349-350
3/10
Ep.349
ทันใดนั้น ชิ้นส่วนสิบชิ้นก็ตกลงมาจากกลางอากาศพร้อมกับ [อุกกาบาตเพลิงปฐพี]
เห็นภาพนี้ มุมปากของซูเฉินยกสูงขึ้นเล็กน้อย สัมผัสแห่งความสุขปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆบนใบหน้าเขา
เหตุผลน่ะหรือ ก็หลังจากสังหารพวกต่างเผ่าแล้ว ชิ้นส่วนดรอปลงมาถึงสิบชิ้นไหนจะเรื่องพลังของ [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] ที่ได้รับการพิสูจน์จนมั่นใจแล้วอีก แล้วแบบนี้จะไม่ให้มีความสุขได้อย่างไร?
เมื่อเทียบกับ [หินบดดาราเทียนกัง] ดูเหมือนว่า [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] จะมีพลังทำลายล้างมากกว่า
ซูเฉินวิ่งเหยาะๆไปข้างหน้าด้วยความสุข คว้า [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] ใส่ลงในถุงเก็บของ จากนั้นเริ่มเก็บชิ้นส่วนอื่นๆ
“คุณได้รับ [ก้าวเมฆามรกต] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/50) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
“ไม่แลก”
ว่าจบ ซูเฉินก็เปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] เพื่อตรวจสอบราคาแลกเปลี่ยนของ
เมื่อเห็นว่าใช้ 5,000 แต้มพลังงาน รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา
[ก้าวเมฆามรกต] น่าจะเป็นเทคนิคทางกายภาพ ราคาแลกเปลี่ยนเทียบได้กับ [ใบมีดแห่งจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์]
แต้มพลังงานนี้ยังพิสูจน์ได้ว่า ความสามารถของมันนั้นสูงมาก
หลังจากระงับความคิดในจิตใจได้แล้ว ซูเฉินก็เริ่มเก็บชิ้นส่วนต่อ
ชิ้นที่สองเป็นสีม่วง
“คุณได้รับ [ค่ายกลอเวจีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/100) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”
“ไม่แลก”
หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นระรัว เพราะจำนวนของมัน มี 100 ชิ้นเท่ากับ [กายาเทพอสูรนิรันดร์]
นอกจากนี้ ในร้านค้าวันสิ้นโลก มันต้องใช้แต้มพลังงาน 10,000 ในการแลกเช่นกัน
ซึ่งความสามารถของเทคนิคที่ต้องแลกด้วยแต้มพลังงาน 10,000 แต้มไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย [กายาเทพอสูรรินัรดน์] และ [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] คือเครื่องยืนยันอย่างดี
หลังจากได้รับเทคนิคทางกายภาพทั้งสองอย่างนี้แล้ว ความแข็งแกร่งของซูเฉินก็เพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก หากคิดสังหารผู้วิวัฒนาการที่เลเวลสูงกว่าตนหนึ่งขั้น มันง่ายดายพอๆกับการหั่นผักหั่นแตง
เมื่อลองนึกถึงสิ่งที่กล่าวมา เป็นผลให้ซูเฉินตั้งตารอที่จะปลดล็อค [ค่ายกลอเวจีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ]
อย่างไรก็ตาม 10,000 ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายรายการรอวันแลกเปลี่ยน
ไม่ว่าจะเป็น [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] , [มังกรศักดิ์สิทธิ์ขนเพลิงมายา] และ [อุปกรณ์เร่งเวลา] ล้วนเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาจะปลดล็อคทั้งสิ้น ฉะนั้นต่อให้สะสมแต้มพลังงานครบหมื่น แต่ [ค่ายกลอเวจีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ] คงต้องรอไปก่อน
“ดูเหมือนฉันคงต้องรีบหาชิ้นส่วนให้เร็วกว่านี้” ซูเฉินถอนหายใจเนิบๆ ก้มเก็บชิ้นส่วนต่อ
ชิ้นส่วนที่เหลือไม่มีมูลค่าอะไรนัก พวกมันทั้งหมดถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน
พอเก็บชิ้นส่วนครบ ซูเฉินกับคนอื่นๆก็กลับเข้ามาใน [รถศึกอัจฉริยะ] และมุ่งหน้าสู่เมืองทงเทียนต่อ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ก็มาถึงหน้าเมืองทงเทียน
ด้วยประชากรนับล้านคน ทำให้เมืองทงเทียนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองใหญ่ที่สุดบนเกาะเฉียนหยูล
ความประทับใจยามแรกพบ มันให้ความรู้สึกที่ดูยิ่งใหญ่ ขณะเดียวกันให้ความรู้สึกกดดัน
เนื่องจากรถฐานทัพไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเมือทงเทียน ซูเฉินจึงเก็บ [รถศึกอัจฉริยะ] และ [นักรบจักรกล] ลงในถุงเก็บของ
หมาป่ากลายพันธุ์ทั้งสามถูกปล่อยลงไปใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]
หลังจากจ่ายค่าเข้าเมืองเป็นหินพลังงาน ซูเฉินและกลุ่มของเขาก็ก้าวเข้าสู่เมืองทงเทียน
ในเมืองหลั่งไหลไปด้วยผู้คน มีร้านค้ามากมาย มีสินค้าทุกชนิด สมบูรณ์และคึกคักยิ่งกว่าตลาดที่ราบเทียนซางหลายเท่า
หยางฮ่าวและคนอื่นๆหันรีหันขวางจนดวงตาพร่ามัว
ซูเฉินกวาดสายตามองไปรอบๆ รับชมบรรยากาศอันมีชีวิตชีวา แต่ในตอนนั้นเอง เขาคล้ายเกิดเห็นภาพลวงตา ราวกับว่าตัวเองได้กลับมายังมหานครในชีวิตก่อนอีกครั้ง
“ซูเฉิน พวกเราจะไปที่ไหนกันต่อ?”
เมื่อเห็นซูเฉินนิ่งงันไป ตันหลินเอ่ยถาม
ซูเฉินได้สติกลับมา หยุดคิดชั่วครู่ ก่อนกล่าวว่า “ไปที่ร้านยู่หลินก่อนเป็นที่แรก”
ต้นผลแก่นแท้และหินดาราชีพจรปฐพี ล้วนอยู่ที่นั่น เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายขายให้ผู้อื่น ซูเฉินตัดสินใจรีบไปยังร้านยู่หลินโดยเร็วที่สุด
4/10
Ep.350
ซูเฉินมองหาคนเพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลของร้านยู่หลิน
ร้านยู่หลินไม่ใช่ร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทงเทียนก็จริง แน่นับว่ามีชื่อเสียงไม่น้อย
เมื่อสอบถาม ซูเฉินก็ทราบที่ตั้งของร้านยู่หลินอย่างรวดเร็ว
ร้านยู่หลินอยู่ทางทิศเหนือของเมืองทงเทียน โดยเมืองทงเทียนจะแบ่งออกเป็นสี่เขต เหนือ ใต้ ออก ตก โดยตำแหน่งของซูเฉินตอนนี้คือทิศใต้ หากใช้วิธีการเดินไปยังทิศเหนือ จำเป็นต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง
โชคดีที่มีรถฐานทัพสำหรับรับส่งแขกในเมืองทงเทียน ตรงส่วนนี้เหมือนกับรถแท็กซี่ในชีวิตก่อน ช่วยอำนวยความสะดวกสบายได้เยอะ
อย่างไรก็ตาม รถฐานทัพสำหรับรับส่งแขกประเภทนี้ มีขนาดเล็กกว่ารถฐานทัพทั่วไปมาก คันหนึ่งสามารถรองรับได้ไม่เกินสามคนเท่านั้น
แต่ตราบใดที่มีหินพลังงาน ปัญหาเรื่องการเดินทางก็สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย
ซูเฉินเช่ารถฐานทัพสามคันในคราวเดียว ขับตรงไปยังร้านยู่หลินทางทิศเหนือ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถฐานทัพทั้งสามก็จอดลงเบื้องหน้าอาคารสูงแห่งหนึ่ง
และชั้นแรกของอาคารหลังนี้คือร้านยู่หลิน
ซูเฉินจ่ายค่าโดยสาร เดินเข้าไปในร้านพร้อมกับทุกคน
พนักงานเห็นซูเฉินและคนอื่นๆมีบุคลิกไม่ธรรมดา รีบปั้นยิ้มบนใบหน้า ก้าวออกมาต้อนรับ “ยินดีต้อนรับทุกท่าน ไม่ทราบมีอะไรให้ทางเรารับใช้?”
ซูเฉินยิ้มและกล่าวว่า “เจ้าของร้านคุณอยู่ที่นี่ไหม ฉันมีธุรกิจใหญ่จะหารือด้วย”
ได้ยินแบบนั้น แววตาของพนักงานสว่างไสวขึ้นทันที ฉีกยิ้มยิ่งกว่าเดิม “โปรดรอสักครู่ ผมจะรีบไปตามมาเขามาในทันที”
ไม่นานหลังจากพนักงานถอยออกไป ชายชราร่างอ้วน ไว้เครายาวสีขาวคนหนึ่ง ก็กลับมาพร้อมกับเขา
ชายชราร่างอ้วนเดินใกล้เข้ามา สำรวจมองซูเฉินและคนอื่นๆ เอ่ยถามว่า “สหายทั้งหลาย ฉันคือเจ้าของร้านยู่หลิน ได้ยินว่าคุณมีธุรกิจจะหารือ?”
ซูเฉินกล่าวตรงประเด็น หยิบเอาใบของต้นผลแก่นแท้ออกมา ยื่นไปเบื้องหน้าชายชราร่างอ้วนแล้วถามอย่างใจเย็นว่า “วันนี้พวกคุณเพิ่งซื้อต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีใบแบบนี้มาจากตลาดที่ราบเทียนซาง มันยังคงอยู่ในมือพวกคุณใช่ไหม? ผมต้องการซื้อมัน เรื่องราคาสามารถต่อรองกันได้”
ชายชราร่างอ้วนก้มหน้าเพ่งมองใบไม้ใกล้ๆ ก่อนพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่ พวกเราซื้อต้นไม้ที่มีใบแบบนี้มาจริงๆ แต่มันถูกส่งไปงานประมูลแล้ว”
“งานประมูลอะไร?” ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
“แน่นอนว่าเป็นงานประมูลที่จัดขึ้นในเมืองทงเทียน” ชายชราร่างอ้วนกล่าวอย่างเปิดเผย
“คุณพอจะขอของคืนได้รึเปล่า? ผมยินดีจ่ายให้หลายเท่าจากราคาเดิม” ซูเฉินถามอย่างไม่มั่นใจ
เขาไม่เคยเข้าร่วมงานประมูลมาก่อน แต่เขารู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
ของที่ปรากฏในงานประมูล ตราบใดที่มีคุณค่าสูง คนในงานจะแย่งชิงมันเพื่อให้มาอยู่ในครอบครอง
ก็จริงที่ซูเฉินมีหินพลังงานจำนวนมากอยู่กับตัว แต่ต้นผลแก่นแท้ คือวัตถุทางจิตวิญญาณ ถ้ามีคนรู้เกี่ยวกับมัน ในงานคงกลายเป็นบ้าคลั่ง
แม้สุดท้ายซูเฉินจะเป็นคนชนะประมูลต้นผลแก่นแท้ไปก็ตาม แต่เขาคงต้องยอมเสียหินพลังงานจำนวนมหาศาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ชายชราร่างอ้วนรู้สึกหวั่นไหวอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็ยังถอนหายใจและกล่าวว่า “ของที่ส่งไปงานประมูลแล้ว อย่างไรก็ต้องลงประมูล และมีแต่ต้องประมูลมาเท่านั้นถึงจะได้ครอบครอง”
“งั้นจะเปิดงานประมูลเมื่อไหร่? ที่ไหน?” ซูเฉินกล่างเสียงหม่น
หากอีกนานกว่าจะเปิดงานประมูล ซูเฉินกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเข้าไปปล้นมันเลยดีหรือไม่
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ ไม่สามารถอยู่รอไปตลอดได้
“จะมีการเปิดงานประมูลพรุ่งนี้ที่ใจกลางเขตเหนือ” ชายชราร่างอ้วนไม่ได้ปิดบังอะไร
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย ถ้าแค่วันเดียว เขารอได้
จากนั้นหยิบหินรวมดาราและหินดาราชีพจรปฐพีขึ้นมา เอ่ยถามว่า “คุณมีแร่สองชนิดนี้ขายไหม?”
“เมื่อก่อนเคยมี แต่ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว” ชายชราร่างอ้วนส่ายหัว ยิ้มเจื่อนๆ แล้วอธิบายเพิ่มเติมว่า “แร่ทุกชนิดที่มีคุณสมบัติสายฟ้า ทั้งหมดถูกกว้านซื้อโดยคนของคฤหาสน์เจ้าเมือง ส่วนแร่สีดำอีกชิ้นที่คุณถามถึง จะถูกนำขึ้นประมูลเช่นกัน”
‘บ้าเอ๊ย!’
ซูเฉินลอบสบถในใจ กล่าวขอบคุณชายชราร่างอ้วน แล้วออกจากร้านยู่หลิน