371-372
7/10
Ep.371
กลับไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ] ซูเฉินก้มลงมองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง
เมื่อเห็นว่ายังมีจุดสีดำจำนวนมากหลั่งไหลออกมาจากคฤหาสน์เจ้าเมือง รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนมุมปากเขา
ยิ่งพวกเผ่าราชวงส์อสูรออกมามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งฆ่าได้มากเท่านั้น เท่ากับว่าสามารถดรอปชิ้นส่วนได้มากขึ้น
หลังจากที่หวู่หยางและคนอื่นๆขุดหินพลังงานกันเสร็จแล้ว ภายใต้คำสั่งของซูเฉิน [รถศึกอัจฉริยะ] เริ่มเคลื่อนต่อไป มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์เจ้าเมือง
ทว่าเดินทางได้แค่ไม่กี่นาที ก็ปรากฏฝูงชนจำนวนมากวิ่งสวนมาจากถนนเบื้องหน้า สีหน้าของทุกคนดูตื่นตระหนก คล้ายกำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง
ซูเฉินเดาว่าคงเป็นเผ่าราชวงศ์อสูรแน่ๆ พวกมันกำลังเริ่มสังหารมนุษย์ในเมืองทงเทียน
“เสี่ยวจือ เร็วเข้า” ใบหน้าของซูเฉินเย็นเยียบ
ในฐานะเผ่าพันธุ์มนุษย์ เป็นธรรมดาที่เขาไม่ต้องการเห็นสหายร่วมชาติถูกเผ่าพันธุ์อื่นสังหารอย่างป่าเถื่อน
หวู่หยางและคนอื่นๆก็โกรธเช่นกัน
“พี่เฉิน คราวนี้ให้พวกเราร่วมสู้ด้วยเถอะ ไอ้พวกต่างเผ่ามันน่ารังเกียจจริงๆ” หยางฮ่าวเอ่ยปากขอสู้เป็นคนแรก
ซูเฉินเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาดี แต่เขาก็ยังค่อนข้างสงบ
พวกต่างเผ่าไม่ใช่ซอมบี้ ดังนั้นไม่ง่ายที่จะจัดการ
สำหรับเผ่าราชวงศ์อสูรยิ่งแล้วใหญ่ เพราะซูเฉินเคยสู้มากับมือ ดังนั้นตระหนักดีว่าไม่มีตัวไหนอ่อนแอ
ส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 หรือสูงกว่า แถมยังมีสัตว์กลายพันธุ์คอยช่วยเหลือ เรียกได้ว่ากำลังรบของพวกมันเพิ่มพูนเป็นสองเท่า
ซึ่งในกลุ่มของซูเฉิน นอกจากเขาและ [นักรบจักรกล] แล้ว ทุกคนมีโอกาสตกอยู่ในอันตรายสูงมากๆ หากเผชิญหน้ากับเผ่าราชวงศ์
แม้แต่หวู่หยางและหยางหลิงเทียนก็ยังรับประกันชีวิตไม่ได้ ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงพวกหยางฮ่าว
“ดูสถานการณ์ก่อนเถอะ แล้วค่อยว่ากัน” ซูเฉินไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาด เผื่อในกรณีที่ว่ากำลังรบของเผ่าราชวงศ์อสูรที่กรูกันออกมา ในล็อตใหม่จะเป็นพวกอ่อนแอ ก็น่าจะช่วยให้หยางฮ่าวและคนอื่นๆฝึกฝนทักษะฝีมือได้
“เจ้านาย มีพวกต่างเผ่าจำนวนมากกำลังอาละวาดอยู่เบื้องหน้า”
เคลื่อนตัวมาได้ 1 กิโลเมตร [รถศึกอัจฉริยะ] จู่ๆก็ร้องเตือนขึ้น
“รีบไปเร็วเข้า” ดวงตาของซูเฉินทอประกายอำมหิต
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] ตอบรับอย่างไม่ลังเล เร่งเครื่องมุ่งหน้าเข้าหาเหล่าราชวงศ์อสูรทันที
เวลานี้ เผ่าราชวงศ์อสูรกำลังไล่ฆ่ามนุษย์เมืองทงเทียน ระหว่างนั้นจู่ๆพวกมันก็พบว่ามียานพาหนะกำลังวิ่งเข้ามา
ทุกตนบังเกิดความตื่นเต้นสงสัย เลิกสังหารมนุษย์คนอื่นๆ ทั้งหมดกู่คำราม ควบสัตว์กลายพันธุ์ตรงเข้าทำลาย [รถศึกอัจฉริยะ]
[รถศึกอัจฉริยะ] เองก็ไม่หวาดกลัว พุ่งเข้าชนพวกมัน
โครม โครม กร๊อบ ..
ภายใต้เสียงปะทะและเสียงกระดูกแตกหัก เผ่าราชวงศ์ที่ตรงเข้ามาถูกชนกระเด็น หลังจากร่วงลงกับพื้น จากนั้นก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้อีกต่อไป
[รถศึกอัจฉริยะ] หลังจากอัพเกรดแล้ว มันสามารถต้านทานการโจมตีของผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ได้
เผ่าราชวงศ์อสูรเหล่านี้จัดอยู่แค่ในเลเวล 1 และ 2 เท่านั้น หากคิดเผชิญหน้ากับ [รถศึกอัจฉริยะ] ตรงๆ ไม่ต่างจากการทุบหินด้วยก้อนกรวด
สมาชิกที่เหลือของเผ่าราชวงศ์อสูร เมื่อเห็นถึงความน่ากลัวของ [รถศึกอัจฉริยะ] ก็พากันหันหลังล่าถอยไป
“เสี่ยวจือ ไล่ตามพวกมัน” ซูเฉินเยาะหยัน
[รถศึกอัจฉริยะ] เพิ่มแรงม้าเต็มพิกัด ไล่ตามพวกเผ่าราชวงศ์อสูร ชนล้มระเนระนาดไปตลอดเส้นทาง
ชั่วพริบตาเดียว เผ่าราชวงศ์อสูรหลายร้อยตัวได้ล้มลง ถูกกลืนลงไปใต้ล้อของ [รถศึกอัจฉริยะ] บังเกิดเสียงคร่ำครวญของความทุกข์ตรมดังขึ้นต่อเนื่อง
ไม่ทราบว่ามีเผ่าราชวงศ์อสูรกี่ตัวถูกบดขยี้ระหว่างทาง แต่เส้นทางที่รถศึกขับผ่าน ได้ย้อมถนนทั้งสายจนชุ่มไปด้วยเลือด
ขณะที่พวกซูเฉินกำลังจะไปถึงคฤหาสน์เจ้าเมือง สมาชิกเผ่าราชวงศ์อสูรที่มีรูปร่างสูงใหญ่ก็ก้าวออกมาเผชิญหน้ากับพวกเขา โดยใต้ร่างของอีกฝ่าย กำลังขี่เสือโคร่งที่มีขนหลากหลายสีสันอยู่
จากกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากทั้งบุคคลและสัตว์กลายพันธุ์ตัวนี้ ซูเฉินคาดเดาว่าพวกมันน่าจะอยู่ในเลเวล 4
แม้ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 จะไม่แกร่งพอที่จะสร้างความเสียหายต่อ [รถศึกอัจฉริยะ] แต่ขณะเดียวกันรถศึกก็ไม่สามารถขับชนพวกมัน แล้วบดขยี้จนตายได้เช่นกัน
ซูเฉินจึงขอให้ [รถศึกอัจฉริยะ] จอด และปล่อยให้ [นักรบจักรกล] ลงไปกำจัดพวกมัน
8/10
Ep.372
“เจ้าคนอุกอาจ! กล้าสังหารชนเผ่าราชวงศ์อสูรของข้า จงชดใช้มาช่วยชีวิต!”
เผ่าราชวงศ์อสูรตัวสูงตวาดดุร้าย ควงขวานยักษ์สีทองสองเล่มในมือ ดูท่าแล้วน่าจะอยากทำลาย [รถศึกอัจฉริยะ] ในคราวเดียว
[นักรบจักรกล] ไม่รอให้ทำเช่นนั้น กระโจนเข้าสับดาบลงไปเบื้องหน้าโดยไม่เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว
“เป็นแค่หุ่นเชิดยังกล้าอาละวาด? เอาขวานจากท่านปู่ไปชิม!”
เผ่าราชวงศ์อสูรตัวสูงใหญ่แสดงสีหน้าดูหมิ่น ไม่เห็น [นักรบจักรกล] อยู่ในสายตา
แม้หุ่นเชิดน้อยนักที่จะพบเจอ แต่มันก็ยังเห็นมาแล้วสองสามครั้ง
ในความทรงจำของมัน ไม่เคยพบพานหุ่นเชิดที่มีเลเวลสูงกว่า 3 ดังนั้นพาลคิดว่า [นักรบจักรกล] อย่างมากสุดคงไม่พ้นเลเวล 3
อาศัยความแข็งแกร่งของมัน สามารถสับทำลาย [นักรบจักรกล] ได้ในขวานเดียว
แต่ใครจะทันคิด ว่าในจังหวะที่ปะทะกัน ตัวมันกลับเกือบต้องพานพบความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
เนื่องจากความประมาทเลินเล่อ แขนข้างหนึ่งของมันเกือบถูก [นักรบจักรกล] ตัดขาด
โชคยังดีที่ในช่วงเวลาวิกฤติ เสือขนหลากสีเบื้องล่างตะปบอุ้งเท้าเข้าช่วยเหลือได้ทัน ผลัก [นักรบจักรกล] ออกไป
“หุ่นเชิดเลเวล 4 !”
หยาดเหงื่อเย็นเยียบผุดขึ้นบนหน้าผากเผ่าราชวงศ์อสูร
หุ่นเชิดเลเวล 4 ตัวมันไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นมาก่อนเลย! และยิ่งไปกว่านั้น [นักรบจักรกล] ยังถูกสร้างขึ้นจากโลหะ ทำให้มันสามารถเพิกเฉยต่อความเสียหายในระดับหนึ่งได้
ดังนั้น ประสิทธิภาพการต่อสู้ของมันจึงเหนือกว่าเลเวล 4 อย่างสิ้นเชิง
เมื่อทราบข้อมูลของ [นักรบจักรกล] เผ่าราชวงศ์อสูรตัวสูงไม่กล้าเลินเล่ออีก มันตัดสินใจร่วมมือกับเสือขนหลากสี ประสานกันโจมตี [นักรบจักรกล]
ทั้งสองฝ่ายพัวพันดุเดือด ก็ยังไม่อาจตัดสินแพ้ชนะได้
ซูเฉินรับชมการต่อสู้อย่างเงียบๆ
หากนี่คือการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ไม่ว่าจะเป็นเผ่าราชวงศ์อสูรตัวสูงใหญ่ หรือเสือขนหลากสี ล้วนไม่อาจเป็นคู่มือของ [นักรบจักรกล]
ทว่าเมื่อหนึ่งตนหนึ่งสัตว์ร่วมมือกัน [นักรบจักรกล] ไม่อาจทำอะไรพวกมันได้ในระยะเวลาอันสั้น
เฝ้าดูถึงจุดนี้ ซูเฉินก็ไม่ต้องการรับชมอยู่เฉยๆอีกต่อไป
ก้าวลงจากรถ เขาตะโกนไปทาง [นักรบจักรกล]
“เสี่ยวตี๋ กลับมาซะ”
เมื่อ [นักรบจักรกล] ดีดตัวออกจากสนามรบ ซูเฉินก็ปลดปล่อยพลังจิตออกไป ควบคุมให้เผ่าราชวงศ์อสูรและเสือขนหลากสีหยุดนิ่ง กระชับ [ดาบเสริมมนตรา] ในมือ ฟันสับลงไป
แทบจะในทันที มังกรเพลิงที่แผ่ไอร้อนแผดเผาปรากฏออกมา เลื้อยลดคดเคี้ยวไปในอากาศ
“ไม่!”
เผ่าราชวงศ์อสูรตัวสูงใหญ่เปล่งเสียงร้องด้วยความสิ้นหวัง แต่สุดท้ายทั้งมันและเสือขนหลากสีที่อยู่เบื้องหลัง ถูกเผากลายเป็นขี้เถ้าโดยตรง
“เห~ ในหมู่มนุษย์ยังมีชายที่แข็งแกร่งเช่นเจ้าอยู่ด้วย เราเปิ่นกงรู้สึกตกใจจริงๆ”
ในเวลานั้นเอง เสียงอันไพเราะของหญิงสาวก็ดังเข้ามาในหูของซูเฉิน
ซูเฉินมองไปตามทิศทางเสียง แต่กลับเห็นแค่เพียงงูยักษ์สีขาวค่อยๆเลื้อยเข้ามา
งูยักษ์ตัวนี้ถูกหุ้มไปด้วยเกล็ดสีเงินราวกับชุดเกราะ ลำตัวยาวกว่า 30 เมตร ร่างหนาเท่าถังเบียร์ ชวนให้ผู้คนหวาดกลัว
“พระเจ้า! มีงูตัวใหญ่ขนาดนี้อยู่ในโลกด้วย”
หยางฮ่าวและคนอื่นๆบน [รถศึกอัจฉริยะ] ตกตะลึง
ใบหน้าของหวู่หยางกลายเป็นน่าเกลียด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของงูยักษ์ที่ปลดปล่อยออกมาได้อย่างชัดเจน มันยิ่งใหญ่ชวนให้เขาใจสั่น
ซูเฉินเหลือบมองงูยักษ์สีเงิน จากนั้นเลื่อนสายตาขึ้นไปด้านบนของงูยักษ์
บนหัวงูขนาดใหญ่ ปรากฏหญิงสาวในชุดคลุมขาวจากเผ่าราชวงศ์อสูรกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่
หญิงสาวผู้นี้น่าจะอยู่ในวัย 20 ต้นๆ ผมสีฟ้ายาวประบ่าเธอ ใบหน้าหมดจดงดงาม ดวงตาโตทอประกายระยิบระยับราวกับดวงดาว
โดยรวมแล้ว หญิงสาวเผ่าราชวงศ์อสูรผู้นี้ ไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็เปี่ยมล้นไปด้วยความงดงาม
เธอสวยไม่แพ้ตันหลินหรือหยางเฉียนเลย
ซูเฉินเคยเจอพวกต่างเผ่ามาก็มาก แต่ส่วนใหญ่รูปลักษณ์ค่อนไปทางน่าเกลียด
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับสาวงามต่างเผ่าพันธุ์