369-370
5/10
Ep.369
เผ่าราชวงศ์ที่ขี่หมูดำกลายพันธุ์รู้สึกสับสนว้าวุ่นใจ แต่สุดท้ายกัดฟัน ร้องคำรามออกมา “จงสังหารมันให้ข้า!”
แม้ความแข็งแกร่งของซูเฉินจะทำให้มันหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่เนื่องจากตัวมันมีระดับฝึกตนอยู่ในเลเวล 5 บวกกับอยู่ต่อหน้าลูกน้องอีกมากมาย ดังนั้นมั่นใจว่าสามารถกำจัดซูเฉินได้
และยังมีอีกประเด็นหนึ่ง นั่นคือหลังจากการเชื่อมต่อทางผ่านเขตแดนสำเร็จแล้ว ตัวมันคือผู้นำเผ่าราชวงศ์อสูรกลุ่มแรกที่บุกเข้ามา
หากสมรภูมิแรกก็หวาดกลัวมนุษย์จนหัวหด นับจากนี้ไปมันจะเชิดหน้าชูตาในเผ่าพันธุ์ได้อย่างไร?
“ฆ่า!”
เผ่าราชวงศ์อสูรเดิมเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีจิตใจแข็งแกร่งอยู่แล้ว จึงสามารถหายจากอาการช็อกได้อย่างรวดเร็ว พวกมันแผดเสียง พุ่งเข้าสังหารซูเฉิน
เมื่อเห็นเผ่าราชวงศ์ที่ขี่หมูดำ นำทัพบุกไปข้างหน้า ชายในชุดคลุมขาวก็ไม่อาจอยู่เฉย นำกำลังพลของเขาไล่ติดตามกลุ่มราชวงศ์อสูรไป
ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งนับพัน ซูเฉินกลับยังคงมีท่าทีพึงพอใจมาก
หลังจากใส่ [ดาบเสริมมนตรา] ลงในถุงเก็บของ แสงสีทองก็ค่อยๆเรืองรองขึ้นบนฝ่ามือเขา ซักพักลามไปทั่วแขน
ตามมาติดๆด้วยหนึ่งหมัดซัดออกไปเบื้องหน้า
แทบจะในทันที หมัดทองคำนับร้อยผุดพรายขึ้นในอากาศ
หมัดแล้วหมัดเล่าชกออกไปข้างหน้า เมื่อรวมตัวกันคล้ายดั่งภูเขาสีทองขนาดใหญ่ กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมา เสมือนดั่งคลื่นพายุอันน่าหวาดกลัว
ภายใต้การโจมตีเดียว สามารถสะกดทั้งเผ่าราชวงศ์อสูรและกลุ่มมนุษย์จนหายใจไม่ออก
“นี่มันอะไรกันเนี่ย? คนๆเดียวสามารถระเบิดพลังมหาศาลขนาดนี้ออกมาได้อย่างไร?”
เผ่าราชวงศษ์อสูรที่ขี่หมูดำ ทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความสยดสยอง ร้องอุทานออกมา
ตัวมันแม้จะเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ทว่าเมื่อต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของพลังหมัดนี้ ยังบังเกิดความรู้สึกว่าอาจถูกต่อยจนถึงแก่ชีวิต
คนอื่นๆหวาดกลัวยิ่งกว่า จิตสังหารที่เดิมโถมทับไปเบื้องหน้า จู่ๆก็ชะงักลงไปอย่างกะทันหัน
ชายในชุดคลุมขาวเลิกลังเล สุดท้ายหันหลังวิ่งหนีไปก่อนใครเพื่อน
กร๊อบ กร๊อบ โผล๊ะ โผล๊ะ!
