80Y-ตอนที่ 55 ท่านหญิงหง
สตรีศักดิ์สิทธิ์ต้องการทำให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของนางสมบูรณ์อีกครั้ง
แต่ก่อนอื่นนางจำเป็นจะต้องรู้ว่า หลินจิ่วเฟิง ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ผ่านไปกว่า 30 ปีแล้วนับตั้งแต่ที่ หลินจิ่วเฟิง ช่วยนางในตอนนั้น
หลินจิ่วเฟิง ในตอนนั้นอาจจะกลายเป็นชายชราในวัย 50 ปี
“รากฐานการบ่มเพาะพลังของเขาถูกทำลายและถูกเนรเทศไปยังตำหนักเย็น กว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เขายังมีชีวิตอยู่หรรือไม่?
"ข้าจะส่งคนไปยังเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา เพื่อตรวจสอบ ข้าหวังว่าเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่ ข้าจะตอบแทนบุญคุณในครั้งนั้นทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น บัลลังก์,สาวงาม หรือแม้แต่ความสามารถในการเรดินบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังอีกครั้ง..."
“ทุกอย่างข้าล้วนสามารถมอบให้เจ้าได้”สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา
หลังจากพักสองสามครั้ง กระเรียนอมตะก็ปรากฏขึ้น
“ไปที่ภูเขาเต๋ามองหานักพรตเต๋า 2 คน ขอให้พวกเขาเดินทางไปยังเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาและตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องขององค์รัชทายาทที่ถูกปลดเมื่อ 30 ปีก่อน”สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้โบกมือ กระเรียนกระดาษได้บินขึ้นไป
มันได้กระพือปีกและบินหายไป
สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้เฝ้ามองดูอย่างเงียบ ๆ จู่ ๆ นางก็นึกขึ้นได้และขมวดคิ้วเล็กน้อย“ในโลกปัจจุบัน คนแรกที่สามารถทะลวงสู่ขั้นเทพมนุษย์ได้ก็อยู่ที่เมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา”
“ถ้านักพรตเต๋าสองคนนั้นล้มเหลวเพราะเทพมนุษย์คนนั้นล่ะ?”
นางหยิบกระดาษขึ้นมาอีกแผ่นและพับเป็นกระเรียนอีกตัว เมื่อนางทำเสร็จนางก็สั่งให้กระเรียนกระดาษบินไปยังนิกายพุทธในมณฑลเจียงหนาน
“คนสองกลุ่มน่าจะเพียงพอแล้วหรือไม่?”สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้พึมพัมเล็กน้อย
แต่ลองคิดดูอีกที…
‘จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสองกลุ่มนั้นมีความขัดแย้งกับเทพมนุษย์ผู้นั้น?’
“อย่างน้อยที่มีหลักประกันชั้นที่สาม”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้พับกระเรียนอีกตัวคราวนี้มันได้บินไปยังทะเลทรายทางเหนือ
นางค่อนข้างระมัดระวังเป็นพิเศษในเรื่องนี้
“เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอ”
“ข้าจะรอฟังข่าวจากพวกเขาอย่างเงียบ ๆ หวังว่าพวกเขาจะนำข่าวดีกลับมาให้ข้า”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ ได้หลับตาลงด้วยความพึงพอใจ
นางเริ่มฟื้นฟูจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของนาง
…
โลกของลัทธิเต๋าประกอบไปด้วยหลายนิกาย
แต่มีเพียงนิกายเต๋าชั้นนำไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน
แต่ละนิกายล้วนครอบครองภูเขาหรือแม่น้ำที่มีชื่อเสียง
พวกเขาจดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะพลังตามวิถีแห่งเต๋า นั่งสมาธิ มองดูเมฆ
พวกเขาสังเกตุการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างเงียบ ๆ
ในหมู่พวกเขาภูเขาหลงหู่ของลัทธิเต๋าสถานที่แห่งนี้ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า
รากฐานของภูเขาหลงหูค่อนข้างลึกล้ำ หลังฝนตกในครานั้น ก็มีปราชญ์การต่อสู้จำนวนมากปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง คล้ายกับหน่อไม้หลังฝนในฤดูใบไม้ผลิ
หน่อไม้สองหน่อได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วกลายเป็นต้นไม้ที่สูงตระหง่าน
เทพมนุษย์สองคนได้ปรากฏขึ้นบนภูเขาหลงหู่ หนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า
หากข่าวการทะลวงผ่านขั้นพลังของพวกเขาถูกเปิดเผย มันจะทำให้ทั่วโลกล้วนตกตะลึงอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เทพมนุษย์สองคนนี้กำลังถือนกกระเรียนกระดาษและตั้งใจฟังสิ่งที่นกกระเรียนกระดาษพูด
“มันเป็นเสียงของท่านหญิงหง”นักพรตเต๋าหนุ่มพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
“เดิมข้าคิดว่าหลังจากที่เราแยกทางกันในขุมนรกใต้ดิน ข้าจะไม่ได้พบท่านหญิงหงอีกแล้ว ข้าไม่คิดเลยว่านางจะเป็นฝ่ายเริ่มติดต่อพวกเรามา”นักพรตเต๋าหนุ่ม ได้กล่าวอย่างตื่นเต้น
นักพรตเต๋าวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พยักหน้า“การที่พวกเราสองคนทะลวงผ่านขั้นเทพมนุษย์ไปได้ก็ต้องขอบคุณคำแนะนำของท่านหญิงหง ถึงแม้ว่านางจะทำตัวดูห่างเหิน แต่โดยรวมแล้วนางเป็นคนที่มีความจริงใจอย่างมาก”
นักบวชเต๋าสองคนนี้ล้วนมีอายุมากแล้ว แต่เนื่องจากพวกเขาบุกทะลวงผ่านขั้นเทพมนุษย์ทำให้พวกเขาฟื้นคืนความเยาว์กลับมา ความคิดของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปตามรูปลักษณ์เหล่านั้น
ด้วยอายุและประสบการณ์ของพวกเขา ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สามารถทำให้พวกเขาตื่นเต้นได้
แต่ท่านหญิงหงเป็นข้อยกเว้น
“ศิษย์พี่หลิวหยุน ท่านยังจำฉากที่พวกเราเห็นท่านหญิงหงเมื่อปีที่แล้วได้หรือไม่?”นักพรตเต๋าหนุ่มได้กล่าวถาม
“แน่นอนข้าจำได้…”
“วันนั้นมีแผ่นดินไหวมันได้แยกปฐพีออกจากกันจนเผยให้เห็นทางลึกใต้ดิน ที่นั่นมีปีศาจและสัตว์อสูรนับไม่ถ้วน โชคดีที่สถานที่นั้นอยู่ใกล้กับภูเขาหลงหู่ ทำให้พวกเราที่มีระดับการบ่มเพาะพลังช่วงที่ 4 ของขั้นปราชญ์การต่อสู้ สามารถปราบปรามรอยแยกนั่นได้ทัน”นักพรตเต๋าวัยกลางคนที่ชื่อ หลิวหยุน ได้คร่ำครวญ
“ข้าจำได้ว่าศิษย์พี่และข้านั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจก่อนที่จะเข้าไปข้างใน แต่พวกเราก็ไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้นานกว่าครึ่งวันจากนั้นพวกเราก็เริ่มพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์”
“แต่ช่วงเวลานั้นเป็นท่านหญิงหงที่จุติลงมาจากฟากฟ้า นางงดงาามมากจนข้าไม่สามารถบรรยายความงามของนางออกมาเป็นคำพูดได้ จากนั้นนางก็เริ่มใช้พลังระงับรอยแยกนั่นด้วยตัวนางเอง”
“นางยังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของพวกเรา นอกจากนี้ ยังช่วยให้คำแนะนำจนทำให้เราเข้าสู่ขั้นเทพมนุษย์ได้!”
นักพรตเต๋าหนุ่มเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
มันเป็นร่องรอยของความปราถนาทำให้เขาหวนคิดถึงเรื่องในอดีต
เขาสามารถทะลวงผ่านระดับการบ่มเพาะพลังได้เพราะท่านหญิงหง
“ศิษย์น้อง ไห่หยู พวกเราเป็นหนี้ชีวิตท่านหญิงหงอีกทั้งนางยังชี้ทางสว่างให้แก่พวกเรา คราวนี้ท่านหญิงหงต้องการให้เราเดินทางไปยังเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับสถานการณ์ขององค์รัชทายาทที่ถูกปลดเมื่อ 30 ปีก่อน ยังไงพวกเราก็ต้องไป”หลิวหยุนได้ตอบกลับ
“แน่นอนว่าพวกเราต้องไป แม้ว่าเทพมนุษย์ผู้นั้นจะอาศัยในเมืองหลวง พวกเราก็ต้องไปที่นั่นเพื่อตรวจสอบให้ได้”ศิษย์น้องไห่หยู ได้พยักหน้า
“พวกเราจะไม่สร้างปัญหาใด ๆ พวกเราเพียงแค่ตรวจสอบสถานการณ์ขององค์รัชทายาทที่ถูกปลดในเวลานั้นก็พอ หากเป็นไปได้ ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ก็คงไม่อยากมีปัญหากับเทพมนุษย์อย่างพวกเราอยู่ดี”หลิวหยุน ได้ตอบกลับ
“เอาล่ะ พวกเราต้องรีบแล้ว พวกเราไม่อาจล่าช้าจนทำให้ท่านหญิงหงรอนานได้”ไห่หยู ไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
เขาได้ออกจากภูเขาทันทีและมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงราชวงศ์
หลิวหยุน ได้สั่นศีรษะและหัวเราะออกมา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและลงจากภูเขาด้วย
…
นิกายพุทธในมณฑลเจียงหนาน ที่นี่เคยมี วัดทุก ๆ 3 ขั้น และ อารามทุก ๆ 5 ขั้น
แต่หลังจากที่ภาพวาดทั้งสองได้ระงับนิกายพุทธทั้งสองในสมัยนั้น พวกมันก็ถูกรื้อถอนไปจนหมด
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของสามนิกายพุทธยังคงอยู่รอบ ๆ แต่จำนวนผู้ศรัทธาในนิกายพุทธก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
พวกเขาไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
ทั้งวัดเส้าหลินและวัดซวนคง ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพื้นหลังที่พรรณนาถึงความร้ายกาจของเทพมนุษย์จากราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา
พวกเขารู้สึกโกรธมาก แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ชั่วคราว
สำหรับวัดต้าหลินที่ได้รับการยกเว้น พวกเขาก็ไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ และยังสามารถรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองเอาไว้ได้
ในถ้ำพุทธของวัดต้าหลิน มีภาพเขียนที่วิตรงดงามมากมาย
มีนักบวชเฒ่านั่งอยู่หน้าภาพวาด
ข้างหน้าเขามีดอกไม้ เขาได้ถือมันด้วยมือข้างเดียวทันใดนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
มันเป็นรอยยิ้มของพระพุทธเจ้าขณะที่กำลังเด็ดดอกไม้!
นักบวชเฒ่าได้กลายเป็นบุรุษหนุ่มอย่างรวดเร็ว เขาได้เปลี่ยนจากชายชรากลายเป็นชายหนุ่ม
“ข้าต้องตอบแทนน้ำใจของ ท่านหญิงหง”นักบวชหนุ่มได้ถอนหายใจออกมา
เมื่อสามเดือนก่อน ภายใต้การแนะนำของท่านหญิงหง เขาประสบความสำเร็จในการทะลวงสู่ขั้นเทพมนุษย์
นกกระเรียนกระดาษได้บินวงกลมอยู่รอบตัวเขา
เขาได้ถือนกกระเรียนกระดาษและนำมาแนบหู
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของท่านหญิงหง
หลังจากที่นักบวชหนุ่มฟังมันหลายครั้งเขาก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ทิศทางของเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา
“ข้าจะเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในโลกวันนี้”
นักบวชหนุ่มได้ยิ้มออกมา
…
ในภูมิภาคทะเลทรายทางเหนือ ในโลกที่แห้งแล้งจากการเผาไหม้ของดวงอาทิตย์
ชายผิวคล้ำได้ถือนกกระเรียนกระดาษในมือขณะที่แนบหูเพื่อฟังมัน
เขาเป็นบุรุษที่มีร่างกายสูงกว่า 2 เมตร นกกระเรียนกระดาษในมือของเขาได้ดูเล็กไปเลย
การกระทำของเขาดูเหมือนกับผู้หญิงตัวเล็กๆ ซึ่งมันไม่ค่อยเข้าท่ากับรูปลักษณ์ของเขา
แต่เขาดูมีความสุขมาก…
“ท่านหญิงหงส่งข้อความหาข้า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ข้าจะต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อท่านหญิงหง”
“ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา,เมืองหลวงราชวงศ์,องค์รัชทายาทที่ถูกปลด…”
“ไม่ว่าอะไรก็ตามข้าจะทำให้ดีที่สุด”
“เพียงแต่สิ่งเดียวที่ข้ากังวลก็คือเทพมนุษย์คนแรกในเมืองหลวง ข้าจะพยายามไม่สร้างปัญหาและค้นหาข้อมูลเพียงอย่างเดียว ข้าไม่สามารถล่วงเกินเทพมนุษย์ผู้นี้ได้”บุรุษเหล็กร่างใหญ่คนนี้ได้พึมพัมออกมา
จากนั้นเขาก็ก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
หลินจิ่วเฟิง ผู้ซึ่งอยู่ในตำหนักเย็นของเมืองหลวง เขาไม่ได้รู้เลยว่าเทพมนุษย์ 4 คนกำลังเดินทางมาที่เมืองหลวงราชวงศ์เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของเขา
เขาได้ลงชื่อเข้าใช้อย่างเงียบ ๆ ฝึกฝน และพัฒนาตัวเอง ปลดล็อคขีดจำกัดในร่างกายของเขา
“เหตุใดข้าถึงไม่สามารถทะลวงผ่านด่านไร้สิ้นสุดได้?”
หลินจิ่วเฟิง รู้สึกสงสัย
เขาอดไม่ได้ที่จะถามเจ้าแมวขาว