417 - ความพยายาม
417 - ความพยายาม
หลังจากที่จางโหย่วหรงออกจากสำนักหมอหลวงแล้ว เอี้ยนลี่เฉียงก็ใช้เวลาทั้งวันคิดถึงสิ่งที่จางโหย่วหรงพูดกับเขา
คำพูดที่จางโหย่วหรงกล่าว บุคคลที่สามารถเป็นปรมาจารย์ยันต์ได้ต้องเกิดมาพร้อมกับสิ่งที่แตกต่างจากคนทั่วไป บริเวณหน้าผากของพวกเขาจะต้องมีของสิ่งหนึ่งซึ่งถูกเรียกว่าดวงตาวิญญาณ…
ส่วนนั้นในสมองที่จางโหย่วหรงอ้างถึงนั้นมีชื่อที่รู้จักกันดีในชีวิตก่อนหน้าของเอี้ยนลี่เฉียงนั่นคือต่อมไพเนียล
ต่อมไพเนียลของปรมาจารย์ยันต์ต่างจากคนทั่วไป?
จากความรู้บางอย่างที่เอี้ยนลี่เฉียงได้อ่านทางอินเทอร์เน็ตเมื่อชาติก่อน ต่อมไพเนียลของบุคคลนั้นเป็นส่วนที่ลึกลับที่สุดในร่างกายมนุษย์
หลายคนบอกว่ามันซ่อนตาที่สามหรือตาสวรรค์ มันมีแง่มุมลึกลับมากมาย และในบริเวณนี้สิ่งต่างๆก็เหมือนกับที่จางโหย่วหรงกล่าวไว้
ปรมาจารย์ยันต์มีความสามารถสามารถแยกแยะผลึกของสัตว์อสูรที่มีความคล้ายคลึงกันมากที่สุดได้อย่างง่ายดาย
ดูเหมือนว่าการทดสอบในระดับที่หกของเจดีย์ผลึกในถ้ำกระบี่อาจเป็นการเลือกสาวกที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญยันต์จากทุกคนในนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์?
โดยธรรมชาติแล้วเขาไม่ใช่ปรมาจารย์ยันต์ หลังจากใช้เวลาสองสามวันที่ผ่านมาในเจดีย์ผลึก เขายังไม่พบความเป็นไปได้ใดๆที่จะเอาชนะการทดลองนี้
เอี้ยนลี่เฉียงต้องการที่จะยอมแพ้ให้กับเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามมีเสียงหนึ่งดังในจิตใจของเขาว่าเขาไม่อาจยอมแพ้ได้
นี่เป็นความรู้สึกที่ดังมาจากกระแสน้ำวนสีทองขนาดเล็กในจิตสำนึกของเอี้ยนลี่เฉียงในช่วงสองวันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามคำพูดของจางโหย่วหรงเตือนเอี้ยนลี่เฉียงว่าเขาสามารถพยายามย้ายกระแสน้ำวนสีทองออกจากจิตสำนึกของเขาแล้วส่งไปยังต่อมไพเนียลในสมองได้
หากกระแสน้ำวนสีทองนั้นมีผลคล้ายกับพลังปราณที่สำคัญ การทำเช่นนี้อาจทำให้ต่อมไพเนียลของเขาแสดงปฏิกิริยาลึกลับบางอย่างได้
อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงในเรื่องนี้ นี่คงเป็นสิ่งที่เอี้ยนลี่เฉียงคิดออกด้วยตัวเขาเอง และแม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจก็ตามแต่ก็ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
เขาก็ไม่มีอาจารย์ที่คอยชี้นำอยู่ด้านข้าง จะเกิดอะไรขึ้นหากมีผลกระทบด้านลบหลังจากที่เขาส่งกระแสน้ำวนสีทองเข้าไปในต่อมไพเนียลของเขา?
สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือถ้ากระแสน้ำวนสีทองระเบิดหลังจากที่มันไหลเข้าสู่ต่อมไพเนียลของเขาแล้ว เขาจะไม่ถูกฆ่าตายงั้นหรือ?
เอี้ยนลี่เฉียงยังคงเดินไปรอบๆลานของสำนักหมอหลวง คิ้วของเขาขมวดมุ่นเมื่อครุ่นคิดถึงคำถามนี้ เขาลืมกินแม้แต่อาหารกลางวันที่ถูกส่งเข้ามา
เอี้ยนลี่เฉียงตัดสินใจแล้วว่าเขาจะทดลองทุกสิ่งทุกอย่างภายในอาณาจักรสวรรค์ หากความพยายามล้มเหลวกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือเขาตายในอาณาจักรสวรรค์และอาณาจักรจะล่มสลาย
และถ้าเขาทำสำเร็จก็จะมีประโยชน์สองอย่างอย่างแรกคือเขาสามารถผ่านด่านทดสอบที่ระดับหกของเจดีย์ผลึกได้และเขาอาจจะได้รับรางวัลมหาศาล
เขาสามารถเป็นปรมาจารย์ยันต์และได้รับสถานะพิเศษในนิกายกระบี่ศักสิทธิ์
ประโยชน์ประการที่สองคือ เมื่อเขาประสบความสำเร็จในอาณาจักรสวรรค์ ไม่ว่ารางวัลอะไรที่เขาได้รับในอาณาจักรสวรรค์จะได้รับรางวัลในชีวิตจริงเช่นกัน
หากเขาสามารถเป็นปรมาจารย์ยันต์ในแดนสวรรค์ได้ เขาก็จะสามารถได้รับมันในโลกแห่งความเป็นจริงเช่นกัน
นี่เป็นเหมือนการวางเดิมพันครั้งใหญ่ ถ้าเขาแพ้เขาจะแพ้อย่างหมดรูป แต่หากเขาชนะเขาจะได้รับรางวัลมากมายมหาศาล
เขาควรจะเดิมพันกับมันหรือไม่?
เอี้ยนลี่เฉียงคิดเรื่องนี้อยู่ครึ่งวันก่อนที่เขาจะตัดสินใจเสี่ยงโชคในที่สุด เป็นเพราะเขาเคยประสบกับความทุกข์ยากอันน่าสะพรึงกลัวที่จะเกิดขึ้นในอีกสี่ปีต่อมา
เอี้ยนลี่เฉียงพอใจมากที่ได้รู้เกี่ยวกับความทุกข์ยากในอนาคต ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนมากมายและแม้แต่อาณาจักร ฮั่นอันยิ่งใหญ่ทั้งหมด
ไม่ว่าสิ่งต่างๆจะออกมาเป็นอย่างไรเขาจะไม่สูญเสีย แม้ว่าความพยายามของเขาในอาณาจักรสวรรค์จะล้มเหลวเขาอาจไม่จำเป็นต้องตาย
ความตายจะเป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุด และบางทีเขาอาจจะถูกธาตุไฟเข้าแทรกเท่านั้นและน่าจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้
อย่างไรก็ตาม มันไม่ง่ายเลยที่จะลองใช้วิธีนี้ในอาณาจักรสวรรค์เช่นกัน เป็นเพราะสมองของเขาไม่มีกระแสน้ำวนสีทองเล็กๆ ดังนั้นเขาต้องสร้างมันขึ้นมาก่อน
เขาเป็นคนเดียวที่อยู่ในชั้นหกของเจดีย์ผลึก คนอื่นเข้ามาไม่ได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาต้องทำอะไรเพื่อให้เกิดผลเช่นนั้น?
เอี้ยนลี่เฉียงยังคงคิดเกี่ยวกับคำถามนี้และเดินไปสองสามร้อยก้าวในลานบ้านจนกระทั่งถึงค่ำคืนโดยไม่รู้ตัว เอี้ยนลี่เฉียงซึ่งยังคงเดินไปมาที่ลานบ้านจู่ๆก็รู้สึกเย็นชาบนใบหน้าของเขาและกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
เอี้ยนลี่เฉียงเงยหน้าขึ้นมองขึ้นไปบนฟ้า เขาตระหนักว่าโดยไม่รู้ตัว ท้องฟ้าในเมืองหลวงของจักรวรรดิถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำมืดแล้ว ในขณะที่น้ำฝนกำลังตกลงมาอย่างแผ่วเบา
“รองผู้จัดการเอี้ยน ระวังอย่าให้เปียกฝน! หมอหลวงได้สั่งเมื่อวานนี้เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุอื่นๆเกิดขึ้น!”
หลี่น้อยวิ่งเข้ามาอย่างกังวลใจพร้อมกับร่มเพื่อปกป้องเอี้ยนลี่เฉียงจากสายฝน ขณะที่เขาพาเอี้ยนลี่เฉียงกลับเข้าไปในศูนย์พักพิง
เอี้ยนลี่เฉียงมุ่งหน้าเข้าไปข้างใน ทันใดนั้นฝนก็ตกหนักขึ้นและเปียกโชกไปทั่วทั้งลานบ้าน เอี้ยนลี่เฉียงเงยหน้าขึ้นมองดูน้ำฝนที่หยดลงมาจากหลังคาจู่ๆก็มีความคิดแวบเข้ามาในหัวเมื่อเขา
"อาหารเย็นพร้อมแล้วรองผู้จัดการเอี้ยน ท่านไม่ได้กินอะไรเลยในตอนเที่ยงดังนั้นต่อให้ท่านไม่หิวท่านก็ต้องกินบ้าง ถ้ากงกงรู้ว่าข้าไม่ได้ดูแลท่านอย่างดี กงกงจะถลกหนังข้าทั้งเป็นอย่างแน่นอน!” หลี่น้อยพูดอย่างขมขื่นกับเอี้ยนลี่เฉียง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ข้ารู้แล้วว่าต้องทำอะไรตอนนี้…”
เอี้ยนลี่เฉียงก็หัวเราะออกมาดังๆแกว่งแขนไปมาในขณะที่เขาตะโกนและกระโดดไปรอบๆทางเดิน เขาทำให้หลี่น้อยตกใจ
“รองผู้จัดการเอี้ยน ท่านสบายดีไหม…?”
“ข้าสบายดี ข้าสบายดี นำอาหารเย็นมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ข้าอยากนอนพักผ่อนหลังจากทานอาหารเสร็จ…”
เอี้ยนลี่เฉียงพูดอย่างมีความสุข เขาคิดได้แล้วว่าเขาจะดึงกระแสน้ำวนสีทองออกมาบนชั้นหกของเจดีย์ผลึกได้อย่างไร…
(บ่ายๆลงให้อีกครับ)