ตอนที่ 27
วีรับบทมาก่อนจะพลิกไปพลิกมาเพื่ออ่านมันคร่าวๆ เนื่องด้วยที่วีนั้นไม่ใช่พวกชอบดูละครเท่าไหร่ทำให้เขาไม่รู้จักเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
แต่จากที่อ่านบทเพียงสองสามหน้าวีก็พอจะเดาเนื้อเรื่องคร่าวๆของเรื่องนี้ได้ มันก็ตรงตัวนั่นแหละนะ สวาทรักเล่ห์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้กันระหว่างครอบครัวสองครอบครัวที่พยายามจะทำลายอีกฝ่ายเพื่อหวังจะครอบครองธุรกิจของอีกฝ่าย
แน่นอนว่าเรื่องวิธีการก็มีมากมายสารพัด เอาเป็นเนื้อเรื่องมันก็ราวๆนี้แหละไม่ค่อยน่าดึงดูดสักเท่าไหร่
เบลแปลกใจที่ปฏิกิริยาตอบสนองของวีไม่เป็นอย่างที่เธอหวัง เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
“ไม่ตื่นเต้นกับการเห็นบทละครหน่อยหรอ ?”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาถามด้วยความสงสัย
“ผมต้องตื่นเต้นด้วยเหรอ ?”
เบลตกใจที่ได้ยินแบบนั้นก่อนจะพยักหน้า
“ก็ใช่นะสิ นี่มันบทละครเลยนะ บทละครน่ะอย่างน้อยก็ช่วยแสดงอะไรออกมาหน่อยซี้ ~”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มพร้อมกับแสดงสีหน้าตกใจออกมา
“โอ้ววว ~ นี่มันบทละครของจริงหรือเนี้ย ~”
เบลที่ได้เห็นท่าทีของวีก็ถึงกับทำหน้าเซ็งๆออกมา
“พอเลย เป็นการตื่นเต้นที่ปลอมสุดๆ”
วีหัวเราะออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“จะให้ตื่นเต้นยังไงไหวละก็บทละครมันดูเชยสุดๆเลยนี่หน่า”
เบลที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ก็นะ ถึงจะเชยแต่ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ขอแค่ขายได้พวกเขาก็ไม่สนอะไรหรอก”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา
“เพราะแบบนี้ไงเล่าพวกซีรี่ย์ต่างประเทศถึงได้น่าดูกว่า”
เบลที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะชวนวีต่อบท วีมองบทเล็กน้อยก่อนจะกระแอมออกมาเบาๆ
“นิดานั่นเธอจะไปไหน !”
เบลที่ได้เห็นท่าทีของวีก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย วีที่เห็นแบบนั้นก็มองเบลแปลกๆก่อนจะถามออกไป
“มีอะไรแปลกงั้นเหรอครับ ?”
เบลส่ายหน้าพร้อมกับอ่านบท
“ฉันจะไปไหนได้ก็ นายไม่ต้องมายุ่ง !”
“งั้นหรอ เธอคิดว่าฉันอยากจะยุ่งมากนักหรือไงกัน”
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็นั่งต่อบทกันไปมาจนกระทั้งถึงคิวเบลถ่าย วีเองที่ไม่มีอะไรทำก็ได้แต่นั่งเล่นโทรศัพอยู่ที่เต็นท์ ในขณะที่วีกำลังนั่งเล่นโทรศัพอยู่นั้นก็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา
วีมองเธอเล็กน้อยก่อนจะพบว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนนึง แม้จะไม่เท่ากับเบลก็ตามด้วยช่วงอายุที่มากกว่าอะนะ
ในขณะนั้นเธอก็มองมาที่วีเล็กน้อยพร้อมกับพูดออกมา
“เธอคือเด็กที่เบลกำลังให้ความสนใจอยู่งั้นเหรอ ?”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าสงสัยเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ
“อันนี้ผมก็ไม่รู้สิครับ แต่ผมคิดว่าพี่เบลเขาคงไม่ได้สนใจผมหรอก”
เมื่อเธอได้ยินคำพูดของวีเธอก็มองวีเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
“นั่นสิ เบลคงเห็นเธอเป็นน้องชายที่แสนน่ารักนั่นแหละ แต่ก็ถือว่าดีแล้วล่ะเพราะถ้าหากเธอได้เบลสนับสนุน การจะเดินบนเส้นทางนี้ก็คงจะไม่ลำบากมากนักสำหรับเธอ”
วีพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะถามกลับ
“ว่าแต่คุณเป็นใครงั้นเหรอครับ ?”
เมื่อเธอได้ยินคำถามของวีก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะแนะนำตัว
“พี่ชื่อภา จะเรียกพี่ว่าพี่ภาก็ได้นะจ๊ะน้องวี”
“แล้วครับพี่ภา”
วียิ้มรับก่อนจะแสดงสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่พี่ภานั้นรู้จักตัวเองด้วยจึงอดไม่ได้ที่จะสงสัย
“เอ่อ… พี่ภารู้จักผมด้วยหรอครับ ?”
พี่ภาพยักหน้าพร้อมกับหยิบโทรศัพขึ้นมาและเปิดอะไรบางอย่างให้วีได้ดู ปรากฏว่าเป็นข่าวเกี่ยวกับวีที่ในเพจเฟสบุ๊คเพจหนึ่งได้โพสต์เอาไว้
“แน่นอนสิ ก็เราออกจะเป็นประเด็นดังในโซลเชียลขนาดนั้น”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างเก้อเขินก่อนจะแก้ตัว
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”
จากนั้นพี่ภาก็ถามกับวีว่า
“ว่าแต่วีมาทำอะไรถึงกองถ่ายละครนี่ละจ้ะ ?”
“เอ่อ… พอดีพี่เบลบอกว่างานถ่ายโฆษณากำลังขาดคนนะครับก็เลยมา”
“อย่างงี้นี่เอง”
พี่ภาพยักหน้าก่อนจะตอบกลับว่า
“กองถ่ายโฆษณาคงจะเริ่มถ่ายหลังจากนี้อีกสักพัก ช่วงนี้เธอก็จะว่างๆหน่อยเอาอย่างงี้ไหมได้ข่าวว่าเธอร้องเพลงเพราะ ลองร้องให้พี่ฟังสักเพลงสิ”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่พี่ภาด้วยสีหน้างุนงง พี่ภาที่ได้เห็นท่าทีของวีก็ยิ้มออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ไม่ต้องแสดงท่าทีแบบนั้นออกมาก็ได้ พี่ก็แค่อยากฟังเสียงร้องของเราเท่านั้นเอง เผื่อในอนาคตมีงานดีๆพี่จะได้แนะนำเราไง”
วีที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะตอบตกลง