากมากสำหรับทุกคนที่จะพัฒนาความก้าวหน้าในการบ่มเพาะพลังของพวกเขา
นี่แสดงให้เห็นถึงการสิ้นสุดของยุคสมัย แม้ว่าจะมีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว แต่พวกเขาก็ไม่สามารหลีกหนีความตายได้ บางคนกระทั่งทำได้เพียงแค่ผนึกตัวเองและรอการฟื้นคืนจากพลังงานทางโลกครั้งต่อไป ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงยุคสมัยใหม่
มันคือวัฏจักรแห่งการเริ่มต้นและจุดจบ
ชีวิตของคนธรรมดามีอายุขัยประมาณ 100 ปี
ชีวิตของต้นไม้สามารถอยู่ได้นานหลาย 1,000 ปี
ช่วงเวลาแห่งการร่วงโรยของต้นไม้มีเพียงฤดูใบไม้ร่วงเดียวต่อปี
ชีวิตที่แตกต่างก็มีวัฏจักรชีวิตที่ต่างกันไป
นี่คือการทำงานของโลก
เหตุใดตั้งแต่ที่ หลินจิ่วเฟิง เข้ามาที่โลกนี้ เหล่าผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดของโลก ถึงมีเพียงแค่ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่เพียงเท่านั้น?
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะพบปราชญ์การต่อสู้ที่มีชีวิตอยู่ในเวลานั้น
ต่อมา-เมื่อพลังวิญญาณทางโลกแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการฟื้นตัว-ปราชญ์การต่อสู้ ก็ค่อย ๆ ปรากฏตัวขึ้น
และ เมื่อฝนตกลงมาในครานั้น โลกก็ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
หลังจากฝนตก ผู้คนบนโลกก็ตระหนักได้ว่ายุคสมัยใหม่ได้มาถึงแล้ว
ปีศาจในถ้ำปีศาจต่างก็เฝ้ารอโอกาสที่เหมาะสม
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาถูกจอมมารปราบปรามเมื่อ 1,500 ปีก่อน
จอมมารเป็นหนึ่งในเทพมนุษย์คนสุดท้ายก่อนที่พลังงานทางโลกจะฟื้นคืนกลับมา
ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาได้ค้นพบปีศาจจากถ้ำปีศาจที่อาจจะออกมาอาละวาดบนโลกในอนาคต
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้บ่มเพาะพลังปีศาจ แต่จอมมารก็ไม่ได้มีแผนที่จะสมรู้ร่วมคิดกับพวกเขา
เขาได้สร้างพระราชวังใต้ดินแห่งนี้ขึ้นเพื่อผนึกทางเข้าถ้ำปีศาจ เขาได้ใช้โลงศพทองแดงของตัวเองเป็นตัวสร้างผนึกในการปราบปรามพวกมัน
จอมมาร ค่อนข้างมีใจเห็นแก่ส่วนรวม!
จากนั้นนิกายซากศพก็มาค้นพบพระราชวังแห่งนี้
พวกเขาต้องการเปิดมันและปล้นสมบัติที่อยู่ข้างในไป
ตั้งแต่ต้นจนจบ คนจากนิกายซากศพ ไม่ได้รู้เลยว่ามีถ้ำปีศาจที่น่ากลัวซ่อนอยู่ใต้พระราชวังนี้
พวกเขาได้ศึกษาเป็นเวลานานแต่ก็ไม่อาจเปิดประตูได้
ผลสุดท้าย-นิกายซากศพได้ถูกไล่ล่าโดยผู้คนทั่วโลก พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากละทิ้งดินแดนพลังงานด้านลบสุดขั้วนี้ไปพร้อมกับสมบัติของมัน
หลังจากหลายร้อยปีผ่านไป ในที่สุด ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาก็ก่อตั้งขึ้น และ พวกเขาได้เลือกพื้นที่โดยรอบนี้สร้างเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์
เรื่องราวเกี่ยวกับถ้ำปีศาจ จอมมาร และ นิกายซากศพ ได้หายไปอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับดินแดนพลังงานด้านลบแห่งนี้
จนสุดท้าย องค์ชายแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาก็ถูกหลอกให้สร้างพระราชวังขึ้นที่นี่
จากนั้นเขาก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ไม่นานสถานที่แห่งนี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นตำหนักเย็นสถานที่ที่มีชื่อเสียง
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้ามาที่นี่
หลินจิ่วเฟิง ได้แยกแยะที่มาของดินแดนพลังงานด้านลบสุดขั้วนี้
‘ในตอนแรก ข้ารู้สึกสับสนว่าทำไมดินแดนพลังงานด้านลบจึงได้ถือกำเนิดขึ้นที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากฝนตก ดินแดนพลังงานด้านลบ ก็ได้ปรับเปลี่ยนการลงชื่อเข้าใช้ ใครเป็นคนสร้างสถานที่ดังกล่าว?’
‘ในที่สุดตอนนี้ข้าก็เข้าใจแล้ว ไม่ใช่ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา นิกายซากศพ และ จอมมาร ดินแดนพลังงานด้านลบแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยปีศาจจากถ้ำปีศาจที่ถูกจอมมารผนึกไว้’
‘พวกมันคือเจ้าของดั้งเดิมของดินแดนพลังงานด้านลบแห่งนี้ แม้ว่าพวกมันจะเลือกปิดผนึกสถานที่แห่งนี้หลังจากจุดสิ้นสุดของยุคสมัยมาถึง แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกมันก็จะกลายเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้อยู่ดี…’
หลินจิ่วเฟิง ได้บ่นพึมพัมออกมา
เจ้าแมวขาวได้เขียนอย่างใจจดใจจ่อที่ด้านข้าง
“ช่วยข้าถามเกี่ยวกับที่อยู่ของจอมมาร”
หลินจิ่วเฟิง ได้กล่าวถามทันที
ปีศาจที่ถูกจับอยู่ไม่กล้าชักช้า
เขาแทบจะตอบได้ในทันที“ข้าไม่รู้ พวกเราทั้งหมดเชื่อว่าจอมมารคงจะตายไปแล้ว เพราะก่อนที่เขาจะหายตัวไปเขาได้ปิดผนึกถ้ำปีศาจของพวกเรา ในยุคที่พลังงานทางโลกยังไม่ฟื้นตัวดีการกระทำดังกล่าวเป็นอันตรายต่อชีวิตของเขาอย่างมาก”
เจ้าแมวขาวได้ส่งเสียงร้องออกมาอย่างหดหู่
มันยังคงหวังว่าจอมมารคนนั้นจะยังมีชีวิตอยู่
“ท่านผู้สูงส่ง ข้าตอบทุกอย่างที่ตอบได้ไปแล้วข้าไม่ได้โกหกแม้แต่นิดเดียว…”
“ปล่อยข้าไปได้หรือไม่?”ปีศาจได้อ้อนวอนด้วยความน่าสงสาร
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ปีศาจเหล่านี้ก็สูญเสียการสนับสนุนที่เพียงพอจากพลังงานทางโลก ดังนั้นพวกมันจึงเลือกที่จะผนึกตัวเองไว้ที่ใต้ดินในดินแดนพลังงานด้านลบแห่งนี้
หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน พวกมันที่ไม่ได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสม ความชำนาญในทักษะและความสามารถของพวกมันทั้งหมดก็เริ่มเสื่อมถอยลง เช่นเดียวกับผู้ป่วยที่นอนติดเตียงเป็นเวลานาน ความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายของพวกเขาจะติดขัด
‘ตอนที่ข้าอยู่บนจุดสูงสุด มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับข้าที่จะบดขยี้เทพมนุษย์แบบเจ้าจนตาย…’
‘เจ้าสามารถเดินเตร่ไปมาได้เพราะข้าถูกกดขี่เป็นเวลานานและไม่สามารถดูดซับพลังงานทางโลก แต่เมื่อข้าได้เป็นอิสระ และ กลับมาดูดซับพลังงานทางโลกได้อีกครั้ง ข้าจัดเด็ดศีรษะของเจ้าออกมาโดยเร็วที่สุด’ ปีศาจคอยาวได้สาปแช่งในใจของเขา
แต่ภายนอกเขายังคงเชื่อฟังมาก
หลินจิ่วเฟิง ได้ครุ่นคิดและตอบกลับ“ถ้ำปีศาจของเจ้าตั้งอยู่ที่นี่ เช่นนั้นมีกลุ่มอื่นอีกหรือไม่?”
“มีมากเลยล่ะ…”
“ถ้ำปีศาจของเราเป็นหนึ่งใน 18 นิกายปีศาจจากยุคก่อน อีก 17 นิกายปีศาจที่เหลือก็ปิดผนึกตัวเอง นอกจากนี้ยังมีพวกลัทธิเต๋า,นิกายพุทธ,ผู้บ่มเพาะพลัง และ มหาอำนาจที่หลบซ่อนตัวอยู่…”
“พวกเขาเลือกที่จะปิดผนึกตัวเองและรอการมาถึงของยุคสมัยใหม่”ปีศาจตัวนี้ได้กล่าวตามความจริง
“พูดอีกอย่างก็คือ แม้ว่าโลกนี้จะเป็นยุคสมัยใหม่ แต่ทุกคนบนโลกก็ยังอยู่แค่บนเส้นทางเริ่มต้นเท่านั้น ยังมี ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนหลบซ่อนและรอคอยเวลาอันเหมาะสมที่จะปรากฏตัว?”หลินจิ่วเฟิง ได้กล่าวถาม
“ถูกต้อง ดังนั้นเจ้าควรจะปล่อยข้าไป…”
“อีกอย่างย้ายโลงศพนี่ออกไปซะและเราจะทำลายพระราชวังอันเน่าเหม็นนี่ จากนั้น ถ้ำปีศาจของเราก็จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนโลก”ปีศาจตัวนี้ได้กล่าวพูดอย่างตื่นเต้น“เมื่อถึงเวลา พวกเราจะตอบสนองความต้องการทั้งหมดของเจ้า”
หลินจิ่วเฟิง มองไปที่ปีศาจตัวนี้ที่ยื่นข้อเสนอผลประโยชน์ต่าง ๆ
แต่สุดท้าย หลินจิ่วเฟิง ก็สั่นศีรษะ“ข้าเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว เอาเป็นว่าข้าจะผนึกเจ้ากลับไปอยู่ในถ้ำปีศาจต่อ”
หลินจิ่วเฟิง ได้โยนปีศาจตัวนี้กลับไปยังถ้ำปีศาจโดยตรง
“ไม่…”
ปีศาจตัวนี้ได้ร้องลั่น
มันได้ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างรุนแรง
และพยายามจะฝ่าออกไปด้วยทุกอย่างที่มี
มันติดอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว มันรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวังอย่างมาก มันไม่ต้องการถูกผนึกในถ้ำปีศาจอีกต่อไป
มันต้องการมองเห็นโลกใบนี้
ตุบ!
แต่ภายใต้การเคลื่อนไหวของ หลินจิ่วเฟิง พระราชวังแห่งนี้ได้สั่นสะเทือนหลายครั้ง โลงศพทองแดงได้เคลื่อนตัวเข้าหาปากทางเข้าถ้ำปีศาจและเปิดใช้รูปแบบผนึกโดยสมบูรณ์
ปีศาจได้ชนเข้ากับรูปแบบผนึก
โลหิตได้ไหลออกมาจากศีรษะของมัน จากนั้นมันก็ร่วงหล่นลงสู่ก้นเหวไร้สิ้นสุดมันได้ร้องออกมาด้วยความสลดใจ
“มนุษย์ รอก่อนเถอะ! หากข้าออกไปข้าจะฆ่าเจ้า!”
ปีศาจตัวนี้ได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เสียงของมันได้ดังก้องกังวานไปทั่ว
การแสดงออกของ หลินจิ่วเฟิง ค่อนข้างสงบเขาได้พึมพัมออกมา“ที่ด้านบนของถ้ำนี้ก็คือตำหนักเย็นของข้า หากข้าปล่อยให้พวกเจ้าออกไปไม่ใช่ว่าตำหนักเย็นที่ข้าอยู่อาศัยมานานกว่า 30 ปีจะถูกทำลายภายใต้เงื้อมมือของเจ้าเหรอ?”
เขายังคงต้องการลงชื่อเข้าใช้ตำหนักเย็นแห่งนี้ต่อไป เขาไม่อาจปล่อยให้พวกมันทำลายได้
[คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้ถ้ำปีศาจหรือไม่?]
พูดถึงปีศาจ…
หลินจิ่วเฟิง เลิกคิ้วข้อความจากระบบได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
เขาไม่ลังเลที่จะตอบกลับ“ยืนยันการเข้าใช้”
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ถ้ำปีศาจได้สัมผัสกับอากาศภายนอก ท้ายที่สุดแล้ว โลงศพของจอมมารก็คือตัวขวางกั้นถ้ำปีศาจนี้เอาไว้
คงจะเป็นเรื่องอศจรรย์อย่างมากหากใครก็ตามที่สามารถค้นพบมันได้โดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะค้นหา
หลินจิ่วเฟิง คาดหวังว่าตนเองจะได้รับของรางวัลมากมายจากการลงชื่อเข้าใช้สถานที่แห่งนี้เป็นครั้งแรกหลังจากผ่านไปนานหลายปี
[ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับทักษะปราบปรามปีศาจ]
[คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้ซ้ำที่นี่ได้ ตราบใดที่คุณสามารถเอาชนะปีศาจต่าง ๆ คุณจะสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้อีกครั้ง]
หลินจิ่วเฟิง คิดว่าตนเองลงชื่อเข้าใช้และได้รับทักษะมาก็ดีเกินพอแล้ว
แต่ใครจะไปคิดว่าสถานที่แห่งนี้จะทำให้เขาสามารถลงชื่อเข้าใช้ซ้ำได้?
“ไข่ฟาร์มมอนเตอร์”
คำนี้ได้ปรากฏขึ้นในใจของ หลินจิ่วเฟิง เขาเคยเล่นเกม ‘ไมน์คราฟต์’ ในชีวิตก่อนหน้ามาก่อน
ในสายตาของคนอื่น ถ้ำปีศาจนี้เป็นสถานที่อันตรายอย่างมากที่สามารถคร่าชีวิตใครก็ได้ทุกเมื่อ
แต่ในสายตาของ หลินจิ่วเฟิง มันเป็นเพียง ไข่ฟาร์มมอนเตอร์ เท่านั้น
และ ไข่ฟาร์มมอนเตอร์ นี้เขาสามารถโซโล่ฟาร์มพวกปีศาจได้อย่างไม่มีกำหนด