375-376
1/10
Ep.375
ซูเฉินโบกมือไปทาง [รถศึกอัจฉริยะ] จากนั้นก็เริ่มเก็บชิ้นส่วน
เผ่าราชวงศ์อสูรและสัตว์กลายพันธุ์ที่ถูกฆ่าในครั้งนี้มีไม่มากนัก ชิ้นส่วนที่ดรอปมีประมาณ 200 ชิ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนี่เป็นการฆ่าแบบไล่ตาม ดังนั้นชิ้นส่วนค่อนข้างกระจัดกระจาย ต้องใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงถึงจะแล้วเสร็จ
กลับมายัง [รถศึกอัจฉริยะ] ซูเฉินก้มมองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง
และพบว่าในตำแหน่งคฤหาสน์เจ้าเมือง จุดสีดำยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีจำนวนหลายพันแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันไม่กระจัดกระจายออกไปด้านนอก แต่เบียดเสียดกัน คล้ายกำลังรวมพลพร้อมสู้ศึกใหญ่
ซูเฉินรู้ดี ว่าเป็นเพราะเขาสังหารเผ่าราชวงศ์อสูรสองกลุ่มติดต่อกัน นอกจากนี้ในหมู่พวกมันยังมีเลเวล 5 รวมอยู่ด้วย ดังนั้นคู่ต่อสู้จะหวาดกลัวก็ไม่แปลก
“เห~ คิดว่าอยู่รวมกันเป็นเต่าหัวหด แล้วฉันจะฆ่าพวกแกไม่ได้หรือ?”
ซูเฉินส่งเสียงฮัมเบาๆ หันไปสั่ง [รถศึกอัจฉริยะ] “เสี่ยวจือ มุ่งหน้าไปคฤหาสน์เจ้าเมืองต่อ”
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] สตาร์ทเครื่องอีกครั้ง เริ่มเคลื่อนตัวสู่จุดหมายปลายทาง
สิบนาทีต่อมา หน้าอาคารหลังใหญ่ เผ่าราชวงศ์อสูรได้มารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก
สมาชิกทุกตนของเผ่าราชวงศ์อสูรล้วนมีสัตว์ขี่เป็นของตัวเอง และสัตว์ขี่ของพวกมันมีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น หมี , วัว , เสือ , สิงโต ฯลฯ
เมื่อ [รถศึกอัจฉริยะ] ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกมัน เผ่าราชวงศ์อสูรเริ่มปั่นป่วน สีหน้าของทุกตนดูกระสับกระส่ายไม่สบายใจ
ชื่อเสียงคนก็เหมือนเงาของต้นไม้ ยิ่งชื่อเสียงใหญ่โตเท่าไหร่ ก็ยิ่งแผ่ร่มเงาแห่งความหวาดกลัวออกไปมากเท่านั้น
ตลอดทางที่ผ่านมา ไม่ทราบว่ามีเผ่าพันธุ์ของพวกมันถูกซูเฉินกำจัดไปแล้วกี่ตน และในจำนวนนี้ มีผู้แข็งแกร่งเลเวล 4 นับหลายสิบ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเทพสังหารเช่นซูเฉิน พวกมันรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย
เอี๊ยดดดด!
เมื่อ [รถศึกอัจฉริยะ] จอดสนิท ซูเฉินก้าวลงมาอย่างสง่าผ่าเผย และอีกร่างหนึ่งที่ตามเขามาติดๆคือ [นักรบจักรกล]
ส่วนคนอื่นๆให้รออยู่ในรถ
“มนุษย์ เจ้าฆ่าชาวเราไปมากมาย เหตุใดยังไม่ยอมหยุดมืออีก?”
ณ ขณะนี้ ชายชราที่มีหัวเล็กแต่พุงโตก้าวออกมาจากกลุ่มเผ่าราชวงศ์อสูร มองจากระยะไกลดูไม่ต่างจากขวดน้ำเต้า
และสัตว์ขี่ของมันก็แปลกมากเช่นกัน เป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่มีสองหัว รูปร่างเรียวยาว ตรงช่วงพุงพองโต
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ ก็ล้วนเข้าคู่กันได้อย่างสมบูรณ์แบบสุดๆ
เผ่าราชวงศ์อสูรหัวเล็กแค่นเสียง ต้องมองซูเฉินด้วยความเย็นชา ดูโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
หากไม่ใช่เพราะมันหวาดกลัวในความแข็งแกร่งของซูเฉิน มันคงกระโจนเข้าปาดคอเขาไปนานแล้ว
“ยอมหยุดมือ?”
ซูเฉินพ่นลมออกทางจมูก สบถด่าว่า “เผ่าราชวงศ์อสูรของพวกแกคิดรุกรานเข้ายึดครองอาณาเขตของเผ่าพันธุ์มนุษย์เรา ทั้งยังสังหารเพื่อนมนุษญ์ของฉัน ทำกันถึงขนาดนี้ยังบอกให้ฉันยอมเลิกราอีกหรือ? ไปอ้อนวอนป้าข้างบ้านแกเถอะ!”
มุมปากของเผ่าราชวงศ์อสูรหัวเล็กบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ มันกัดฟันกล่าวว่า “มนุษย์ เผ่าพันธุ์ข้ามีผู้แข็งแกร่งเลเวล 9 ปกครองอยู่ คิดเป็นปฏิปักษ์กับเผ่าราชวงศ์อสูรของพวกเรา ย่อมไม่มีผลดีตามมา”
เมื่อเห็นว่าซูเฉินยังคงดื้อด้าน มันทำได้เพียงยกเอาผู้แข็งแกร่งในเผ่าพันธุ์ออกมาข่มขู่เพื่อให้ซูเฉินกลัว
“อย่าว่าแต่เลเวล 9 เลย ต่อให้หัวหน้าเผ่าแกเลเวลเกิน 10 ในสายตาฉันมันก็เป็นแค่มดเท่านั้น!” ซูเฉินตะโกน ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความดูถูก
การดำรงอยู่อย่างเลเวล 10 ตอนนี้เขายังสู้พวกมันไม่ได้ก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสู้ไม่ได้ตลอดไป
ด้วยความเร็วในการเลื่อนระดับของเขา หากตั้งใจจริงๆ ใช้เวลาอีกไม่นานก็สามารถขึ้นไปอยู่ในจุดนั้นได้
ถึงเวลานั้น จะบดขยี้พวกมันเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา
“…” เผ่าราชวงศ์อสูรหัวเล็กกลืนน้ำลายอึกใหญ่
การดำรงอยู่ที่เหนือกว่าเลเวล 10 ทุกตนล้วนเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีป ไม่ว่าจะอยู่ในเผ่าพันธุ์ใด พวกเขาสูงส่งเสียดฟ้า และเป็นที่นับถือของประชาชน แต่ในสายตาซูเฉิน อีกฝ่ายกลับเป็นแค่มด?
ให้ตายเถอะ! จะอวดดีทั้งทีก็ขอให้มีขีดจำกัดบ้าง ไม่ว่าเจ้าจะเก่งแค่ไหน แข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่ควรเปล่งวาจาจองหองแบบนี้
เผ่าราชวงศ์อสูรหัวเล็กสูดหายใจลึก กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เผ่าราชวงศ์อสูรของเราไม่ต้องการเป็นศัตรูกับเจ้า หากเจ้ายินดีถอยออกไปจากที่นี่ พวกเราสามารถมอบผลประโยชน์บางอย่างแก่เจ้าได้”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับซูเฉิน ที่สามารถสังหารปรมาจารย์มนตราเลเวล 5 ได้อย่างง่ายดาย พวกมันรู้ตัวดี ว่าไม่มีทางสู้ได้อย่างแน่นอน
เพื่อที่จะรักษาทางผ่านเขตแดนเอาไว้ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการสังหารหมู่ เลยจำยอมลดทิฐิลง หันหน้าเจรจรากับซูเฉิน
2/10
Ep.376
หัวใจของซูเฉินสั่นไหวเล็กน้อย เผ่าราชวงศ์อสูรเบื้องหน้าเหล่านี้ เขาจะต้องฆ่าพวกมันอย่างแน่นอน แต่ถ้ามีโอกาส ทำไมไม่รีดไถพวกมันก่อนเล่า?
ก็เหมือนกับวันที่เขาเคยกลั่นแกล้งผู้แข็งแกร่งเผ่าครึ่งออร์คในเมืองอี้เถียน แบบนั้นมันจะไม่น่าสนุกกว่าหรอ?
จมอยู่ในห้วงความคิดครู่หนึ่ง ซูเฉินก็เอ่ยปากว่า “ถ้าพวกแกมอบสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกพอใจได้ ฉันจะลองพิจารณาดู”
เผ่าราชวงศ์อสูรหัวเล็กรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง กระแอมเบาๆ “เช่นนั้นสิ่งใดที่เจ้าต้องการ?”
สิ่งที่มันกลัวมากที่สุดก็คือ ซูเฉินจะดื้อดึงไม่ยอมอ่อนข้อ ปฏิเสธเจรจาต่อรองกับพวกมัน
แต่ตราบใดที่ซูเฉินยอมสงบ แม้จะต้องจ่ายราคาไปบ้าง ก็ยังพอยอมรับได้
เพราะทางผ่านเขตแดนแห่งนี้ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับฝ่ายเป่ยยี่ของพวกตน
เมื่อไหร่ที่ทางผ่านเขตแดนแห่งนี้มั่นคง ผู้แข็งแกร่งอันดับต้นๆของพวกมันก็จะสามารถยกทัพเข้าสู่ทวีปมนุษย์ได้อย่างต่อเนื่อง
ถึงเวลานั้น มันสาบานว่าจะถลกหนังเจ้าเด็กน่าสะอิดสะเอียนตรงหน้านี้ให้สาแก่ใจ
“อันดับแรก ฉันต้องการสัตว์กลายพันธุ์ตั้งแต่เลเวล 1 ถึง 5 อย่างละตัว อ้อ แล้วต้องแบบมีชีวิตด้วยนะ” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย
สัตว์กลายพันธุ์พวกนี้ เขาขอมาให้ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] โดยเฉพาะ
ก่อนหน้านี้ ซูเฉินโจมตีหนักมือไปหน่อย จนสัตว์ขี่ของพวกเผ่าราชวงศ์อสูรมีสภาพไม่เหลือเค้าเดิม จึงไม่ได้ให้ยุงสัตว์เลี้ยงของเขาออกมาดูดเลือด
แต่ตอนนี้เมื่อมีโอกาส แน่นอนว่าต้องช่วยมัน
“สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 5 …”
ใบหน้าของเผ่าราชวงศ์อสูรหัวเล็กดูน่าเกลียดลงเล็กน้อย
สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 5 ไม่ว่าจะอยู่ในเผ่าพันธุ์ไหนก็ล้วนเป็นขุมทรัพย์ล้ำค่า เป็นธรรมดาที่จะไม่อยากปล่อยมันหลุดมือไป
“พวกเราไม่มีสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 5 จะมอบให้แก่เจ้า สามารถใช้สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 4 สองตัวแทนได้หรือไม่?”
กังวลว่าซูเฉินจะโกรธ เผ่าราชวงศ์อสูรหัวเล็กจึงยังคงใช้น้ำเสียงเจรจาต่อรอง
ซูเฉินทำท่าทีฮึดฮัด สีหน้าเขาดูไม่พอใจเล็กน้อย
เผ่าราชวงศ์อสูรเป็นเผ่าขนาดใหญ่ แล้วจะไม่มีสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 5 ได้อย่างไร? โป้ปดกันเช่นนี้ ไปหลอกผีเถอะ!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซูเฉินเคยสังหารสัตว์ขี่เลเวล 5 ของพวกมันมาแล้วถึง 2 ตัว และอีกอย่าง ไอ้สัตว์ขี่สองหัวที่แกนั่งอยู่ มันก็เลเวล 5 ไม่ใช่รึไง?
“ในเมื่อเผ่าราชวงศ์อสูรไม่มีสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 5 งั้นก็ใช้สัตว์ขี่ของแกแทนก็ได้” ซูเฉินแสยะยิ้ม
“ฮู้ม …”
สัตว์กลายพันธุ์สองหัวคำรามเสียงต่ำ ประกายแสงเย็นเยียบสะท้อนในแววตาของมัน คล้ายเป็นการเตือนซูเฉิน ว่าอย่าคิดมาวุ่นวายกับตน
“มนุษย์ อย่าได้คืบจะเอาศอก!”
หน้าอกของเผ่าราชวงศ์อสูรหัวเล็กสะท้อนขึ้นๆลงๆ เงื่อนไขที่มันเสนอในตอนแรกนับว่าค่อนข้างใจกว้างมากแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าซูเฉินจะเลือกปฏิเสธ แบบนี้มันรังแกกันชัดๆ!
สำหรับสัตว์ขี่ของมัน จริงอยู่ว่านี่คือสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 5
อย่างไรก็ตาม สัตว์กลายพันธุ์สองหัวตัวนี้ติดตามมันมานานหลายปี จะให้ยอมทิ้งไปคงทำใจไม่ได้ และประเด็นสำคัญอีกอย่าง คือหากมอบสัตว์ขี่ไป กำลังรบของมันจะลดทอนลงเป็นอย่างมมาก
หากไร้ซึ่งสัตว์ขี่ แล้วจะยังใช้ชื่อว่าเป็นเผ่าราชวงศ์อสูรได้อย่างไร?
ดังนั้น เรื่องที่ซูเฉินเอ่ยปากขอสัตว์ขี่ของตน มันไม่มีวันยอมตกลงเด็ดขาด
“พูดแบบนี้ หมายความว่าแกกำลังบังคับให้ฉันลงมือใช่ไหม?” ซูเฉินค่อยๆหรี่ตาลง น้ำเสียงเริ่มเย็นชา
หากอีกฝ่ายกล้าปฏิเสธ เขาจะลงมือทันที ถึงจะลำบากไปซักหน่อย แต่อย่างน้อยก็น่าจะได้สัตว์กลายพันธุ์ในสภาพสมบูรณ์ติดไม้ติดมือมาบ้าง
ได้ยินแบบนั้น หัวใจของเผ่าราชวงศ์อสูรหัวเล็กก็สั่นสะท้าน ใบหน้าของมันแปรเปลี่ยนเป็นขุ่นมัวและมืดมน
แม้มันจะไม่รู้จักซูเฉินดีนัก แต่ก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของซูเฉิน
หากเริ่มต่อสู้กันแล้ว พวกมันอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
และเมื่อพวกมันพ่ายแพ้ ทางผ่านเขตแดนก็คงไม่อาจรักษาเอาไว้ได้อีกต่อไป
หลังจากวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสีย ในที่สุดเผ่าราชวงศ์อสูรหัวเล็กก็ยอมประนีประนอม
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ส่งสัตว์ขี่ของตัวเองออกไป แต่นำตัวใหม่จากทวีปเผ่าราชวงศ์อสูรมาแทน ไล่ตั้งแต่เลเวล 1 ขึ้นไปให้ซูเฉิน
ซูเฉินทำให้สัตว์กลายพันธุ์ทั้งห้าตัวสลบ แล้วโยนพวกมันทั้งหมดลงใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]
ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] จัดการ