ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 59 ความบังเอิญเหล่านี้คือ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 61 ทักษะเปลี่ยนแปลงโชคชะตา

80Y-ตอนที่ 60 ไม่ได้มีสตรีเคียงข้างมานานแล้ว


ขณะที่นักบวชหนุ่ม บุรุษร่างใหญ่ และ นักพรตเต๋าจากไป เจ้าแมวขาวก็กระโดดออกจากอ้อมแขนของหลินจิ่วเฟิงในทันที

เมี้ยว!

มันร้องออกมาและขยับกรงเล็บเขียนคำไม่กี่คำ

“คิดจะปล่อยพวกมันไปงั้นเหรอ?”

หลินจิ่วเฟิง ได้คิดอยู่ครู่นึงและกล่าวถาม“ข้าควรจะฆ่าพวกเขางั้นสินะ?”

เจ้าแมวขาวถึงกับอึ้ง

ลองคิดดูนอกเหนือจากการบุกเข้ามายังตำหนักเย็นแล้ว อีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำอะไรเลย

หลินจิ่วเฟิง ได้สั่นศีรษะทันที“ผู้บงการก็คือ ท่านหญิงหง คนนั้น ดังนั้นฆ่าพวกเขาไปก็ไม่ได้อะไร”

“ความสัมพันธ์ของเจ้ากับท่านหญิงหงนางนี้เป็นอย่างไร?”เจ้าแมวขาวได้เขียนถาม

“ข้าไม่รู้จักนาง”หลินจิ่วเฟิง ได้คิดอย่างรอบคอบและตอบกลับ เขาไม่รู้ว่า ท่านหญิงหง เป็นใคร

เจ้าแมวขาวมองไปที่หลินจิ่วเฟิงอย่างสงสัย มันไม่เชื่อเขา

มันยังคงเขียนถามต่อไป

“ถ้าเช่นนั้นทำไมนางถึงส่งเทพมนุษย์ 4 คนมาที่นี่เพื่อตามหาเจ้า?”

“อาจเป็นเพราะนางชื่นชอบข้าก็เป็นได้”หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับด้วยใบหน้าที่จริงจัง

“ไร้ยางอาย!”เจ้าแมวขาวได้เขียนคำนี้ก่อนที่จะกระโดดหายไป

หลินจิ่วเฟิง มองไปที่เงาของมัน เขาไม่ได้พูดอะไรเพียงเช็ดคำนั้นออกด้วยเท้าของเขา

ใต้ต้นซากุระ หลินจิ่วเฟิง ได้เงยหน้าขึ้นและจมดิ่งเข้าไปในความคิดของเขา

เขาไม่รู้ว่า ท่านหญิงหง ผู้นี้เป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไรถึงส่งเทพมนุษย์ทั้ง 4 คนมาตามหาเขา เพียงแต่เขาต้องการเตือนนางว่าอย่ามารบกวนตัวเขา

สำหรับตัวตนของท่านหญิงหง หลินจิ่วเฟิง ไม่ต้องการใส่ใจ

เขาเพียงต้องการลงชื่อเข้าใช้อย่างสงบภายในตำหนักเย็นแห่งนี้

หลังจากที่เทพมนุษย์ทั้ง 4 ออกจากเมืองหลวงราชวงศ์พวกเขาทั้งหมดก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

พวกเขารู้สึกราวกับว่ามีเทพธิดานำโชคอยู่ข้างพวกเขาในวันนี้ เพราะผู้อาวุโสคนนั้นได้ไว้ชีวิตพวกเขา

นักบวชหนุ่ม,นักพรตเต๋าและบุรุษร่างใหญ่จากภูมิภาคทะเลทราย พวกเขาต่างนำนกกระเรียนกระดาษออกมาขณะที่พวกเขาบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

กระทั่งปล่อยให้นกกระเรียนกระดาษนำข้อมูลนี้ไปส่งให้ท่านหญิงหง

พวกเขาล้มเหลวไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจทำภารกิจแต่เพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป

กระแสปราณแท้จริงโบราณสามารถทำให้ดอกซากุระบานสะพรั่งไปทั่ว

ทั้งยังไม่สามารถทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้ คนแบบนี้พวกเขาจะสู้ได้อย่างไร?

ช่องว่างระหว่างพวกเขานั้นใหญ่เกินไปจนทำให้ความเย่อหยิ่งของทั้ง 4 คนหลังจากขึ้นสู่ขั้นเทพมนุษย์ได้หายไปในทันที

พวกเขาค้นพบแล้วว่าเทพมนุษย์คนใดกันที่สามารถวาดภาพที่สามารถกดดันนิกายชาวพุทธได้ทั้งหมด แท้จริงแล้วเขากลับทรงพลังเช่นนี้

พวกเขาราวกับเด็กอมมือเมื่อเทียบกับอีกฝ่าย

ดังนั้นเทพมนุษย์ทั้ง 4 จึงไม่กล้าสร้างความเดือดร้อนที่นี่

ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาคือสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก

ทั้งยังเห็นพ้องต้องกันว่ายอดฝีมือที่หลบซ่อนตัวในเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาคือหนึ่งในยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และ สถานที่แห่งนี้หากเป็นไปได้พวกเขาก็ไม่คิดจะกลับมาเหยียบที่นี่อีก

ราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่…

วิหารศักดิ์สิทธิ์

สตรีศักดิ์สิทธิ์-ท่านหญิงหงกำลังฝึกฝนตามแบบของนาง

ทันใดนั้นนกกระเรียนกระดาษสามตัวก็บินมาหานาง

พวกมันได้ผ่านชั้นการป้องกันก่อนจะบินเข้ามาภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

สตรีศักดิ์สิทธิ์-ท่านหญิงหง ได้เปิดเปลือกตาขึ้น

“พวกเขาส่งข่าวเกี่ยวกับองค์รัชทายาทที่ถูกปลดกลับมาแล้วหรือไม่?”สตรีศักดิ์สิทธิ์มองไปที่นกกระเรียนกระดาษด้วยความประหลาดใจ นางได้เอื้อมมือไปคว้าหนึ่งในนั้น

จากนั้นนางก็ฟังรายงานที่ได้รับจากนกกระเรียนกระดาษ

ความประหลาดใจของนางค่อย ๆ หายไป

มันถูกแทนที่ด้วยสีหน้าคิ้วขมวดที่เต็มไปด้วยความสับสน

‘เทพมนุษย์ในเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวากลับแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?’

ท่านหญิงหง อดไม่ได้ที่จะสงสัย

นางได้เปิดนกกระเรียนกระดาษตัวที่สองและฟังรายงาน

ข้อมูลที่บันทึกไว้ก็เหมือนกัน

อีกฝ่ายไม่ได้พบตัวองค์รัชทายาทที่ถูกปลด แต่เขากลับพบเทพมนุษย์ที่อาศัยอย่างสันโดษภายในตำหนักเย็นของเมืองหลวง

จากนั้นพวกเขาก็ถูกแรงกดดันกดทับเพียงแค่การสะบัดนิ้วเพียงครั้งเดียว

นางได้ฟังนกกระเรียนกระดาษตัวที่สาม

มันเหมือนกันทุกประการ คนเหล่านี้ได้พบกับเทพมนุษย์คนเดียวกัน

“เทพมนุษย์คนนั้นกลับแข็งแกร่งมากขนาดนี้?”ท่านหญิงหง พึมพัมออกมาด้วยความประหลาดใจ

แม้ว่าหลังจากคืนที่ฝนตกในตอนนั้นจะกินเวลาหลายปี แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงขั้นเทพมนุษย์ได้ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ คนผู้นี้ได้อยู่ในช่วงที่สองของขั้นเทพมนุษย์

ถ้าสิ่งที่อธิบายในนกกระเรียนกระดาษเหล่านี้เป็นความจริง นั่นหมายความว่าเทพมนุษย์คนนี้มีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก

นักบวชหนุ่ม,บุรุษร่างใหญ่ และ นักพรตเต๋าทั้งสองคน ได้ไปถึงขั้นเทพมนุษย์หลังจากได้รับคำแนะนำจากนาง

แต่เทพมนุษย์ก็ยังคงเป็นเทพมนุษย์

ตัวตนของพวกเขาไม่ใช่คนที่จะล้มกันได้ง่าย ๆ

‘ข้าควรจะไปที่นั่นเป็นการส่วนตัวหรือไม่?’ ท่านหญิงหง ได้ครุ่นคิด

นางกำลังพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ

ตราบใดที่นางสามารถช่วยเหลือองค์รัชทายาทคนนั้นได้ จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของนางก็จะได้รับการฟื้นฟู?

“ข้าควรจะช่วยเขาให้นั่งบัลลังก์อีกครั้ง…”ดวงตาของท่านหญิงหงได้เปล่งประกาย

นางตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังเมืองหลวงราชวงศ์เป็นการส่วนตัว

แต่ทว่าในเวลานี้ เข็มทิศได้บินลงมาจากใจกลางของห้องโถง

เข็มทิศที่มีขนาดกว้างกว่า 4 เมตร และมีจุด 4 ดำปรากฏขึ้นจำนวนนับไม่ถ้วนได้ปรากฏควันดำลอยออกมา

เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เข็มทิศนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของภูมิภาคทั้งหมดของทวีป

การแสดงออกของท่านหญิงหง ได้เปลี่ยนไป

นางได้เดินเข้าไปใกล้ ๆ และมองดูก่อนที่จะพึมพัมออกมา“มีการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง พวกมันคิดจะทำลายกำแพงป้องกันออกมาหรือไม่? ไม่ได้ ข้าจะต้องไปหยุดพวกมันและซื้อเวลาที่เพียงพอให้ข้าบุกทะลวงขั้นพลังต่อไปโดยเร็วที่สุด”

เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกระทันหัน

สถานที่หลายแห่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหา ถ้านางไม่ไปที่นั่นและปราบปรามปัญหาเหล่านี้ ความได้เปรียบของนางในการปรากฏตัวขึ้นในช่วงต้นยุคสมัยใหม่นี้จะหายไปในทันที

“ถ้าข้าไม่ได้รับบาดเจ็บจนทำให้แก่นแท้จิตวิญญาณเสียหาย ข้าคงจะสามารถบ่มเพาะพลังจนแข็งแกร่งได้มากกว่านี้ นอกจากนี้ องค์รัชทายาทในตอนนั้นก็คงไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของข้า จนทำให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของข้ารู้สึกติดค้างเขา ข้าจำเป็นจะต้องตอบแทนเขาด้วยความกตัญญูต่อองค์รัชทายาทคนนั้น”ท่านหญิงหง ได้บ่นพึมพัมออกมา

นางรู้ตัวว่าตนเองไม่สามารถไปที่เมืองหลวงราชวงศ์ได้ในขณะนี้

เพราะนางต้องระงับปัญหาในสถานที่เหล่านี้ก่อน

‘ข้าควรจะมองหาใครสักคนไปที่เมืองหลวงราชวงศ์และมอบโอสถบำรุงให้แก่องค์รัชทายาทคนนั้นเพื่อที่เขาจะได้มีชีวิตที่ยืนยาวหลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ข้าจะช่วยเขาแก้แค้นเกี่ยวกับเรื่องในอดีต’ท่านหญิงหง ได้ตัดสินใจ

นางได้หยิบนกกระเรียนกระดาษขึ้นมาและโยนมันออกไป

นกกระเรียนกระดาษนี้ได้บินไปยังมณฑลเจียงหนาน ไปหา นักบวชชิงหยุน

มันเป็นข้อความจากท่านหญิงหงที่ส่งตรงถึงเขา

นางขอให้นักบวชชิงหยุนไปมอบโอสถบำรุงร่างกายให้แก่องค์รัชทายาท เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายของเขาเพื่อที่เขาจะได้มีชีวิตที่ยืนยาว

โอสถบำรุงเหล่านี้ได้แนบมาพร้อมกับนกกระเรียนกระดาษเช่นเดียวกัน

มีพื้นที่มิติเล็ก ๆ ภายในนกกระเรียนกระดาษมันมีกระทั่ง โอสถศักดิ์สิทธิ์ และ โอสถบำรุงต่าง ๆ

นักบวชชิงหยุนทำอะไรไม่ถูก เขาทำได้เพียงไปที่ตำหนักเย็นอีกครั้ง

แต่พอมาถึงตำหนักเย็นเขาก็เคาะประตูด้วยความเคารพ

หลินจิ่วเฟิง ที่ยืนอยู่ใต้ต้นซากุระ ได้ขมวดคิ้วแน่นและตะโกนออกมาอย่างเย็นชา“เจ้ากลับมาที่นี่อีกแล้ว เจ้าต้องการอะไร?”

“ท่านผู้อาวุโส ข้ามาที่นี่เพื่อมอบสิ่งของบางอย่างให้กับองค์รัชทายาท”นักบวชชิงหยุนได้ตอบกลับ

เขาไม่กล้าปิดบังเจตนาของเขาและอธิบายถึงสิ่งที่ท่านหญิงหงให้เขาทำ

หลินจิ่วเฟิง รู้สึกแปลกใจ

ท่านหญิงหงผู้นี้เป็นใครกันแน่?

เหตุใดนางถึงต้องเป็นห่วงสุขภาพของเขา?

โอสถบำรุง?เขายังต้องใช้สิ่งของเหล่านี้งั้นเหรอ?

หรือว่าเขามีข้อบกพร่องภายในร่างกาย?

ไม่สิเขาแข็งแรงมากอยู่แล้ว!

หลังจากเงียบไปชั่วครู่ หลินจิ่วเฟิง ก็ตอบกลับ“วางของลงและก็ไปได้”

นักบวชชิงหยุน เชื่อฟังในทันทีเขาได้วางของและจากไปอย่างรวดเร็ว

เขาต้องการกลับไปยัง เจียงหนาน

เขาไม่ต้องการอยู่ที่เมืองหลวงราชวงศ์นานเกินไป

สถานที่แห่งนี้น่ากลัวเกินไป

หลังจากนั้นไม่นานก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่หน้าตำหนักเย็น

เป็น หลินจิ่วเฟิง

เขาได้หยิบโอสถบำรุงที่นักบวชชิงหยุนทิ้งไว้ให้

“เป็นของที่หายากอย่างมาก ท่านหญิงหง คนนี้เป็นใครกันแน่?”

หลินจิ่วเฟิง ได้สั่นศีรษะและพึมพัมออกมา

เมี้ยว!

เจ้าแมวขาวได้กระโดดลงมาและเขียนคำถาม

“เจ้าเป็นอะไรกับท่านหญิงหงคนนี้กันแน่?”

หลินจิ่วเฟิง ก็สั่นศีรษะ

เขาจะเป็นอะรได้เขาไม่รู้จักนางสักหน่อย

หลินจิ่วเฟิง อยากจะพูดตะโกนออกไปดัง ๆ

ว่าเขาไม่เคยมีสตรีคนใดเฉียดเข้าใกล้มาหลายสิบปีแล้ว...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด