Chapter 553:วิกฤตใหม่อุบัติ (เพิ่งเห็นว่าลืมลงขอโทษทีครับ)
ท้องฟ้าที่มืดครึ้ม สะท้อนถึงอารมณ์เศร้าโศกที่ปกคลุมลิเบีย
เนินทรายโกบีทอดยาวไปสุดขอบฟ้า ยานทหารสีเขียวสามคันแล่นผ่าน ทิ้งฝุ่นทรายลอยอยู่ข้างหลัง
“แปลก กองทหารรับจ้างคุนซา ไม่เคลื่อนไหว? ถ้าพูดตามหลักเหตุผล พวกมันควรจะตามเรามาทันแล้วสิ!”
รองกัปตันไรซ์ขมวดคิ้วและพูดกับพาวเวลล์ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา พาวเวลล์ และ มินน่า อยู่ในรถคันสุดท้าย ขณะที่หน่วยซีล 2 นายอยู่ในรถคันแรก โดยมี เสี่ยวหลัว และ ซาร่า มิเชล อยู่ตรงกลาง
พาวเวลล์ ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด เขาพร้อมที่จะเข้าสู่สนามรบ แต่น่าประหลาดใจที่กลุ่มทหารรับจ้างคุนซาไม่ปรากฏตัว เกิดอะไรขึ้น? สถานการณ์เป็นอย่างไร? ไม่มีทางที่พวกมันจะตามรอยเท้าของ ซาร่า มิเชล ไม่ได้ และที่ มิเชล พูดนั้นจริงงั้นหรือ? พวกมันทั้งหมดถูกทำลายโดยชาวฮัวคนนั้น?
ทำทำลายกลุ่มทหารรับจ้างคุนซา เพียงลำพัง?
มันจะเป็นไปได้ยังไง!
เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเชื่อเรื่องแบบนี้
พาวเวลล์สงบสติอารมณ์และพูดอย่างเคร่งขรึม "อย่าหย่อนยานความระมัดระวัง กลุ่มทหารรับจ้างคุนซา เป็นกลุ่มคนที่เจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยม เราต้องรักษาความระมัดระวังในระดับสูงตลอดเวลา"
ไรซ์ พยักหน้ารับทราบ
จากนั้น ไรซ์ ก็หันศีรษะไปมอง มินน่า ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งข้างคนขับ แล้วถามว่า “มินน่า ร่างกายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
"ไม่เป็นไร"
มินน่า จ้องไปยังรถทหารที่อยู่ตรงกลางอย่างครุ่นแค้น เธอไม่มีวันให้อภัย เสี่ยวหลัว และจะไม่มีวันเลิกเกลียดเขา
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ผู้ชายชาวฮัวคนนั้นน่ารังเกียจจริงๆ ที่ลงมือกับผู้หญิง มันทำให้ฉันต้องมองชาวฮัวทั้งหมดใหม่จริงๆ” ไรซ์ พูดด้วยความขุ่นเคือง
“พอแล้ว อย่าเพิกเฉยกับสิ่งที่ฉันพูด!” พาวเวลล์ ขัดจังหวะ
พาวเวลล์ ตำหนิด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ตอนนี้ก็ได้เห็นแล้วว่าเหม่ยคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา หากเราต้องการกลับไปยังฐานทัพใกล้ชายฝั่งอย่างปลอดภัยโดยไม่สูญเสียสมาชิกของเราไปอีก เราต้องการความช่วยเหลือจากเขา อย่าไปยุ่งกับเขาอีก นี่เป็นคำสั่งที่ฉันคาดหวังให้นายเชื่อฟังอย่างน้อยก็จนกว่าเราจะไปถึงฐานทัพใกล้ชายฝั่ง”
“ครับ กัปตัน.. เราจะทำตามที่คุณพูดและเราจะเลิกยุ่งกับเขา”
ไรซ์ ไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้นัก เขาคิดว่ากัปตันพาวเวลล์ยกย่องชาวฮัวคนนี้มากเกินไป พาวเวลล์คิดอะไรอยู่? พวกเขาไม่สามารถทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้หากไม่มีเหม่ย? และจะไม่สามารถกลับไปที่ฐานชายฝั่งได้ด้วยตัวเอง? นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกัน?
มินน่า พ่นลมหายใจออกมา เธอคิดว่า พาวเวลล์ ประเมิน เสี่ยวหลัว สูงเกินไป ไอ้เวรนั่นนั้นแข็งแกร่งกว่าเธอเพียงเล็กน้อย กังฟูจากประเทศฮัวมีชื่อเสียงระดับโลก ทักษะของเธอไม่สามารถเปรียบเทียบกับมันได้ ถ้าเธอใช้อาวุธร้อน เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้เสมอไป
ในเวลานี้เองสมาชิกทีมหน่วยซีลที่ขับรถก็เหยียบเบรกอย่างกะทันหัน รถทหารที่วิ่งด้วยความเร็วหยุดลงทันที แรงเฉื่อยมันรุนแรงมาก จนทำให้ พาวเวลล์ ไรซ์ และมินน่า ที่อยู่ในรถเอนร่างไปข้างหน้า หน้าผากของ ไรซ์ ถึงกับชนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าโดยตรง
“โอ้เวรโทมัส! แกขับรถภาษาอะไร!”
ไรซ์ ตะคอกใส่เพื่อนที่ขับรถเสียงดัง พร้อมกับถุยน้ำลายออกมา
“พี่ไรซ์ เรื่องนี้พี่โทษฉันไม่ได้ รถของชาวฮัวที่อยู่ข้างหน้ามันหยุดอย่างกะทันหัน” โทมัส ชี้ไปที่รถทหารข้างหน้าอย่างขุ่นเคือง
“ไอเวรฮัวที่น่ารำคาญนั่น!”
เมื่อ ไรซ์ ได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกไม่พอใจ เสี่ยวหลัว เป็นอย่างมาก ในตอนนี้เอง เขาก็เปิดประตูอย่างแรงแล้วเดินลงไปจากรถ
ในเวลาเดียวกัน เสี่ยวหลัว ก็ก้าวลงมาจากรถของเขาเช่นกัน ไรซ์เดินเข้ามาด้วยความไม่พอใจและถามเสียงดังว่า “เหม่ย แกหยุดรถอย่างกะทันหันทำไม? แกรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมของแกมันเป็นอันตราย”
เสี่ยวหลัว ถือว่าไรซ์เป็นอากาศธาตุอย่างสมบูรณ์ เขาแหงนหน้ามองขึ้นไปบนเส้นขอบฟ้าอันไกลโพ้น
ซาร่า ลงจากรถและมองไปทาง เสี่ยวหลัว อย่างสงสัย “มันดูเหมือนพายุทราย แต่พายุทรายไม่ควรจะต่ำขนาดนั้น? และมันก็ใกล้เข้ามามากแล้ว แต่ฉันยังไม่รู้สึกถึงลมเลย!”
คำพูดของซาร่าฟังดูไม่แน่ใจ ราวกับว่าเธอกำลังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเสี่ยวหลัว
“นั่นไม่ใช่พายุทราย!”
เสี่ยวหลัว ปฏิเสธโดยตรง “มันเหมือนกับฝุ่นที่เกิดจากยานพาหนะเมื่อขับผ่านเนินทราย”
“นี่ ฉันกำลังพูดกับแกอยู่นะ แกไม่ได้ยินฉันหรือไง?”
ไรซ์ โกรธมาก และไม่สามารถซ่อนความโกรธของเขาได้อีกต่อไป ไรซ์เอื้อมมือออกไปคว้าเข้าที่ไหล่ของ เสี่ยวหลัว ทันที
ในขณะที่มือเพิ่งแตะไหล่ของ เสี่ยวหลัว เสี่ยวหลัว ก็หันหลังกลับมาและเตะเข้าไปที่หน้าท้องของ ไรซ์
“ปัง~”
ไรซ์ เซไปข้างหลังสี่ห้าก้าว ตัวโค้งมือกุมหน้าท้อง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด มันเจ็บปวดมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าท้องของเขาถูกเจาะด้วยสว่านไฟฟ้า
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาจับไหล่ฉันจากทางด้านหลัง” เสี่ยวหลัว จ้องมองไปที่ ไรซ์ อย่างเย็นชา
“ไอ้บ้าเอ๊ย...”
ไรซ์ โกรธมากจนแทบทนไม่ไหว ในขณะที่เขากำลังจะเงยหน้าขึ้นมาสาปแช่ง เขาก็พลันเห็นบรรทุกทหารหลายสิบคันปรากฏเหนือขอบฟ้า รถบรรทุกก่อตัวเป็นแถวเคลื่อนที่เข้าหาพวกเขาอย่างรวดเร็วราวกับสัตว์ร้าย โดยทิ้งร่องรอยของฝุ่นทรายไว้เบื้องหลัง
รูม่านตาของ ไรซ์ หดลงอย่างกะทันหัน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาชี้ไปด้านหน้าแล้วตะโกนออกมาทันทีว่า "สถานการณ์ฉุกเฉิน สถานการณ์ฉุกเฉิน!!!"
อันที่จริงคำเตือนของไรซ์ไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย
ทุกคนเห็นมัน ไม่เพียงแต่ด้านหน้า แต่ยังมียานพาหนะทางทหารอีกหลายสิบคันที่อยู่ทางด้านหลัง ก่อตัวเป็นแนวขนาบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เคลื่อนตัวเข้ามาหาพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง ฝุ่นทรายที่เกิดขึ้นจากยานพาหนะกลอกกลิ้งไปในอากาศราวกับพายุทราย
"บัดซบ มันคือกองทัพกบฏลิเบีย!"
หลังจากดูผ่านกล้องส่องทางไกลกำลังสูง พาวเวลล์ก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างกังวลใจ
กองทัพกบฏ? !
สิ่งนี้ทำให้หัวใจของสมาชิกทีมหน่วยซีลเต้นโคมคราม
พาวเวลล์ ตอบสนองทันที "คุณเหม่ย ความปลอดภัยของซาร่าขึ้นอยู่กับคุณ คุณหลบหนีออกไปก่อน พวกเราจะคอยกันอยู่ข้างหลังเอง!"
เสี่ยวหลัว ไม่เกรงใจ ก่อนที่เขาจะสามารถระบุจำนวนทหารกบฏลิเบียและอาวุธที่พวกมันครอบครองได้ เขาจะไม่เย่อหยิ่งและเผาสะพานของตนเองทิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อศัตรูโจมตีขนาบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ร่วมกับ ซาร่า เสี่ยวหลัว ขึ้นรถจี๊ปของเขาและเหยียบคันเร่ง พุ่งออกไปทางทะเลทรายทางปีกขวา
"บัดซบเอ้ย ชาวฮัวขี้ขลาด มันก็เก่งแค่วิ่งหนีเท่านั้นแหละ!"
ไรซ์สบทออกมา การหลบหนีของ เสี่ยวหลัว นั้นรวดเร็วและราบรื่นมาก จน ไรซ์ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า เสี่ยวหลัว นั้นขี้ขลาด
“หุบปาก แกยังจะมาสนใจที่จะทะเลาะกันในสถานการณ์วิกฤติแบบนี้อีก? แกอยากตายนักใช่ไหม”
พาวเวลล์ ตำหนิไรซ์อย่างโกรธเกรี้ยว แล้วโบกมือ "ขึ้นรถ ถอย!"
"รับทราบ"
ส่วนที่เหลือของทีมตอบสนองอย่างรวดเร็ว
ยานพาหนะทางทหารสองคันตามรถของ เสี่ยวหลัว พุ่งออกจากแนวรบด้านหน้าและด้านหลังของกบฏลิเบียด้วยความเร็วสูงสุด
ทะเลทรายโกบีอันกว้างใหญ่เต็มไปด้วยกรวดและทราย ในขณะที่รถยนต์ยานพาหนะทางทหารเคลื่อนผ่านมันก็บดขยี้ฝุ่นทรายจนฝุ่นทรายปลิวไปในอากาศ
เมื่อ เสี่ยวหลัว และทีมหน่วยซีลเลือกทิศทางที่จะฝ่าออกไป ยานเกราะของกบฏลิเบียก็เปลี่ยนทิศทางพวกมันกระจายตัวออกไล่ตามพวกเขา
"ปัง...บูม...ปัง..."
กระสุนของบาซูก้าคำรามพุ่งผ่านท้องฟ้า ตกลงมาใกล้ยานพหนะของเหล่าสมาชิกหน่อยซีล "บูม" ในชั่วพริบตา พื้นดินพลันเคลื่อนตัวภูเขาสั่นสะเทือน ความผันผวนของพลังงานในอากาศทำให้แก้วหูรู้สึกเสียวซ่า สายตาสั่นสะท้าน ทำให้วิสัยทัศน์ของพวกเขาได้รับผลกระทบ จนไม่สามารถโฟกัสทิศทางได้