333-334
5/8
Ep.333
ซูเฉินเดาะลิ้น เอ่ยชมในใจว่า ‘เจ๋ง!’
[หินบดดาราเทียนกัง] สามารถขยายใหญ่ขึ้นได้ ตอนแรกเขาไม่รู้เรื่องนี้
เพราะตอนที่เขาได้รับมันครั้งแรก ไม่มีข้อมูลใดๆกล่าวถึงในส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นับเป็นสิ่งที่ดี
เอาไว้ในอนาคต เขาค่อยศึกษา และเพิ่มวิธีใช้มันโจมตีอีกหลายๆแบบ
แล้วอีกอย่าง พลังของ [หินบดดาราเทียนกัง] ยังน่าประทับใจมาก สามารถใช้สังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ได้ง่ายๆ
หากเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ก็ยังมั่นใจได้ว่าอีกฝ่ายจะถูกทุบจนตาย
จมอยู่ในห้วงภวังค์ความคิดพักหนึ่ง ซูเฉินก็ก้าวไปข้างหน้า เอื้อมมือก้มลงสัมผัส [หินบดดาราเทียนกัง]
ทันทีที่สั่งการในจิตใจ มันก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็วจนมีขนาดเหลือแค่กำปั้น ลอยกลับเข้าไปถุงเก็บของโดยอัตโนมัติ ราวกับมีจิตวิญญาณ
หลังจาก [หินบดดาราเทียนกัง] ถูกเก็บกลับไป ก็ปรากฏพายเนื้อสีแดงเหลวขึ้นบนพื้น
ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าพายเนื้อนี้คือซุนเทียนกัง
ซูเฉินกวาดมองไปรอบๆ และกลับไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ]
“ซูเฉิน พวกเราจะไปที่ไหนกันต่อ?” หวู่หยางเดินมาหยุดข้างๆซูเฉิน แล้วเอ่ยถาม
“ไปเมืองจินอา ที่นั่นมีซอมบี้ 50,000 ตัวรอพวกเราอยู่” ซูเฉินตอบกลับไป
“เยอะขนาดนั้นเชียว?”
หยางฮ่าวและสหายพอได้ยินก็เริ่มตื่นเต้นเล็กน้อย ขณะเดียวกันรู้สึกประหม่า
เพราะแม้ก่อนหน้านี้ จำนวนซอมบี้ที่พวกเขาเคยสังหาร รวมๆกันจะเกินกว่า 50,000 ตัวไปแล้วก็ตาม แต่สนามรบครั้งต่อไปที่จะถึงนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้เผชิญหน้ากับซอมบี้ 50,000 ในคราวเดียว
หลังจากนั้น [รถศึกอัจฉริยะ] ก็เริ่มมุ่งหน้าสู่เมืองจินอา
แต่ผ่านมาได้ครึ่งชั่วโมง ซูเฉินก็สั่งให้มันหยุด แล้วเริ่มเตรียมอาหาร
ซอมบี้ 50,000 ตัวไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เขาไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะฆ่าพวกมันหมด
ดังนั้นก่อนที่จะไปถึง เขาตั้งใจเติมพลังงานให้อิ่มท้องก่อน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ทุกคนกินดื่มจนอิ่มหนำ และกำลังจะออกเดินทางต่อ แต่ทันใดนั้นเสียงแจ้งเตือนจาก [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ดังขึ้น
“คำเตือน มีซอมบี้จำนวนมากและมนุษย์กำลังใกล้เข้ามาหาพวกเรา”
“หืม?” ซูเฉินงงเล็กน้อย
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มนุษย์และซอมบี้อยู่รวมกันได้?
เขาฟังผิดไปรึเปล่า มันอาจเป็น ‘ฝูงซอมบี้จำนวนมากกำลังไล่ฆ่ามนุษย์’ ใช่ไหม ไม่ก็ ‘มนุษย์กำลังไล่ล่าซอมบี้?’
เมื่อไม่เข้าใจสถานการณ์ ซูเฉินหันหน้าไปมองหน้าจอควบคุมส่วนกลางเพื่อดู และพบว่ามีจุดสัญญาณสีแดงและน้ำเงินนับพันบนหน้าจอจริงๆ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของจุดสัญญาณเหล่านั้นต่างจากที่เขาคิดไว้
จุดสีแดงและสีน้ำเงิน ไม่มีฝ่ายใดตกอยู่ในสถานะไล่ล่าหรือถูกล่า แต่พวกมันปะปนกัน และกำลังมุ่งมาทางนี้
ความหมายนั้นชัดเจน ซอมบี้และมนุษย์ กำลังอยู่ในสถานะร่วมมือกัน
พวกมันต้องการอะไร?
หรือมาที่นี่เพื่อเขา?
ซูเฉินขมวดคิ้วมุ่น เริ่มเหม่อลอยจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
หวู่หยางสังเกตเห็นว่าสีหน้าของซูเฉินไม่สู้ดี เอ่ยถามเสียงต่ำ “ซูเฉิน เกิดอะไรขึ้น?”
“มีฝูงซอมบี้กับกลุ่มมนุษย์กำลังตรงเข้ามาหาเรา เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้” ซูเฉินตอกลับอย่างง่ายๆ จากนั้นเปิดประตูรถและเดินลงไป
ซอมบี้ไม่กี่พันแม้จะจำนวนน้อยไปบ้าง แต่เนื่องจากพวกมันพาตัวเองมาส่งถึงหน้าประตู ซูเฉินก็จะสนองให้ตามคำขอ
“ยังมีซอมบี้ที่กล้ามาหาเรื่องพวกเราก่อนอยู่อีกหรอ?” สือต้าหนิวแสยะยิ้ม ยก [ค้อนสวรรค์] ขึ้นวางบนบ่า เดินตามหลังซูเฉิน
คนอื่นๆมองหน้ากัน ทยอยกันลงจากรถ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ปรากฏรถฐานทัพสองคันวิ่งมาทางพวกเขา และที่อยู่เบื้องหลังรถฐานทัพ เป็นฝูงซอมบี้และมนุษย์
เมื่อคู่ต่อสู้บุกมาถึงเบื้องหน้า ซูเฉินหรี่เพ่งมอง ก่อนเลิกคิ้วและหัวเราะหยัน “ที่แท้ก็เป็นพวกกลุ่มอินทรีทองนี่เอง”
หนึ่งในรถฐานทัพมีหัวอินทรีทองติดตั้งอยู่หน้ารถ ซึ่งนั่นเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของกลุ่มอินทรีทอง
นอกจากนี้ มนุษย์ที่วิ่งตามมายังสวมชุดสีดำทั้งหมด
มันแทบจะเหมือนกับการแต่งกายของพวกอินทรีทอง ที่ซูเฉินเคยฆ่าก่อนเข้าอุโมงค์ทุกประการ
ด้วยสองประเด็นที่กล่าวมานี้ ซูเฉินจึงเดาว่าฝ่ายมนุษย์ผู้มาเยือน คือกลุ่มอินทรีทอง
6/8
Ep.334
“กล้ามารนหาที่ตายด้วยตัวเอง!” ประกายเย็นชาสะท้อนในแววตาของซูเฉิน
เดิมที เขามีแผนที่จะกำจัดกลุ่มอินทรีทองอยู่แล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง แบบนี้ช่วยประหยัดเวลาให้เขาได้เยอะ
กองกำลังซอมบี้และกลุ่มอินทรีทองเมื่อประชิด ก็กระจายตัว ล้อมรอบซูเฉินและคนอื่นๆไว้ตรงกลาง
เอี๊ยดดดด!
รถฐานทัพสองคันจอดลง
รถฐานทัพทางซ้ายมือ เป็นร่างผอมแห้งเหมือนเสาไม้ไผ่เดินลงมา ใบหน้าของมันมืดมนบ่งบอกว่าเป็นซอมบี้
รถคันขวามือเป็นชายหัวล้านตาเดียว
ทั้งสองเมื่อลงจากรถ ก็มองไปยังซูเฉินและคนอื่นๆ ดวงตาของทั้งคู่ลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความเกลียดชัง
หลังจากเฝ้ามองอย่างเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง ชายหัวล้านตาเดียวก็โบกมือไปข้างหลัง ตะโกนว่า “พาตัวมา!”
“รับทราบ!”
ชายสองคนจากกลุ่มอินทรีทอง พาตัวชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามา
ชายชราคนนี้ คือหนึ่งในมนุษย์ที่เคยถูกหยางซือลี่จับตัวมาก่อน ซูเฉินได้สนทนากับเขาสองสามคำ เลยยังพอจำได้
ถึงจุดนี้ เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดกลุ่มอินทรีทองถึงไล่ตามมา
คงเป็นเพราะหลังจากที่ชายชราคนนี้หนีไป คงโชคร้ายถูกกลุ่มอินทรีทองจับตัวได้อีกครั้ง เลยยอมสารภาพ
“ใช่พวกนี้รึเปล่า?”
ชายหัวล้านตาเดียวชี้ไปทางซูเฉินและคนอื่นๆ ตวาดเกรี้ยวกราด
ชายชราตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เอ่ยเสียงสั่นว่า “เป็นพวกเขา”
เมื่อยืนยันได้แล้ว ชายหัวล้านตาเดียวฟาดฝ่ามือลงบนศีรษะชายชราจนแหลกคามือ จากนั้นกวาดมองซูเฉินและคนอื่นๆ แค่นเสียงเย็นชา “ในหมู่พวกแก ใครเป็นคนฆ่าสมาชิกกลุ่มอินทรีทองของฉัน จงก้าวออกมารับความตาย!”
“ไอ้หมอนี่มันเล่นใหญ่ชะมัด อวดดีซะไม่มี” เฉาหรานเบ้ปาก
“เหอะๆ คนจากเขตหยูหลิน มีใครบ้างที่ไม่อวดดี? แค่ทำตัวให้ชินกับมันก็พอแล้ว” หยางฮ่าวพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ตั้งแต่เข้ามาในเขตหยูหลิน พวกเขาได้พบเจอผู้คนจำนวนมาก เกือบทุกคนล้วนเป็นคนพาล แม้แต่ซอมบี้ที่มีสติปัญญาก็ยังทำตัวอวดเบ่ง ดังนั้นควรปรับตัวให้คุ้นเคยเข้าไว้
“ฉันนี่แหละเป็นคนฆ่าเอง” ซูเฉินก้าวไปข้างหน้า เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “ส่วนแกคงเป็นจินซวี่หยาง หัวหน้ากลุ่มอินทรีทองใช่ไหม?”
“เออ! บิดานี่แหละจินซวี่หยาง!”
ชายหัวล้านตาเดียวตอบด้วยสีหน้าภาคภูมิ จากนั้นใช้สายตาประเมินซูเฉินอีกครั้ง ทันใดนั้นใบหน้าเขาปรากฏร่องรอยของความรังเกียจ เอ่ยดูแคลนว่า “ไอ้หนู อย่าขี้โม้ไปหน่อยเลย อย่างแกน่ะหรือเป็นคนฆ่าหยางซือลี่?”
ซูเฉินดูยังไงก็อายุน้อยกว่า 20 ปี จะแข็งแกร่งซักแค่ไหนเชียว?
ต่อให้เป็นอัจฉริยะหรือลูกรักของพระเจ้า อย่างมากสุดก็เป็นได้แค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3
แม้หยางซือลี่จะเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เช่นกัน แต่เธอคือตัวตนชั้นยอดในเลเวล 3 ต่อให้เป็นตัวจินซวี่หยางเอง หากเผชิญหน้ากันก็ใช่ว่าจะได้เปรียบเธอ แล้วแบบนี้ชายหนุ่มตรงหน้ามีหรือจะฆ่าหยางซือลี่ได้?
ซูเฉินปาดจมูกเขา ขึ้นเสียงว่า “ไม่ต้องพูดถึงหยางซือลี่ ต่อให้พวกแกทุกคนมัดรวมกัน มันก็ไม่ต่างจากมดในสายตาฉัน สามารถบี้ให้ตายได้ด้วยมือเดียว!”
คำพูดนี้อวดโอ้เป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังหยิ่งผยองนัก แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่ไม่มีใครเทียบได้ของซูเฉิน
อย่างไรก็ตาม คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ได้คิดเช่นนั้น
พวกเขาทั้งหมดคิดว่าซูเฉินคงเป็นบ้า แถมยังเป็นคนบ้าที่แสร้งทำเป็นเก่ง
ซอมบี้นับพันรวมถึงกลุ่มอินทรีทองหลายร้อยคน กลับกลายเป็นมดในสายตาเขาอย่างงั้นหรือ?
จะอวดเก่งทั้งที สมควรมีลิมิตบ้างสิถึงจะถูก
เมื่อเผชิญหน้ากับพวกเขา ต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ก็ยังไม่กล้าอาละวาดแบบนี้เลย
ขณะที่แกเป็นแค่เด็กขนเพิ่งเริ่มขึ้น ยังอายุไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ กล้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร?
“ฮะ ฮะ … ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ในตอนนั้นเอง มีเสียงหัวเราะลั่นแว่วมาจากเบื้องหลังจินซวี่หยาง
ซอมบี้ที่มีใบหน้ามืดมนเลิกคิ้วสูง มองซูเฉินด้วยความสนใจ เอ่ยถามว่า “ในเมื่อแกบอกว่าตัวเองแข็งแกร่งนักหนา งั้นกล้าประกาศชื่อตัวเองหรือไม่?”
“บิดาโม่เฉิงกงแห่งภูเขาฉีหลิน พวกมดปลวกอย่างแกจะทำอะไรฉันได้?” ซูเฉินตัดสินใจกวนประสาทพวกมัน เอ่ยชื่อนี้ดังสุดเสียง