ผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 5
ผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 5
เดิมทีบนร่างของอันเสี่ยวหรูก็มีธาตุอันเดดติดอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นจึงสามารถดึงดูดธาตุวิญญาณมารวมกันในพิธีกรรมผีถ้วยแก้วได้ง่าย
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังตั้งใจตั้งจิตอย่างจริงจัง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องงายที่เธอจะได้รับอิทธิพลจากธาตุอันเดด เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอทำอะไรลงไป
ตาสีดำสนิทนั่นไม่ใช่เพราะการขยายตัวของม่านตา แต่เป็นผลมาจากธาตุอันเดดที่สร้างเลนส์สายตาขึ้นบนดวงตาของเธอ ด้วยเหตุนี้มันจึงดูแปลกตา
ส่วนความรู้สึกเย็นเยียบที่หญิงสาวหน้าตาธรรมดาได้รับจากมือของอันเสี่ยวหรูนั้น นั่นก็เป็นเพราะธาตุอันเดดเช่นกัน ธาตุที่ว่านี้เป็นพลังงานด้านลบ แม้แต่อุณหภูมิของห้องก็ลดลงไปหลายองศา เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่มือของอันเสี่ยวหรูจะเย็นเยียบ และที่หญิงสาวเป็นลมไปก็เป็นเพราะความกลัว ไม่ใช่เพราะถูกสูบพลังชีวิตออกไป
อันเสี่ยวหรูละความสนใจจากอันนาและค่อยๆเดินไปหาเซี่ยเยี่ยน เซี่ยเยี่ยนเริ่มร่ายคาถาอันลึกลับทันที เสียงที่เกิดจากการร่ายนี้สำหรับอันนาแล้วก็ไพเราะประดุจบทเพลงสวรรค์
'เขาจะต้องเป็นสุดยอดมือปราบวิญญาณแน่ๆ! หรือว่าจะเป็นปรมาจารย์แห่งเต๋า หรืออาจจะเป็นยอดนักพรตจากเหมาซานเลยก็ได้!' อันนาคิดอย่างตื่นเต้น
แน่นอนว่าเซี่ยเยี่ยนย่อมไม่ได้ยินความคิดของอันนา แต่เวลานี้เขากำลังรู้สึกว่าตนเองร่ายคาถาและตั้งสมาธิได้ลำบากมาก สาเหตุก็มาจากอันเสี่ยวหรูที่อยู่ด้านหน้า!
หญิงสาวผู้นี้เพียงสวมแค่กางเกงในจีสติงที่มีผ้าชิ้นเล็กๆปกปิดไว้เท่านั้น ทิวทัศน์อันงดงามที่ด้านหน้าจึงเผยให้เซี่ยเยี่ยนเห็นอย่างเต็มตา ทั้งเรียวขาอันงดงาม ทั้งเอวบางๆนั่น ยังมีภูเขาหิมะที่วางผลเชอร์รี่สีชมพูเอาไว้สองลูกซึ่งสั่นสะเทือนตามจังหวะก้าวเดินนั่นอีก หัวใจของเซี่ยเยี่ยนเต้นรัวจนแทบจะกระดอนออกมา
สำหรับชายหนุ่มเวอร์จิ้นอย่างเขาแล้ว ภาพตรงหน้านี้มันเกินไปมากๆ! เขาแทบจะทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว ผลกระทบมันช่างรุนแรงเสียเหลือเกิน เซี่ยเยี่ยนรีดเค้นความมุ่งมั่นที่สะสมมาทั้งชีวิตเพื่อดิ้นรนจะท่องคาถาให้จบ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องเจอกับผลสะท้อนกลับจากการหยุดร่ายเวทกลางคัน
"ฮอร์ครักซ์กักวิญญาณ!" หลังจากร่ายคาถาเร็วรัวจนลิ้นแทบพัน เซี่ยเยี่ยนก็ล้วงดึงจี้รูปหัวกะโหลกในอกเสื้อออกมาปาใส่อันเสี่ยวหรู
ไฟวิญญาณสีน้ำเงินพลันพวยพุ่งออกมาตามช่องของหัวกะโหลกและทิ้งเส้นแสงสีน้ำเงินอัะนสวยงามเอาไว้เป็นทางยาวขณะพุ่งไปยังหน้าผากของอันเสี่ยวหรูก่อนจะหยุดอยู่ตรงนั้น เปลวไฟสีน้ำเงินนั้นทวีความรุนแรงขึ้นแปรเปลี่ยนเป็นหัวกะโหลกเพลิงขนาดเท่าผลแตงโม หัวกะโหลกเพลิงนั้นอ้าปากเล็กน้อยก่อนจะงับศีรษะของอันเสี่ยวหรู
"กรี๊ดดดดดดด!" อันนากรีดร้องออกมาสุดเสียง ฉากที่ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าเธอนั้นสยดสยองไปแล้ว! เดิมทีเธอคิดว่าชายสวมผ้าปิดหน้าผู้นี้จะเป็นมือปราบวิญญาณเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นพวกนักบวชนอกรีตผู้ชั่วร้าย! เมื่อได้เห็นฉากที่เซี่ยเยี่ยนเรียกหัวกะโหลกออกมางับศีรษะอันเสี่ยวหรู เธอก็รู้สึกว่าวันนี้พวกเธอทั้งสี่คนคงยากจะรอดไปได้แล้ว
"เงียบก๊อนน!" เซี่ยเยี่ยนตะโกนบอก อันนารีบยกมือขึ้นปิดปากแน่น ดวงตาของเธอเบิกกว้างขณะมองดูเซี่ยเยี่ยนอย่างหวาดกลัว
จี้กักวิญญาณดูดซับพลังงานธาตุอันเดดภายในร่างอันเสี่ยวหรูอย่างบ้าคลั่ง ไม่กี่วินาทีต่อมา หัวกะโหลกเพลิงก็ดูเหมือนจะอิ่มหนำ ทันใดนั้นมันก็กลายสภาพกลับไปเป็นจี้รูปหัวกะโหลกเหมือนเดิม ศีรษะของอันเสี่ยวหรูยังคงปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนอยู่ที่เดิมราวกับไม่เคยถูกหัวกะโหลกเพลิงงับเข้าปาก
จี้รูปหัวกะโหลกร่วงลงบนพื้นดังตุ้บที่เบื้องหน้าของอันนา อันนาก้มลงไปมอง แล้วก็ต้องรู้สึกราวกับถูกดูดวิญญาณออกจากร่างเพราะจ้องมองไปยังตากลวงโบ๋ของหัวกะโหลก เธอรีบเงยหน้าขึ้นและไม่กล้ามองมันอีก ทว่าภาพหัวกะโหลกนี้ได้ติดตราตึงใจเธอไปแล้วเรียบร้อย
ร่างของอันเสี่ยวหรูล้มลงบนพื้น เซี่ยเยี่ยนรีบยื่นมือออกรับร่างเธอเอาไว้ สัมผัสอันเนียนนุ่มที่ส่งผ่านมือมานั้นแทบทำให้เซี่ยเยี่ยนกลายเป็นบ้า เซี่ยเยี่ยนหลืนน้ำลายก่อนจะลองนวดๆคลึงๆดู สิ่งเร้าที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ทำให้กางเกงขาสั้นของเขากลายเป็นเต้นท์ที่กางขึ้นทันที
ดื่มด่ำกับความรู้สึกนี้ได้เพียงไม่กี่วิ เซี่ยเยี่ยนก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาของอันนา สายตาของอันนามองมาที่มือของเขาก่อนจะมองไปยัง 'เสาค้ำเต้นท์' นั้น แม้จะมีผ้าปิดบังใบหน้าอยู่ แต่เซี่ยเยี่ยนก็ยังรู้สึกอายเหลือประมาณ นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ พวกที่โสดซิงก็หน้าบางกันทั้งนั้น ที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือการถูกจับได้คาหนังคาเขาตอนที่กำลังหาเศษหาเลยกับร่างกายของอันเสี่ยวหรูด้วย
เซี่ยเยี่ยนค่อยๆวางร่างของอันเสี่ยวหรูลงกับพื้นและดึงผ้าห่มมาห่มคลุมให้เธอ เซี่ยเยี่ยนงอร่างลงเพื่อพยายามจะปิดบังเซี่ยเยี่ยนน้อยที่กำลังอวดโอ่ตนเองอย่างสุดความสามารถ
ฉากนี้ได้ทำลายภาพลักษณ์ยอดมือปราบวิญญาณเสียจนไม่มีชิ้นดี ท่าทางอันน่าขำของเซี่ยเยี่ยนทำให้อันนาหายกลัวไปได้ไม่น้อย เธอยกมือขึ้นปิดปากพลางหัวเราะคิกคัก เซี่ยเยี่ยนรู้สึกอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เขารีบก้มลงหยิบจี้รูปหัวกะโหลกขึ้นมาและรีบจ้ำอ้าวไปทางระเบียง ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรได้ เขาหันกลับไปพูดกับอันนา "พวกเพื่อนๆของเธอปลอดภัยดี หลับสักตื่นก็ดีขึ้นเอง แล้วก้นะ อย่าเล่นอะไรพิเรนทร์แบบนี้อีก!"
"อืม ฉันจะเชื่อนาย!" อันนาตอบ จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและจัดสายเสื้อในที่เลื่อนหลุดให้กลับเข้าที่ การกระทำนี้ทำให้เซี่ยเยี่ยนตกตะลึงอีกครั้ง
"นายชื่ออะไร" อันนาพลันถามขึ้น
"เซี่-...ฉันจะบอกเธอในครั้งหน้า!" เซี่ยเยี่ยนเกือบจะโพล่งชื่อจริงออกไป โชคดีที่ตั้งสติได้ทัน 'ผู้หญิงสวยๆนี่อันตรายจริงๆ'
เซี่ยเยี่ยนไม่กล้าพูดอะไรอีกเพราะกลัวจะเผยพิรุธ เขาเดินไปยังระเบียงก่อนจะกระโดดลงไป
อันนารีบวิ่งไปเกาะระเบียงชะโงกหน้าลงไปดู และเห็นชายหนุ่มใช้มือจับระเบียงค่อยๆทิ้งตัวลงไปทีละชั้น ทำเช่นนี้อยุ่สามครั้งเขาก็ถึงพื้นอย่างปลอดภัย
"ฉันจะต้องตามหานายให้เจอจนได้!" อันนายกมือขึ้นป้องปากก่อนจะตะโกนไปที่เขา เซี่ยเยี่ยนที่กำลังเดินล้วงกระเป๋าจากไปอย่างเท่ๆถึงกับซวนเซแทบล้มลง เขาก้มหน้าก้มตาก่อนจะรีบวิ่งจู๊ดหายไป
เห็นแผ่นหลังของชายสวมผ้าปิดหน้ากลมกลืนไปกับความมืด อันนาก็ยิ้มออกมา "ตอนที่ตะโกนบอกให้ฉัน 'เงียบ' นั่นนายลืมดัดเสียงนะ แล้วฉันก็จำจี้รูปหัวกะโหลกนั่นได้แล้ว ถ้าเจอกันต้องจำได้แน่ ฮึ่ม! เป็นหนุ่มซิงไม่ผิดแน่ นักศึกษาใหม่ปีนี้มีไม่มาก หาไม่ยากหรอก!"
"ปึงๆ!" หญิงสาวที่อยู่ข้างห้องมาเคาะประตูเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ด "นี่อันนา เสี่ยวหรู พวกเธอเป็นไรเปล่า?"
"ไม่มีอะไร พวกเราแค่เล่าเรื่องผีน่ะ!" อันนาตอบ