ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 60 ไม่ได้มีสตรีเคียงข้างมานานแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 62 เหตุผลของยุคสมัยใหม่

80Y-ตอนที่ 61 ทักษะเปลี่ยนแปลงโชคชะตา


หลินจิ่วเฟิงยอมรับโอสถบำรุงเหล่านี้

เขาคิดอยู่ค่อนนาน

แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าใครคือท่านหญิงหง

“อ๊า น่ารำคาญเป็นบ้า เหตุใดข้าถึงนึกไม่ออกนะ”

ในที่สุดเขาก็พยายามเลิกคาดเดาตัวตนของนาง

ในเมื่อท่านหญิงหงทำเพราะมีแรงจูงใจบางอย่าง นางจะต้องปรากฏตัวขึ้นเร็ว ๆ นี้แน่ ถึงตอนนั้น หลินจิ่วเฟิง ก็จะได้รู้ว่านางเป็นใคร

“ที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือบ่มเพาะพลังไปยังขั้นต่อไปโดยเร็วที่สุด”

ร่างของ หลินจิ่วเฟิง ได้หายไปจากหน้าทางเข้าของตำหนักเย็น

เขาได้กลับมาลงชื่อเข้าใช้ตามปกติอย่างเงียบ ๆ

เขาได้ลงชื่อเข้าใช้ทุกวัน

ส่วน ลูกน้องของท่านหญิงหง ก็ไม่ได้มาที่ตำหนักเย็นอีกเลย

ราวกับว่าท่านหญิงหงนี้ไม่ได้มีตัวตนตั้งแต่แรก

โชคดีที่ หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้อยากรู้อยากเห็นมากนัก

ถึงท่านหญิงหง จะไม่ได้มา ชีวิตของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

เขายังคงลงชื่อเข้าใช้สถานที่ ฝึกฝน และ สร้างความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง

ในัวนนี้ หลินจิ่วเฟิง ได้ยืนอยู่หน้าลานที่พัก

ร่างกายของเขาเหยียดตรง

และสวมใส่ชุดคลุมสีม่วงขณะจับคู่กับเฉดสีสมพูของต้นซากุระ ฉากนี้ดูเหมือนฉากที่มักถูกบรรยายในภาพวาดที่มีชีวิตชีวา

เมี้ยว!

เจ้าแมวขาวได้ยืนอยู่บนกำแพงลานที่พักและเฝ้ามองดูอย่างเงียบ ๆ

วันนี้ หลินจิ่วเฟิง ดูค่อนข้างหดหู่

เจ้าแมวขาวไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

มันได้คำนวณเวลา

ดูเหมือนว่า หลินจิ่วเฟิง จะรู้สึกหดหู่ในใจทุกวันและเดือนเฉพาะวันนี้ของทุกปี

ชายผู้นี้มีอะไรให้หนักใจถึงขนาดทำให้ตนเองซึมเศร้าสองสามวันแบบนี้ของทุกปี?

เจ้าแมวขาวได้กระโดดลงมาจากกำแพงและมายืนที่ด้านหน้าของ หลินจิ่วเฟิง

มันได้เขียนถาม…

“เจ้ามักจะรู้สึกหดหู่ใจทุกวันและเดือนนี้ของทุกปีเพราะอะไร?”

หลินจิ่วเฟิง เหลือบมองไปที่เจ้าแมวขาว

จากนั้นเขาก็มองไปที่ต้นซากุระ

เขาเอามือไขว่หลังและตอบกลับอย่างแผ่วเบา“เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของน้องชายข้า”

เจ้าแมวขาวกล่าวถามหลินจิ่วเฟิงอย่างสงสัย

มันเขียนถามต่อ“เจ้ามีน้องชายด้วยงั้นหรือ?”

“เจ้าแมวโง่ ถ้าข้าไม่มีน้องชาย แล้วเหตุใด จักรพรรดิหลินเทียนหยวน ถึงเรียกข้าว่าท่านลุงเล่า?”หลินจิ่วเฟิง ตอบกลับ

เจ้าแมวขาวดูหงุดหงิด

มันปิดตาลงและร้องไห้ให้กับความโง่เขลาของตัวเอง

“น้องชายเจ้าจากไปนานแค่ไหนแล้ว?”เจ้าแมวขาวได้เปลี่ยนเรื่อง

หลินจิ่วเฟิง ได้ชีดนิ้วของเขาและตอบกลับ“ต้นซากุระนี้ถูกปลไว้ที่ลานที่พักตอนที่เขาจากไป ย้อนกลับไปมันเป็นเพียงแค่ต้นกล้าเล็ก ๆ แต่ตอนนี้มันตั้งสูงตระหง่านและแข็งแรงมากแล้ว”

หลินจิ่วเฟิง ดูซึมเศร้าเมื่อพูดถึงฉากนี้

ในโลกนี้ นอกเหนือจากเส้นทางการบ่มเพาะพลังที่เขาสนใจแล้ว…

เขาก็มีคนที่สำคัญที่รักษาไว้ในใจ

จักรพรรดิหยวน-จักรพรรดิหยวนมักจะเรียกเขาว่า ‘พี่ใหญ่’ เสมอ

ความรู้สึกดีของเขาที่มีต่อจักรพรรดิหยวนดีกว่า หลินเทียนหยวน

เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็เกิดมาเป็นพี่น้องกัน

แม้ว่าโดยส่วนใหญ่จะสื่อสารกันได้ไม่ดีแต่พวกเขาก็เข้าใจซึ่งกันและกัน

เป็นเวลากว่า 1-2 ทศวรรษแล้ว นับตั้งแต่จักรพรรดิหยวนจากไป หลินจิ่วเฟิง มักจะรู้สึกหดหู่ในวันเดือนนี้ของทุกปี

เขาสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้

ตราบใดที่เขาไม่คิดเกี่ยวกับมัน มันก็ไม่มีทางทำร้ายเขา

แต่วันนี้มันแตกต่างออกไป

เมื่อ หลินจิ่วเฟิง เห็นต้นซากุระต้นนี้ ความคิดของเขาก็เริ่มปั่นป่วนทำให้เขาพบว่ามันยากที่จะปราบปรามความคิดเหล่านี้

ต้นอ่อนซากุระในสมัยนั้น

วันนี้เขาได้ตระหนักว่ามันเติบโตขึ้นมากแล้ว

ในสมัยที่มันยังเล็ก-มันคือวันที่น้องชายของเขาได้จากโลกนี้ไป

ดังนั้น หลินจิ่วเฟิง จึงไม่มีอารมณ์ที่จะฝึกฝนในวันนี้

เขาหันหลังกลับและจากไป

เมี้ยว!

เจ้าแมวขาวร้องตามทันที

“ข้าจะไปเยี่ยมน้องชายของข้า เจ้าอยู่เฝ้าตำหนักเย็นให้ดี”หลินจิ่วเฟิง ได้จากไป

เมี้ยว!

เพียงแต่ เจ้าแมวไม่สนใจ

มันกระโดดขึ้นไปบนไหล่กว้างของ หลินจิ่วเฟิง และ ขดตัว

หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้สนใจเขาพาเจ้าแมวขาวไปที่สุสานหลวง

จักรพรรดิในอดีตของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาล้วนถูกฝังอยู่ที่นี่

บิดาของ หลินจิ่วเฟิง และ จักรพรรดิหยวน ก็ถูกฝังที่นี่เช่นเดียวกัน

หลุมฝังศพของบิดาของเขาใหญ่โตและหรูหราอย่างมาก

มันถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิหยวนในตอนนั้น

เมื่อพูดถึงหลุมฝังศพของจักรพรรดิหยวน แม้ว่ามันจะยิ่งใหญ่ แต่มันก็โทรมมากเมื่อเทียบกับหลุมฝังศพของบิดาเขา

หลินจิ่วเฟิง ได้ยืนอยู่ด้านหน้าหลุมฝังศพของจักรพรรดิหยวน

เขามองไปที่สุสานโดยรอบทันใดนั้นความคิดของเขาก็เริ่มพลุ่งพล่าน

“ข้าดูแลบุตรชายเจ้ามาตลอดหลายปีนี้ แม้ว่าเขาจะค่อนข้างประมาทและทำผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง แต่ข้าก็พยายามช่วยเขาแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถอยู่จนถึงแก่เฒ่าได้อีกต่อไป”

ที่หน้าหลุมฝังศพของจักรพรรดิหยวน หลินจิ่วเฟิง รู้สึกผิด

เพราะท้ายที่สุด หลินเทียนหยวน ก็คือคนที่จักรพรรดิหยวนเลือก

ในฐานะลุงของเขา หลินจิ่วเฟิง กล่าวว่าจะดูแลอีกฝ่าย แต่ทว่า หลินเทียนหยวน กลับเหลือเวลาชีวิตอีกแค่ 40 ปีเท่านั้น

“โดยพื้นฐานแล้วการปฏิรูปของเจ้าก่อนหน้านี้ได้สำเร็จไปแล้ว หลินเทียนหยวนได้ประสบความสำเร็จในการปฏิรูปโลกนี้ ในที่สุดเขาก็รู้วิธีการจัดการดูแลราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาอย่างเหมาะสม ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นจะต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว”

“วันนี้ข้าสังเกตุเห็นต้นซากุระที่ข้าปลูกในปีที่เจ้าจากไปมันได้ตั้งตระหง่านและแข็งแรง”

หลินจิ่วเฟิง มักจะจดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะพลังจนแทบจะละเลยเรื่องดังกล่าวก่อนหน้านี้

“เจ้าจากไปกว่า 20 ปีแล้ว”หลินจิ่วเฟิงได้พึมพัมออกมา

เขาได้ถอนหายใจและมองไปที่หลุมฝังศพของจักรพรรดิหยวน

ขณะที่เขากำลังรำลึก หลินจิ่วเฟิง ก็พึมพัมออกมามากมายและช่วยจักรพรรดิหยวนทำความสะอาดหลุมฝังศพของเขา

จากนั้นเขาก็ยืนอยู่ด้านหน้าหลุมฝังศพและคำนับ

[คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้สุสานจักรพรรดิหยวนหรือไม่?]

หลินจิ่วเฟิง รู้สึกตกตะลึง

เขาสามารถลงชื่อเข้าใช้ที่นี่ได้หรือไม่?

แต่สถานที่แบบนี้มันจะมีอะไรได้?

แต่หลินจิ่วเฟิงไม่ใช่คนโง่ เขาได้ตอบตกลงในทันที

[ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จได้รับทักษะเปลี่ยนแปลงโชคชะตา]

หลินจิ่วเฟิงรู้สึกตกตะลึง

“ทักษะเปลี่ยนแปลงโชคชะตานี้คืออะไร?”หลินจิ่วเฟิง อดไม่ได้ที่จะสงสัย

บูม!

ทันใดนั้นข้อมูลจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของ หลินจิ่วเฟิง

เพียงชั่วลมหายใจสั้น ๆ หลินจิ่วเฟิง ก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นและมองไปที่สุสานจักรพรรดิหยวนด้วยความประหลาดใจ

[ทักษะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาสามารถเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งให้กลายเป็นอ่อนแอ หรือปรับเปลี่ยนชะตากรรมของคน ๆ หนึ่ง]

บทนำนั้นเรียบง่าย แต่ข้อมูลนั้นล้ำลึกอย่างสุดแสน

“มันสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของคนที่ตายไปแล้วให้ฟื้นกลับมาได้หรือไม่?”หลินจิ่วเฟิงกล่าวถามอย่างตื่นเต้น

หากทำได้ จักรพรรดิหยวน ที่เขาพลาดไปในอดีตจะสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้

[โฮสต์ต้องคิดเอาเอง นี่ไม่ใช่คำถามที่เรียบง่าย!]

หลินจิ่วเฟิง ได้ยิ้มออกมา“ข้ารู้ว่านี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่เป็นไร เพื่อให้จักรพรรดิหยวนได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง ข้าจะทำให้ดีที่สุด”

หลินจิ่วเฟิง รู้สึกเสมอว่าการตายของจักรพรรดิหยวนเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

บัดนี้เขามีความหวังเพียงเล็กน้อยในการฟื้นคืนชีพจักรพรรดิหยวน

[การเปลี่ยนแปลงชะตากรรมจะถูกสวรรค์พิโรธ!]

หลินจิ่วเฟิง เพิกเฉยต่อประโยคนี้

เขาคุกเข่าและเอื้อมมือไปเช็ดฝุ่นบนหลุมฝังศพของจักรพรรดิหยวนและกล่าวอย่างหนักแน่น“เจ้ารอพี่ใหญ่อยู่ที่นี่ สักวันหนึ่งพี่ใหญ่จะทำให้เจ้าตื่นขึ้นมาพบกับโลกที่สดใสอีกครั้งอย่างแน่นอน เจ้าจะได้เห็นโลกใบใหม่หลังฝนตกในครานั้น”

จักรพรรดิหยวน มีความสามารถมาก เมื่อเทียบกับ หลินจิ่วเฟิง คนก่อน

เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาอีกฝ่ายจะต้องโดดเด่นในโลกใบใหม่นี้อย่างแน่นอน

ในวันที่เขาฟื้นคืนชีพราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาจะไม่ต้องการให้เขาปกป้องอีกต่อไป

ด้วยความคิดนนี้ หลินจิ่วเฟิง ได้ลุกขึ้นยืน

เขาหันหลังและเดินออกไปในทันที

เขาต้องการกลับไปเริ่มต้นการบ่มเพาะพลังในขั้นเทพมนุษย์ต่อโดยเร็วที่สุด เขาต้องการเห็นสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้มากกว่านี้ อีกทั้ง เขายังต้องการศึกษาทักษะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาด้วย

มันเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่จะชุบชีวิตคน ๆ นึงที่เสียชีวิตไปเกือบ 20 ปี โดยที่ไม่มีความแข็งแกร่งและความสามารถที่เพียงพอ

‘อย่างแรกข้าต้องก้าวข้ามด่านไร้สิ้นสุดให้ได้ก่อน!’ หลินจิ่วเฟิง ได้พึมพัมกับตัวเอง

ระหว่างการเดินทางจากสุสานหลวงไปยังตำหนักเย็น หลินจิ่วเฟิง ได้เดินอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง

บูม!

ทันทีที่เขาเข้าสู่ตำหนักเย็น ร่างกายของ หลินจิ่วเฟิง ก็สั่นเทา

เขาได้ก้าวข้ามไปยังช่วงต่อไป

เขาได้สั่งสมรากฐานการบ่มเพาะพลังไว้เป็นเวลานานจนในที่สุดเขาก็ผ่านจุดติดขัดเดียวซึ่งก็คือความเสียใจบางอย่าง เมื่อความเสียใจของเขาได้รับการแก้ไขหลังจากไปเยี่ยมชมสุสานหลวง-เขาก็ทะลวงผ่านช่วงพลังโดยธรรมชาติ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด