80Y-ตอนที่ 51 ฝันร้ายยามค่ำคืน
จดหมายเปื้อนเลือดเผยให้เห็นถึงความน่ากลัวของทักษะกายหล่อเลี้ยง
ทุกคนต่างพากันด่าทอในเรื่องนี้
ในพระราชวังต้องห้าม หลินเทียนหยวน ได้ออกราชโองการ
มีเพียงคำที่เขียนสั้น ๆ เท่านั้น…
กำจัดเผ่าวิญญาณขุนเขา!
ประกาศิตนี้ล้วนได้รับเสียงเชียร์และการสนับสนุนจากประชาชน
ในที่สุดเรื่องทั้งหมดก็ได้รับการตัดสิน
หลินเทียนหยวน ได้สั่งกองทัพและทหารส่วนพระองค์ออกค้นหาสมาชิกของเผ่าวิญญาณขุนเขาในทันที หลังจากพบเห็น ให้พวกเขาทำการจับกุมและขุมตัวมายังเมืองหลวงของราชวงศ์
หลินเทียนหยวน ต้องการใช้ชีวิตและความตายของสมาชิกเผ่าวิญญาณขุนเขา ในการล่อ ราชาวิญญาณขุนเขาออกมา
…
ในตำหนักเย็น หลินจิ่วเฟิง และ เจ้าแมวขาว ได้ยินบทสนทนาที่มีชีวิตชีวาของผู้คนภายนอก
ภายใต้สถานการณ์ปกติ หลินจิ่วเฟิง จะไม่สนใจเรื่องใด ๆ จากโลกภายนอก เขาเพียงมุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะพลังในตำหนักเย็นเท่านั้น
แต่ทว่าตอนนี้ หลินจิ่วเฟิง อดไม่ได้ที่จะรับฟัง
เขาใช้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในการขยายการรับรู้ไปทั่วพื้นที่และรับฟังบทสนทนาจากโลกภายนอก จากนั้น หลินจิ่วเฟิง ก็รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เขายังได้รู้เนื้อหาในจดหมายเลือดอีกด้วย
เจ้าแมวขาวก็ทำแบบเดียวกันกับเขา มันได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก
หลังจากที่ บุรุษและแมวได้เข้าใจสถานการณ์แล้วพวกเขาก็เงียบไป
ทักษะกายหล่อเลี้ยง ถือเป็นทักษะที่ชั่วร้ายอย่างแท้จริง
แต่ราชาวิญญาณขุนเขานั้นร้ายยิ่งกว่า
ใครจะไปคิดว่าเขาจะมุ่งเป้าไปที่ชายชราที่อยู่ตัวคนเดียว
ซ้ำยังไม่ได้ฆ่าอีกฝ่ายกลับปล่อยให้อีกฝ่ายใช้ชีวิตเหมือนสุนัข
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการทำให้ชายชราอับอายขายขี้หน้า
หลังจากเข้าใจเนื้อหาของจดหมายเลือดแล้ว การแสดงออกของ หลินจิ่วเฟิง ก็เปลี่ยนไป
เขาได้พึมพัมออกมา“ดูเหมือนว่าข้าคงต้องเคลื่อนไหวด้วยตัวเองและฆ่าราชาวิญญาณขุนเขาตัวนี้!”
เขาคิดว่า หลินเทียนหยวน จะจัดการเรื่องนี้ได้ แต่ใครจะไปรู้ว่า ราชาวิญญาณขุนเขา จะเจ้าเล่ห์เพทุบายขนาดนี้?
ถ้าเขารู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้ หลินจิ่วเฟิง คงออกตามหาอีกฝ่ายโดยตรง
ไม่ว่าราชาวิญญาณขุนเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน-ตราบใดที่เขาให้ความสนใจอีกฝ่ายก็ไม่สามารถหลบหนีไปจากเมืองหลวงได้
เห็นได้ชัดว่า ตอนนี้ หลินจิ่วเฟิง กำลังโทษตัวเอง เจ้าแมวขาวได้ร้องออกมาและพยายามปลอบเขา
หลินจิ่วเฟิง ได้สั่นศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ ราชาวิญญาณขุนเขาได้หลบหนีออกจากเมืองหลวงแล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นเทพมนุษย์ ก็ยังยากที่จะหาคนผู้นี้ในภายหลัง
อีกฝ่ายจะลอยนวลไปได้งั้นหรือไม่?
…
เป็นเวลากว่า 7 วันแล้วนับตั้งแต่ที่ราชาวิญญาณขุนเขาได้หลบหนีไป
หลังจากเหตุการณ์จดหมายเลือดชายชราก็เสียชีวิตในที่สุด
แม้ว่าเขาจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้อีก 10 ปี แต่เขาก็เลือกที่จะจบชีวิตของตัวเอง
ทุกคนค่อย ๆ ลืมเรื่องนี้ไป
อย่างไรก็ตาม กองทัพของราชสำนัก ก็เดินทางออกไปจับวิญญาณขุนเขาทุกหนแห่ง
เมื่อใดที่พบตัวก็จะถูกพวกเขาจับมา
และนี่เป็นผลให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ได้ถึงความปลอดภัยในการกระทำของพวกเขา
แต่สำหรับ เผ่าวิญญาณขุนเขา นี่ถือเป็นหายนะ
กว่า 1,500 ปีแล้วนับตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของพวกเขา ตอนนี้ พวกเขาได้ไปสร้างความขุ่นเคืองให้กับมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบัน
ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา!
จำนวนปราชญ์การต่อสู้ภายใต้ร่มธงของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา เรียกได้ว่ามีเกินพันคน เผชิญหน้ากับขุมกำลังอันท่วมท้นเหล่านี้ แม้แต่ เผ่าวิญญาณขุนเขาก็ยากที่จะต่อกรได้
ดังนั้น ราชาวิญญาณขุนเขา จึงค่อนข้างวิตกกังวล
เขารีบออกเดินทางไปเพื่อหาบรรพบุรุษที่หลับใหลในเผ่าพันธุ์ของพวกเขา เพื่อต้องการขอความช่วยเหลือ
“มาดูกันว่าราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาของเจ้าจะสามารถต้านทานพลังบรรพบุรุษของเราเมื่อ 1,500 ปีก่อนได้หรือไม่!”ราชาวิญญาณขุนเขา กล่าวพูดด้วยความขุ่นเคือง
…
ในตอนกลางดึก หลินเทียนหยวน ได้ไปที่ตำหนักจักรพรรดินีเพื่อเข้าบรรทม
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความรักต่อจักรพรรดินี แต่หลังจากที่เขาได้มีปฏิสัมพันธ์กับนางมานาน เขาก็รู้ตัวว่าตนเองได้ทำร้ายจักรพรรดินีมากแค่ไหนจากการกระทำอันโง่เขลา
ดังนั้นเขาจึงเริ่มมาที่ตำหนักของนางทุกคืนและหลับนอนกับภรรยาคนแรกของเขา
หลังจากจัดการงานราชกิจยามดึกเสร็จแล้วเขาก็เข้าหลับนอนกับจักรพรรดินี
โดยปกติแล้ว หลินเทียนหยวน จะไม่เคยหลับใหลเลยหลังจากที่ทำงานราชกิจเสร็จ เขามักจะฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลา 1-2 ชั่วยาม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับรากฐานการบ่มเพาะพลังของตนเอง
แต่คืนนี้เขาได้เผลอหลับไปจริง ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่ หลินเทียนหยวน ได้นอนหลับลึกและผละออกจากความสนใจในการฝึกฝน
คืนนี้เขาไม่เพียงแต่ผล็อยหลับไปเท่านั้นแต่ยังฝันอีกด้วย
…
มันเป็นฝันร้าย!
ในความฝันของเขา หลินเทียนหยวน กำลังถูกมังกรชั่วร้ายไล่ตามอยู่
ความเร็วของมันรวดเร็วมากจนเกือบจะไล่ตามเขาทันและกลืนกินเขาไปทั้งตัว
เขาพยายามสู้กลับแต่ก็ไร้ประโยชน์
เขาได้ถูกฟาดโดยหางของมันจนกระแทกพื้นอย่างรุนแรงและกระอักโลหิตออกมา
ในตอนนี้เขาไม่สามารถต้านทานมันได้เลย…
มังกรได้ส่งเสียงออกมาเล็กน้อย“จักรพรรดิมนุษย์ ปล่อยสมาชิกเผ่าวิญญาณขุนเขาที่เจ้าจับไปซะ มิฉะนั้นข้าจะกลืนกินวิญญาณของเจ้า”
หลังจากพูดจบ มังกรก็พุ่งมากลืนกินร่างของหลินเทียนหยวนเข้าไปในทันที
เฮือกก!
ในห้องบรรทมตำหนักของจักรพรรดินี หลินเทียนหยวน ดีดตัวลุกขึ้นมาด้วยความตกใจ
ร่างของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ใบหน้าของเขาซีดและร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่ามีอะไรบางอย่างได้กลืนกินพลังชีวิตของเขาไปบางส่วน
“ฝ่าบาท เป็นอะไรหรือเพคะ?”จักรพรรดินีได้กล่าวถามเขาด้วยความเป็นห่วง
หลินเทียนหยวน ค่อย ๆ มองไปรอบ ๆ และนึกขึ้นได้“ข้า...ฝันร้าย”
จักรพรรดินีได้ทรงแนะนำ“ฝ่าบาททรงเหน็ดเหนื่อยกับงานราชกิจทุกวัน…”
“หม่อมฉันจะให้คนไปทำยาบำรุงมาให้พระองค์ ความฝันนั้นตรงข้ามกับความเป็นจริง เนื่องจากมันเป็นฝันร้ายหม่อมฉันคาดหวังในความเป็นจริงพระองค์จะต้องพบเจอกับสิ่งดี ๆ”
“พบเจอกับสิ่งดี ๆ ?”หลินเทียนหยวน อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
เขาไม่คิดอย่างนั้น
มังกรชั่วร้ายในฝันของเขาได้พูดถึงเผ่าวิญญาณขุนเขา
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาหมกมุ่นกับเรื่องนี้มากเกินไปจนเก็บไปฝัน?
หลังจากแสดงความขอบคุณต่อจักรพรรดินีแล้ว เขาก็ระงับความสงสัยในใจ
เขาได้พักผ่อนไปเล็กน้อยจากนั้นก็ขอตัวไปจัดการงานราชกิจต่อ
จนกระทั่งล่วงเลยผ่านไปถึงอีกคืนเขาก็พักอยู่ในห้องโถงใหญ่คนเดียว
เขาไม่คิดจะนอนแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงวางแผนที่จะจัดการงานราชกิจตลอดทั้งคืน
แต่ในช่วงครึ่งหลังของคืนนั้น แสงไฟก็เริ่มริบหรี่ลงเล็กน้อย
การแสดงออกของ หลินเทียนหยวน ได้เปลี่ยนไป
เขาเห็นใครบางคนกำลังเดินเข้ามาจากทางประตูห้องโถงใหญ่
คนที่มาปกคลุมไปด้วยเงามืดในมือถือกระบี่ยาวสีแดงเลือดและมีโลหิตไหลย้อยออกมา
ขณะที่อีกฝ่ายเดินเข้ามา เสียงฝีเท้าก็ได้ดังขึ้นเรื่อย ๆ
ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือด้านหลังของคนผู้นี้ คือทะเลโลหิตที่พลุ่งพล่าน
ขณะที่เขาเดิน ทะเลโลหิตนี้ก็กระจายตัวออกมาและคล้ายกับจะกลืนกินไปทั่วห้องโถงใหญ่
“จักรพรรดิมนุษย์ ดูเหมือนว่าเจ้าจะลืมคำเตือนของข้าเมื่อวานนี้งั้นสินะ”ชายผู้ที่ปกคลุมไปด้วยเงามืดได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ดวงตาของ หลินเทียนหยวน ได้เบิกกว้างขณะที่เขามองไปที่อีกฝ่ายด้วยความไม่เชื่อ
“ถ้าเจ้ายังไม่ปล่อยสมาชิกเผ่าวิญญาณขุนเขาที่จับมาได้ ข้าจะมาเอาชีวิตไร้ค่าของเจ้าในวันพรุ่งนี้!”
เงาดำได้ส่งเสียงเตือนก่อนที่จะฟันกระบี่ยาวสีแดงออกไป
กระบี่ยาวสีแดงได้พุ่งผ่านมาพร้อมกับกลิ่นอายโลหิต
หลินเทียนหยวน ไม่สามารถต่อต้านการโจมตีนี้ได้
เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย
บูม!
กระบี่เล่มนี้ได้แยก หลินเทียนหยวน ออกเป็นสองส่วน
ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงมาก ทำให้เขาสะดุ้งตื่นจากความกลัว
มันยังคงเป็นห้องโถงใหญ่ เขายังอยู่ในห้องโถงเหมือนเดิม แต่ หลินเทียนหยวน กลับรู้สึกว่าตนเองได้สูญเสียพลังชีวิตไปครึ่งนึง
“เผ่าวิญญาณขุนเขามันต้องการจะฆ่าข้า แต่ข้าไม่สามารถยอมแพ้ในเรื่องนี้ได้!”หลินเทียนหยวน กัดฟันแน่น
เขาค่อย ๆ รักษาบาดแผลบนร่างกายของตัวเอง
การโจมตีแบบนี้ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไป
การโจมตีที่เขาได้รับแม้ว่ามันคล้ายกับกำลังจู่โจมในความฝันแต่เขาดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากโลกความเป็นจริง
หลังจากหายดีแล้ว เขาก็ออกจากห้องโถงใหญ่
และมุ่งหน้าไปยังตำหนักเย็นทันที
เมื่อมาถึงหน้าตำหนักเย็น หลินเทียนหยวน ก็คุกเข่าลงกับพื้นและตะโกนออกมา“ท่านลุงโปรดช่วยเหลือข้าด้วย!”
หลินจิ่วเฟิง ได้โบกมือ ทันใดนั้นประตูตำหนักเย็นก็เปิดออก
เขาแปลกใจมากที่เห็น หลินเทียนหยวน ซึ่งดูเหมือนจะสูญเสียพลังชีวิตไปครึ่งนึงมาที่นี่
“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”หลินจิ่วเฟิง ได้กล่าวถาม
“ท่านลุง เป็นเผ่าวิญญาณขุนเขา พวกมันต้องการสร้างปัญหาและข่มขู่ให้ข้าปล่อยสมาชิกเผ่าวิญญาณขุนเขาที่จับมาได้”หลินเทียนหยวนได้ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
เขาอธิบายสถานการณ์ให้ หลินจิ่วเฟิง ฟัง
ในสองคืนก่อนหน้านี้ เขาได้สูญเสียพลังชีวิตไปมากกว่าครึ่ง
เขาราวกับคนป่วยที่ใกล้ตาย
หากฝันร้ายนั้นเกิดขึ้นอีก เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
“เผ่าวิญญาณขุนเขา!”ดวงตาของ หลินจิ่วเฟิง ได้ส่องประกายอย่างรวดเร็ว
“มันเป็นความสามารถในการส่งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่ความฝัน”เจ้าแมวขาวได้เขียนด้วยเล็บของมัน
มันรู้เกี่ยวกับการโจมตีอันแปลกประหลาดนี้
“เข้าสู่ความฝันด้วยจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือไม่? ดี ข้าจะสังหารจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของมันในคืนนี้!”
หลินจิ่วเฟิง ได้พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา