353-354
7/10
Ep.353
ซูเฉินทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง และค่อยๆหลับตาลง
ส่วนเรื่องที่ว่านิกายวูหยินจะมาแก้แค้นหรือไม่? เขาไม่สนใจเลย
ตราบใดที่อีกฝ่ายกล้ามา ต่อให้ยกโขยงกันมามากแค่ไหน เขาก็สามารถฆ่าพวกมันได้
หวู่หยางกับหยางหลิงเทียนเองก็ไม่สนใจเช่นกัน พวกเขาเห็นเรื่องแบบนี้บ่อยจนชินชาแล้ว ไม่รู้สึกตื่นตระหนกใดๆ
สิบนาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นนอกห้องอีกครั้ง
เสียงฝีเท้ายังใกล้เข้ามาไม่ถึงห้อง เสียงคำรามด้วยความโกรธก็ลอดช่องประตูเข้ามา “ไอ้หน้าไหนที่รีบร้อนอยากไปเยี่ยมยมบาล บังอาจฆ่าคนของพวกเรานิกายวูหยิน รีบไสหัวออกมาและรับโทษตายซะ!”
ซูเฉินส่งเสียงฮึในลำคอ ผุดลุกขึ้นเดินไปที่ประตูห้อง
ทันทีที่เปิดประตู ก็พบว่าบนทางเดินเต็มไปด้วยผู้คน อย่างน้อย 30 - 40 คน แต่ละคนหน้าตาดุร้าย สายตาที่จ้องมองมายังซูเฉินเต็มไปด้วยความโกรธ
หยางฮ่าวและคนอื่นๆได้ยินเสียงเอะอะ พวกเขาเดินออกมาจากประตูเช่นกัน ก้าวมายืนอยู่ข้างๆกายซูเฉิน
“เจ้าหนู แกใช่ไหมที่เป็นคนฆ่า!”
ฝั่งตรงข้าม ชายชราหน้าเหี่ยวเหมือนเปลือกไม้ กวาดสายตามองซูเฉิน เอ่ยถามด้วยความเย็นชา
ซูเฉินปาดจมูกเขา เอ่ยอย่างเฉยชา “ถ้าหมายถึงได้ขยะสามตัวนั่นล่ะก็ ..ใช่! ฉันนี่แหละเป็นคนฆ่าพวกมันเอง”
มองไปยังท่าทางมั่นใจเหมือนไม่หวาดกลัวใดๆเลยของซูเฉิน ความโกรธของชายชราปะทุขึ้นมาทันที “ฆ่าสหายนิกายวูหยินของเรา อาชญากรรมนี้ชั่วร้ายเป็นอย่างยิ่ง! จงเลือกมา ว่าจะฆ่าตัวตายเอง หรือบังคังให้ฉันลงมือ?”
“ไปขู่ลุงข้างบ้านแกเถอะ! กล้าพูดกับพี่เฉินแบบนี้ได้ยังไง?” เฉาหรานอดไม่ไหวต้องสบถออกมา
สือต้าหนิวพ่นลมหายใจเย็นชา แสดงท่าทีหยามเหยียด “ไอ้แก่ กล้าล่วงเกินพี่ใหญ่เฉิน เชื่อไหมว่าฉันจะใช้ค้อนทุบแกจนตาย!”
“สามหาว!”
ข้างๆชายชรา ชายวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะสีขาวตวาดลั่น ชี้นิ้วไปทางสือต้าหนิวและเฉาหราน ด่ากลับมาว่า “พวกแกสองคนมีตาแต่หามีแววไม่! รู้รึเปล่าว่าเขาคือใคร? เขาคือผู้อาวุโสถงฉวนแห่งนิกายวูหยิน!”
“ผู้อาวุโสถงฉวนคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 มีตำแหน่งสูงส่งในนิกายวูหยิน ยังไม่รีบคุกเข่าขอขมาอีก!?”
สือต้าหนิวกับเฉาหรานเบ้ปาก มองไปทางซูเฉิน
ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เขาทั้งสองไม่สามารถรับมือได้ก็จริง แต่ในสายตาของซูเฉิน อีกฝ่ายมิใช่เป็นแค่มดปลวกหรอกหรือ?
ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 มีสิทธิ์อะไรมาร่ายรำง้าวเขี้ยวมังกรต่อหน้ากวนอูเช่นซูเฉิน?
พวกแกมีคุณสมบัติพอหรือ?
ซูเฉินกระแอมเบาๆ กล่าวประชดประชัน “ขนาดเตียวหลงแห่งนิกายวูหยินยังเป็นแค่ขยะในสายตาฉัน แล้วพวกแกนับเป็นตัวอะไร!”
ทันทีที่เขาเปล่งประโยคนี้ออกมา ทั่วทั้งทางเดินตกอยู่ในความเงียบสงัด
สมาชิกของนิกายวูหยินตะลึงงัน กระทั่งพนักงานที่มาพร้อมกับพวกเขา ยังตกตะลึงจนสติหลุดลอย
ซูเฉินกล้าพูดแบบนั้นได้อย่างไร? บ้าบิ่นเกินไปแล้ว!
ท่านเตียวหลงคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 อีกทั้งยังเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในเขตหยูหลิน
แต่คนผู้นั้นกลับเป็นขยะในสายตาซูเฉินอย่างไม่คาดฝัน
นี่สินะคือคุณสมบัติของคนบ้า กระทั่งท่านเตียวหลงก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 รึไง?
ไม่สิ ต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 จริง ก็ไม่น่าจะพูดจาก้าวร้าวถึงขนาดนี้
กึ้ดดด!
ถงฉวนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ขณะนี้ ความโกรธของเขาได้ทะลุขีดจำกัดแล้ว
นับแต่เข้าร่วมนิกายวูหยิน เขาไม่เคยดูหยามกันต่อหน้าต่อตาแบบนี้มาก่อน
แล้วอีกอย่าง ที่หยามเขายังเป็นแค่เด็กขนไม่ขึ้นไม่กี่คน!
เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว! ร้องคำรามทันใด “ฆ่าพวกมัน!”
ในพริบตาเดียว ผู้คนนับสิบวูบวาบผ่านร่างเขาจากเบื้องหลัง ทั้งหมดกรูกันเข้าสังหารซูเฉิน
“ช่างไม่รู้จักประมาณตน!”
ซูเฉินแค่นเสียงในลำคอ ชกหนึ่งหมัดออกไป
พลังงานอันรุนแรงบ้าคลั่งดั่งมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ กวาดไปข้างหน้า
บังเกิดเสียงดังอึกทึก
สามสี่คนที่วิ่งออกมาก่อน ถูกระเบิดเป็นเศษเนื้อ
“ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 !”
ดวงตาของถงฉวนเบิกกว้าง เกือบจะฉี่ราดด้วยความตกใจ
ชายวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะสีขาวข้างๆเขา เวลานี้ทั้งร่างสั่นสะท้าน อ้อนวอนขอชีวิต “ผู้อาวุโส ฉันเป็นคนของเมืองทงเทียน โปรดเมตตาด้วย”
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 เขาตระหนักดี ว่าต่อให้ทุกคนในที่นี้ร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถสู้ได้
หากต้องการรอดชีวิต มีเพียงต้องได้รับการให้อภัยจากซูเฉินเท่านั้น
8/10
Ep.354
ซูเฉินไม่สนไม่แคร์ว่าศัตรูมาจากขุมอำนาจไหน ตราบใดที่พวกมันเคยปล่อยจิตสังหารใส่เขา เขาไม่มีทางยอมเมตตา
[ดาบเสริมมนตรา] ฟาดฟันไปข้างหน้าใบมีดสายลมยักษ์สีเทากวาดผ่านไป
“อ๊าาาา!”
เสียงกรีดร้องบีบหัวใจดังสะท้อนไปทั่วทางเดิน
เมื่อเสียงเหล่านั้นหยุดลง ทั่วทั้งทางเดินก็ถูกปูไปด้วยชิ้นส่วนมนุษย์
นอกจากพนักงานแล้ว ทุกคนจากนิกายวูหยิน รวมถึงตัวแทนจากเมืองทงเทียน ล้วนถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุ
“นี่ …”
พนักงานเหม่อมองไปยังทางเดินที่บัดนี้ดั่งเส้นทางสู่ขุมนรก ร่างเขาสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม
เขาเป็นแค่คนธรรมดา แล้วจะเคยเห็นฉากอันน่าสยดสยองเช่นนี้มาก่อนได้อย่างไร?
ชั่วขณะนี้ หัวใจเขาแทบหยุดเต้น ทั้งคนทั้งร่างแข็งทื่อคล้ายกลายเป็นหิน
“ไปเถอะ พวกเราคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว เปลี่ยนที่พักกัน” ซูเฉินส่ายหัว ก้าวนำออกไป
ทางเดินเต็มไปด้วยกลิ่นฉุนของเลือด เรื่องนี้ส่งผลต่อบรรยากาศในที่พักอย่างร้ายแรง และเขาไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป
เดินออกจากประตูโรงแรมห่าวเยว่ ซูเฉินมุ่งหน้าไปยังที่ว่างมุมหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป และนำ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา
ด้วยความวุ่นวายที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ คนจากเมืองทงเทียนและนิกายวูหยินย่อมไม่ยอมรามืออย่างแน่นอน
หากเข้าพักในโรงแรมต่อไป เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ดังนั้นเขาตั้งใจจะพักผ่อนใน [รถศึกอัจฉริยะ]
อย่งาไรก็ตาม เมืองทงเทียนมีกฏข้อบังคับอย่างชัดเจน ว่าไม่อนุญาตให้ยานพาหนะของขุมกำลังอื่นเข้ามา
การที่ซูเฉินนำ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ ถือเป็นการท้าทายเมืองทงเทียนอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่แล้วไง?
เมื่อครู่เขาได้สังหารตัวแทนของเมืองทงเทียนไปแล้ว ฉะนั้นยังต้องมามัวสนใจกฏระเบียบอยู่อีกหรือ?
หากคนในเมืองทงเทียนไม่รู้จักกาลเทศะ กล้าทวงถามปัญหาจากเขา
สุดท้ายก็จะพบหายนะครั้งใหญ่เหมือนเช่นเมืองจิงกังในอดีต
หลังจาก [รถศึกอัจฉริยะ] เพิ่มความยาวเป็น 20 เมตร ซูเฉินและคนอื่นๆก็เข้าไปในรถ
แม้ว่าสถานที่ที่เขาเลือกจะค่อนข้างห่างไกล แต่ก็ยังดึงดูดความสนใจของผู้ที่สัญจรไปมา
หลายคนรวมตัวกันรอบๆ [รถศึกอัจฉริยะ] ชี้ไม้ชี้มือ
“รถฐานทัพคันนี้สวยจัง! เศรษฐีคนไหนกันที่เป็นเจ้าของ? ว่าแต่รถฐานทัพสามารถใหญ่ได้ขนาดนี้เลยหรอ?”
“สวยบ้าบออะไร! อย่าลืมสิว่าเมืองทงเทียนไม่อนุญาตให้รถฐานทัพคันอื่นเข้ามา เจ้าหมอนี่ทำแบบนี้ อีกเดี๋ยวคงต้องพบกับความโชคร้าย”
“นายพูดถูก เจ้าของมันคงบ้าไปแล้วแน่ๆ กล้าขับรถฐานทัพเข้ามา เดี๋ยวคงได้เห็นดีกัน”
ซูเฉินรู้สึกรำคาญกับเสียงข้างนอกมากๆ เปิดประตูรถดังผัวะ ตะโกนว่า“มีอะไรน่าสนใจนัก? ไสหัวไปให้พ้น!”
เมื่อคำนี้หลุดออกมา ก็สร้างความขุ่นเคืองให้ฝูงชนทันที
ให้ตายเถอะ!
ที่นี่คืออาณาเขตของเมืองทงเทียน แล้วแกเป็นใครถึงกล้าอวดดีแบบนี้?
แกคิดว่าเมืองทงเทียนเป็นบ้านตัวเองรึไง?
แค่มุงดูก็ผิดหรือ? กล้าดียังไงมาด่าพวกเรา?
บังอาจคุกคามประชากรในเมืองทงเทียน จักต้องได้รับโทษทัณฑ์สูงสุด และอาจถึงขั้นจบชีวิตลงเลยก็ได้
เมื่อคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกแน่ๆ ชาวเมืองที่มุงดูก็ไม่สนคำขู่ของซูเฉิน ยังคงยืนเฉย และมีหลายคนเริ่มตะโกนด่าสาปแช่งเขา
ชายกำยำหน้าบึ้งตึง ชี้หน้าซูเฉิน ตะโกนเสียงเย็นว่า “ไอ้ลูกหมา แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? บิดาไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น! อยากรู้เหมือนกันแกจะทำอะไรฉันได้? แน่จริงก็กระดิกหางเข้ามากัดฉันสิวะ!”
ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง เขารู้ดี ว่าถ้าไม่เชือดไก่ให้ลิงดู คนพวกนี้ไม่มีทางจากไป
“ฉันคงไม่ไปกัดแกหรอก --แต่จะฆ่าแกแทน!”
หลังจากแค่นเสียงเย็น ซูเฉินก็ปลดปล่อยพลังจิตออกมา บีบร่างของชายคนนั้นไม่ต่างจากบิดผ้าเปียก เปลี่ยนพื้นที่ใต้เท้าเขากลายเป็นแอ่งเลือดในทันที
“กรี๊ดดดด! เขากล้าฆ่าคน!”
“แต่เขาทำได้อย่างไร? ฉันไม่เห็นเขาขยับตัวเลยสักนิด”
“หยุดพูดเถอะ เผ่นเร็ว เจ้าหมอนี่มันโหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป!”
เห็นซูเฉินเอ่ยปากว่าจะฆ่าก็ฆ่าทันที อารมณ์ดุร้ายเช่นนี้ ฝูงชนที่มุงดูต่างหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ เตลิดหายไปเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย