ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 41 เทพมนุษย์ปรากฏตัวขึ้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 43 ทักษะปรับแต่งต้นกำเนิดจิตวิญญาณ

80Y-ตอนที่ 42 เทพในสายตามนุษย์


วัดซวนคงและวัดเส้าหลิน…

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองของนิกายพุทธกลับยอมจำนนภายใต้แรงกดดันของเทพมนุษย์

พวกเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อต้านเลย

ในขณะเดียวกัน ทุกคนใน เจียงหนาน ก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง

ส่วนใครที่ไม่ได้ไปชมการแสดงของทั้งสองนิกายก็กำลังรอดูผล

พวกเขาต้องการดูว่านิกายชาวพุทธจะทำให้ผู้ส่งสารทั้งสองของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาอับอายขายขี้หน้าอย่างไร

พวกเขาต้องการดูนิกายพุทธทั้งสองฉีกราชโองการของจักรพรรดิหมิงออกเป็นชิ้น ๆ

แต่เมื่อข่าวออกมา…

บรรดาผู้ที่ได้ยินก็ต่างตกตะลึง

ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านราวกับว่าพวกเขาชราภาพไปแล้ว

เทพมนุษย์!

มีเทพมนุษย์ปรากฏตัวขึ้น!

การดำรงอยู่ของตัวตนอันสูงส่งได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว

ชั่วพริบตาเดียวทั่วทั้งโลกก็พลันโกลาหล

ราวกับมีภูเขาขนาดใหญ่ได้ชนเข้ากับทะเลสาบอันเงียบสงบ

ภูเขาเหล่านี้ได้พังทลายลงมาจนก่อใหเกิดขึ้นคลื่นน้ำที่โหมกระหน่ำ

สิ่งเหล่านี้ได้ตอกลงบนจิตใจของทุกคน

โลกทั้งโลกต่างตกอยู่ในความโกลาหลเมื่อได้ยินข่าวนี้

เทพมนุษย์ ได้ปรากฏตัวขึ้นในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา

เป็นเทพมนุษย์คนแรกในรอบ 1,500 ปี

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตอนนี้ยังไม่มีเทพมนุษย์คนที่สองปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้

ในช่วง 1,500 ปีที่ผ่านมา เทพมนุษย์ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อน

ตำนานของขอบเขตช่วงพลังนี้ได้ถูกลืมเลือนไปแล้ว

หลายคนได้ถือว่าขอบเขตพลังนี้ล้วนเป็นตำนาน

พวกเขาไม่เต็มใจที่จะเชื่อว่ามันมีอยู่จริง

เวลาหลายปีผ่านไป เหล่าผู้คนเริ่มไม่เชื่อถือการมีอยู่ของเทพมนุษย์ในอดีต

แต่หลังจากฝนตกครั้งนั้น เทพมนุษย์คนแรก ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เขาได้เป็นที่รู้จักผ่านทางภาพวาดทั้งสองที่สามารถสะกดข่มนิกายพุทธทั้งสองได้ ข่าวนี้ในที่สุดก็มีคนเชื่อว่าเทพมนุษย์เคยมีอยู่จริง

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเริ่มตระหนักได้ถึงความทะเยอทะยานอันแรงกล้าที่จะฝ่าฟันไปยังขั้นเทพมนุษย์

บรรดาผู้ที่อยู่ในช่วงที่สามของขั้นปราชญ์การต่อสู้อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเมื่อได้ยินข่าวนี้

“เหตุใดตำนานเช่นนี้จึงปรากฏขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับข้า!”

พวกเขาทำได้เพียงไปถึงช่วงที่สามของขั้นปราชญ์การต่อสู้หลังจากฝนตก

แม้จะมีบางคนไปถึงช่วงที่สี่ แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

สำหรับเทพมนุษย์?

พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับว่ามันอยู่เหนือความจริง

ราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่ วิหารศักดิ์สิทธิ์

สตรีศักดิ์สิทธิ์ ที่สวมชุดสีแดงอันสูงส่ง ดวงตาของนางเป็นประกายเมื่อได้เห็นจดหมายในมือของนาง

นางอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ“ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีอัจฉริยะเช่นนี้ปรากฏขึ้นบนโลก เขาได้กลายเป็นเทพมนุษย์หลังจากฝนตกครั้งนั้น”

“แม้แต่ข้า ก็ไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น…”

“นี่คือโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยชีวิตจริง ๆ”

ฐานการบ่มเพาะพลังของสตรีศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นด้วยความเร็วสูงสุด

ตอนนี้นางอยู่ในช่วงที่ 4 ของขั้นปราชญ์การต่อสู้แล้ว - เส้นทางการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ตามนางยังห่างไกลจากขั้นเทพมนุษย์มาก

“น่าเสียดายสำหรับเจ้า ข้ามีประสบการณ์มากกว่า มันไม่มีปัญหาสำหรับข้าในอนาคตที่จะตามทันและแซงหน้าเจ้า”

“เจ้าเพิ่งเข้าสู่ขั้นเทพมนุษย์…”

“เพิ่งจะทะลวงขั้นพลัง ความเร็วในการฝึกฝนของเจ้าจะต้องลดลงอย่างไม่ต้องสงสัย”สตรีศักดิ์สิทธิ์กล่าวพูดด้วยความมั่นใจ

นางเชื่อมั่นอย่างแท้จริงว่าจะใช้เวลาไม่นานในการเข้าสู่ขั้นเทพมนุษย์

“เมื่อข้าก้าวข้ามไป บุพผาทุกดอกจะผลิบาน กลิ่นหอมของบุพผาจะแผ่ซ่านไปทั่วทั้งโลก!”

สตรีศักดิ์สิทธิ์ ได้พึมพัมออกมา

ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา,เมืองหลวงราชวงศ์

หลินเทียนหยหวน รู้สึกตกตะลึงและดีใจมากเมื่อได้รับข่าวจากเจียงหนาน

ลุงของเขาเป็นเทพมนุษย์แล้วจริง ๆ

นี่มันค่อนข้างน่าเหลือเชื่ออย่างมาก

ไพ่ในมือของเขาตอนนี้เริ่มที่จะแข็งแกร่งมากขึ้น

หลินเทียนหยวน รีบออกจากพระราชวังต้องห้ามและมุ่งหน้าไปยังตำหนักเย็นที่อยู่ห่างไกลเพื่อเยี่ยมเยือนและแสดงความยินดีกับลุงของเขา

“ขอแสดงความยินดีกับท่านลุงที่ได้เป็นเลื่อนขั้นเป็นเทพมนุษย์”

แต่คราวนี้เขากลับถูกปฏิเสธ

ประตูตำหนักเย็นไม่ไดเปิดออก

นอกจากนี้ หลินจิ่วเฟิง ยังบอกกับเขาด้วย“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การปฏิรูปตามเส้นทางที่พ่อเจ้าทิ้งเอาไว้ก็เริ่มมีผลแล้ว วัดและอารามต่าง ๆ ถูกรื้อถอน สิ่งนี้จะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ของราชวงศ์อยู่อย่างสงบสุข ทุกอย่างกำลังเคลื่อนตัวไปสู่ความฝันสูงสุดที่พ่อเจ้าต้องการ”

“ทว่า จากนี้ไปเจ้าต้องพึ่งพาตัวเองแล้ว”

หลินเทียนหยวน จ้องมองอย่างว่างเปล่า

ความตื่นเต้นของเขาได้หายไปในทันที

เขาคุกเข่าอยู่นอกตำหนักเย็นและอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา“ท่านจะทิ้งข้างั้นเหรอ?”

“เจ้าโตแล้ว”

“เจ้าไม่สามารถพึ่งพาข้าได้ตลอดทุกครั้งที่เจ้าประปัญหา ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นจะต้องมาที่นี่อีกในอนาคต ข้าสามารถรับประกันความปลอดภัยของเจ้าได้ชั่วขณะนึง แต่ข้าไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ตลอดไป เจ้าคือ จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ไม่ใช่ข้า!”เสียงเย็นชาของ หลินจิ่วเฟิง ได้ดังขึ้น

หลินเทียนหยวน รู้ว่าเขาไม่มีทางที่จะเปลี่ยนความคิดของลุงเขาได้

ลองคิดดู เขาทำให้ลุงของเขาลำบากตั้งหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เมื่อใดก็ตามที่เขาพบกับอันตราย สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือลุงของเขา

การมีอยู่ของ หลินจิ่วเฟิง ทำให้เขารู้สึกสบายใจยิ่งขึ้น

นี่เป็นผลให้เขามัวแต่พึ่งพาความช่วยเหลือจาก หลินจิ่วเฟิง เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก หลินจิ่วเฟิง เขาก็ไม่สามารถทำอะไรเองได้เลย

และดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปแล้วว่า การที่ หลินจิ่วเฟิง ดูแลเขาเป็นเพราะเขามีสายเลือดของจักรพรรดิหยวน

“ท่านลุง โปรดดูแลตัวเองด้วย ข้าจะไม่รบกวนท่านแล้ว”

หลินเทียนหยวน ได้โค้งคำนับและจากไป

ไพ่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาไม่มีอีกต่อไปแล้ว

เขาต้องกลับไปจัดการราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาให้เป็นไปตามทิศทางที่ถูกต้อง

โชคดีแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากลุงของเขาก็ตาม แต่เขาก็ยังใช้ช่อของ หลินจิ่วเฟิง ในการยับยั้งและขู่เข็ญคนอื่น

นอกจากนี้ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่รู้เรื่องนี้

ในตำหนักเย็น เจ้าแมวขาวได้มองไปที่ แผ่นหลังของ หลินเทียนหยวน ที่จากไป มันได้เขียนตัวอักศรบนผนังของลานที่พัก“เจ้าจะไม่ช่วยเขาอีกแล้วงั้นเหรอ?”

หลินจิ่วเฟิง ได้พยักหน้า“เว้นแต่จะมีอันตรายร้ายแรงเกิดขึ้น ข้าจะไม่ช่วยเขา”

“ทำไมเจ้าไม่บอกเรื่องนี้กับเขา?”เจ้าแมวขาวได้เขียนคดเคี้ยว

“ถ้าข้าบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงและทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังเพราะเขารู้ว่าข้าจะสนับสนุนเขา ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับตัวเขาเลย”หลินจิ่วเฟิง ได้สั่นศีรษะ

นี่คือเหตุผลที่ หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้ให้ความหวัง หลินเทียนหยวน ด้วยวิธีนี้ หลินเทียนหยวน จะต้องทำงานหนักและระมัดระวังตัวมากขึ้น

“เจ้าทะลวงผ่านขั้นเทพมนุษย์แล้วงั้นหรือ?”เจ้าแมวขาวได้กล่าวถาม

ดวงตาของมันสว่างไสวและเป็นประกายอย่างมากขณะที่มองไปที่ หลินจิ่วเฟิง

เทพมนุษย์!

นี่เป็นขั้นพลังเดียวกับเจ้านายของมัน จอมมาร!

“ถูกต้อง”หลินจิ่วเฟิง ได้ยอมรับ

“เจ้าทะลวงผ่านไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”เจ้าแมวขาวกล่าวถามด้วยความสงสัย

“ในคืนที่ฝนตก”หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับทันที

ฝนนั้นเป็นพรแก่ทุกคนบนโลก

ผู้ที่หลับใหลในคืนนั้นก็ยังได้รับการหล่อเลี้ยงจากน้ำฝน

หลินจิ่วเฟิง เป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด

เขาได้ผ่านธรณีประตูของช่วง ‘ข้ามผ่าน’ และ เส้นทางการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่…

เพื่อขึ้นสู่ขั้นเทพมนุษย์โดยตรง

นี่เป็นเพราะ หลินจิ่วเฟิง ได้สั่งสมประสบการณ์มากมาย

สองทักษะบ่มเพาะพลังปีศาจ ทักษะกระบี่ต่าง ๆ และ ทักษะกำปั้นหกวิถีแห่งการจุติ…

นี่คือไพ่ตายของ หลินจิ่วเฟิง ในการทะลวงเข้าสู่ขั้นเทพมนุษย์

“มีอะไรแตกต่างออกไปหรือไม่หลังจากเจ้าเข้าสู่ขั้นเทพมนุษย์?”เจ้าแมวขาวได้เขียนเพื่อกล่าวถาม

หลินจิ่วเฟิง ได้ครุ่นคิดอยู่ครู่นึงก่อนที่จะอธิบาย…

“ขั้นเทพมนุษย์แตกต่างจากขอบเขตช่วงพลังอื่น ๆ ทั้งหมด เนื่องจากสิ่งนี้เป็นการเพิ่มพูนของพลังจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ด้วยสิ่งนี้ เราจะสามารถมองเห็นโลกในลักษณะที่แตกต่างจากคนอื่น นอกจากนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเทพมนุษย์ ยังสามารถ ใช้ ‘พลัง’”

ชื่อของ เทพมนุษย์ เป็นชื่อเรียกสำหรับคนธรรมดา

คำว่า ‘เทพมนุษย์’ คือการประกาศเกียรติคุณจากคนทั่วไปในสมัยนั้น

คนธรรมดาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ร้อยปีหรือมากกว่านั้น ในขณะที่เทพมนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างน้อย 800 ปี

ที่จริงแล้วยังมีบันทึกเกี่ยวกับเทพมนุษย์ที่มีอายุขัยยืนยาวที่สุดอีกด้วย เทพมนุษย์ ผู้นั้นมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 1,800 ปีหลังจากใช้วิธีการต่าง ๆ ในการยืดอายุขัยของเขา

ยังมีจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เมื่อหลับตาลง จะสามารถท่องไปทั่วโลกและสอดส่องเข้าไปยัง เต๋าสวรรค์และปฐพีที่ยิ่งใหญ่

สิ่งนี้เรียกว่า ‘พลัง’

เพียงแค่สะบัดข้อมือ ภูเขาจะถล่มและแม่น้ำจะไหลย้อนกลับ

สำหรับมนุษย์แล้ว การดำรงอยู่ของตัวตนเช่นนี้จะเป็นอะไรได้นอกจาก ‘เทพ’ ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด