ตอนที่แล้ว377-378
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป381-382

379-380


5/10

Ep.379

เห็นภาพอันน่าสลดนี้ ดวงตาของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าราชวงศ์อสูรกลายเป็นพร่าเลือน บ่นพึมพำ “แท้จริงแล้วเขาเป็นปรมาจารย์มนตราที่เชี่ยวชาญทุกธาตุ!”

ก่อนหน้านี้ ซูเฉินได้ผลัดกันร่ายเวทย์แต่ละธาตุตามลำดับ สถานะปรมาจารย์มนตราที่เชี่ยวชาญทุกธาตุถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน

แม้ว่าเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าราชวงศ์อสูรจะเป็นการดำรงอยู่เลเวล 9 แต่พอได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ มันก็ยังตกตะลึงเป็นอย่างมาก

อัจฉริยะเช่นนี้ปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อใดกัน? ตัวมันฝึกตนมาเป็นพันเป็นหมื่นปี ทว่าสัตว์ประหลาดเช่นซูเฉิน มันไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน

แม้แต่การดำรงอยู่ที่เหนือกว่าเลเวล 10 ในวัยเท่าซูเฉิน พวกเขายังไม่ประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดนี้เลย อันที่จริงแม้แต่ 1/10 ส่วนก็ยังไม่ได้

การดำรงอยู่เหนือเลเวล 10 หากมิใช่ผู้มีสุดยอดพรสวรรค์ แล้วจะเป็นใครไปได้อีก? แต่เมื่อเทียบกับรัศมีที่เปล่งประกายจากตัวซูเฉินแล้ว พวกเขาดูหมองไปเลย

แล้วอีกอย่าง เทพศักดิ์สิทธิ์เผ่าราชวงศ์อสูรยังสังเกตเห็นเช่นกัน ว่าซูเฉินไม่เพียงเป็นปรมาจารย์มนตราเท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้วิวัฒนาการที่ทรงพลังอีกด้วย

ปรมาจารย์มนตราเลเวล 4 เชี่ยวชาญทุกธาตุ และผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี!

ตัวตนเช่นนี้กลับปรากฏขึ้นในเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่แสนอ่อนแอ!

เป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมากตั้งแต่แรกเห็น!

ขณะเดียวกันเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าราชวงศ์อสูร ยังบังเกิดความรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นลึกๆในหัวใจ

เพราะเดิมพรสวรรค์ของมัน แม้ไม่ดีเท่ากับผู้แข็งแกร่งในเลเวล 10 แต่มันก็ยังคงถูกขนานนามว่ามีชื่อเสียงในบรรดาหมื่นเผ่าพันธุ์ ยืนหยัดอยู่ในอันดับต้นๆได้

แต่พรสวรรค์ที่ซูเฉินแสดงออกมาให้เห็น ได้ทำลายความภาคภูมิใจอันน้อยนิดของมันจนหมดสิ้น

ไม่จำเป็นต้องยกขึ้นมาเปรียบเทียบ เพราะมันเทียบกับเขาไม่ได้เลยสักนิด

ช่วงเวลานี้ เทพศักดิ์สิทธิ์เผ่าราชวงศ์อสูร รู้สึกราวกับว่าตนกำลังถูกผลัดโจมตีด้วยเวทมนต์แต่ละธาตุนับหมื่นครั้ง บังเกิดความขมขื่นในใจอย่างสุดซึ้ง

ภายนอกเขตแดน ซูเฉินเริ่มเก็บชิ้นส่วนแล้ว

หวู่หยางและคนอื่นๆได้ลงจากรถ และเริ่มขุดหินพลังงานเช่นกัน

[นักรบจักรกล] รับหน้าที่ป้องกันซูเฉิน คอยสกัดผู้แข็งแกร่งเผ่าราชวงศ์อสูรที่เข้ามาจากทางผ่านเขตแดน

จำนวนเผ่าราชวงศ์อสูรและสัตว์กลายพันธุ์ที่ฆ่าได้ในครั้งนี้มีมากกว่า 2,000 ตัว มีชิ้นส่วนดรอปมากถึง 7-8 ร้อยชิ้น อัตราการดรอปเรียกได้ว่าค่อนข้างสูงเกือบครึ่งต่อครึ่ง

ใบหน้าของซูเฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เริ่มก้มเก็บชิ้นส่วน

ส่วนเทพศักดิ์สิทธิ์เผ่าราชวงศ์อสูรกลายเป็นโง่งม ไม่มีเวลาได้สนใจฉากนี้เลย

ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่สามารถออกมาได้ ไม่ใช่ระดับการฝึกฝนจะสูงส่งแค่ไหน มีกำลังรบแข็งแกร่งเพียงใด มันก็ทำได้เพียงจ้องมอง

เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าราชวงศ์อสูรตกอยู่ในห้วงภวังค์พักหนึ่ง ในที่สุดได้สติกลับคืน

ทันใดนั้นมันรีบเรียกตัวผู้แข็งแกร่งของตน ระดมพลนักรบเลเวล 5 ในเผ่ามา

พรสวรรค์ของซูเฉิน ทำให้มันเกิดความริษยาอย่างสุดซึ้ง ดังนั้นตัดสินใจว่าเพื่อสังหารซูเฉิน ต่อให้ต้องทุ่มสุดตัวก็ยอม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เนื่องจากทางผ่านเขตแดนยังไม่เสถียร ดังนั้นระดับสูงสุดที่นักรบออกไปได้ คือเลเวล 5 เท่านั้น

ผู้ฝึกตนเลเวล 5 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูเฉิน เรื่องนี้มันตระหนักดี

ดังนั้นมันจึงไม่โง่พอที่จะส่งผู้ฝึกตนเลเวล 5 เพียงไม่กี่คนไปหาซูเฉิน --ตัดสินใจส่งออกไป 20 ตนพร้อมกันในคราวเดียว!

ในกรณีที่ต้องต่อสู้แบบ 20 ต่อ 1 แค่พวกมันช่วยกันกระโดดทับ ซูเฉินก็ขาดใจตายแล้ว

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ชิ้นส่วนทั้งหมดถูกหยิบขึ้น แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของซูเฉินไม่เคยจางหายไปเลย

เหตุผลก็คือ คราวนี้มีชิ้นส่วนสีม่วงทองดรอป เป็นผลให้แต้มพลังงานพุ่งทะยานไปถึงเลข 5

ในกรณีนี้ หมายความว่าเขาสามารถแลกเปลี่ยน [ใบมีดแห่งจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์] และ [ดาบศักดิ์สิทธิ์ซวนหยวน] ได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาว่ายังมี [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] , [มังกรศักดิ์สิทธิ์ขนเพลิงมายา] และ [อุปกรณ์เร่งเวลา] ต่อคิวอยู่เบื้องหน้า เขาก็อดทนไม่ยอมแลกมัน

จากนั้นเขาได้นำ [เตาอเนกประสงค์] ออกมา ภายใต้สายตาของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าราชวงศ์อสูร ซูเฉินเริ่มย่างเนื้อสัตว์กลายพันธุ์

ภาพนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันทำให้เทพศักดิ์สิทธิ์เผ่าราชวงศ์อสูรโกรธแค้นเพียงใด มันลอบร้องอย่างชั่วร้ายในใจ ‘ไอ้หนู เชิญเจ้าจองหองไปก่อนเถิด กินเสียให้อิ่มหนำ แล้วจากนั้นก็เตรียมโดนถลกหนังซะ!’

6/10

Ep.380

ระหว่างรอเนื้อสุก ซูเฉินเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]

ก่อนหน้านี้ เขาโยนสัตว์กลายพันธุ์ 5 ตัวเข้าไปข้างใน เพื่อให้ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] สูบเลือด

ตอนนี้เวลาก็ผ่านไปไม่น้อยแล้ว เขาไม่รู้ว่ามันจะเลื่อนขั้นไปถึงเลเวลไหน ดังนั้นตั้งใจจะตรวจสอบดู

พลังจิตขยายเข้าไป และไม่นานซูเฉินก็พบว่าสัตว์กลายพันธุ์ทั้งห้าที่ถูกโยนเข้าไป สภาพในปัจจุบันเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก

และเหนือซากศพสัตว์กลายพันธุ์เหล่านั้น มียุงขนาดเท่ากำปั้นที่ทั้งตัวถูกปกคลุมไปด้วยเลือดกำลังกระพือปีกส่งเสียงหึ่งๆ

คล้ายสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของซูเฉิน ยุงเลือดท่วมตัวดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก บินวนไปเวียนมา

มองไปยังภาพนี้ ซูเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากเขา

ยุงเลือดท่วมตัวนี้จะเป็นอะไรไปได้อีกหากไม่ใช่ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] กลิ่นอายที่มันปล่อยออกมาในขณะนี้ ได้ไปถึงระดับแมลงสัตว์ร้ายเลเวล 5 แล้ว

เมื่อรู้ว่า [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ประสบความสำเร็จในการยกระดับ ซูเฉินก็เตรียมปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] แต่ในตอนนั้นเอง เสียงที่ยานแต่เปี่ยมไปด้วย้น้ำเสียงเคารพก็ดังขึ้นในหูเขา

“เจ้านาย!”

“หือ?” ซูเฉินรู้สึกตกใจเล็กน้อย

ใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] มีแค่สัตว์เลี้ยงวิญญาณของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจาก [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] แล้ว ก็มีหมาป่ากลายพันธุ์อีกสามตัว และเต่าทรราชปราณฟ้าเท่านั้น

แต่เสียงที่ได้ยินมันมาจากข้างใน เป็นไปได้ไหมว่า ..?

หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นแรง ใช้สายตาจับจ้องไปยังเต่าทรราชปราณฟ้า

เต่าทรราชที่แต่เดิมกำลังหลับใหล เวลานี้เงยหัวขึ้น กระพริบตาที่ทอประกายไปด้วยพลังแห่งชีวิต

“เสี่ยวปา นี่นายกำลังพูดกับฉันหรอ?” ซูเฉินอุทานออกมาเบาๆ

เขาใช้โอกาสนี้ปล่อยพลังจิตสำรวจเสี่ยวปา และพบว่าตัวมันในปัจจุบัน เปล่งประกายไปด้วยแสงสีทองระยิบระยับ มองจากระยะไกลเหมือนภูเขาทอง

ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นอายที่กระจายออกมามันหนาแน่นและน่าเกรงขามเป็นพิเศษ

มันคุกรุ่นรุนแรงกว่าครั้งแรกที่ได้เห็นไม่รู้กี่เท่า

“เจ้านาย ฉันกำลังพูดกับท่านอยู่” เต่าทรราชตอบกลับอย่างนอบน้อม

“นายเลื่อนขั้นเป็นเลเวล 6 แล้วหรอ? ที่แท้พอมาถึงเลเวล 6 นายก็สามารถพูดได้?” ซูเฉินรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

นับตั้งแต่ที่มันกินเต่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเต่าเขียว เต่าทรราชก็อยู่ในสภาวะหลับลึกมาโดยตลอด

ครั้งนี้เมื่อตื่นขึ้นมา กลิ่นอายของมันหนาแน่นกว่าเดิม กลิ่นอายก็ดูสง่างาม สามารถกล่าวได้เลยว่า นี่เป็นสัญญาณของการเลื่อนขั้นสู่เลเวล 6

“ถูกต้องเจ้านาย ฉันสามารถเลื่อนขั้นเป็นเลเวล 6 ได้แล้ว และเมื่อถึงเลเวล 6 สัตว์กลายพันธุ์จะสามารถพูดภาษามนุษย์ได้” เต่าทรราชกล่าวด้วยความเคารพนับถือ

แม้มันอยู่ในเลเวล 6 และมากกว่าซูเฉินอยู่ถึง 2 ขั้น แต่มันก็ยังรู้สึกยำเกรงซูเฉิน

สาเหตุที่เป็นแบบนี้ นอกจากการได้ดื่ม [โพชั่นสัตว์เลี้ยงแล้ว] ก็เป็นเพราะมันกระจ่างแก่ใจ ว่าที่ตนเลื่อนระดับได้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะซูเฉิน

หากซูเฉินไม่มอบเต่าอสูรศักดิ์สิทธิ์เลเวล 5 ให้ตนกิน มันไม่อาจทราบได้เลยว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน ตัวเองถึงขึ้นเป็นเลเวล 6

หรือไม่บางที ตลอดชีวิตอาจติดแหง่กอยู่ที่เลเวล 5 เลยก็ได้

ด้วยเหตุนี้ มันจึงรู้สึกสำนักในบุญคุณของซูเฉินจากใจจริง

“ยอดเยี่ยม”

ซูเฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

เต่าทรราชปราณยกระดับขึ้นเป็นเลเวล 6 , ยุงวัชระ เลื่อนขั้นเป็นเลเวล 5 นี่เท่ากับกำลังรบหลักของเขาเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น

จากนั้น ซูเฉินพูดคุยกับเต่าทรราชอีกสักเล็กน้อย แล้วจึงปิด [พื้นที่สัตว์เลี้ยง]

รอจนเนื้อสัตว์ร้ายชุดแรกย่างเสร็จ ซูเฉินก็เรียกหวู่หยางและคนอื่นๆมากิน

“พี่เฉิน สัตว์กลายพันธุ์ของพวกต่างเผ่านี่รสชาติอร่อยจริงๆ!”

ปากของหยางห่าวมันเยิ้ม ขณะเคี้ยวก็ชมไม่ขาดปาก

คนอื่นๆร่วมวงกินเลี้ยง เนื้อย่างหมดลงอย่างรวดเร็ว

แต่ขณะที่ซูเฉินกำลังจะย่างเนื้อชุดที่สอง จู่ๆก็มีร่างหลายร่างก้าวออกมาจากทางผ่านเขตแดน จำนวนราวๆ 20 ตน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด