355-356
9/10
Ep.355
ไม่มีเสียงแมลงวันบินข้างหู ซูเฉินรู้สึกสดชื่นขึ้นมาก
ต่อมา เขาได้นำ [เตาอเนกประสงค์] และเนื้อสัตว์กลายพันธุ์ออกมา ขอให้หยางฮ่าวช่วยเตรียมอาหาร
ไม่นาน กลิ่นเนื้อย่างก็อบอวลไปทั่วรถ
แต่ขณะที่ทุกคนกำลังกินกันอย่างเอร็ดอร่อย จู่ๆก็มีเสียงเอะอะดังขึ้นจากภายนอก ผู้มาเยือนในครั้งนี้คือทหารในชุดเกราะกลุ่มใหญ่ จำนวนราวๆสองสามร้อยนาย
แถมสถานการณ์ตอนนี้ยิ่งมีคนมุงดูมากขึ้นไปอีก รถศึกถูกล้อมเป็นวงกลม ขยายออกไปหลายขั้น
ซูเฉินรู้ดี ว่าทหารรักษาการณ์ของเมืองทงเทียนคงทราบข่าวและมาเพื่อสร้างปัญหา
“เจ้าคนอุกอาจ! กล้าดียังไงมาฆ่าคนแถมยังอาละวาดในเมืองทงเทียน? ยังไม่รีบไสหัวออกมาอีก!”
ระหว่างนั้นเอง ท่ามกลางเหล่าทหารรักษาการณ์ ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าคมกริบเหมือนดาบ แหกปากคำรามเข้าไปใน [รถศึกอัจฉริยะ]
ซูเฉินปาดจมูกเขา เดินถือเนื้อเสียบไม้ลงจากรถ
เมื่อชายใบหน้าคมกริบเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มเดินลงมา ท่าทีของเขาก็ยิ่งเย่อหยิ่งยิ่งกว่าเดิม เหยียดแขนไปชี้ศพของชายคนแรกแล้วถามเสียงเข้ม “แกเป็นคนฆ่าเขาใช่ไหม?”
ซูเฉินกัดเนื้อย่างชิ้นล่างสุด แล้วรูดทั้งหมดเข้าปากในคำเดียว เคี้ยวไม่กี่ครั้งก็กลืนมันลงพร้อมพยักหน้า “เออ ฉันเป็นคนฆ่ามันเอง”
มองไปยังท่าทีมั่นอกมั่นใจไม่หวาดกลัวใดๆของซูเฉิน ชายหน้าคมขมวดคิ้วเล็กน้อย เสียงขอเขาเริ่มเย็นลง “เจ้าหนู แกมันบ้าไปแล้ว! กล้าฆ่าคนในเมืองทงเทียน รู้ไหมว่าผลที่ตามมาคืออะไร?”
เมื่อเนื้อย่างลงเต็มกระเพาะ ซูเฉินเรอออกมา กล่าวเยาะหยัน “ก็แค่แมลงวันตัวหนึ่งบินเข้ามา ฉันก็เลยบี้มันตาย และถ้าแกยังไม่รีบถอยออกจากรถ เดี๋ยวแกก็จะมีสภาพไม่ต่างจากมัน”
“บังอาจ!”
ชายหน้าคมโพล่งออกมาด้วยความโกรธ สังหารคนในเมืองทงเทียนอย่างป่าเถื่อนไม่พอ ยังกล้าอวดดีแบบนี้อีก
เดิมเขายังมีเรื่องอยากจะถาม แต่ตอนนี้ช่างหัวแม่งแล้ว
เพราะเขาหงุดหงิดเต็มที ขอระเบิดอารมณ์ให้สาแก่ใจเลยแล้วกัน
“เจ้าหนู วันนี้ฉันจะสอนวิธีการพูดและประพฤติตัวให้เป็นผู้เป็นคนฉบับเมืองทงเทียนให้แกเอง!”
ชายหน้าคมพับแขนเสื้อขึ้น ก้าวออกไปข้างหน้า เตรียมมอบบทเรียนให้ซูเฉิน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร ทหารรักษาการณ์คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก กระซิบข้างหูเขาสองสามคำ
“แน่ใจนะว่าข่าวไม่ผิดพลาด?”
หลังจากฟังจบแล้ว ใบหน้าของชายหน้าคมคล้ายยังไม่เต็มใจเชื่อ
“หัวหน้า เป็นเรื่องจริง!” ทหารรักษาการณ์พยักหน้าหนักแน่น
ชายหน้าคมสูดหายใจลึก ก่อนหันมามองซูเฉินด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอบนใบหน้า “ผู้อาวุโส นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้”
ก่อนหน้านี้เขายังจองหองอยู่เลย แต่ชั่วพริบตาเดียวกลับพลิกลิ้นเสียแล้ว จากหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นเคารพและยำเกรง
การแสดงออกที่เปลี่ยนไปกะทันหันนี้ สร้างความสับสนแก่ทหารรักษาการณ์ที่มุงดูอยู่รอบๆ
ทุกคนเกิดความสับสน เริ่มกระซิบกระซาบถึงกัน
“สถานการณ์นี่มันอะไร? เหตุใดหัวหน้าถึงยอมรามือ?”
“เพ้ย! แกไม่รู้แล้วฉันจะรู้ไหม? หรือว่าเจ้าเด็กนั่นมีภูมิหลังไม่ธรรมดา?”
“แต่ไม่ว่าเขาจะใหญ่โตแค่ไหน ก็ไม่น่าถึงขั้นกล้าลงมือฆ่าคนในเมืองทงเทียน-”
…
“คิดจะมาก็มา พออยากไปก็แค่บอกว่าไปงี้หรอ? ไม่คิดหรือว่าทำแบบนี้มันทำให้ฉันเสียหน้า?” ซูเฉินยิ้มเยาะ
การเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่ใช่แค่ให้คนทั่วไปเห็นเท่านั้น
แต่ยังเป็นการเตือนให้ผู้แข็งแกร่งในเมืองทงเทียนรับรู้ด้วย
ว่าฉันซูเฉินอยู่ที่นี่แล้ว! พวกเอ็งทุกตัวจงไสหัวไปให้บิดา!
แต่ถ้าใครไม่มีสมอง ก็เตรียมจ่ายราคาด้วยชีวิตได้เลย!
สำหรับชายหน้าคมคนนี้ เขาอวดดีเกินไป แม้โทษจะไม่ถึงขั้นต้องตาย แต่ก็ควรลงโทษให้หลาบจำเสียบ้าง
“ผู้อาวุโส ไม่ทราบต้องการให้ผู้น้อยรับผิดอย่างไร?” มุมปากของชายหน้าคมสั่นเทา
ริมฝีปากซูเฉินโค้งงอ กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “เพื่อให้แกหลาบจำ ขอลงโทษเล็กๆน้อยๆก็พอแล้ว หักแขนข้างหนึ่ง แล้วตบปากตัวเองร้อยครั้ง แล้วจะได้กลับไปแบบมีชีวิต”
ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา บังเกิดความโกลาหลไปทั่ว
นรกเถอะ!
มีคนกล้าข่มขู่หัวหน้าทหารรักษาการณ์เมืองทงเทียนด้วย!?
แถมยังสั่งให้หักแขนตัวเองพร้อมตบปากถึงจะให้อภัย?
เจ้าหนุ่มนั่นเสียสติไปแล้วรึไง? ใครมันจะไปยอมทำ?
เหอ เหอ แทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นจุดจบของเจ้าเด็กอวดดีนี่ซะแล้วสิ
ฝูงชนตะลึงลานกับคำพูดของซูเฉิน
ชั่วเวลานี้ ทั้งหมดต่างเห็นพ้องต้องกัน ว่าซูเฉินคงมิแคล้วพบจุดจบน่าอนาถ
10/10
Ep.356
สีหน้าของชายหน้าคมกลายเป็นปั้นยาก เขายืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่พูดไม่จาอะไรซักคำ ราวกับว่ากำลังตกอยู่ในห้วงความสับสนลังเลอย่างลึกล้ำ
เหตุผลที่เขารีบจะจากไป เพราะเขาได้รับข่าวว่ามีผู้แข็งแกร่งจากนิกายวูหยิน ถูกสังหารหมู่ในโรงแรมห่าวเยว่
และผู้ร้ายก็คือชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าเขาคนนี้เอง
แม้แต่ถงฉวนที่เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ก็ถูกสังหาร นั่นสามารถคาดการณ์ได้ว่า ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขา อย่างน้อยต้องเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4
ในขณะที่ชายหน้าคมเป็นแค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 เท่านั้น แล้วจะไปต่อกรกับผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ได้อย่างไร?
เห็นชายหน้าคมเงียบ ซูเฉินเริ่มหมดความอดทน แค่นเสียงเย็น “ความอดทนของฉันมีจำกัด!”
ใบหน้าของชายหน้าคมสั่นสะท้าน เขารู้ดีว่าหากเขาไม่ทำอะไรเลย ชีวิตของเขาคงจบสิ้นลงแค่นี้
เมื่อคิดได้ เขากัดฟันและหักแขนข้างหนึ่งทันที ฝึนทนต่อความเจ็บปวด และเริ่มตบหน้าตัวเองอย่างแรง
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ..!
ทุกฉาดเสียงดังฟังชัด แสดงให้เห็นว่าเป็นการตบแบบเต็มกำลัง ไม่มีการยั้งมือแม้แต่น้อย
ชั่วพริบตานั้นเอง คราบเลือดย้อยลงมาจากมุมปากเขา ใบหน้าครึ่งหนึ่งเริ่มปูดบวม
“หัวหน้า! นั่นคุณกำลังทำอะไร????”
หทารรักษาการณ์ทุกคนตกตะลึง
หัวหน้าที่มักหยิ่งทะนงและเผด็จการ กลับเริ่มทำร้ายตัวเองเพียงเพราะคำขู่ของอีกฝ่าย?
นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?
คนรอบข้างยิ่งมองยิ่งงุนงงสงสัย
พวกเขายังเกิดความรู้สึกว่าฉากตรงหน้าไม่ใช่เรื่องจริง
หัวหน้าทหารรักษาการณ์ ทั้งๆที่อยู่บนสนามหญ้าของตัวเอง กลับถูกชายหนุ่มจากภายนอกบังคับขู่เข็ญจนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ความสมเหตุสมผลมันอยู่ที่ไหน?
ความน่าเกรงขามของเมืองทงเทียนไปอยู่ที่ไหนแล้ว?
หากเรื่องนี้แพร่กระจายอกไป พวกเขาจะไม่ถูกขุมกำลังอื่นหัวเราะเยาะเอาหรือ?
น่าเศร้าใจนัก! เมืองทงเทียนมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
อีกด้านหนึ่ง ชายหน้าคมยังคงตบหน้าตัวเองไม่หยุด
สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์และสายตาอันแปลกประหลาดของผู้ชมที่กำลังมองมา เขาไม่สนใจ
ให้ตายเถอะ! ศักดิ์ศรีบ้าอะไร? หน้าตานับเป็นสิ่งใด?
เมื่อเทียบกับชีวิตน้อยๆแล้ว พวกมันไม่มีค่าอะไรเลย
เมื่อเห็นชายหน้าคมรู้งาน ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ถ้าแกตบครบ 100 ครั้งเมื่อไหร่ ก็กลับไปได้เลย”
สิ้นเสียง เขาก็กวาดมองไปรอบๆ แค่นเสียงเย็น “พวกแกทุกคนที่กำลังดูอยู่ รีบไสหัวออกไปให้หมด ถ้ากล้ามารวมตัวกันอีก ฉันจะฆ่าไม่ให้เหลือ!”
ระหว่างกล่าว ซูเฉินปลดปล่อยแรงกดดันออกไป โถมกดฝูงชนจนหายใจไม่ออก
ผู้ชมถึงค่อยตระหนักว่าแท้จริงแล้วซูเฉินคือผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังของจริง
พวกเขาหวาดกลัวจนต้องก้มหัวลง เริ่มหันหลังวิ่งหนีไป
มีศพกองหนึ่งและชายหน้าคมเป็นบทเรียนตรงหน้า หากยังกล้าอยู่ที่นี่ต่อ เกรงว่าพวกเขาคงถูกฆ่าตายด้วย
เฝ้ามองฝูงชนแตกฮือจากไป ซูเฉินกลับเข้ามาในรถ กินบาร์บีคิวกับทุกคนต่อ
ส่วนชายหน้าคม เขายังคงตบหน้าตัวเองอยู่
รอจนเสียงดังครบร้อยครั้ง เขาก็ก้มหัวให้ซูเฉินข้างในรถ แล้วนำกลุ่มลูกน้องจากไป
หลังจากกินดื่มกันจนอิ่มหนำ ซูเฉินก็หยิบทีวีสีออกมา ใส่แผ่นซีดีลงไป เริ่มฟังเพลง
เดิมที เขาคิดว่าเมืองทงเทียนจะส่งคนมาสร้างปัญหาอีก
แต่รออยู่หลายชั่วโมง ก็ยังไม่เห็นมีใคร
“เมืองทงเทียนอดทนอดกลั้นได้ถึงขนาดนี้เชียว?” ซูเฉินเบ้ปากเล็กน้อย
รู้ใช่ไหม ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
ไม่ต้องกล่าวถึงการนำรถฐานทัพเข้ามาในเมือง แต่ยังมีการฆ่าผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะตัวแทนจากเมืองทงเทียน
แล้วแบบนี้เมืองทงเทียนยังทนอยู่ได้อย่างไร? หรือว่าพวกเขากลัวตายกันจริงๆ?
ซูเฉินไม่เข้าใจ แต่ไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิดให้เสียเวลา
จากนั้น เขาก็หาที่นอนพักผ่อน
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยตลอดชั่วข้ามคืน เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ซูเฉินแหกขี้ตาแต่เช้า เริ่มเตรียมอาหารให้ทุกคน
วันนี้เป็นวันเปิดงานประมูล แต่ยังเหลือเวลาอีกสองสามชั่วโมงก่อนเริ่ม
ระหว่างรอ งั้นก็ขอเติมกระเพาะให้อิ่มท้องก่อนแล้วกัน