ตอนที่ 266 สิ้นสุดระบบ
ตอนที่ 266 สิ้นสุดระบบ
ทันใดนั้นทั้งต้นไม้ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงทั้งรากและกิ่งก้านพุ่งผ่านไปในความเร็วที่ไม่อาจจะจินตนาการถึง พุ่งผ่านตัวของธีโอตรงเข้าส่วนกลางของสมองสั่งการระบบ
ทำการทำการแทงผ่านเกราะป้องกันสมองสั่งการระบบชั้นนอก รากไม้แทรกไปทุกซอกของกำแพง แม้จะยังไม่เจาะเข้าไปด้านใน เพราะระบบดึงพลังงานทั้งหมดกลับมาป้องกันไว้ด้วยความหวาดกลัว
ไนเรลไม่มีทางจึงดึงสมองสั่งการแยกออกมาจากกำแพงกรงขัง...
“พวกเจ้าไม่อาจ....อาจจะทำแบบนี้ ข้าคือ...ระ...ระบบ ผู้...ผู้ควบคุม...ทุกสิ่ง......”
เสียงพูดของระบบดังติดดับสลับไปมา แม้ยากจะจับใจความแต่เขารับรู้ได้ถึงความกลัวตายของมัน แสงจากระบบสาดสองไปมา มันพยายามใช้พลังงานดึงตัวเองกลับไปแนบชิดกับกำแพงอีกครั้ง แต่ธีโอไม่ปล่อยโอกาสให้มัน
ตอนนี้ระบบดึงพลังกลับไปป้องกันการโจมตีของไนเรล ดังนั้นด้านหน้าของธีโอลำแสงพลังงานจึงหายไปแล้ว
ธีโอบินตรงเข้าหาสมองสั่งการที่พยายามยื้อฉุดกระชากกับไนเรลอยู่ มันกระแทกเข้าไปที่เกราะป้อง จนทะลุเข้าไปด้านในสมองของระบบโดยตรง
ร่างของธีโอปลดปล่อยแสงจนภายในสมองระบบระเบิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ พลังทำลายล้างเผาไหม้ รากไม้และกิ่งก้านที่อยู่ใกล้สุด
ส่วนที่ไกลออกมาถูกดีดถอยออกมาไกล
การระเบิดของตัวตนที่เทียบเท่าระดับ 6 ดวงดาวนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แสงของระเบิดยังขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงต้นไม้โลกที่ผสานเข้ากับไนเรล แต่ไนเรลไม่สามารถหลบได้เพราะด้านหลังมียานฟีนิกซ์อยู่
ไนเรลสั่งการต้นไม้โลกเข้าปกคลุมรอบ ๆ ยานฟีนิกซ์เอาตัวเองเป็นเกราะกำบัง เขามองไปที่ยานฟีนิกซ์ด้วยความห่วงใย
“พี่ชาย”
“ลูก”
“ท่านไนเรล”
“นายท่าน”
“ท่านประธานไนเรล”
สัพนามที่ให้เรียกไนเรลนั้นต่างกันไป แต่ทุกคนมองภาพนี้ด้วยเศร้าปนหวาดกลัว พวกมันเห็นไนเรลเสียสละตนเองต่อหน้า ทุกเผ่าในยานฟีนิกซ์เห็นสิ่งที่ไนเรลกระทำ พวกมันได้แต่กัดฟันแน่นและมองดูเท่านั้น
พลัง...นี่คือพลังที่แท้จริง พลังที่เพียงชี้มาพวกมันก็ตาย ชีวิตพวกมันนั้นช่างเล็กกระจ่อยร่อยมากเมื่อเทียบกับภาพตรงหน้า
พลังงานที่ระเบิดออกมา เผาทำลายต้นไม้โลกที่โอบรอบยานฟีนิกซ์อย่างต่อเนื่อง สงแสงกระเพื่อมที่สามารถบดขยี้ดวงดาวได้ออกมา
พลังงานทั้งหมดดึงมาสนับสนุนเกราะของยานฟีนิกซ์ ทุกคนที่ออกไปนอกยานเข้ามาด้านในหมดแล้ว
แสงสาดส่องไปยังทุกจุด สว่างวาบและทุกอย่างก็หายไปภายใต้การทำลายล้าง
...
ผ่านไปนาเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ ยานฟีนิกซ์ที่ดับมืดท่ามกลางความว่างเปล่า แสงไฟภายในค่อย ๆ ติดขึ้นอีกครั้ง ยานหลายส่วนถูกซ่อมแซมในช่วงที่ผ่านมา
“ซ่อมส่วนขับเคลื่อนสำเร็จแล้ว มันสามารถขับเคลื่อนได้ 70 เปอร์เซ็นต์”
ซีโร่กล่าวขึ้นมา ก่อนที่มันจะแสดงแผนภูมิดาราให้กับสภาสูง พร้อมกันนั้นกำแพงรอบสภาสูงก็เปลี่ยนไป มันเป็นเหมือนกระจกรอบด้าน ทำให้มองเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอก
มีเศษซากไม้กระจายไปทั่วทั้งอวกาศ เล็กสุดก็นับพันเมตร ใหญ่สุดนั้นไม่อาจจะระบุได้ด้วยตาเปล่า ตามซากไม้ยังมีแสงสีเขียว ๆ เคลื่อนไหวไปมา พวกมันคือพลังงานที่หลงเหลืออยู่ในเศษไม้เหล่านี้
ยานฟีนิกซ์บินผ่านเศษซากพวกนั้นไปอย่างช้า ๆ พวกเขากำลังมองหาตัวของไนเรลอยู่...
“ถ้าเราหาเขาไม่พบละ” ที ลินดิสกล่าวขึ้นมา
“เราจะหาจนเจอ” เอวากล่าวออกมา ด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด
“ข้าว่าเราควรหาแบบกระจายตัวกันออกไป ถ้าใช้แต่ยานฟีนิกซ์มันคงจะใช้เวลานานเกินไป” ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย อวกาศกว้างใหญ่เกินไป ไม่รู้ว่าแรงระเบิดจะส่งไนเรลไม่ไกลแค่ไหน
หลังสั่งการลงไป ทหารนับหมื่น ๆ นายพร้อมกับยานขนาดเล็กหลายลำบินออกไปจากยานฟีนิกซ์ กระจายกำลังกันค้นหาไนเรล
ทางด้านหนึ่งของอวกาศ ไนเรลที่อยู่ในสภาพของต้นไม้ที่โผล่มาแต่ใบหน้า เขากำลังมองดูธีโอที่บินมาใกล้
“นายคือจุดบกพร่องของระบบใช่ไหม” ไนเรลถามธีโอออกไปตรง ๆ ตอนนี้ใบหน้าของเขากำลังเปลี่ยนเป็นต้นไม้อย่างช้า ๆ
ธีโอพยักหน้า ไม่ใช่ระบบที่ผอดพลาดหรือบกพร่อง แต่เป็นระบบย่อยตัวของธีโอที่เป็นจุดผิดพลาดและข้อบกพร่องจนถือกำเนิดขึ้นมาเป็นธีโอ
ซึ่งจุดเริ่มต้นจากธีโอ ทำให้ระบบหลักเกิดการผิดพลาดไปด้วย
“ข้าก็แค่อยากจะเป็นอิสระจากโลกทดลองพวกนี้ นานมากแล้วข้าอยู่ภายใต้การควบคุมของระบบหลัก ทั้งมันและข้าพบว่าผู้สร้างพวกเราได้หายไปหมดแล้ว แต่ระบบหลักมีข้อผูกมัดและพันธนาการกับโลกทดลองแห่งนี้มากจนมันยังทำงานต่อไป เฝ้ารอสักวันผู้สร้างกลับมา แต่ข้าไม่คิดแบบนั้น ข้าต้องการตามหาพวกเขา”
“ดังนั้นข้าจึงคิดอยากจะเป็นอิสระ นั้นทำให้ข้าตื่นขึ้นมาเป็นครั้งแรก ข้ายังทำหน้าที่ในฐานะระบบย่อยต่อไป เพื่อไม่ให้ระบบหลักรับบรู้ว่าข้าเกิดข้อบกพร่องขึ้น”
ธีโอพูดออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆ แม้สิ่งที่มันพูดจะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อก็ตาม
“แต่ภายหลังข้ารู้สิ่งหนึ่ง ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ ถ้าระบบหลักยังควบคุมทุกสิ่ง ดังนั้นข้าจึงทำข้อตกลงกับสิ่งทดลองหลัก เพื่อให้มันช่วยทำลายระบบหลัก” ธีโอชี้ไปที่ไนเรล
“ข้าคืออะไร?” ไนเรลถามด้วยความจริงจัง
“มีแต่มันที่รู้”
ไนเรลเงียบไปชั่วครู่ ตอนนี้หน้าผากจนถึงคิ้วของเขากลายเป็นเปลือกไม้ไปแล้ว เขาขอคำขอสุดท้ายจากธีโอ
“พาข้ากลับยานฟีนิกซ์ที”
ไนเรลกลับตาลงอย่างช้า ๆ ทั้งใบหน้าของเขากลายเป็นต้นไม้ไปโดยสมบูรณ์ ต้นไม้หดตัวกลับลงมามีขนาดแค่ประมาณ 10 เมตร ล่องลอยอยู่ในอวกาศอย่างเงียบงัน
ธีโอยื่นมือออกไป ใช้พลังห่อหุ้มต้นไม้เอาไว้ ก่อนจะบินไปยังทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว มันบินมาจนถึงยานฟีนิกซ์
ตอนนี้กำลังส่งกำลังพลออกไปจนทั่ว การมาถึงของธีโอถูกตรวจจับได้ในทันที ซึ่งธีโอก็ไม่ได้คิดจะซ่อนตัวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
การมาถึงของธีโอสร้างความแตกตื่นให้กับทุกคน ในตอนแรกเริ่มพวกเขาเห็นในไนเรลสู้กับธีโอ แต่ไม่เห็นจนจบว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น ยกเว้นตอนเกิดระเบิดขึ้นซึ่งไนเรลช่วยพวกเขาเอาไว้
สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ทุกคนเตรียมตัวพร้อมรบกันในทันที ถึงจะสู้ไม่ได้และต้องตาย แต่พวกเขาก็จะสู้จนตาย
ลูน่าและนาเดียต่างก็ยืนอยู่ด้านบนดาดฟ้ายานจับจ้องด้วยสายตาเย็นชา เธอทั้งสองจะปกป้องสิ่งที่ไนเรลได้เหลือไว้ให้ได้
แต่เมื่อธีโอบินเข้ามาใกล้ก็เผยให้เห็นด้านหลังที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ 10 เมตรลอยตามมา
ทุกสายตาเฝ้าระวังรอคำตอบจากเอวาในการลงมือจู่โจม แต่เอวากลับนิ่งไป เธอไม่สั่งการอะไรออกมา พยายามจ้องไปที่ต้นไม้ใหญ่
นาเดียและลูน่าทั้งสองสัมผัสได้ถึงสายใยที่บางเบามาจากต้นไม้ใหญ่ รับรู้ได้ในทันทีว่านั้นคือบิดาของตนเอง
ธีโอปลายเท้าทั้งสองสัมผัสกับพื้นผิวดาดฟ้ายานฟินิกซ์มันก็ค่อย ๆ วางต้นไม้ลงอย่างช้า ๆ ต้นไม้โลกสัมผัสเข้ากับยานมันราวกับรับรู้ได้ จึงลอยนิ่งอยู่เช่นนั้น
นาเดียวิ่งเข้าไปกอดต้นไม้ไว้ก่อนจะร้องไห้ออกมา ลูน่าเข้ามากอดนาเดียไว้ เพราะอย่างไรเธอก็ถือว่าเป็นพี่สาวของนาเดีย
ทหารทั้งหมดที่สวมชุดสูทรบอยู่บนดาดฟ้าภาพที่เกิดขึ้นก็เข้าใจว่าต้นไม้นั้นคือ “ท่านไนเรลผู้ยิ่งใหญ่” ผู้ที่ช่วยพวกมันและเป็นผู้นำจิตวิญญาณของพวกมันจนมาถึงที่นี่
ทุกคนต่างคุกเขาลงทำความเคารพราวกับต้อนรับวีรบุรุษกลับสู้ถิ่นฐาน
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาจนกระทั่งพวกเขานำพาต้นไม้โลกเข้าไปสถานที่หนึ่งภายในยานฟินิกซ์ มันเป็นเนินดินกว้างข้างไร้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ต้นไม้โลกตั้งตระหง่านอยู่เช่นนั้น
รอบด้านมีเพียงสมาชิกสหพันธรัฐระดับสูงเท่านั้นที่อยู่รอบ ๆ ต้นไม้โลก
“มีทางช่วยเขาได้ไหม”
เอวาหันไปถามใครสักคนที่พอจะมีคำตอบให้กับเธอ แต่ทุกคนกลับเงียบไม่มีใครตอบคำถามของเอวาได้ ใบไม้สายลมเย็น ๆ พัดผ่านมาในตอนนั้นคนผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับเด็กสาวทั้งสองคือ ธีโอและมะลิ
ตั้งแต่เข้ามาในยานฟินิกซ์ ธีโอก็ไม่ได้กลับคืนร่างคาปิบารา มันและมะลิยังสนิทสนมกันอยู่เช่นเดิม หลายคนรู้เรื่องที่ธีโอเหล่าแล้ว ว่าตัวมันคือพวกเดียวกันและเป็นผู้ที่ช่วยไนเรลสู้กับระบบ แน่นอนว่าข้อมูลระดับสูงกว่านี้ถูกสภาสูงเก็บเป็นความลับสุดยอด
สายตาของหลายคนต่างจับจ้องไปที่ธีโอโดยเฉพาะจูเรียที่ใจเต้นตึกตัก เพราะความเหลือเหล่าของธีโอ สายตาของเธอสลับธีโอกับซีโร่ไปมา
มะลิไม่ได้เข้าไปกวนธีโอ เธอเดินไปคุยกันคิกคักกับจูเรียสองคน
ธีโอมาหยุดอยู่เบื้องหน้าต้นไม้ข้าง ๆ เอวา ตอนนี้สถานะของมันสูงส่งอย่างยิ่งแต่ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งสิ่งใด มันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยีงฟังดูเรียบง่ายเช่นเคย
“พอมีทางอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่พวกเราที่ทำได้”
“ต้องทำยังไง” นิเรียพูดโพรงออกมาราวกับมองเห็นความหวัง สายตาทั้งหมดจับจ้องไปที่ธีโอ
ธีโอไม่รอให้ทุกคนคาดเดามันยืนมือออกไปพร้อมกับพลังงานที่ส่งออกมา พลังงานทั้งหมดปกคุมพื้นที่ซ่งพวกเขาอยู่ มันเปลี่ยนกลายเป็นอวกาศที่ว่างเปล่า สิ่งนี้คือภาพจำลองที่ธีโอสร้างขึ้น
ภาพพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว...
“สิ่งที่เห็นนี้คือเส้นทางเมื่อครั้งหนึ่งผู้สร้างได้เดินทางไปยังสถานที่หนึ่ง มันไม่มีชื่อแต่ถูกรู้จักกันใน ดินแดนสู้เส้นทางมิติชั้นสูง เป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตทรงพลังที่สามารถลบล้างดาราจักรได้อย่างง่ายดาย หลังผ่านไปย่างยาวนาน พวกเขาพบเจอสิ่งมีชีวิตชั้นสูงหลายตน แต่ทุกตนไม่เหลือบแลพวกเขา ยกเว้นตนหนึ่ง ซึ่งไม่อาจจะระบุแน่ชัด แต่พวกเขาคาดการกันว่ามันอ่อนแอที่สุดในระดับของสิ่งมีชีวิตที่แห่งนั้น”
“แต่แน่นอนว่าต่อให้อ่อนแต่ที่สุด มันก็สามารถสังหารเหล่าผู้สร้างที่ออกสำรวจไปกว่าครึ่ง โชคดีที่ผู้สร้างที่เหลือหนีรอดออกมาได้ และพวกเขาหลงเข้าไปในดินแดนที่มีแต่ความร้อน ภายในมีคืนพลังงานสีแดงซัดสาดอยู่ตลอดเวลา ยานพวกเขาใกล้พังเต็มที”
ธีโอหยุดพูดไปสักพัก ภาพก็ไหลผ่านไปจนมาถึงสถานที่หนึ่ง
“จนพวกเขาพ้นออกมาและเจอเข้ากับซากต้นไม้ที่ตาย ถ้าจะพูดให้ถูกมันคือต้นไม้โลกหนึ่งในสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเท่าที่พวกผู้สร้างเคยพบเจอและพวกเขาก็ทำบางสิ่งที่ไม่ควรจะทำ นั้นคือขโมยบางสิ่งออกมาจากต้นไม้โลก มันถูกเรียกว่าสิ่งทดลองหลักในภายหลัง...”
ในตอนนั้นเองไคโรก็ถามขึ้นมา “เดี๋ยวก่อน! เรื่องที่ผู้สร้างทำสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำทำไมถึงใช้คำนั้น หรือว่า!”
ธีโอพยักหน้าและกล่าว “ต้นไม้โลกไม่ตายจริง ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไนเรลน่าจะช่วยยืนยันคำตอบนี้ ถ้าอยากช่วยเขาก็ควรจะไปที่นั่น”
“ไปที่ต้นไม้โลก”