39 - ร่างในตำนาน
39 - ร่างในตำนาน
ในขณะนี้เป็นไปไม่ได้ที่หลิงซู่ตงเทียนจะครอบครองผู้มีพรสวรรค์ทุกคนไว้ หากพวกเขาทำเช่นนั้นผู้อาวุโสจากตงเทียนอีกห้าแห่งต้องทำให้พวกเขาได้รับความเจ็บปวดอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามมันเป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าและคายไม่ออกเพราะทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็ต้องการเย่ฟ่านและผังป๋อโดยไม่มีข้อยกเว้น
ดังนั้นบรรยากาศที่ตึงเครียดจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในเวลานี้หลิวว่านซานชายวัยกลางคนผู้สง่างามราวกับภูเขาได้ก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า
"ดูเหมือนว่าเราคงได้แต่ต่อสู้กันเท่านั้น"
"ถูกต้อง" หลี่อิ๋งผู้อาวุโสของจินเซี่ยตงเทียนพยักหน้าเห็นด้วย
“เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างความบาดหมางขึ้นก็ได้แต่ต้องตัดสินกันด้วยวิธีนี้เท่านั้น” ชายชราที่เป็นผู้อาวุโสของอู๋ติงตงเทียนหม่าหยุน ก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
ผู้อาวุโสหลายคนของหลิงซู่ตงเทียนมีใบหน้าบิดเบี้ยว เย่ฟ่านและคนอื่นๆถูกพบโดยพวกเขาแต่ในครั้งนี้พวกเขาต้องแบ่งปันผู้มีพรสวรรค์ออกไปให้กับตงเทียนแห่งอื่นๆ
พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนท้ายพวกเขาจะเหลือผู้มีพรสวรรค์ให้พากลับถึงสำนักหรือไม่
ผู้อาวุโสหลายสิบคนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือเริ่มต้นขึ้น
เย่ฟ่านและคนอื่นๆทั้งหมดออกจากห้องโถงและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่น่าเสียดายที่คนเหล่านั้นบินออกจากเมืองและทำสงครามในดินแดนห่างไกลซึ่งพวกเขามองไม่เห็น
ท้องฟ้าในระยะไกลเกิดแสงสว่างว่าเป็นครั้งคราว เย่ฟ่านเพียงสัมผัสได้ถึงเสียงกึกก้องที่ดังขึ้น รวมไปถึงเศษหินดินทรายที่พัดเข้าสู่เมืองเป็นบางครั้งบางคราว
โจวยี่ หลินเจี๋ย และคนอื่นๆต่างตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นผู้อาวุโสเหล่านี้ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้เห็นเหตุการณ์การต่อสู้โดยตรง
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็มีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากและต้องการครอบครองพลังเช่นนี้
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมารุ้งบนท้องฟ้าก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของห้องโถงอีกครั้ง
คนแรกที่มาถึงคือหญิงสาวนามเว่ยเว่ย ใบหน้าที่งดงามของนางมีความซับซ้อนเล็กน้อยขณะที่คิ้วก็ขมวดมุ่น
จากนั้นผู้อาวุโสคนอื่นๆในหลิงซู่ตงเทียนก็มาถึง แม้ว่าพวกเขาจะดูเขินอายและได้รับบาดเจ็บจนเลือดอาบไปทั่วร่างแต่ใบหน้าของพวกเขาก็สดใสและมีรอยยิ้มของผู้ชนะ
คนที่อยู่เบื้องหลังก็มีรอยแผลเป็นไม่มากก็น้อย แต่เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ใบหน้าของพวกเขาก็บิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด
หลิวว่านซานมีเลือดบนไหล่ของเขา เคราสีขาวของหม่าหยุนถูกตัดออกไปครึ่งนึง และไม้เท้าในมือของหลี่อิ๋งหญิงชราผมหงอก ก็ถูกตัดออกเป็นสองส่วน
