434 - ทักษะที่เขย่าเมืองหลิวเหอ
434 - ทักษะที่เขย่าเมืองหลิวเหอ
ลู่เหวินปิงขอคำยืนยัน เมื่อพิจารณาจากการแสดงออกของเอี้ยนลี่เฉียงตัวเลขนี้ถือว่ายังค่อนข้างหรือว่าน้อยอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามในจำนวนนี้จะถูกกันไว้ให้เป็นโควตาของเด็กหนุ่มที่มาจากแคว้นผิงซีสามร้อยคน
“แต่ก่อนอื่นนักเรียนสองพันคนชุดแรกของโรงเรียนยิงธนูจะสงวนไว้สำหรับเด็กหนุ่มจากแคว้นผิงซีเท่านั้น ผู้ที่อยู่นอกแคว้น ผิงซีจะถูกคัดเลือกในชุดต่อไปซึ่งโควต้าสามร้อยคนจะถูกใช้ในตอนนั้น!”
“ตกลงตามนี้!” ลู่เหวินปิงพยักหน้าเป็นคำตอบ
ขณะที่ทั้งสองยังอยู่ระหว่างการสนทนา ก็มีเสียงเคาะประตูจากนอกห้อง เสียงของโจวเหวินต้าดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งขณะที่เขาพูด
“นายน้อยเนื้อแกะปรุงเสร็จแล้ว นายผู้เฒ่าต้องการให้ท่านออกไปร่วมรับประทานด้านนอก…”
"ตกลง!”
เอี้ยนลี่เฉียงตอบจากห้องก่อนจะหันกลับมาหาลู่เหวินปิง
"ออกไปทานอาหารกันเถอะแล้วค่อยคุยกันอีก!”
ลู่เหวินปิงพยักหน้าและยืนขึ้นก่อน
“เชิญนายน้อย…”
หลังจากนั้นไม่นานเอี้ยนลี่เฉียงก็มาที่ลานด้านนอกของบ้านตระกูลเอี้ยน ที่ซึ่งผู้คนหลายพันคนมารวมตัวกันแล้ว
พวกเขาทั้งหมดล้อมรอบกองไฟในขณะที่พวกเขานั่งบนและรับประทานลูกแกะย่างพร้อมกับดูการแสดงบนเวที
ในทางกลับกันเด็กๆกำลังปล่อยโคมที่พวกเขาทำขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างสนุกสนาน ทิวทัศน์ที่ร่าเริงแจ่มใสนี้ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแคว้นกาน
เอี้ยนเต๋อชางและเฉียนซูนั่งคุยกัน ใบหน้าทั้งสองของพวกเขาแดงเล็กน้อยจากการดื่มสุราในขณะที่พวกเราก็หัวเราะคิกคักเหมือนเด็กๆ
การแจกเนื้อแกะถือเป็นหนึ่งในมารยาทของงานเลี้ยงเอี้ยนลี่เฉียงนำพ่อบ้านลู่ไปที่โต๊ะหลักใกล้เวทีอย่างรวดเร็วและนั่งลง
ตอนนั้นเองที่เอี้ยนเต๋อชางเริ่มส่งเนื้อแกะย่างที่หอมและมันให้นำออกจากกองไฟและเขาก็ยืนขึ้นพร้อมกับใช้มีดหั่นเนื้อแกะออกเป็นส่วนต่างๆก่อนที่จะแจกจ่ายให้กับบุคคลสำคัญของเมืองหลิวเหอที่อยู่รอบๆเขา
ปู่หกเพียงผู้เดียวได้รับหัวและหางของลูกแกะซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงความเคารพสูงสุด ในขณะที่คนอื่นๆก็รับส่วนที่เหลือไป
เอี้ยนลี่เฉียงได้รับกีบและเนื้อแกะสับ
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงกำลังจะเริ่มกินอาหาร ลุงที่เมาเล็กน้อยก็ยืนขึ้นท่ามกลางฝูงชนที่อยู่ใกล้ๆและตะโกนใส่เขาว่า
“ทุกคนรู้ว่าลี่เฉียงเป็นความภาคภูมิใจของเรา… อันดับแรกคือตอนที่เขาได้รับอันดับหนึ่งจากการทดสอบเขตศิลปะการต่อสู้ชิงไห่ แน่นอนว่าความสามารถในการต่อสู้ของเจ้านั้นแข็งแกร่งมาก …”
ลุงคนนั้นสะอึกสะอื้นและส่ายไปมาเล็กน้อยก่อนจะยกนิ้วโป้งให้เอี้ยนลี่เฉียงและกล่าวว่า
“อย่างไรก็ตาม ชาวเมืองก็ได้ยินมาว่าทักษะการยิงธนูของเจ้าเหนือกว่าใคร เจ้าได้รับชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ในเมืองหลวงแม้แต่จักรพรรดิก็ยังยกย่องเจ้าในเรื่องนี้
แต่น่าเสียดายที่เราชาวเมืองเดียวกันกับเจ้าแท้ๆไม่เคยเห็นมันมาก่อน ดังนั้นในครั้งนี้เจ้าโปรดแสดงความสามารถด้านนี้ให้พวกเราได้เห็น ทุกคนคิดว่ายังไง”
“นั่นเป็นคำแนะนำที่ดี…”
ทันใดนั้นเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นท่ามกลางฝูงชนทันทีที่ท่านลุงคนนั้นพูดจบ บรรยากาศในลานบ้านได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เอี้ยนลี่เฉียงหันมองและจ้องไปท่านลุงวัยกลางคนที่ต้องการให้เขาแสดงฝีมือออกมา เมื่อตรวจสอบแล้วเขาตระหนักว่าท่านลุงคนนี้ไม่มีแรงจูงใจซ่อนเร้นอยู่ในใจและใบหน้าของเขามีเพียงความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น
เอี้ยนเต๋อชาง เฉียนซู พ่อบ้านลู่และโจวเถี่ยจู ซึ่งนั่งข้างเอี้ยนลี่เฉียงก็แสดงท่าทางสนใจเช่นกัน นับประสาอะไรกับคนอื่นแม้แต่พวกเขาก็ยังไม่เคยเห็นเอี้ยนลี่เฉียงแสดงทักษะออกมาพวกเขาเพียงได้ยินแต่ข่าวลือเท่านั้น
“ลี่เฉียง… ในเมื่อมีคนมากมายต้องการให้เจ้าแสดงอะไรบางอย่างเจ้าก็อย่าได้ขัดศรัทธาเลย!” เอี้ยนเต๋อชางกล่าว
ในเมื่อเอี้ยนเต๋อชางพูดแบบนี้ เอี้ยนลี่เฉียงก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธข้อเสนออีกต่อไป เขากวักมือเรียกหูไห่เหอให้เข้ามาใกล้ๆแล้วสั่งว่า
“ไปเอาคันธนูและลูกธนูของข้ามา!”
"เข้าใจแล้ว!"
หูไห่เหอโค้งคำนับและพุ่งไปที่ห้องนอนของเอี้ยนลี่เฉียงในบ้านตระกูลเอี้ยนอย่างรวดเร็ว
หยูชิงได้ปฏิบัติตามคำสั่งของแม่อู๋และนางก็อยู่ในห้องครัวตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่เอี้ยนลี่เฉียงไม่สามารถเห็นนางที่งานเลี้ยงได้จนถึงขณะนี้
ในขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หูไห่เหอก็กลับมาพร้อมกับคันธนูยี่สิบต้านของเอี้ยนลี่เฉียงด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยจากน้ำหนักของธนู
“ถ้าเราจะยิงธนู เราต้องมีเป้าหมาย…”
เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มขณะที่เขาชี้ไปที่ทุ่งซึ่งอยู่ห่างจากคลังสินค้าสามถึงสี่ร้อยวา จากนั้นเขาก็มองไปที่เด็กหนุ่มตาเบิกกว้างและเด็กๆ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆที่กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาคาดหวัง
“ใครก็ตามที่วิ่งไปที่ปลายทุ่งแล้วปล่อยโคมขึ้นฟ้าจะได้รับเงิน หนึ่งตำลึงต่อหนึ่งโคม!”
เมื่อเด็กๆได้ยินว่าพวกเขาสามารถรับเงินได้หนึ่งตำลึงจากการปล่อยโคม พวกเขาก็รีบแย่งชิงคบไฟแล้ววิ่งไปที่ปลายทุ่งนาซึ่งอยู่ในระยะไกลก่อนจะจุดโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
ในกรณีนี้ โคมที่ลอยขึ้นจากสันเขาที่อยู่ห่างไกลออกไปนับพันวาแล้ว
โรงเก็บของเต็มไปด้วยความเงียบ ยกเว้นเสียงกองฟืนที่เผาไหม้ในกองไฟเป็นครั้งคราว แม้แต่คณะละครที่ร้องเพลงบนเวทีก็หยุดกิจกรรมหลังจากเสร็จสิ้นการแสดง
ทุกคนต่างเฝ้ามองอย่างใจจดใจจ่อในขณะที่พวกเขาต้องการเห็นว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะแสดงความสามารถของเขาแบบใด...
พวกเขาทั้งหมดกำลังรอให้เอี้ยนลี่เฉียงเคลื่อนไหว แต่เอี้ยนลี่เฉียงก็ไม่รีบร้อน
โคมลอยขึ้นไปในอากาศทีละดวง โคมลอยเหล่านี้มีทั้งหมดเจ็ดดวงทะยานขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยลมกระโชกแรงโคมก็ลอยอย่างรวดเร็วจนแทบจะมองไม่เห็นแล้ว
เอี้ยนลี่เฉียงหยิบคันธนูและลูกธนูของเขาอย่างสบายๆก่อนจะจ้องมองอย่างเงียบๆไปที่โคมลอยเจ็ดดวงที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ในเวลาเพียงสองนาทีโคมก็ลอยขึ้นสู่ที่สูงจนเกือบสูงเกินกว่าที่จะมองเห็นได้ พวกมันเป็นเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าราวกับว่าพวกมันเป็นเพียงจุดเรืองแสงที่กระพริบจากระยะไกล
ฝูงชนในโรงเก็บของต่างตกตะลึง ขณะที่พวกเขาเริ่มรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนยิงโคมลอยทั้งเจ็ดดวงในระยะนี้เอี้ยนลี่เฉียงก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที
ก่อนที่ครึ่งลมหายใจจะจบลงเอี้ยนลี่เฉียงได้ปล่อยลูกศรสองชุดขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้ว สำหรับชุดแรกเขากำลูกธนูสี่ดอกพร้อมกับยิงออกไปพร้อมกัน สำหรับชุดที่สองเอี้ยนลี่เฉียงก็ยิงลูกธนูออกไปพร้อมกันสามดอกเช่นกัน
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วราวกับสายฟ้า แม้หลังจากที่เขายิงธนูออกไปแล้ว ฝูงชนรอบๆก็ยังมองไม่เห็นการกระทำของเขาอย่างชัดเจน
“ขอบคุณทุกคนที่อดทนรอ!”
เอี้ยนลี่เฉียงยื่นคันธนูให้หูไห่เหอก่อนจะเผชิญหน้ากับชาวบ้านโดยรอบด้วยรอยยิ้ม
ความหมายของสิ่งนี้คืออะไร? โคมลอยทั้งเจ็ดดวงยังคงสว่างไสวบนท้องฟ้า การแสดงเป็นอย่างไรบ้าง?
ผู้คนส่วนใหญ่ในคลังสินค้าต่างกระพริบตาอย่างสับสน ไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้
และเกือบในเวลาเดียวกัน แสงของโคมลอยทั้งเจ็ดดวงก็ดับลงไปทันที ในสายตาของผู้ยืนดู ฉากนี้เปรียบเสมือนการดับแสงของดาวเจ็ดดวงบนท้องฟ้า…
"เป็นไปไม่ได้…"
"น่ากลัวจริงๆ!"
“ทักษะที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้…” ปู่หกตะโกนออกมาและตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น
“นี่เป็นเรื่องจริงหรือ!”
หลังจากผ่านไปสิบลมหายใจ เสียงโห่ร้องก็ดังก้องกังวานภายในบ้านตระกูลเอี้ยน...
คืนนี้เป็นคืนที่ทักษะการยิงธนูที่ไม่ธรรมดาของเอี้ยนลี่เฉียงได้เขย่าเมืองหลิวเหอ นอกจากนี้ข่าวสารของทักษะการยิงครั้งเดียวอันน่าทึ่งนี้ได้แพร่กระจายไปยังแคว้นผิงซีและแคว้นกานอย่างรวดเร็ว...