80Y-ตอนที่ 46 การเกษียณราชการที่ถูกบังคับ
การเปลี่ยนแปลงของจักรพรรดิหมิงทำให้ หลินจิ่วเฟิง รู้สึกผิดหวัง
แต่เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ก็มีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงนี้มานานแล้ว
แต่ไม่ว่าอย่างไร การเลือกนางสนมหรือปลดองค์จักรพรรดินีล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องครอบครัวของ หลินเทียนหยวน
หลินจิ่วเฟิง ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้เพราะว่ามีเจ้าหน้าที่ในราชสำนักได้คัดค้านเพื่อหยุดการกระทำของ หลินเทียนหยวน ไม่ให้ล้มล้างอำนาจของจักรพรรดินี
อย่างน้อยในงานราชกิจ เขาก็ไม่ได้ละเลยในส่วนนี้
ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวายังคงดีขึ้นในแต่ละวัน
หลินจิ่วเฟิง ได้อาศัยอยู่ในตำหนักเย็นอย่างเงียบสงบขณะที่เขาเพิกเฉยต่อการกระทำของ หลินเทียนหยวน
เขาเคยพูดก่อนหน้านี้ไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า เขาจะปล่อยให้ หลินเทียนหยวน เดินไปตามทางอนาคตของตัวเอง
ถ้าเขาเดินผิด มันก็คือความโชคร้ายของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา
ในช่วงเวลาสำคัญ หลินจิ่วเฟิง ก็อาจจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเขา
แต่ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาก็ยังอยู่ดี
ปัญหาที่เกิดขึ้นช่วงนี้ล้วนมาจากความใคร่ของหลินเทียนหยวนเท่านั้น
หลินจิ่วเฟิง ไม่คิดจะรบกวนอีกฝ่าย
ที่สำคัญก็คือเขากำลังปรับปรุงรากฐานการบ่มเพาะพลังของตนเอง
ในตำหนักเย็น เขาค่อย ๆ เข้าใจความหมายของช่วง ด่านไร้สิ้นสุด ของขั้นเทพมนุษย์แล้ว
…
ในพระราชวังต้องห้าม เหมยเหนียง ได้ปรนนิบัติ หลินเทียนหยวนอย่างดีที่สุด เพื่อทำให้อีกฝ่ายพึงพอใจ
นางมีใบหน้างดงามและเสน่ห์ในแบบของสาวน้อยไร้เดียงสา
นางดูบริสุทธิ์ผุดผ่องและมีรอยยิ้มที่น่ารักอย่างมาก
เสน่ห์ของนางล้วนทำให้บุรุษหลายคนล้วนหลงใหล
‘เหมย’ ชื่อนี้ค่อนข้างดี มันหมายถึง รักแรกของ บุรุษ!
เหตุผลที่นางชื่อ เหมยเหนียง อาจเป็นเพราะนางมีใบหน้าที่ไม่มีบุรุษใดปฏิเสธได้
นี่เป็นใบหน้าที่บุรุษมักจะตกหลุมรักนางยามพบเจอ
เพราะรูปร่างหน้าตานี้ทำให้องค์จักรพรรดิได้แต่งตั้งนางเป็นสนมเอก
สถานะของนางได้กลายเป็นภัยคุกคามต่อองค์จักรพรรดินีในปัจจุบัน
“ฝ่าบาท ราชสำนักและประชาชนกำลังก่อจราจล พวกเขาเรียกหม่อมฉันว่าเป็นนางจิ้งจอกที่คอยยั่วยวนพระองค์ ฝ่าบาท หากพระองค์คิดจะล้มล้างองค์จักรพรรดินีจริง หม่อมฉันคงไม่อาจทนอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้”
เหมยเหนียง ได้รินไวน์ให้กับ หลินเทียนหยวน ขณะที่นางพูดออกมา
นางกำลังใช้ความคิดริเริ่มในการพูดแทนองค์จักรพรรดินีราวกับว่านางไม่ต้องการให้ตำแหน่งนี้ถูกยกเลิกไป
แต่คำพูดเหล่านี้ฟังดูไม่ค่อยถูกต้อง
“ตอนที่ข้าแต่งงานกับจักรพรรดินีในตอนนั้น ล้วนเป็นเสด็จพ่อที่เป็นผู้กำหนด ข้าไม่ได้มีความรู้สึกชอบพอนางเลย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางได้ให้กำเนิดลูกสองคนให้ข้า ซึ่งข้ารู้สึกขอบคุณนางสำหรับสิ่งนั้น ดังนั้น ข้าจึงมอบตำแหน่งจักรพรรดินีให้แก่นาง”หลินเทียนหยวน กล่าวพูดด้วยท่าทางพึงพอใจ
“แต่ทว่าแทนที่จะจัดการฮาเร็มวังหลังของจักรพรรดิอย่างถูกต้อง นางกลับกลายเป็นคนอิจฉาและว่าร้ายเจ้าไปได้ สนมของข้า หญิงชั่วนางนี้จะเป็นมารดาแผ่นดินของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาได้อย่างไร?”หลินเทียนหยวน ได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
ไม่นานมานี้ ขันทีข้างกายองค์จักรพรรดินีได้ลอบวางยาพิษสนมหมิง
ถ้า หลินเทียนหยวน ไม่ได้มาเยี่ยมนางตอนกลางคืนวันนั้น เกรงว่ามันคงสายเกินไปที่จะช่วยให้นางรอดพ้นจากความตาย เพราะนางได้หมดสติไปหลังจากดื่มยาพิษ ถ้า เหมยเหนียง ตายจริง ๆ ความโกรธของ หลินเทียนหยวน คงปะทุขึ้นจนไม่อาจควบคุมได้
ในฐานะจักรพรรดิ เขาได้สืบทอดเจตจำนงค์ของบรรพบุรุษมา-ปฏิรูปโลกและเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาให้ดีขึ้น
ด้วยคำสั่งเดียวของเขา ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องเสียชีวิต
แต่ทว่า หญิงสาวที่เขารักที่สุด เกือบจะต้องตายเพราะความหึงหวง
สิ่งนี้ทำให้ หลินเทียนหยวน รู้สึกโกรธจัด
“ฝ่าบาท โชคดีที่หม่อมฉันยังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตล้วนหาใช่เรื่องสำคัญ อีกอย่างไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าองค์จักรพรรดินีเป็นผู้ลงมือทำ จุดประสงค์ของคนที่ทำเพียงเพื่อต้องการไม่ให้เราอยู่เคียงคู่กัน”
“ดังนั้นฝ่าบาท อย่าทรงพิโรธไปเลยเพคะ”
“หม่อมฉันเชื่อว่านี่ไม่มีทางเป็นฝีมือขององค์จักรพรรดินี”เหมยเหนียง ได้กล่าวอย่างอ่อนแรง
นางเป็นเพียงเด็กสาววัยแรกแย้มที่ไม่ได้มีรากฐานการบ่มเพาะพลังที่สูง
นางช่างดูเปราะบางและดูอ่อนแอ
ผนวกกับลักษณะนิสัยของนางทำให้นางกระตุ้นความปราถนาของบุรุษให้อยากจะปกป้องนางมากขึ้น
“ไม่ใช่ฝีมือของนาง?”หลินเทียนหยวน หัวเราะด้วยความรังเกียจ
เขาได้พูดขึ้น“ข้าแต่งงานกับนางมาเกือบจะ 20 ปีแล้ว”
“ข้าจะไม่รู้ความคิดหรือใจคอของนางได้อย่างไร”
“เอาล่ะเรื่องพูดเรื่องนี้กันสักที ข้าไม่ต้องการให้เจ้าหาคำแก้ตัวแทนนาง”
“ฝ่าบาท หม่อมฉันจะไม่พูดแล้ว”เหมยเหนียง ได้ใช้มือที่อ่อนนุ่มลูบไล้ร่างกายของ หลินเทียนหยวน ขณะที่นางพูดอย่างกังวล
“สนมที่รักของข้า ไม่ต้องกังวล ข้าจะทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน ข้าใช้เวลาอย่างยาวนานไปกับการปฏิรูปโลกใบนี้ ข้าทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมาก แต่ตอนนี้ ข้าต้องการส่งเสริมให้สนมที่ข้าชอบได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินี ข้าไม่สนใจว่าคนเหล่านั้นจะพูดอะไร…”
“เพราะข้าจะไม่มีทางอ่อนข้อให้พวกเขาอย่างเด็ดขาด!”หลินเทียนหยวน ได้กล่าวอย่างเย็นชา
เขารู้สึกโกรธมาก
เขาไม่เพียงแต่โกรธจักรพรรดินีเท่านั้น แต่ยังโกรธเหล่าเจ้าหน้าที่ในราชสำนักที่คอยขัดแข้งขัดขาเขาอีกด้วย
สิ่งที่พวกเขาพึงบอกคือขนมธรรมเนียมและศักดิ์ศรี-ว่าตนเองไม่ควรปลดองค์จักรพรรดินีในปัจจุบัน
“การปลดจักรพรรดินีในปัจจุบันเป็นความปราถนาของข้า ไม่มีใครสามารถหยุดข้าได้”
“หึ่ม ข้าจะไปที่ตำหนักของจักรพรรดินีโดยตรงและบอกนางว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นางจะถูกปลดจากตำแหน่งจักรพรรดินีและถูกลดขั้นเป็นนางสนมของจักรพรรดิ”
“สิ่งนี้จะช่วยให้นางไตร่ตรองถึงสถานะของตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดความอิจฉาริษยาคนอื่น”หลินเทียนหยวน ได้กล่าวอย่างเย็นชา
เขาไม่ได้แสดงความเมตตาต่อจักรพรรดินีเลย
“ฝ่าบาท…”เหมยเหนียง มองไปที่ หลินเทียนหยวน ด้วยความประหลาดใจ นางกระพริบตาตาด้วยใบหน้าแดงก่ำ ซึ่งเผยลักษณะที่อ่อนโยนออกมา
การเคลื่อนไหวอย่างไม่เป็นทางการของสนมหมิงล้วนทำให้เกิดความรู้สึกเย้าหยวน ดูจากใบหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์ของนางแล้ว ทุกคนที่ได้เผชิญล้วนรับรู้ได้ว่านางเป็นคนดีมีเมตตาขนาดไหน
“สนมที่รักของข้า รอข้าอีกสัก 2-3 เดือน ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นจักรพรรดินีอย่างเต็มตัว ข้าจะอยู่ดัวยกันกับเจ้าในทุก ๆ วัน ก่อนหน้านี้ข้ายุ่งมาก แต่ตอนนี้ทางราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มมั่นคงแล้ว ในที่สุดข้าก็ควรปล่อยวางและเริ่มใช้ชีวิตสนุกของตัวเองเสียที”หลินเทียนหยวน มองไปที่ เหมยเหนียง ด้วยความรัก
“หม่อมฉันจะอยู่กับพระองค์ตลอดไป”
เหมยเหนียง น้ำตาไหลขณะที่นางเอนร่างกายซบลงในอ้อมแขนของ หลินเทียนหยวน
…
การปลดจักรพรรดินีได้กลายเป็นความจริง
จักรพรรดินีที่ได้รับการยอมรับจากทางราชสำนักว่ามีคุณธรรม ได้ถูกลดขั้นกลายเป็นสนมของจักรพรรดิ นางได้รับคำสั่งให้ไตร่ตรองการกระทำของนาง
คืนนั้นเจ้าหน้าที่ในราชสำนักต่างมารวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่เพื่อโน้มน้าวให้องค์จักรพรรดิถอนรับคำสั่ง
พวกเขาไม่ต้องการให้องค์จักรพรรดินีถูกปลด
การหายตัวไปของนางจะทำให้เกิดความโกลาหลในวังหลังของจักรพรรดิ
หากวังหลังของจักรพรรดิตกอยู่ในความโกลาหล ทางราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
ดังนั้นการตัดสินใจครั้งนี้ล้วนเป็นเรื่องสำคัญมาก
ใบหน้าของ หลินเทียนหยวน รู้สึกเย็นชาเมื่อรับฟัง ความอดทนของเขาค่อย ๆ หมดลง
“ฝ่าบาท ต้นตอของปัญหาก็คือนางจิ้งจอก เหมยเหนียง!”
“ตั้งแต่นางเข้าวังหลังมา ฮาเร็มของจักรพรรดิก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย…”
“หญิงนางนี้เป็นตัวหายนะอย่างแท้จริง นางมาเพื่อทำลายราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา!”
“ฝ่าบาท โปรดลงทันฑ์หญิงชั่วนางนี้!”
หัวหน้าคณะรัฐมนตรีและเป็นอาจารย์ของจักรพรรดิหยวน เขาได้ทำงานรับใช้จักรพรรดิมาสามชั่วอายุคน ได้คุกเข่าลงในขณะนี้
หลินเทียนหยวน ได้มองไปที่ หัวหน้าคณะรัฐมนตรีและตอบกลับอย่างเย็นชา
“ท่านผู้อาวุโส ท่านกำลังสอนข้าจับพู่กันหรือไม่?”หลินเทียนหยวน ได้กัดฟันแน่นและกล่าวพูดอย่างโกรธเคือง
“ฝ่าบาทโปรดพิจารณา! นี่ไม่ใช่เพื่อความสงบสุขของประเทศเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นความมั่นคงของวังหลังจักรพรรดิอีกด้วย”หัวหน้าคณะรัฐมนตรีได้ชักชวนอย่างขมขื่น
หลินเทียนหยวน เคยฟังคำแนะนำของเขาในอดีต
ในเวลานั้น อีกฝ่ายยังคงเป็นจักรพรรดิที่ไร้อำนาจ
เขาต้องการคำแนะนำเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์โดยเร็วที่สุด
แต่ปัจจุบัน หลินเทียนหยวน รู้สึกว่าตัวเขามีอิทธิพลต่อราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาอย่างมาก
ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นจะต้องฟังคำแนะนำจากอีกฝ่ายอีกต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากทนรับฟังคำแนะนำมาตลอด 10 กว่าปี เขาได้ทำท่าทีราวกับเบื่อหน่ายมัน
“ท่านผู้อาวุโส ท่านเองก็ชราภาพมากแล้ว ท่านไม่จำเป็นจะต้องคุกเข่าอยู่ที่นี่ ข้าจะอนุญาติให้ท่านเกษียณตัวเองกลับไปยังบ้านเกิดและใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุข”หลินเทียนหยวน ได้กล่าวอย่างเย็นชา
เจ้าหน้าที่ในราชสำนักต่างตกตะลึง
เพื่อนางสนมคนนึง หลินเทียนหยวน กลับปลดหัวหน้าคณะรัฐมนตรีออก ทั้ง ๆ ที่คนผู้นี้ทุ่มเทการเสียสละทั้งชีวิตเพื่อราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา?
ร่างของหัวหน้าคณะรัฐมนตรีก็สั่นเทาเช่นเดียวกัน
ความทุกข์ระทมได้ไหลออกมาจากใจของเขา เขาอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ฝ่าบาท กระหม่อมยินดีที่จะกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด เพียงแต่ ขอให้ฝ่าบาททรงพิจารณาความมั่นคงของราชสำนักและวังหลังของจักรพรรดิด้วย! โปรดลงทัณฑ์นางจิ้งจอกเหมยเหนียง!”
“ฝ่าบาทโปรด พิจารณาความมั่นคงของราชสำนักและวังหลังของจักรพรรดิด้วย! โปรดลงทัณฑ์นางจิ้งจอกเหมยเหนียง!”
“ฝ่าบาทโปรด พิจารณาความมั่นคงของราชสำนักและวังหลังของจักรพรรดิด้วย! โปรดลงทัณฑ์นางจิ้งจอกเหมยเหนียง!”
“ฝ่าบาทโปรด พิจารณาความมั่นคงของราชสำนักและวังหลังของจักรพรรดิด้วย! โปรดลงทัณฑ์นางจิ้งจอกเหมยเหนียง!”
เหล่าเจ้าหน้าที่ในราชสำนักทุกคนได้คุกเข่าลงและตะโกนเสียงดัง
“พวกเจ้าคิดจะก่อกบฏหรือไม่?”
“ข้าคือจักรพรรดิ หรือว่า พวกเจ้าเป็นจักรพรรดิทั้งหมด?”หลินเทียนหยวน รู้สึกโกรธจัด
“พวกเจ้าทุกคน ใสหัวกลับไปยังบ้านเกิดซะ การปฏิรูปเสร็จสิ้นแล้ว ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาจะจำความภักดีของพวกเจ้าไม่ลืมเลือน”
หลินเทียนหยวน ตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ เขาได้ปลดเจ้าหน้าที่ในราชสำนักทั้งหมดที่จักรพรรดิหยวนบิดาของเขาทิ้งเอาไว้
พระองค์ทรงคิดจะเกษียนงานราชการของคนเหล่านี้ทั้งหมด