“ไม่คิดว่าเว่ยเว่ยจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้แล้ว หากมีนางเป็นที่พึ่งพา หลิงซู่ตงเทียนคงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ในก้าวเดียวเท่านั้น!” หม่าหยุนถอนหายใจ
เย่ฟ่านและคนอื่นๆต่างก็ประหลาดใจมาก หญิงสาวที่ชื่อเว่ยเว่ยคนนี้ดูเบอบบางเหมือนดอกบัวที่งดงามและบริสุทธิ์ ไม่คิดว่านางจะทรงพลังจนสามารถเอาชนะผู้อาวุโสเหล่านี้ได้
“ในเมื่อข้าพ่ายแพ้ก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก เจ้าเลือกไปก่อนสองคนก็แล้วกัน”
ใบหน้าของหลิวว่านซานบิดเบี้ยวเป็นอย่างมาก แต่เขาก็มีคำพูดที่เป็นสัจจะและเดินถอยหลังเล็กน้อย
ผู้อาวุโสหลายคนจากหลิงซู่ตงเทียนก็ไม่มีความลังเลเช่นกัน พวกเขาเลือกเย่ฟ่านและผังป๋อโดยตรง จากนั้นพวกเขาก็มองหน้ากันและกันและหัวเราะอย่างสนุกสนาน
หลังจากนั้นหม่าหยุนผู้อาวุโสจากอู๋ติงตงเทียนก็เลือกหลิวอี่อี้ จากนั้น หลี่อิ๋งผู้อาวุโสของจินเซี่ยตงเทียนก็ก้าวไปข้างหน้าและเลือกจางจื่งหลิง
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ที่ด้านข้างของหลิงซู่ตงเทียนใบหน้าของผู้อาวุโสหลายคนก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรงในขณะที่พวกเขาตรวจสอบร่างกายของเย่ฟ่าน
“เป็นไปได้ยังไง!?”
คนอื่นๆก็สังเกตเห็นสถานการณ์ที่นี่อย่างรวดเร็ว พวกเขาหันไปมองผู้อาวุโสของหลิงซู่ตงเทียนที่ดูไม่มีความสุขแม้แต่น้อยและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น หากพวกเจ้าไม่พอใจในคนที่พวกเจ้าเลือกก็สามารถเปลี่ยนกับข้าได้?”
“เจ้ามาดูเองเถิด”
ผู้อาวุโสหลายคนจากหลิงซู่ตงเทียนมองเย่ฟ่านด้วยท่าทางเสียใจอย่างสุดซึ้งๆ
คนอื่นๆก็เข้าใจทันทีว่าร่างกายของเย่ฟ่านต้องมีปัญหาบางอย่างพวกเขาจึงรีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
หม่าหยุนผู้อาวุโสอู๋ติงตงเทียนเป็นคนแรกที่กล่าวขึ้น
“มีปัญหาอะไร? ชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งมากสามารถเทียบได้กับต้นกล้าเซียนของอาณาจักรสวรรค์เลยทีเดียว แล้วพวกเจ้าไม่พอใจตรงไหน”
ในเวลานี้ทุกคนเดินเข้ามาและเริ่มตรวจสอบเย่ฟ่าน เมื่อถูกผู้คนแตะต้องเย่ฟ่านก็รู้สึกไม่สบายใจนัก แต่เขาไม่มีความสามารถในการหยุดสถานการณ์นี้
ผู้อาวุโสของจินเซี่ยตงเทียนหลี่อิ๋งก็มีสีหน้างงงวยแล้วกล่าวว่า
"จะมีร่างกายที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง"
หลังจากการสำรวจเป็นเวลานานหลิวว่านซานก็เผยรูปลักษณ์ที่ไม่น่าเชื่อว่า
"กงล้อแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด มีพรสวรรค์สูงส่งจนน่าเหลือเชื่อ แต่น่าเสียดาย! น่าเสียดายที่มันไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ..."
"เกิดอะไรขึ้น ?!"
ยังมีหลายคนที่ไม่เข้าใจคำพูดของเขา ร่างของเด็กหนุ่มคนนี้เหมาะสมทุกประการที่จะทำการฝึกฝน มันจะไร้ประโยชน์ได้อย่างไร?
ในขณะนี้หม่าหยุนแห่งอู๋ติงตงเทียน ดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้ในทันใด และพูดกับตัวเองว่า
"มันเป็น ... ประเภทของร่างกายในตำนานหรือไม่"
เขาเริ่มสำรวจร่างกายของเย่ฟ่านอีกครั้งนิ้วของเขาเปล่งประกายเหมือนกับหยกสีแดงและทำการตรวจสอบร่างกายของเย่ฟ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน
หม่าหยุนใช้เวลาไม่นานก่อนจะหยุดนิ่งและกล่าวว่า
"โลกนี้มีร่างกายในตำนานจริงๆ ..."
"ร่างกายอะไร?" ผู้คนทั้งหมดแสดงสีหน้าแปลกๆ
"คนฟ้าบรรพกาล"
หม่าหยุนกลืนน้ำลายผ่านลำคอที่แห้งผากก่อนจะพูดคำนี้ออกมาได้
"อะไร ?!" ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างอุทานออกมาด้วยความตกใจ
ผู้อาวุโสหลายคนในหลิงซู่ตงเทียนรีบดึงเย่ฟ่านไปข้างหลังเพื่อตรวจสอบเย่ฟ่านอีกครั้ง
หลิวว่านซานรู้สึกเหลือเชื่อและพูดว่า
"เอี๋ยนตี้มีความกว้างใหญ่ไพศาลแต่ก็เป็นเพียงหยดน้ำในมหาสมุทรเมื่อเทียบกับตงหวง ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ในตงหวงของพวกเราก็ไม่เคยปรากฏร่างกายในตำนานระดับนี้ขึ้นเลย "
หลี่อิ๋งผู้อาวุโสของจินเซี่ยตงเทียนส่ายหัวและกล่าวว่า
"มันเป็นไปไม่ได้ที่ร่างกายระดับนี้จะปรากฏขึ้น ข้าเคยได้ยินมาว่าในอดีตมีมีร่างในตำนานเช่นนี้อยู่บ้าง แต่พวกเขาถูกเก็บซ่อนไว้โดยมหาอำนาจและไม่ให้ปรากฏสู่โลกภายนอก"
ในเวลานี้สายตาของทุกคนที่มองไปยังเย่ฟ่านนั้นเต็มไปด้วยความร้อนแรง แม้แต่โจวยี้ หลินเจี๋ย และคนอื่นๆก็ยังมองเย่ฟ่านด้วยสีหน้าแปลกๆ
แต่ในขณะนั้นหม่าหยุนแห่งอู๋ติงตงเทียนก็กระแอมและพูดว่า
"พวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว"
"แล้วมันคืออะไร?"
"เกิดอะไรขึ้น?"
ทุกคนมองเขาด้วยความประหลาดใจ
“เขามีร่างกายในตำนานจริงๆไม่มีข้อผิดพลาด แต่มันจะมีค่าก็ต่อเมื่อเขาฝึกฝนอยู่ในยุคโบราณเท่านั้น”
"เจ้าหมายถึงอะไร?"
หม่าหยุนอธิบายว่า
"ทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่าหากร่างกายแบบนี้ปรากฏขึ้นในโลกยุคโบราณซึ่งเต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณและกฎแห่งเต๋าที่สมบูรณ์เมื่อเขาผงาดขึ้นเขาจะกลายเป็นผู้ที่สามารถเย้ยฟ้าท้าดินไม่มีผู้ใดทัดเทียม
แต่เมื่อเขาเกิดขึ้นมาในยุคนี้ที่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไม่มีความสมบูรณ์และขาดแก่นแท้แห่งจิตวิญญาณเขาต้องใช้ความพยายามในการฝึกฝนมากกว่าคนอื่นนับร้อยเท่า แล้วเขาจะประสบผลสำเร็จได้อย่างไร”
“เจ้าพูดถูกแล้ว!…”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ทุกคนก็มองไปยังเย่ฟ่าน แต่สายตาพวกเขาไม่ได้มีความตื่นเต้นอีกแล้วและมันเต็มไปด้วยความผิดหวังมากกว่า
ร่างกายระดับตำนานนี้ใช่ว่าจะไม่เคยปรากฏขึ้นในโลก แต่มันต้องใช้ทรัพยากรมากมายมหาศาลในการฝึกฝน มิหนำซ้ำยังไม่การันตีความสำเร็จ ดังนั้นร่างกายชนิดนี้จึงไม่แตกต่างอะไรจากขยะที่ไม่สามารถใช้งานได้
"ร่างกายที่ล้ำค่าในสมัยโบราณต้องมาสูญสิ้นอนาคตในยุคนี้ อนิจจา!" ผู้อาวุโสหลายคนในหลิงซู่ตงเทียนถอนหายใจและไม่ได้ให้ความสนใจต่อเย่ฟ่านอีก