ท่ามกลางเสียงกระดูกแตกหักและเสียงระเบิดหนักทึบรุนแรง
เผ่าราชวงศ์อสูรและมนุษย์บาดเจ็บล้มตายไปกว่าครึ่ง กระทั่งผู้นำที่ขี่หมูดำก็ยังร่วงลงกับพื้น แม้ยังไม่ตายในตอนนี้ แต่ลมหายใจรวยรินเต็มที เห็นได้ชัดว่าร่อแร่เต็มทนแล้ว
คนที่โชคดีอยู่นอกรัศมีทำลายเลยรอดมาได้ ต่างตกตะลึงกับภัยคุกคามจากหมัดของซูเฉิน หันหลังล่าถอยกลับไปอย่างเอาเป็นเอาตาย
ดวงตาของซูเฉินทอประกายเย็นเยียบ ทะยานตัวไล่ตามไปพร้อมโจมตีด้วย [หมัดดาวตก] อีกชุดหนึ่ง
นอกจากชายชุดขาวที่มองเห็นโอกาสได้เร็วกว่าใครเพื่อน ชิงหนีไปก่อนก้าวหนึ่งแล้ว คนอื่นๆล้วนจบชีวิตลงในที่เกิดเหตุ ไม่ก็ล้มลงบาดเจ็บสาหัส
“เสี่ยวตี๋ อย่าปล่อยให้เหลือ ฆ่าพวกมันทั้งหมด”
ซูเฉินพอออกคำสั่ง ก็เปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ไล่ตามชายชุดขาวไป
ชายชุดขาวดูมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวกเผ่าราชวงศ์อสูร ดังนั้นต้องมีข้อมูลอยู่กับตัวมากแน่ๆ
ซูเฉินยังมีข้อสงสัยมากมายอยู่ในใจ ดังนั้นถือโอกาสนี้จับตัวอีกฝ่ายมาสอบปากคำ
[นักรบจักรกล] ได้รับคำสั่งจากซูเฉิน ก็กวัดแกว่งดาบปลายโค้งในมือ ตัดหัวเผ่าราชวงศ์อสูรและมนุษย์ที่ยังไม่ตาย
ไม่นานนัก ซูเฉินก็ไล่ตามมาชายชุดขาวทัน
หลังจากคว้าชายเสื้ออีกฝ่ายและเหวี่ยงลงกับพื้นแล้ว เขาก็หันไปทาง [รถศึกอัจฉริยะ] กวักมือส่งสัญญาณ
ทุกคนบนรถศึกรู้สัญญาณมือนี้เป็นอย่างดี ว่าซูเฉินกำลังเรียกให้พวกเขาลงมาขุดหินพลังงาน
ซูเฉินชายตามองชายชุดขาว เอ่ยเสียงเย็น “บอกที่มาที่ไปของแกมา แล้วจงจำไว้ให้ดี ถ้าแกกล้าโกหก แกจะต้องโดนทรมาน ชนิดต่อให้ร้องขอความตายก็ไม่สามารถตายได้”
ชายชุดขาวที่นอนหมอบอยู่กับพื้นสั่นสะท้านไปทั้งตัว รีบตอบคำ “เรียนอาวุโส ผู้น้อยเจียงเว่ย เป็นเจ้าเมืองคนปัจจุบันของเมืองทงเทียน”
ตกได้ปลาใหญ่เข้าให้แล้ว!
ซูเฉินเลิกคิ้วขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ “แกใช่ไหมที่เป็นคนเปิดทางผ่านเขตแดนของเมืองทงเทียน”
เจียงเว่ยลังเลเล็กน้อย สุดท้ายยอมสารภาพด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ใช่”
การเปิดทางผ่านเขตแดน ย่อมนำหายนะมาสู่มนุษยชาติอย่างไม่ต้องสงสัย อาจกล่าวได้ว่าเขาจะกลายเป็นคนบาปของเผ่ามนุษย์
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าซูเฉิน เขากลับไม่กล้าปิดบังแม้แต่น้อย
เขาเคยเห็นวิธีการทรมานของซูเฉินกับตาตัวเองมาแล้ว หากไม่ยอมปริปาก จะเริ่มจากการตัดแขนข้างหนึ่ง
และเขาไม่ต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบนั้น
6/10
Ep.370
“มันคือทางผ่านเขตแดนที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปเผ่าราชวงศ์อสูรใช่ไหม?” ซูเฉินยังคงถามต่อ
“ใช่ มันคือทางเชื่อมสู่ทวีปเผ่าราชวงศ์อสูร” เจียงเว่ยตอบตามความจริง
ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “ไม่ใช่ว่าภูเขาฉีหลินก็มีทางผ่านเขตแดนสู่ทวีปราชวงศ์อสูรอยู่แล้วรึไง? ทำไมแกต้องเปิดทางผ่านอีกทางหนึ่งด้วย?”
นี่คือสิ่งที่เขาสงสัยมาโดยตลอด
“เรียนอาวุโส เผ่าราชวงศ์อสูรแห่งภูเขาฉีหลินและเผ่าราชวงศ์ของที่นี่ไม่ใช่ฝ่ายเดียวกัน ฝ่ายแรกเป็นของหนันหมาน (ป่าเถื่อนแดนใต้) ฝ่ายหลังเป็นของเป่ยยี่ (เมืองทางเหนือ)” เจียงเว่ยอธิบาย
“หนันหมาน … เป่ยยี่ …” ซูเฉินพึมพำ
ในที่สุด เขาก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ในทวีปหนึ่ง เป็นเรื่องปกติที่จะมีขุมกำลังหลายฝ่าย และเผ่าราชวงศ์อสูร ก็ไม่มีข้อยกเว้น
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพวกมันจะบังเกิดความละโมบในทวีปมนุษย์ ดังนั้นรุกรานเข้ามา หมายได้ส่วนแบ่งชิ้นเค้ก
เมื่อนึกถึงเรื่องที่ว่าขุมกำลังอื่นๆในเขตหยูหลิน ก็ล้วนได้รับการสนับสนุนจากพวกต่างเผ่าเช่นกัน ซูเฉินเลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า เผ่าพันธุ์มนุษย์ช่างอ่อนแอ นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจโต้เถียงได้
เมื่อสามารถไขข้อข้องใจ ซูเฉินก็ค่อยๆถามต่ออย่างใจเย็นว่า “ผู้แข็งแกร่งของเผ่าราชวงศ์อสูร ระดับสูงสุดที่สามารถผ่านเข้ามายังทางผ่านเขตแดนนี้คือเลเวลอะไร?”
การสังหารพวกต่างเผ่าสามารถช่วยดรอปชิ้นส่วนได้ และเขาย่อมไม่ยอมพลาดโอกาสนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น เขาต้องรู้ระดับความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ก่อน จะได้เตรียมตัวให้พร้อม
“ทางผ่านเขตแดนยังไม่เสถียรเต็มที่ ผู้แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถข้ามมาได้ในตอนนี้คือเลเวล 5” เจียงเว่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ
ดวงตาของซูเฉินสว่างไสวขึ้นมาทันที
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน เขาสามารถสังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ได้ในไม่กี่วินาที ในกรณีนี้ มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าเขาจะสามารถล้างบางพวกเผ่าราชวงศ์อสูรที่รุกรานเข้ามาได้
เมื่อทราบข้อมูลทั้งหมดที่อยากรู้ ซูเฉินก็มอบความตายที่ไม่เป็นปวดให้แก่เจียงเว่ย ระเบิดหัวอีกฝ่ายด้วยหมัดเดียว
จากนั้น ก็เริ่มก้มเก็บชิ้นส่วน
จำนวนเผ่าราชวงศ์อสูรและสัตว์กลายพันธุ์ที่ถูกฆ่าตายในครั้งนี้ราวๆ 1,000 ตัว แม้ปริมาณค่อนข้างน้อย แต่กลับสามารถดรอปชิ้นส่วนได้มากกว่า 500 ชิ้น
น่าเสียดายที่ไม่มีชิ้นส่วนสีม่วงทอง
ซูเฉินจึงเริ่มเก็บชิ้นส่วนที่อยู่ใกล้ที่สุด
“คุณได้รับ [เหมันต์เยือกแข็งทางตอนเหนือ] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (9/10) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
“ไม่แลก”
[เหมันต์เยือกแข็งทางตอนเหนือ] ก็เหมือนกับ [เหมันต์เก้าเร้นลับ] ทั้งสองเป็นวัตถุไร้รูปธาตุน้ำแข็ง หากรวบรวมได้ครบ จะเท่ากับว่าเวทย์น้ำแข็งของเขามีวัตถุเสริมพลังถึงสองชิ้น
และอำนาจของมัน อาจทรงพลังเทียบเท่ากับเวทมนต์เลเวล 6
ซูเฉินตั้งตารอวันที่จะได้ปลดล็อคมัน และสงสัยว่าชิ้นส่วนที่เหลือจะช่วยให้ได้เจอชิ้นสุดท้ายหรือไม่?
จากนั้น เขาก็เริ่มเก็บชิ้นส่วนต่อ
“คุณได้รับ [หินทองคำสดับเงา] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (2/10) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
“ไม่แลก”
“คุณได้รับ [ขวานทลายนภา] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/50) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
“บ่แลกเด้อสู” (555)
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากเก็บชิ้นส่วนจนครบ ซูเฉินก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
เหตุผลก็คือ [เหมันต์เยือกแข็งทางตอนเหนือ] ได้ถูกรวบรวมจนครบแล้ว เมื่อปลดล็อคก็หลอมรวมเข้ากับเวทย์ธาตุน้ำแข็งโดยอัตโนมัติ
นับจากนี้ไป เวทย์ธาตุน้ำแข็งจะกลายเป็นอีกหนึ่งมนต์สังหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขา
นอกจากได้รับ [เหมันต์เยือกแข็งทางตอนเหนือ] แล้ว แต้มพลังงานของเขายังเพิ่มขึ้นถึง 3,000 แต้มแล้วเช่นกัน
ซูเฉินเปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] และตรวจสอบแต้มพลังงานที่ใช้แลก [คุณสมบัติเลเวล 5 อย่างเต็มรูปแบบ] เมื่อเห็นว่ามันใช้แต้มแลกแค่ 1,000 แต้ม หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรง
ณ ขณะนี้ เขาสามารถแลกเปลี่ยนชิ้นส่วน [คุณสมบัติเลเวล 5 อย่างเต็มรูปแบบ] ได้ทุกเมื่อ ทุกอาชีพสามารถขึ้นเป็นเลเวล 5 ได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของซูเฉิน ที่ในปัจจุบันแทบไม่มีใครสามารถคุกคามได้ ดังนั้นหากรีบร้อนแลกเปลี่ยนมัน คงเป็นอะไรที่สิ้นเปลือง
เขาตัดสินใจที่จะสะสมแต้มพลังงานก่อน เก็บไว้แลกเปลี่ยนเทคนิคที่มีประโยชน์